ฝันร้ายเมื่อเที่ยงคืน

ฝันร้ายเมื่อเที่ยงคืน
(คัดลอกมาจากหนังสือ ฝันร้ายเมื่อเที่ยงคืน และได้ขออนุญาตผู้เขียนแล้วเพื่อนำมาเผยแพร่ต่อ)
ปล. ท่านผู้อ่านแสดงความเห็นต่างได้ แต่ขอความกรุณาใช้คำที่สุภาพ เพราะตัวเจ้าของกระทู้ตั้งใจจะเผยแพร่เพื่อสงเสริมการละเว้นหรืองดการรับประทานเนื้อสัตว์ ขออนุโมทนาสาธุมาล่วงหน้าด้วยครับ
**** ด้านล่างมีภาพประกอบที่โหดร้าย แสดงถึงความทารุณ ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ

               แปลกจริงหนอ! คนเราเมื่อเห็นศพคนตายต่างก็กลัว กลัวผีหลอก กลัวที่จะไปป่าช้าเชียงลำพัง แต่ไฉนยังกินซากศพวัว ซากศพหมู ซากศพไก่ สรรพชนิด ของซากสัตว์ ต่างต้องใช้ท้อง ของเราเป็น “ป่าช้าเคลื่อนที่” แล้วเรายังบอกว่า กลัวผี! แต่ทุกวันเราก็ยังเอาซากศพผีฝังในท้องของเรา...เฮ้อ...นี่หรือกลัวผี
    ณ โรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่ง วัว 7-8 ตัว ยืนจับกลุ่มทะมึนอยู่ริมรั้ว บางตัวกำลังเคี้ยวหญ้าเล่น ไม่ตัวใดก็ตัวหนึ่งต้องถึงฆาตในไม่กี่นาทีนี้
    โอ ! ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกินความตายกำลังเดินเข้ามาหาพวกมันทีละน้อยๆ ทุกอย่างเงียบสงบ บ้านทุกบ้านปิดไฟเงียบ... ต่างก็กำลังหลับอย่างเป็นสุข แต่ความตายที่แสนหฤโหดที่บ้านทั้งหลายเป็นต้นเหตุกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า อากาศเริ่มเย็นขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว จิ้งหรีดหยุดกรีดปีกร้องเพลงชั่วขณะ... จุดตึงเครียดของความโหดร้ายทารุณกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
    ใจเราเริ่มเย็นยะเยือก สั่นสะท้าน เจ้าเพชฌฆาตหน้าตาโหดเหี้ยมไร้จิตเมตตา ตรงไปลากวัวเคราะห์ร้ายสีน้ำตาลอ่อนมา มันเดินวนอยู่ 2-3 ก้าว พลันก็หยุดไม่ยอมเดิน เจ้าเพชฌฆาตหน้าเหี้ยมก็ดึงกระชากอย่างแรง  เดินไปหน่อยก็หยุดราวกับรู้ว่าเส้นทางเบื้องหน้าความตายกำลัง..แสยะยิ้มรอมัน.. เจ้าวัวที่หน้าสงสาร
ภาพที่ดึงดึงหยุดๆ ทำให้ใจเราสั่นสะท้ายมากขึ้น เจ้าวัวหายใจฟืดฟาด กางขาหน้าออก เกร็งแรงต้านเอาไว้ แต่ก็สู้ความเจ็บที่ถูกเชือกสนสะพายดึงจมูกไม่ได้ มันทั้งเจ็บทั้งกลัวตาย...น้ำตาไหลพราก

วัวตัวอื่นๆที่อยู่ในคอกเริ่มเดินหน้าเดินหลังอย่างตื่นตระหนก เพราะไม่รู้ว่าพวกมันตัวไหนจะถึงฆาตต่อไป เสาหลักที่ตกติดแน่นพื้น เพชฌฆาตรีบเอาเชือกมาพันหลักกับหัวของวัวเอาไว้แน่นจนกระดุกกระดิกไม่ได้ แววตาของมันเบิกกว้างอย่างเหลือกลน น้ำตาไหลนองหน้า
    “โอ ! ชีวิตฉันกว่าจะเติบโตขึ้นมา ฉันต้องกินนมแม่ไปหลายสิบหลายร้อยถึง น้ำนมของแม่ช่างหอมหวานอะไรเช่นนี้” แม่จ๋าช่วยลูกด้วย
    โอ ! ร่างกายของฉันกว่าจะใหญ่โต ฉันก็ต้องดูแลมันอย่างดี ป้อนฟางป้อนหญ้า ป้อนน้ำอย่างมากมาย แต่ขณะนี้ฉันกำลังจะถูก..สัตว์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่ามนุษย์ผู้ประเสริฐกำลังจะฆ่าฉันเพื่อแย่งเอาเนื้อของฉันที่ทนุทนอมมาแต่เล็กแต่น้อย เอาไปแบ่งกันกิน.. นี่หรือที่เรียกว่ามนุษย์ผู้มีเมตตาจิตต่อสรรสัตว์เพื่อนร่วมโลก
    ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ฉันยังไม่อยากตาย ฉันไม่ใช่อาหารของพวกท่านนะ ช่วยด้วย! ได้โปรดเถิด! โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด ฮือ ฮือ ฮือ! ไดโปรดเถิด ฮือ ฮือ ฮือ!
    เจ้าวัวที่หน้าสงสารยังคงดิ้นขลุกขลักอย่างตกใจ ในชีวิตของมันคงไม่เคยกลัวมากที่สุดเท่าครั้งนี้เป็นแน่ ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันไม่อยากตายเพื่อให้มนุษย์กินเนื้อของมันเป็นแน่ สิ้นเสียงก็สิ้นสัง และแล้วนาทีหฤโหดก็เริ่มขึ้น ค้อนเหล็กขนาดใหญ่เท่ากำปั้นก็ถูกฟาดเปรี้ยงลงไปที่หน้าผากของมัน เสียงดังเหมือนทุบมะพร้าว เจ้าวัวล้มฟุบลงไปตัวสั่นริก ๆ แต่ไม่สิ้นสติเสียงดังโพล๊ะดังอีกครั้ง ดังทำลายความเงียบขึ้นมาซึ่งดังราวเสียงฟ้าร้อง โพล๊ะ โพล๊ะ... เป็นภาพที่โหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้... ไม่อาจทนมองดูจนต้องเบือนหน้าหนี
    อนิจจา ! มนุษย์หนอ อกเขาอกเรา จิตเขาจิตเรา มันถูกทุบซ้ำอีก มันกำลังชักอย่างเจ็บปวด แล้วมีดปลายแหลมก็ถูกเสียบเข้าที่ซอกรักแร้ตรงหัวใจจมมิด ฟองเลือดเดือดพล่านปุด ๆ หลั่งออกมาราวกับฟองผงซักฟอกสีแดงฉาน มันค่อย ๆ ทรุดลง หน้าของมันก้มต่ำซบลงกับพื้น ขาคุกเข่าลง ชักกรระตุกร้องครืดคราดอยู่นานกว่าจะสงบลง ยัง... มันยังไม่ตายสนิทหรอก !
    หน้าของมันยังคงซบพับพื้น ราวกับจะอ้อนวอนพระแม่ธรณีให้เป็นพยานร่วมรับรู้ในความตายของมัน... ชะตากรรมที่มันไม่ยินยอม ได้โปรดเถิดแผ่นดินที่รองรับหยดเลือดของข้า เป็นพยานด้วยเถิดว่า ข้าซึ่งเกิดมาอย่างอาภัพ ไร้เมตตาจากหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้หื่นกระหายละโมบคอยกัดแทะเนื้อของข้าฯ ชีวิตใคร ใครก็รักมิใช่หรือ?
    โอ้! พื้นดินที่รองรับตัวข้า ขณะที่ข้าใกล้หมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายเป็นพยานให้ข้านะว่าข้าไม่อยากให้ใครมากินเนื้อของข้า ที่ข้ามีสิทธิ์เป็นเจ้าของ แต่กลับถูกปล้นชิง นี่หรือที่พูดว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ประเสริฐมีจิตเมตตาที่สูงส่ง
    โอ ! เลือดเนื้อของข้า อีกไม่นานก็จะถูกแจกจ่ายเข้าสู่กระเพาะของมนุษย์ทั้งหลายที่ “บางคนถือศีลปฏิบัติธรรม” กล้าพูดอย่างอาจหาญว่า เขารักข้า! เขารักข้ากระนั้นหรือ นี่หรือความยุติธรรม นี่หรือความรักที่มนุษย์มีต่อสัตว์โลก เจ้าวัวทำอะไรผิดหรือจึงต้อง “ฆ่า” อย่างโหดเหี้ยมทารุณเช่นนี้.. นี่หรือผู้ถือศีลปฏิบัติธรรม..?
    ร่างกายวัวที่น่าสงสารสงบนิ่งลงแล้ว แต่ดวงตาของมันยังเบิกโพลงราวกับจะเรียกร้องความยุติธรรม และจดจำใบหน้าของฆาตกรด้วยความเครียดแค้นทุกภพทุกชาติ
    หยดน้ำตาไหลรินออกมาเป็นทาง ก่อนที่สายใยชีวิตสุดท้ายจะขาดสะบั้น “ลาก่อนร่างกายอันเป็นที่รักของข้า อีกกี่แสนกี่ล้านชีวิตของพวกข้า จึงจะพอเพียงต่อกระเพาะมนุษย์” ที่ซึ่งกลายเป็นที่ฝังซากสัตว์ตายโหง เปรียบเสมือนป่าช้าเคลื่อนที่ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความอาฆาตเครียดแค้น.. และจองเวรไปทุกภพทุกชาติ
    หยดน้ำตาหยดสุดท้ายย้อยหยดร่วงลงบนผืนดินที่เคยรองรับเหล่าชีวิตเพื่อนพ้องของพวกมัน วันแล้ววันเล่าอย่างไม่เบื่อหน่าย มันซึมผ่านธุลีดินลงไปแอบซ่อนรอแสงอาทิตย์ยามเช้าเปล่งรัศมีเพื่อจะได้ระเหยกายเป็นไอเกาะตัวเป็นหมู่เมฆอยู่บนท้องฟ้า รอวันเวลาที่จะกลั่นเป็นหยดน้ำตกลงสู่เบื้อลล่างอีกวาระ
    อนิจจา ! ก้อนเมฆแห่งความเจ็บปวด
    อนิจจา ! สายฝนแห่งความปวดร้าว
    เจ้าวัวสีน้ำตาลอ่อนหยุดสะอื้นไปนานแล้ว แต่น้ำตาและวิญญาณองมันยังเฝ้าวนเวียน ร้องแล้วร้องอีกอยู่มิรู้วาย ผสานไปกับพายุฝนฟ้าคะนองจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่มนุษย์เลิกประหัตประหาร เอาเลือดเอาเนื้อของพวกมันมาเสพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
    เพชฌฆาตจับมันหงายท้อง ขาชี้ฟ้า เพชฌฆาตหน้าเหี้ยม เริ่มเชือดผ่ากลางจากคอไล่ไปถึงโคนหาง น่าแปลก ! ที่มันยังชักกระตุกอยู่เล็กน้อย ความตายของมันยังไม่สนิทดีนั้นเอง วัวบางตัวยังตายไม่สนิท ถึงแม้จะโดนถลกหนังแต่ตัวมีเลือดไหลซึม ๆ มันก็ยังมีสติลุกขึ้นหนี แต่อนิจจา! มันทำได้เพียงแค่ยืนขึ้นแล้วล้มลงขาดใจตาย.. ตายสนิท!! เหลือไว้แต่แววตาที่อาฆาต พยาบาท...
    แล้วพิธีการแล่ก็เริ่มต้นทีละซีก เนื้อที่แล่ออกมายังคงเต้นตุ๊บ ๆ นี่ยังไงล่ะ ที่เขาเรียกว่าตายเป็น ๆ ร่างองมันถูกแยกออกทีละชิ้น ๆ นี่แหละเบื้อหลังความอร่อย เพชฌฆาตลับคมมีดบนขากางเกงอยู่ไปมาซึ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของญาติวัวเหล่านั้นแต่เก่าก่อน จนแข็งราวกับหิน... เลือดแห่งความอาฆาตแค้นพยาบาทไปทุกภพทุกชาติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
    อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ชาวบ้านที่หลับใหลต่างก็ตื่นออกมาจ่ายตลาด มาซื้อร่างกายของเจ้าวัวที่น่าสงสาร และเที่ยงคืนวันต่อไปและต่อไป มันก็คงเป็นเวลาสิ้นสุดการกินหญ้าของเจ้าวัวตัวต่อ ๆ ไปที่ยืนดูอย่างตื่นตระหนก เพียงเพื่อรอวัน “ประหาร” โทษฐานที่พวกมันเกิดมาเป็น “สัตว์”.. ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนเล่า?
    สัพเพ สัตตา อเวรา..อพยาปาทะ...สัตว์ทั้งหลายอย่าเบียดเบียนกันเลยนะ อย่าจองเวรกันเลยนะ อย่ากินเลือดกินเนื้อกันเลยนะ!!

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่