
สวัสดีค่าาา หมวยกลับมาแล้วจ้าา ห่างหายไปนานนิดนึงกับการตั้งกระทู้ แฮ่ๆๆ
เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ พอดีเบื่อๆเลยขอพักธีสิสมาเดินดูร้านขายของชำแบบจีนๆซะหน่อย

วันนี้จะพาดูส่วนของใช้กันก่อน เพราะขนมของกินเยอะมาก แต่หายากที่จะน่ากิน หืมมมมมมมมม ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างงงง
อย่างที่บอกว่าวันนี้จะพาดูของใช้กันก่อน เราก็วาร์ปมาเล๊ยย หมอน ผ้าห่ม แผ่นรองนอน เบาะรองนั่ง ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ไปจนถึงรองเท้าใส่ในห้อง อยู่ต่างบ้านต่างเมืองขาดไม่ได้นะคะโดยเฉพาะเมืองที่ฝนตกก็กางร่ม หนาวก็ใส่เสื้อ
พระอาทิตย์ลาพักร้อนจนคิดว่าคงลาออกไปแล้วแบบที่นี่ ดูๆไปก็ปกติธรรมดาใช่มั้ยล่ะ แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่ผ้าปูที่นอนนั้นนนน
ไม่มีมุมยางยืด ซึ่งตามความเคยชินของชะนีน้อยจากไท้กั๋วนั้นน เคยใช้แต่ผ้าปูที่นอนแบบยางยืด ปูปุ๊บพอดีปั๊บบบ
ยังไม่จบแค่นั้น ผ้าห่มขายแต่ไส้ผ้าห่มมา ต้องซื้อปลอกผ้าห่มใส่ เอ้าแรกๆก็ดีดูรู้ใจให้ความอบอุ่น
หลังๆนอนๆไปไส้ผ้าห่มม้วนๆบิดขี้เกียจเป็นเลขแปด(นั่นใช้กับกางเกงในป้ะแก--)อยู่ในปลอก
ปลุกสติอิชะนีน้อยตื่นมารื้อปลอกผ้าห่ม จัดการให้เข้าที่แล้วพันตัวเป็นดักแด้เฝ้าพระอินทร์ต่อไปอย่างสงบ
มาฝั่งกระดาษทิชชู่แบบเช็ดตูดยังบาด กรุณาอย่าพลาดไปเช็ดหน้า
กระดาษทิชชู่ที่นี่ส่วนมากจะเน้นปริมาณเพราะม้วนหนาสุดและไม่มีแกนกลวงๆตรงกลาง
มีให้เลือกหลายราคา หลายชั้นด้วย จะเอาแผ่นหนา3ชั้น 2ชั้น 4ชั้น พี่จีนมีให้หมด
หลากหลายความเหนียวและความหยาบกระด้าง เรียกว่ายี่ห้อที่นุ่มที่สุดแบบสามารถเช็ดหน้าได้ยังนุ่มสู้ที่ไทยไม่ได้เลย
คือเลือกได้ยี่ห้อที่ดึงแล้วขาดตามจุดประได้อย่างสวยงามก็ถือว่าดีมากแล้ว
บางทีดึงปุ๊บขาดอย่างกะพี่เรนเต้นกระชากเสื้อ ไร้ซึ่งความงดงามและความน่าใช้ต่อเป็นอย่างยิ่ง
แต่ที่สุดแล้วก็ยังคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าเช็ดหน้าหรือตูดอย่าเป็นทิชชู่สีชมพูตามร้านอาหารที่ไทยก็ชนะแล้วค่ะ
ด้านของไม้กวาด ที่ตักผง ไม้ถูพื้น ขันน้ำ และไม้สอยผ้านั้น ต้องขอออกตัวว่า ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าจะมีอะไรพีคเท่าไม้สอยเสื้อ 5555555555555555
ไม่รู้หอพักที่อื่น หรือเมืองอื่นในจีนเป็นแบบไหน แต่ที่จขกทอยู่คือ มีเส้นลวดหนาๆขึงให้ขนานกันอยู่2เส้น

มาจ๊ะเอ๋วันแรกก็งงๆ เอ้ยขึงให้ใส่ผ้าม่านหรอวะ
แต่อนิจจาผ้าม่านมันอยู่ตรงหน้าต่างแล้วนี่นา
จนวันนึงซักผ้าหาที่ตากไม่ได้ ก็เลยอ๋ออ ต้องใช้แบบนี้หรือ จึงวางตะกร้าผ้า และรีบรุดไปซื้อไม้สอย

ซึ่งมีขายแบบทั่วไปอย่างกะเซเว่นขายขนมจีบซาลาเปา แล้วเอามาสอยผ้าขึ้นตากบนลวด2เส้นดังกล่าวอย่างมีความสุข(หรอ?)
เม้ามอยกันยาวๆ แต่จริงๆจะหมดแล้วสำหรับวันนี้ คือไม้แขวนเสื้อ กะละมังซึ่งพลาสติกที่นี่ราคาแพงมากกกก
ผิดกับไทยที่ซื้อของแถมตะกร้า กะละมังเป็นว่าเล่น(ไม่รู้เมืองอื่นเป็นมั้ย) แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นอยู่ที่กระติกทางด้านบน ต่างชาติอย่างเราใสใสไปต้องใช้ แต่คนจีนแผ่นดินใหย่(เสียงขึ้นจมูกด้วย นึกภาพตาม)
ตอนหน้าหนาวตามหอพักมักจะส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายต้านภัยหนาวกันบ่อยครั้ง เพราะอะไรน่ะหรืออ
ไม่มีน้ำร้อน น้ำอุ่นอาบไงจ๊ะ ลำบากเด็กจีน เดินหอบหิ้วอิกระติกยักษ์นี่ไปซื้อน้ำร้อนมาอาบกัน หิ้วกันคนละ2ใบไปสวยๆ
ไม่ต้องเวทเทรนนิ่งอะไรกันให้เสียเวลา ยังไม่พอหิ้วมาขนาดนี่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหอพักคนจีนไม่มีลิฟท์ ชั้น6ชั้น7ก็เดินวนไปค่ะ
ตัดภาพมาที่เราชาวต่างชาติ พอไม่มีน้ำอุ่นอาบน่ะหรือ ต้องพิจารณาว่าไม่อาบมากี่วัน อนุโลมให้ตอนเช้าไม่อาบแค่เช็ดตัวได้
แต่ตอนเย็นไม่ไหวจริงๆ ชะนีน้อยหลายๆคน(เก๊าด้วย) จึงจำต้องค่อยๆแหย่ขา แหย่ตัว และตัดสินใจผลักหัวตัวเองเข้าไปสระผม
แม้อากาศติดลบ แต่ผมจะเหนียวไม่ได้
ปิดท้ายด้วยไส้กรอกแบบสีแดงสุดดด ไม่ใช่ของใช้ด้วยนะโผล่มาได้ ก็ใช่ไง พอดีเดินผ่าน 555555555 ไส้กรอกที่ไม่ได้อร่อยหรอกนะ
แต่พอได้กลิ่นต้องเดินเข้าไปสอยกันคนละไม้ทุกที ป้าอาอี๋จะโรยๆผงพริก ละเอาเสียบไม้ให้ รสชาติคือไม่อร่อย
แค่สนองนี๊ดดดดของทุกคน เพราะกลิ่นหอมจริงๆ
ฮ่าๆๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ ของใช้ในร้านของชำแบบไชนีสสไตล์

เล่าเรื่องของใช้เกือบหมดเปลือกแล้ว งั้นวันนี้จขกท ขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ
สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
พักธีสิสมาเดินดูร้านขายของชำแบบจีนๆกัน
เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ พอดีเบื่อๆเลยขอพักธีสิสมาเดินดูร้านขายของชำแบบจีนๆซะหน่อย
วันนี้จะพาดูส่วนของใช้กันก่อน เพราะขนมของกินเยอะมาก แต่หายากที่จะน่ากิน หืมมมมมมมมม ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างงงง
อย่างที่บอกว่าวันนี้จะพาดูของใช้กันก่อน เราก็วาร์ปมาเล๊ยย หมอน ผ้าห่ม แผ่นรองนอน เบาะรองนั่ง ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ไปจนถึงรองเท้าใส่ในห้อง อยู่ต่างบ้านต่างเมืองขาดไม่ได้นะคะโดยเฉพาะเมืองที่ฝนตกก็กางร่ม หนาวก็ใส่เสื้อ
พระอาทิตย์ลาพักร้อนจนคิดว่าคงลาออกไปแล้วแบบที่นี่ ดูๆไปก็ปกติธรรมดาใช่มั้ยล่ะ แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่ผ้าปูที่นอนนั้นนนน
ไม่มีมุมยางยืด ซึ่งตามความเคยชินของชะนีน้อยจากไท้กั๋วนั้นน เคยใช้แต่ผ้าปูที่นอนแบบยางยืด ปูปุ๊บพอดีปั๊บบบ
ยังไม่จบแค่นั้น ผ้าห่มขายแต่ไส้ผ้าห่มมา ต้องซื้อปลอกผ้าห่มใส่ เอ้าแรกๆก็ดีดูรู้ใจให้ความอบอุ่น
หลังๆนอนๆไปไส้ผ้าห่มม้วนๆบิดขี้เกียจเป็นเลขแปด(นั่นใช้กับกางเกงในป้ะแก--)อยู่ในปลอก
ปลุกสติอิชะนีน้อยตื่นมารื้อปลอกผ้าห่ม จัดการให้เข้าที่แล้วพันตัวเป็นดักแด้เฝ้าพระอินทร์ต่อไปอย่างสงบ
มาฝั่งกระดาษทิชชู่แบบเช็ดตูดยังบาด กรุณาอย่าพลาดไปเช็ดหน้า
กระดาษทิชชู่ที่นี่ส่วนมากจะเน้นปริมาณเพราะม้วนหนาสุดและไม่มีแกนกลวงๆตรงกลาง
มีให้เลือกหลายราคา หลายชั้นด้วย จะเอาแผ่นหนา3ชั้น 2ชั้น 4ชั้น พี่จีนมีให้หมด
หลากหลายความเหนียวและความหยาบกระด้าง เรียกว่ายี่ห้อที่นุ่มที่สุดแบบสามารถเช็ดหน้าได้ยังนุ่มสู้ที่ไทยไม่ได้เลย
คือเลือกได้ยี่ห้อที่ดึงแล้วขาดตามจุดประได้อย่างสวยงามก็ถือว่าดีมากแล้ว
บางทีดึงปุ๊บขาดอย่างกะพี่เรนเต้นกระชากเสื้อ ไร้ซึ่งความงดงามและความน่าใช้ต่อเป็นอย่างยิ่ง
แต่ที่สุดแล้วก็ยังคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าเช็ดหน้าหรือตูดอย่าเป็นทิชชู่สีชมพูตามร้านอาหารที่ไทยก็ชนะแล้วค่ะ
ด้านของไม้กวาด ที่ตักผง ไม้ถูพื้น ขันน้ำ และไม้สอยผ้านั้น ต้องขอออกตัวว่า ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าจะมีอะไรพีคเท่าไม้สอยเสื้อ 5555555555555555
ไม่รู้หอพักที่อื่น หรือเมืองอื่นในจีนเป็นแบบไหน แต่ที่จขกทอยู่คือ มีเส้นลวดหนาๆขึงให้ขนานกันอยู่2เส้น
แต่อนิจจาผ้าม่านมันอยู่ตรงหน้าต่างแล้วนี่นา
จนวันนึงซักผ้าหาที่ตากไม่ได้ ก็เลยอ๋ออ ต้องใช้แบบนี้หรือ จึงวางตะกร้าผ้า และรีบรุดไปซื้อไม้สอย
ซึ่งมีขายแบบทั่วไปอย่างกะเซเว่นขายขนมจีบซาลาเปา แล้วเอามาสอยผ้าขึ้นตากบนลวด2เส้นดังกล่าวอย่างมีความสุข(หรอ?)
เม้ามอยกันยาวๆ แต่จริงๆจะหมดแล้วสำหรับวันนี้ คือไม้แขวนเสื้อ กะละมังซึ่งพลาสติกที่นี่ราคาแพงมากกกก
ผิดกับไทยที่ซื้อของแถมตะกร้า กะละมังเป็นว่าเล่น(ไม่รู้เมืองอื่นเป็นมั้ย) แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นอยู่ที่กระติกทางด้านบน ต่างชาติอย่างเราใสใสไปต้องใช้ แต่คนจีนแผ่นดินใหย่(เสียงขึ้นจมูกด้วย นึกภาพตาม)
ตอนหน้าหนาวตามหอพักมักจะส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายต้านภัยหนาวกันบ่อยครั้ง เพราะอะไรน่ะหรืออ
ไม่มีน้ำร้อน น้ำอุ่นอาบไงจ๊ะ ลำบากเด็กจีน เดินหอบหิ้วอิกระติกยักษ์นี่ไปซื้อน้ำร้อนมาอาบกัน หิ้วกันคนละ2ใบไปสวยๆ
ไม่ต้องเวทเทรนนิ่งอะไรกันให้เสียเวลา ยังไม่พอหิ้วมาขนาดนี่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหอพักคนจีนไม่มีลิฟท์ ชั้น6ชั้น7ก็เดินวนไปค่ะ
ตัดภาพมาที่เราชาวต่างชาติ พอไม่มีน้ำอุ่นอาบน่ะหรือ ต้องพิจารณาว่าไม่อาบมากี่วัน อนุโลมให้ตอนเช้าไม่อาบแค่เช็ดตัวได้
แต่ตอนเย็นไม่ไหวจริงๆ ชะนีน้อยหลายๆคน(เก๊าด้วย) จึงจำต้องค่อยๆแหย่ขา แหย่ตัว และตัดสินใจผลักหัวตัวเองเข้าไปสระผม
แม้อากาศติดลบ แต่ผมจะเหนียวไม่ได้
ปิดท้ายด้วยไส้กรอกแบบสีแดงสุดดด ไม่ใช่ของใช้ด้วยนะโผล่มาได้ ก็ใช่ไง พอดีเดินผ่าน 555555555 ไส้กรอกที่ไม่ได้อร่อยหรอกนะ
แต่พอได้กลิ่นต้องเดินเข้าไปสอยกันคนละไม้ทุกที ป้าอาอี๋จะโรยๆผงพริก ละเอาเสียบไม้ให้ รสชาติคือไม่อร่อย
แค่สนองนี๊ดดดดของทุกคน เพราะกลิ่นหอมจริงๆ
ฮ่าๆๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ ของใช้ในร้านของชำแบบไชนีสสไตล์
สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ