แท็กซี่เห็บ ที่ชั้น 4 สุวรรณภูมิ ยังคงหากินกันอยู่

จริงๆแล้ว เรื่องแท็กซี่เห็บ ที่ชั้น 4 สุวรรณภูมิ ผมเจอมาครั้งแรก ก็นานมากแล้ว 3 ปีกว่า ครั้งนั้นก็ยังไม่ได้ติดใจอะไรมาก ทั้งที่โดนพวกมัน ออกท่าทางจะข่มขู่ด้วย เพราะผมไม่เลือกใช้บริการของมัน ไหนๆก็ย้อนเล่าแล้ว ก็ขอย้อนต่อไปอีกสักหน่อยเลยนะครับ
        แรกๆที่ผมต้องเดินทาง แล้วกลับมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็จะไปใช้บริการแท็กซี่ของสนามบินนั่นหล่ะ แต่มีครั้งนึง ก็ราวๆ 4 ปี ผมเดินทางกลับจาก ต่างประเทศ ไปเที่ยวประจำปีกับบริษัท ก็เลยมีพี่อีกคนที่บ้านอยู่ระแวกเดียวกัน ไปด้วยกัน แล้วเราก็ใช้บริการแท็กซี่ของสนามบิน ก็รอๆคิวกันไป พอถึงคิว เราก็แจ้งจุดหมายปลายทาง ว่าเราจะไป สุขาภิบาล 3  ไปบ้านของพี่เค้าก่อน แล้วก็ตั้งใจจะ ไป หมู่บ้านนักกีฬา บ้านของผมต่อ ซึ่งมันก็ไม่ไกล จากสุวรรณภูมินัก พอขึ้นรถไปได้ คนขับก็ถามลงที่ไหนครับ เราก็บอกชื่อหมู่บ้านชวนชม(อยู่ตรงข้ามกับ พาซิโอ้ สุขาภิบาล 3) เท่านั้นหล่ะ  คนขับโมโห ฉุนเฉียวเลย ด่าเราว่าทำไมไม่บอกจุดแจ้งให้ละเอียด ว่าตรงไหน เออ เราก็งง ใครจะไปรู้หล่ะ ว่าต้องแจ้งละเอียดมากแค่ไหน เราก็บอกพอที่คนฟังเค้าเข้าใจแล้วนี่ พี่ที่มาด้วยก็ปากไว เถียงกับแท็กซี่ใหญ่โต ว่าจะมาโวยวายเราได้ไง เสียเงินนะไม่ได้ขอนั่งฟรี เดี๋ยวจะร้องเรียน จนผมต้องห้าม แล้วก็บอกให้แท็กซี่ไปส่งเราตามจุดหมาย เรื่องก็ผ่านไป โดยเราก็ไม่ได้ร้องเรียนอะไร
         นั่นก็เลยเป็นเหตุผลให้ผม เลือกใช้แท็กซี่ที่ชั้น 4 ในครั้งต่อมาเพราะสะดวก ไม่ต้องรอคิว เพราะแท็กซี่ที่วิ่งมาชั้น 4 คือเค้ามาส่งคน เราก็จะโบกเค้า แล้วก็แจ้งที่จะไป ส่วนมากจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะตัวแท็กซี่เองจะตอบรับ ดีกว่าขับรถเปล่าเข้าเมือง
         จนมาเจอครั้งที่ว่าเมื่อ 3 ปีกว่า เหมือนเดิมเราไปเที่ยวประจำปีกับบริษัทอีกหล่ะ พอกลับมาผมก็ไปที่ชั้น 4  เพราะมันสะดวกดี แล้วก็มากับพี่คนเดิมที่เคยโวยแท็กซี่สนามบินเมื่อคราวโน้น ไปด้วย
         บนชั้น 4 ด้านหน้าจะมีเลนใหญ่ 2 เลน แต่ทุกคนจะวิ่งไปทางซ้ายทางเดียว เลนแรกจะให้กับรถส่วนบุคคลที่มาส่งคนเดินทาง เลนที่ 2 จะให้แท็กซี่ที่มาส่งคนเช่นกัน  ตามปกติ แท็กซี่เปล่าๆไม่มีผู้โดยสารจะเข้ามารับคนบนชั้น 4 ไม่ได้  แต่เราก็เห็นแท็กซี่เรียงราย รออยู่หลายคัน
        เราก็เลือกถามคันแรกๆก่อนเลย  พอแจ้งที่หมาย สุขาภิบาล 3 แท็กซี่บอกเรา 500 เฮ้ย...นี่มันปล้นกันแล้ว ผมก็บอกไม่เอาแพงไป มันก็บ่นๆไล่หลังมา จับใจความได้ราวๆ ลองเรียกเลย เหมือนกันหมดหล่ะ ผมเลยลองไปเรียกคันอื่น ปรากฏว่าทุกคันที่จอดรอ เอา 500 กันหมด
          ผมนึกโมโหในใจ เห็นเราเป็นต่างชาติหรือไง เกิดหงุดหงิด เลยเอาบุหรี่มาต่อสูบ แล้วตั้งใจรอ รถที่เค้ามาส่งคนดีกว่า ไอ้พวกจอดรอ คงเป็นพวกเดียวกัน ลืมบอกไป บริเวณนั้น พวกเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย(ยาม) ก็ยืนหน้าสลอน ไม่ได้มาไล่รถแท็กซี่ของพวกนี้เลย
         รอจนสูบบุหรี่หมดมวน ก็หันไปหาที่ทิ้ง แต่หาไม่เห็น เลยแสดงนิสัยไม่ดีนิดนึง ทิ้งที่พื้นตรงขอบปูน แล้วเอาเท้าขยี้ๆ เพื่อให้ไฟมันดับ เท่านั้นเอง ก็มีเสียงแว่วๆ ด่ามาทางด้านหลัง เป็นเสียงผู้หญิงหนึ่งในกลุ่มแท็กซี่ที่จอดรอ ประมาณว่า ดูมันดิ เลวจริงๆ ทิ้งมั่วซั่ว  ความโมโหก็เกิดขึ้นทันที พร้อมจะหันไปด่า แล้วมันเรื่องอะไรของพวก ถ้าจะมีเจ้าหน้าที่สนามบินมาว่า หรือมาปรับก็เรื่องของกู เพราะไม่ไหวแล้ว
         แต่พี่ที่อยู่ด้วยก็ดึงแขนไว้ แล้วพูด อย่าไปสนใจเลย เรารีบไปดีกว่า จังหวะดีมีแท็กซี่ส่งคนมาพอดี เราก็เลยได้นั่งคันนั้นไป ผมยังคงโมโห แล้วหันไปมองพวกแท็กซี่เห็บ ที่จับกลุ่มพูดคุย ลักษณะท่าทางใหญ่โต เหมือนเป็นเจ้าของสุวรรณภูมิ ระหว่างทางผมคิดตลอดว่าจะแจ้งยังไงดีกับไอ้พวกนี้ พี่ที่ไปด้วยกันก็อดไม่ได้ ที่จะเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดให้คนขับคันที่เรานั่งมาฟัง คนขับก็บอกเราว่า ไอ้พวกนี้มันมี จ่า จ่าอะไรผมก็จำไม่ได้แล้ว คอยดูแลพวกมันอยู่  เข้ามาจอดรอต้องเสียเงิน  คำตอบนั้นทำให้ผมกระจ่างเลย ว่าทำไมมันถึงได้กร่างขนาดนี้ พอกับถึงบ้าน ได้พักผ่อนก็เลย ทำเป็นลืมๆปล่อยๆมันไป
          แล้วก็มาถึงเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง (25 กย.59) เหมือนเดิม ผมกลับมาจากต่างประเทศ ไปกับลูกเมียด้วย ไฟล์ทที่กลับมาก็ดึกพอดู ถึงสุวรรณภูมิห้าทุ่มกว่า ผมก็นึกในใจ ลองไปขึ้นแท็กซี่ที่ชั้น 4 ดีกว่า นี่ยุค คสช.แล้ว คงจะไม่มีไอ้พวกนี้แล้ว เพราะเพิ่งเห็นลงข่าวว่ามีไปจัดการพวกแท็กซี่เห็บ แถวดอนเมืองมาหมาดๆ
            พอถึงชั้น 4 ผมก็มองไปทางเลน 2 ก็ยังพอเห็นจอดกันหลายคัน แต่บางๆตากว่าคราวนั้นมาก แต่คราวนี้มีที่กั้นเหล็ก แบบที่หมุนกั้นให้เฉพาะคนที่ลงจากแท็กซี่แล้วเข้ามาอาคารได้ พร้อมป้ายห้ามผ่าน  แต่มองๆไปก็เห็นคนหลายคนเดินเข้าไปเรียกแท็กซี่ได้ ผมก็เลยพาลูกเมีย ลากกระเป๋าเดินข้ามเลนแรกไป ไอ้เหล็กกั้นแบบหมุนได้ มันจะหมุนได้แค่ทางเดียว เฉพาะคนที่จะเข้ามา ผมก็นึกในใจ คงต้องเสียเวลาลงไปรอคิวแท็กซี่แล้วหล่ะ
          เผอิญมีเจ้าหน้าที่ รปภ.เดินมาพอดี ผมก็เลยหันไปสบตา แล้วชิงคำส่งคำถามไปก่อนเลย ว่าผ่านไปได้ไหม พี่ รปภ.ก็ส่งสายไปที่กั้นเหล็ก พอให้เรารู้ว่ามันหมุนได้ ยังไม่ทันที่จะจับราวเหล็กแล้วหมุนเลย ก็มีชายคนนึง จากหลังราวเหล็กกั้น เดินตรงมาทีเราแล้วถาม ไปไหนครับ ผมก็บอก หมู่บ้านนักกีฬา เค้าตอบทันที 400 ผมก็กำลังตัดสินใจจะไปอยู่ เพราะมันก็ดึกแล้ว ลูกก็ง่วง เราก็เหนื่อย แต่เมียผมก็ชิงบอกว่าไม่เอาแพง เค้าก็เลยจากไป แต่ไม่มีปฎิกริยาใดใด ผมก็เลยเดินสวนราวเหล็กกั้นไป  แล้วโบกเรียกคันที่เพิ่งจะจอดส่งคนที่เพิ่งมาพอดี เราก็ได้รถกลับบ้าน โดยไม่ต้องรอนาน พอรถออก ผมก็หันไปมองชายคนแรกที่มาถามเรา ก็เห็นว่ายืนคุยท่าทางสนิทสนมกับยามอีกคนที่นั่งค่อมรถมอเตอร์ไซค์ ที่น่าจะใช้ตรวจการณ์ ค่ารถแค่ 150 เอง
           1.ปัญหาแท็กซี่เอาเปรียบผู้โดยสารยังมีอยู่  นี่ขนาดคนไทยนะ ต่างชาติคงโดนโขกเยอะกว่านี้
           2.ยังมีเจ้าหน้าที่ภายใน ให้ความร่วมมือ และน่าจะได้รับผลประโยชน์ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่