การเดินทางของผมและเพื่อน โดยการจับฉลาก แล้วออกเดินทางเลย

สวัสดีครับทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้เดินทางกระทู้แรกของผม รูปในกระทู้นี้ส่วนมากเป็นรูปจากมือถือสดๆ มีแต่งบ้างบางรูปนะครับ

    เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับเพื่อนอีกคนนึงอยากลองทำคลิปตัดต่อแนวท่องเที่ยวกันดู และตัวผมเองก็มีเรื่องเครียดในหัวเยอะมาก เลยจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันและก็มีปัญหาเรื่องที่ว่าจะไปไหนดี บวกกับที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยคุยกับเพื่อนว่าจะไป แต่ไม่ได้วางแผนอะไรเลย แต่ก็มีคิดว่าอยากไปที่ไหนบ้างคราวๆ การเที่ยวของผมครั้งนี้เหมือนเป็นการเที่ยวมั่วๆ โดยไม่มีการวางแผนว่าวันนี้จะไปไหนบ้างทำอะไรบ้างไปคิดเอาตอนถึงเลยครับ รีวิวอะไรอาจจะไม่ได้ครบมาก เพราะว่าไม่มีการเตรียมตัว ผมอยากจะมาลองเขียนดูครับ ผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะครับ

คลิปการไปเที่ยวครั้งนี้ อย่าลืมกด HDนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อันนี้เป็นเพจของผมถ้าชอบก็กดไลค์หรือแชร์กันได้เลยนะครับผมพึ่งเริ่มทำเลยครับ
Bud's Venture Thailand

https://www.facebook.com/Buds-Venture-Thailand-1071078492999604/

    ก่อนที่ผมจะออกเดินทาง ผมได้ลิสรายชื่อจังหวัดที่จะไปทั้งหมด 4 จังหวัด



   1.สุพรรณบุรี เพราะ อยากไป ปางอุ๋ง
   2.เพชรบูรณ์ เพราะ อยากไปเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
   3.เพชรบุรี เพราะ อยากไป เขาพะเนินทุ่ง
   4.กาญจนบุรี เพราะ อยากไป เขื่อนศรีนครินทร์

แต่ละที่ ที่เราลิสขึ้นมา เราแค่รู้ว่าที่นั้นมีอะไรแค่นั้น อยากไปเห็นอย่างเดียวแค่นั้น ทั้ง4ที่ นี้เราไม่เคยไปกันมาก่อนเลย ผมจับฉลากในวันที่ 22กันยา และจะออกเดินทางในวันที่ 23-25 ใช้เวลาไปเที่ยว 3วัน2คืน

สุดท้ายเราก็เริ่มจับฉลาก!!!

3


2


1

สุดท้ายเราจับได้จังหวัดเพรชบูรณ์ จุดหมายที่เราจะไปให้ได้คือ เขาค้อ ไปเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว!!!!

ในตอนแรกที่จับได้ที่นี้ ผมคิดว่าขับไปคงประมาณ 2-3 ชั่วโมงแหละมั้ง พอลองเช็คดูถึงจะรู้ว่ามัน 5-6 ชั่วโมง TT แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วจับได้ก็ต้องไป
ตอนแรกผมจะไปกับเพื่อนอีก1คน แต่ว่าดันได้เพื่อนรวมทางอีก3คน รวมทั้งหมดเป็น5คน

วันที่ 23 วันแรกที่ออกเดินทาง
  ผมออกเดินทางประมาณ4โมงเย็นได้ เพราะว่าติดธุระกันนิดหน่อย ผมเดินทางต่างจังหวัดไม่ค่อยบ่อยมากส่วนมากเลยใช้ google maps เอาครับ
ขับมาสักพักก็มาแวะกินอะไรง่าย ที่แมคโดนัล (วังน้อย อยุธยา) เพื่อเอาแรงและเดินทางต่อยาวๆ
     พวกผมแวะปั้มหลายที่มาก เลยทำให้การเดินทางช้านิดนึง ผมมาถึงที่ทางขึ้น เขาค้อ เป็นเวลา 23:41 นาที ซึ่งผมดูตาม google maps มา ผมรู้สึกว่าทางขึ้นเขามันแปลกๆ ผมเลยถามคนที่ขับรถผ่านมาแถวนั้นว่า พี่ครับ นี้ใช่ทางขึ้นเขาค้อไหมครับ พี่เขาบอกว่าใช่ทางนี้แหละ แต่ว่าทางขึ้นเขาตรงนี้พี่ไม่แนะนำ เพราะทางมันค่อนข้างอันตราย เขาบอกให้ผมไปขึ้นอีกทางนึง ผมก็เห็นว่ามันดึกและอันตรายเลยต้องย้ายไปอีกทางนึงครับ

รูปนี้เป็นรูปทางขึ้นเขาที่พี่เขาบอกว่าอันตรายนะครับ




   หลังจากนั้นผมก็ขับขึ้นเขาไปอีกทาง ทางค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ว่าผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ผมขึ้นมาถึงบนเขาประมาน ตี1ครึ่งถ้าผมจำไม่ผิด แต่ก็ต้องเจอกับเรื่องที่ผมลืมคิดไว้เลย คือ เรื่องที่พักผมไม่ได้จองเอาไว้เลย แล้วขึ้นมาดึกขนาดนี้เขาก็ปิดกันไปหมดแล้ว ระหว่างทางที่มีที่พักเยอะๆ ผมลองแวะดู ก็ไม่มีคนอยู่รอรับลูกค้าแล้ว ผมกับเพื่อนๆมองหน้ากัน แล้วก็ถามว่าเอาไงดี สุดท้ายคำตอบที่ได้ยินจากเพื่อนๆคือ เสียงเงียบกริบ ผมก็ตัดสินใจขับไปสักพักดู และก็ได้ไปเจอที่นึง เห็นว่าเป็นป้ายเปิดไฟไว้ พร้อมเบอร์โทรผมเลยให้เพื่อนของผมลองโทรเช็คดู ปรากฏว่าได้เฉย พวกผมก็ดีใจกัน และก็รีบเขาไปพักเลย พวกผมได้พักที่พักชื่อ ชมทัศน์ ราคาห้องละ 1000 บาท แบ่งกันนอน สาม สอง พี่คนที่มาเปิดห้องให้ใจดีมาก พูดจาเพราะ และ ก็เอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ ดึกขนาดนี้แล้ว พี่แกก็ไม่มีทีท่าว่าจะโมโหหรืออะไรเลย ปล.ผมขอโทษนะครับ ที่มาดึกขนาดนี้ TT

อันนี้เป็นห้องที่ผมพัก




ด้านในของห้อง


ห้องน้ำ


กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ประมานตี 2:30 ก่อนจะนอนผมก็ถามเพื่อนผมว่าจะไปไหนกันดีพรุ่งนี้ เพื่อนผมก็ได้แต่ยิ้มให้ ผมก็เลยลองหาในกูเกิ้ลเอาเลยว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ผมพึ่งรู้ว่าช่วงฤดูฝนคือช่วงนี้ มันจะมีทะเลหมอกด้วย ผมก็รอลุ้นว่าพรุ่งนี้เช้าขอให้เจอด้วยเถอะ และผมก็ได้เจอกับสถานที่ท่องเที่ยวประมาณนี้
น้ำตกศรีดิษฐ เขาค้อเอดเวนเจอร์ กังหันลม และที่ผมอยากไปที่สุดก็ต้องเป็น วัดผาซ่อนแก้ว ผมก็เลยคิดว่าพรุ่งนี้เราจะไปกันให้ครบเลย


วันที่ 24 กันยายน 2016 วันที่2ของการเดินทางแบบมั่วๆ
พวกผมตื่นกัน9โมง ผมรีบวิ่งออกมาเผื่อจะดูทะเลหมอกในตอนเช้า แต่สิ่งที่ได้เห็นนั้น มันมีเพียงแค่หมอก เพราะว่าลมแรงมากและมีฝนตกปรอยๆ ทำให้ ทะเลหมอกไม่เป็นก้อน เป็นเพียงแค่หมอกขาวๆ ผมก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอก เดียวก็คงเจออยู่แล้วแหละ ถ้าลมกับฝนหยุดตก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาทานอาหารเช้า อาหารเช้าของที่นี้จะเป็นข้าวต้มง่ายๆ แต่ว่ารสชาติ อร่อยมากเลย พอทานเสร็จเราก็ถ่ายรูปถ่ายวีดีโอกันหน้าที่พัก

อันนี้เป็นรูปหน้าที่พักในตอนเช้า ประมาน 10 โมง
จะเห็นได้ว่าหมอกเยอะมากแต่ว่าไม่เป็นก้อน



หลังจากที่ทำอะไรกันเสร็จ เราก็เดินทางไปที่ "น้ำตกศรีดิษฐ"

รูประหว่างทางเดินไปน้ำตก จะมีสะพานเป็นไม้อยู่ ตอนที่พวกผมไปจะเดินค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะมีฝนตกปรอยๆ ตลอดทั้งวัน



เดินเข้ามาอีกนิดหน่อย ก็จะเห็นน้ำตกได้แบบเต็มสองตา





ผมพึ่งเคยมาที่นี้เป็นครั้งแรก ตัวผมเองไม่ค่อยได้ไปเที่ยวน้ำตกเท่าไหร แต่พอมาเจอที่นี้ผมชอบมากๆ ไม่คิดว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ถ้าน้ำใสก็คงจะดีกว่านี้นะ

เดินถ่ายรูปถ่ายวีดีโอได้สักพัก พวกผมก็ออกเดินทางจากน้ำตกไปดู  "กังหันลม"
เดินทางจากน้ำตกประมาน 13 กิโลเมตร ห่างกันไม่ไกลมาก พอเดินทางขึ้นมาถึงปุ๊ป ผมนี้แทบจะร้องไห้ เพราะว่าหมอกมันปิดไปหมดเลย ทำให้ผมมองไม่เห็นอะไรเลย ทำได้แค่เพียงได้ยินเสียงกังหันลมพัด ดึง พึบ พึบ แค่นั้นเอง เสียใจเล็กน้อย

อันนี้เป็นภาพแถวทางเข้า

       
จริงๆแล้วภาพนี้ควรจะมีกังหันอยู่ แต่ว่าหมอกปิดหมด จึงทำให้ผมไม่เห็นกังหันลม TT



หลังจากนั้นผมก็เดินทางไปที่ ภูแก้ว แอดเวนเจอร์พาร์ค เผื่อที่จะไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ เดินทางจากกังหันลมประมาน 15 กิโลเมตร

ไม่นานมากนัก ก็มาถึงที่ ภูแก้ว แอดเวนเจอร์พาร์ค

อันนี้เป็นรูปข้างหน้าจุดบริการลูกค้า วันที่ผมไปมีทัวร์จากบริษัทมาด้วย คนเลยค่อนข้างที่จะเยอะนิดนึง



อันนี้เป็นรูปเครื่องเล่นและราคาทั้งหมด



พวกผมได้เลือกเล่นกันไม่กี่อย่าง  ผมคิดว่าจะเล่น 2 อย่าง Giant Swing จะเหมือนชิงช้า แต่ความสูงอยู่ที่ "20ฟุต"
และผมอยากเล่นอีกอัน ชื่อว่า High Flying เป็นการเดินข้ามแม่น้ำ ระยะทาง 150 เมตร แต่พี่เขาบอกว่า ระดับน้องเนี้ย ไอ้นี้มันเด็กๆ น้องต้องไปโดด Tower jump นู้น ผมก็โดนยุ่ง่าย ก็เลยไปเดะพี่ไม่เล่นละ High Flying  สุดท้ายก็ไปเล่น Tower Jump
Tower jump จะเป็นการกระโดดตัวจากหอสูง "50ฟุต"

เริ่มที่อย่างแรก Giant Swing รูปก่อนที่จะเล่น ผมคิดว่าคงชิวๆแหละพอไปเล่นละแบบ เสี่ยวท้องมากเลย แต่ก็โอเครสนุกดีครับผม


เสร็จปุ๊ปก็ต่อเนื่องทำเวลา เล่นต่อ Tower Jump ต่อ
อันนี้ผมไม่กล้าเอาโทรศัพท์ขึ้นไป เพราะกลัวโทรศัพท์จะไปหวัน พอขึ้นมาถึงพี่เค้าถามคำแรกว่า น้องเอามือไปแตะตะข่ายข้างล่างไหม ไอ้เราก็กล้าแบบสั้นๆ แต่ก็เอาวะลองดู พอใส่อุปกรณ์อะไรเสร็จปุ๊ป ก็มายืนข้างหน้าพร้อมโดด ในใจตอนแรกคิดว่าคงไม่ต่างจากอันเมื่อกี้มากหรอกมั้ง (มั้ง) สุดท้ายพอมายืนเอาหน้ามองลงไป ในหัวคิดอยู่คำเดียวว่ามะเอาละได้ไหมอะพี่ แต่แบบในสมองก็ตีกันว่าเอาหน่อยเว้ย แค่นี้ลูกผู้ชายต้องทำได้ สุดท้ายก็ได้โดดลงมา ระหว่างที่โดด อยากจะบอกว่าเชือกกับที่รัดตัว มันรัดแรงมาก เลยทำให้เจ็บ....เล็กน้อยถึงปานกลาง ผมลงมาก็เลยไปฟ้องพี่ว่า ทำไมเจ็บ เขาบอกว่า ธรรมดาไอ้น้องชุดใหม่ ผมก็ตอบได้เพียงว่า ครับพี่...

อันนี้จะเป็นลิ้งของทาง Phukaew Resort เผื่อว่าใครสนใจหรือไปพักนะครับ
http://www.phukaewresort.com/adventurepark.html

หลังจากนั้นก็ได้เดินทางกันต่อไปในจุดที่ผมคิดไว้แต่แรกว่าจะมาให้ถึงที่นี้ให้ได้ นั้นก็คือ "วัดผาซ่อนแก้ว"

ระหว่างเดินเข้าไปในวัด




อันนี้เป็นรูปในวัด ผมใช้Iphone 5 ถ่าย และใช้แอฟ Snapseed แต่งรูปครับ




อีกมุมนึงจากข้างบนวัดมองลงมาครับ



ทำบุญไหว้พระภายในวัดอะไรเสร็จก็ มาทานข้าวด้านนอกวัด แถวลานจอดรถ เป็นร้านอาหรตามสั่งทั่วไปบรรยากาศดีมาก



ระหว่างที่ทานผมก็ลองหาที่เที่ยวต่อ ก็ได้ไปเจอกับ ภูทับเบิก ผมพึ่งรู้ว่ามันอยู่ที่เดียวกัน ก็เลยตัดสินใจเลยว่าจะไป เพราะเห็นในรูปสวยมากๆ พวกผมออกจากที่วัดประมาน 3โมงครึ่ง ไปแวะที่ร้านกาแฟชื่อดัง Pino latte ไม่ไกลจากวัดมาก ขับไป5-10นาทีก็ถึง

บรรยากาศในร้าน





ในร้านมันจะมีทางเดินลงมาอยู่ แต่ไม่เห็นจะมีคนเดินลงไป แต่ผมคิดว่ามันสวยดีก็เลยเดินลงไป





มองขึ้นไปที่ร้านกาแฟ



พอดื่มกาแฟเสร็จกินเค็กเสร็จ เราก็เดินทางยาวๆเผื่อที่จะไปดู พระอาทิตย์ตกดินที่ภูทับเบิกให้ทัน ในเวลา 6โมง4นาที ผมเช็คเวลาเอาจากในเน็ตนะครับว่าพระอาทิตย์จะตกเวลานี้

ถนนตอนเดินทางขึ้นไปที่ ภูทับเบิก


ระหว่างทางขึ้นเขาก็ได้เจอกับ ทะเลหมอกเล็กน้อย พวกผมดีใจกันมากในที่สุดก็ได้เจอ



ขับมาได้สักพักพวกผมก็มาถึงที่ ภูทับเบิก สุดท้ายหมอกก็ยังคงเยอะเหมือนเดิมและฝนก็ยังคง ตกปรอยๆ T^T

อันนี้เป็นรูปจุดกางเต้นท์ บนภูทับเบิก จะเห็นได้ว่าหมอกลงเยอะมาก ทำให้มองอะไรไม่ค่อยจะเห็น



เดินขึ้นมาที่อาคารดูดาว ก็ยังมองอะไรไม่ค่อยเห็น ยังคงเห็นเพียงแค่หมอกขาวๆ หลังจากที่พวกเรามาถึงได้ไม่นาน ผมจึงไปติดต่อถามเรื่องที่พักดู

ข้างหน้าที่ติดต่อที่พัก



ราคาโดยรวมของที่พักทั้งหมด



เดียวมาพิมพ์ต่อนะครับ พอดีว่า มันเตือนว่าตัวอักษรจะเกิน

รอสักครู่นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่