ดิฉัน ขอเล่าเรื่องย่อๆ ละกัน เพราะถ้าละเอียดมาก จะเฮริ์ทมาก ดิฉัน เจอกับแฟน ตอนไปเรียนออสเตรเลีย ตอนอายุ 19 ปี เขาอายุ22 ปี เจอกันครั้งแรกในงานปาร์ตี้เพื่อน เขาก็ขอเบอร์ แล้วชวนไปดูหนัง ซึ่งดิฉันก็ดีใจมาก เพราะเขาดูดีมาก หล่อ และเท่ห์มาก ก็เรียกได้ว่าเป็นรักแรกพบเลยก็ว่าได้ กล้ามเป็นมัดๆ สูง มีซิกแพก ในสายตาดิฉัน ณ ตอนนั้น คือดูเป็นคนชอบออกกำลังกาย รูปร่างดี สูงใหญ่ ดูเป็นออสซี่มาก แล้วเป็นคนยิ้มน่ารัก บอกเลย ดิฉันดีใจมากกกก ที่เขามาชอบดิฉัน เพราะดิฉนก็แอบชอบเขาอยู่ในใจ
เราเดทกันซักระยะ ซึ่ง เขาก็ดูแลดิฉันดีมาก มาหาตลอด พาไปเที่ยว กินข้าว เขาพาไปเจอแม่บ่อยๆ แม่ของเขาก็ดีกะฉันมาก เราใช้เวลาด้วยกันตลอด แต่ไม่นาน ฉันก็กลับไทย ทีนี้กลับมาแบบถาวร เขาก็โทรคุยไสกป์อยู่เรื่อยๆ ทุกวัน สี่เดือนต่อมาก็บินมาหาที่ไทย แล้วฉันก็บินไปหาเขาบ้างตอนวันหยุด ต้องบอกกันว่า เราสองคนทะเลาะกันไม่บ่อย แต่เรื่องทะเลาะมีอยู่เรื่องเดียว คือเรื่องหึงหวง ด้วยความที่ดิฉันเป็นคนเฟรนลี่มาก คุยกับทุกคนง่าย แต่ไม่ได้คิดอะไร ถ้าเขาเห็นหรือรู้จะไม่พอใจมากๆ คือเขาหึงฉันกับทุกคน ไม่ว่า จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เคยทะเลาะกันแรงมาก จนเขา ขว้าง หรือทุ่มแกลอนน้ำลงพื้น ดิฉันตกใจมาก เพราะไม่ค่อยเจอเหตุการรุนแรง ถึงแม้เขาไม่ได้ทำร้ายฉัน แต่ ดิฉนช็อก จำได้ว่า ตอนนั้นเป็นลม ความดันตำ่ เข้าโรงพยาบาลเลย
คือด้วยความที่ดิฉันก็ไม่ได้สวยอะไรมาก การที่มีผู้ชายที่ดูดีคนหนึ่งมาหึงมาหวง ตอนแรกก็รู้สึกดี แต่ตอนหลังเริ่มหายใจไม่ออก อีกอย่างเขาก็มาไทยเรื่อยๆ เพื่อมาเยี่ยมดิฉัน คือดิฉันรักเขานะคะ แต่ก็รู้สึกชีวิตไม่มีอิสระ ทุกครั้งที่เขามาก็มาที 2 อาทิตย์ บอกตรงดิฉันไม่ได้เจอเพื่อนเลย เพราะเขาขี้หึง มาก
ด้วยความที่เป็นคนรักอิสระ และก็รักเขาด้วย ดิฉันไม่อยากเลิก แต่ก็อยากมีความสุขกะการใช้ชีวิตด้วยตนเอง คบกันได้ 3 ปี แบบเจอกันบ้างในไทยและออสเตรเลียสลับกันไป ดิฉันจึงไปเรียนต่อสวีเดน ไปที่นั่นกะเอาให้ไกลที่สุด เพราะออสเตรเลียไปสวีเดน ใช้เวลา1วันเต็มๆ นั่งเครื่อง และค่าตั๋วก็แพงมาก ซึ่งดิฉันก็คิดลึกๆว่า เวลาที่ห่างกัน 9 ชม และ ประเทศที่อยู่ไกลกันมาก จะทำให้เราสองคนมีช่องว่างระยะห่างมากขึ้น แล้วด้วยนิสัยเขาที่ต้องพักผ่อนเป็นเวลา ออกกำลังกายประจำ การมาอยู่สวีเดนครั้งนี้ จะทำให้ฉันได้อิสระในการใช้ชีวิตเตมที่
ป่าวเลย เขายอมตื่นตอนดึก เพื่อคุยกะดิฉัน อีกทั้ง ลางานและบินมาหาดิฉันและยอมมาอยู่ในห้องพักนักศึกษาเล็กๆของดิฉันด้วย ตอนนั้นตอนที่อยู่สวีเดน อากาศหนาวมาก คนก็น้อย เรียนก็หนัก ดิฉันบอกตรงๆ จากที่อยากจะห่างเขา ทำให้รักเขามากขึ้น เขามาหาดิฉันและมาดูแลดิฉันตอนที่ดิฉันรู้สึกหดหู่ บอกเลย ได้ใจไปเต็มๆ เขาไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปขนาดไหน ยังคงเป็นห่วงดิฉัน ตามใจ และหวงดิฉันตลอด แม้กระทั่งจนฉันเรียนจบที่สวีเดนและกลับไทย เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิมแล้วมาเยี่ยมดิฉันเหมือนเคย เวลาที่เขาอยู่ออสเตรเลีย ทุกครั้งที่โทรไปเขาก็ทำงาน ไปฟิตเนส ทำสวนที่บ้าน อยู่กับแม่ ดูทีวี ทำกับข้าว ชีวิตมีแค่นี้จริงๆ ไม่ก็ไปขี่จักรยานกะเพื่อนสนิทที่เขาโตมาด้วยกัน คือเขาเป็นคนเงียบๆ แอบขี้อายนิด พูดไม่เยอะ จะพูดเยอะกับคนที่รู้จักหรือสนิทเท่านั้น ซึ่งบอกเลย ดิฉันไม่เคยระแวงเขาเลย
แต่ระหว่างที่คบ ก็จะมีอะไรแปลกๆบางอย่างคือ เขาเป็นคนไม่มีเพื่อน ทั้งที่ไม่ใช่คนเลวร้าย คือเขามีแค่เพื่อนสนิทคนเดียว ชื่อ ลอรี่ ที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม แต่เขาก็ไม่เคยพาดิฉันไปรู้จัก ลอรี่ ดิฉันก็เคยอยากเจอ แต่เขาบอกว่า เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด เวลาเจอกัน ก็อยากใช้เวลาให้เตมที่ ซึ่งดิฉันก็เข้าใจ เวลาผ่านไป7ปี ดิฉันกับเขา ก็ต่างคนต่างมีหน้าที่การงานที่มั่นคง เขาเป็นคนประเมินที่ดินที่ออสเตรเลีย ส่วนดิฉันก็เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดให้บริษัทข้ามชาติ เราก็มีการคุยกันว่า จะเอายังไงต่อไป คือตัวเขา ไม่อยากแต่งงานเพราะ พ่อแม่เขาหย่าร้าง แล้วครอบครัวเขา คือพี่สาวและแม่ ไม่ชอบคนไทย แม่เขาชอบดิฉันก็จริง แต่เพราะแม่เขาไม่เคยรู้ว่าดิฉันเปนคนไทย คือคิดมาตลอดว่าเป็นคนเกาหลี คือแม่เขาไม่ชอบคนไทยเอามากๆ เพราะ พ่อเขาหย่ากับแม่เขา หลังจากมาเที่ยวเมืองไทยตอนฮอลิเดย์แล้วมาเจอผู้หญิง แล้วเอากลับไปอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย ดังนั้น สำหรับเขาการแต่งงานเป็นไรที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อีกทั้งเขาก็บอกว่าถ้าแต่งงานแล้วดิฉันย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย เขากลัวว่าฉันจะเบื่อ และงานที่นู่นก็จะไม่ดีเท่าที่งานที่ดิฉันทำอยู่
ซึ่งดิฉันก็เห็นด้วยทุกอย่าง แล้วไม่ได้คิดร้องขออะไร จนกระทั่งวันนึง ฉันได้บินไปเยี่ยมเขา ล่าสุดที่ออสเตรเลีย เขาก็มารับที่สนามบิน ดูแลเทกแคร์ ปกติ
พอถึงวันจันทร์เขาไปทำงาน แล้วลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ฉันก็เลย หยิบมือถือเขาขึ้นมากะจะเอามาโทรหาโทรศัพท์ตัวเอง เพราะหาไม่เจอ เลยได้โอกาสเชกโทรศัพท์เลย ซึ่งปกติไม่เคยไปเชกของเขา มีแต่เขาที่มาเชกโทรศัพท์ดิฉัน ดิฉันก็เชก รูปและข้อความ สิ่งที่เจอ บอกคำเดียว ดิฉัน อึ้ง พูดไม่ออก มือสั่น ดิฉันเจอรูปที่เขาถ่ายกะเพื่อนผู้ชายคนนึง ซึ่ง เอาหน้าชนกัน แล้วกอดกัน เขากอดเพื่อนคนนั้นจากด้านหลัง แล้วเป็นรูปที่ถ่ายกันเอง2คน ดูเหมือนไปเที่ยวกันในบ้านที่อยู่กลางป่า มีรูปบ้านและสวน ในโทรศัพท์ มีแค่รูปเขากะเพื่อนคนนี้ ดิฉันพยายามใจเข็งและไม่คิดมาก เลยพยายามไล่เช็กข้อความ เขามีtext ไปหาเพื่อนเขาว่า you are the best person in the world อารม เธอเป็นคนที่ดีที่สดในโลก ประโยคนี้ เขาเคยพูดกะดิฉัน แล้วด้วยนิสัยเขา จะไม่พูดสิ่งเหล่านี้พร่ำเพื่อ มากไปกว่านั้น เพื่อนมีตอบกลับมาด้วยว่า homosexuality doesnot work betweek 2 guys with big dicks ซึ่งข้อความนี้เกิดขึ้น ก่อนที่เขาถ่ายรูปสนิทชิดเชื้อกัน
คือดิฉันไม่อยากคิดมากจริงๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ และพยายามปะติดปะต่อเรื่อง คือตอนที่ดิฉันขึ้นรถเขา ตอนที่เขามารับดิฉันที่สนามบิน เบาะนั่งข้างหน้าเหมือนยุบลง เหมือนมีคนตัวใหญ่ๆนั่งทับ แล้วเบาะรับนำหนักไม่ไหว ดิฉัน ก็ถามเขาว่าเกิดไรขึ้น เขาบอกเพื่อนเขาทำพัง ซึ่งพอดูรูปเพื่อนเขาก็ไม่ได้ดูตัวใหญ่มาก ดิฉันไม่อยากนึกเลย ว่าเขาทำอะไรกันบนเบาะนั้น
คือดิฉัน แอบมีความรู้สึกบางอย่าง ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ พอมองย้อนดูหลายๆเรื่อง คิดเรื่องเก่าๆ แต่ประเดนคือ เขามาดูแลมาเจอดิฉํนทำไม คือตอนนี้ดิฉันกลับไทยมาได้สักระยะ เขาก็ยังโทรมา ทำตัวเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คุณว่าดิฉันคิดมากไปหรือเปล่าค้า หรือผู้ชายเขาเปลี่ยนได้จริงๆ หรือ เขาเป็น ไบเซกชวลอยู่แล้ว คือได้ทั้งชายและหญิง บอกตรงๆ ดิฉันไม่รู้ว่าจะทำไง คือถามเขาเขาก็บอกไม่มีไร แต่ใครจะตอบว่ามี ใครมีประสบการณ์แบบนี้บ้างค้า
ผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด เป็นไปได้ไหมที่วันหนึ่ง จะเปลี่ยนเป็นเกย์ แล้วเพราะอะไรเขาถึงเปลี่ยนมาเป็นเกย์
เราเดทกันซักระยะ ซึ่ง เขาก็ดูแลดิฉันดีมาก มาหาตลอด พาไปเที่ยว กินข้าว เขาพาไปเจอแม่บ่อยๆ แม่ของเขาก็ดีกะฉันมาก เราใช้เวลาด้วยกันตลอด แต่ไม่นาน ฉันก็กลับไทย ทีนี้กลับมาแบบถาวร เขาก็โทรคุยไสกป์อยู่เรื่อยๆ ทุกวัน สี่เดือนต่อมาก็บินมาหาที่ไทย แล้วฉันก็บินไปหาเขาบ้างตอนวันหยุด ต้องบอกกันว่า เราสองคนทะเลาะกันไม่บ่อย แต่เรื่องทะเลาะมีอยู่เรื่องเดียว คือเรื่องหึงหวง ด้วยความที่ดิฉันเป็นคนเฟรนลี่มาก คุยกับทุกคนง่าย แต่ไม่ได้คิดอะไร ถ้าเขาเห็นหรือรู้จะไม่พอใจมากๆ คือเขาหึงฉันกับทุกคน ไม่ว่า จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เคยทะเลาะกันแรงมาก จนเขา ขว้าง หรือทุ่มแกลอนน้ำลงพื้น ดิฉันตกใจมาก เพราะไม่ค่อยเจอเหตุการรุนแรง ถึงแม้เขาไม่ได้ทำร้ายฉัน แต่ ดิฉนช็อก จำได้ว่า ตอนนั้นเป็นลม ความดันตำ่ เข้าโรงพยาบาลเลย
คือด้วยความที่ดิฉันก็ไม่ได้สวยอะไรมาก การที่มีผู้ชายที่ดูดีคนหนึ่งมาหึงมาหวง ตอนแรกก็รู้สึกดี แต่ตอนหลังเริ่มหายใจไม่ออก อีกอย่างเขาก็มาไทยเรื่อยๆ เพื่อมาเยี่ยมดิฉัน คือดิฉันรักเขานะคะ แต่ก็รู้สึกชีวิตไม่มีอิสระ ทุกครั้งที่เขามาก็มาที 2 อาทิตย์ บอกตรงดิฉันไม่ได้เจอเพื่อนเลย เพราะเขาขี้หึง มาก
ด้วยความที่เป็นคนรักอิสระ และก็รักเขาด้วย ดิฉันไม่อยากเลิก แต่ก็อยากมีความสุขกะการใช้ชีวิตด้วยตนเอง คบกันได้ 3 ปี แบบเจอกันบ้างในไทยและออสเตรเลียสลับกันไป ดิฉันจึงไปเรียนต่อสวีเดน ไปที่นั่นกะเอาให้ไกลที่สุด เพราะออสเตรเลียไปสวีเดน ใช้เวลา1วันเต็มๆ นั่งเครื่อง และค่าตั๋วก็แพงมาก ซึ่งดิฉันก็คิดลึกๆว่า เวลาที่ห่างกัน 9 ชม และ ประเทศที่อยู่ไกลกันมาก จะทำให้เราสองคนมีช่องว่างระยะห่างมากขึ้น แล้วด้วยนิสัยเขาที่ต้องพักผ่อนเป็นเวลา ออกกำลังกายประจำ การมาอยู่สวีเดนครั้งนี้ จะทำให้ฉันได้อิสระในการใช้ชีวิตเตมที่
ป่าวเลย เขายอมตื่นตอนดึก เพื่อคุยกะดิฉัน อีกทั้ง ลางานและบินมาหาดิฉันและยอมมาอยู่ในห้องพักนักศึกษาเล็กๆของดิฉันด้วย ตอนนั้นตอนที่อยู่สวีเดน อากาศหนาวมาก คนก็น้อย เรียนก็หนัก ดิฉันบอกตรงๆ จากที่อยากจะห่างเขา ทำให้รักเขามากขึ้น เขามาหาดิฉันและมาดูแลดิฉันตอนที่ดิฉันรู้สึกหดหู่ บอกเลย ได้ใจไปเต็มๆ เขาไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปขนาดไหน ยังคงเป็นห่วงดิฉัน ตามใจ และหวงดิฉันตลอด แม้กระทั่งจนฉันเรียนจบที่สวีเดนและกลับไทย เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิมแล้วมาเยี่ยมดิฉันเหมือนเคย เวลาที่เขาอยู่ออสเตรเลีย ทุกครั้งที่โทรไปเขาก็ทำงาน ไปฟิตเนส ทำสวนที่บ้าน อยู่กับแม่ ดูทีวี ทำกับข้าว ชีวิตมีแค่นี้จริงๆ ไม่ก็ไปขี่จักรยานกะเพื่อนสนิทที่เขาโตมาด้วยกัน คือเขาเป็นคนเงียบๆ แอบขี้อายนิด พูดไม่เยอะ จะพูดเยอะกับคนที่รู้จักหรือสนิทเท่านั้น ซึ่งบอกเลย ดิฉันไม่เคยระแวงเขาเลย
แต่ระหว่างที่คบ ก็จะมีอะไรแปลกๆบางอย่างคือ เขาเป็นคนไม่มีเพื่อน ทั้งที่ไม่ใช่คนเลวร้าย คือเขามีแค่เพื่อนสนิทคนเดียว ชื่อ ลอรี่ ที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม แต่เขาก็ไม่เคยพาดิฉันไปรู้จัก ลอรี่ ดิฉันก็เคยอยากเจอ แต่เขาบอกว่า เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด เวลาเจอกัน ก็อยากใช้เวลาให้เตมที่ ซึ่งดิฉันก็เข้าใจ เวลาผ่านไป7ปี ดิฉันกับเขา ก็ต่างคนต่างมีหน้าที่การงานที่มั่นคง เขาเป็นคนประเมินที่ดินที่ออสเตรเลีย ส่วนดิฉันก็เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดให้บริษัทข้ามชาติ เราก็มีการคุยกันว่า จะเอายังไงต่อไป คือตัวเขา ไม่อยากแต่งงานเพราะ พ่อแม่เขาหย่าร้าง แล้วครอบครัวเขา คือพี่สาวและแม่ ไม่ชอบคนไทย แม่เขาชอบดิฉันก็จริง แต่เพราะแม่เขาไม่เคยรู้ว่าดิฉันเปนคนไทย คือคิดมาตลอดว่าเป็นคนเกาหลี คือแม่เขาไม่ชอบคนไทยเอามากๆ เพราะ พ่อเขาหย่ากับแม่เขา หลังจากมาเที่ยวเมืองไทยตอนฮอลิเดย์แล้วมาเจอผู้หญิง แล้วเอากลับไปอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย ดังนั้น สำหรับเขาการแต่งงานเป็นไรที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อีกทั้งเขาก็บอกว่าถ้าแต่งงานแล้วดิฉันย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย เขากลัวว่าฉันจะเบื่อ และงานที่นู่นก็จะไม่ดีเท่าที่งานที่ดิฉันทำอยู่
ซึ่งดิฉันก็เห็นด้วยทุกอย่าง แล้วไม่ได้คิดร้องขออะไร จนกระทั่งวันนึง ฉันได้บินไปเยี่ยมเขา ล่าสุดที่ออสเตรเลีย เขาก็มารับที่สนามบิน ดูแลเทกแคร์ ปกติ
พอถึงวันจันทร์เขาไปทำงาน แล้วลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ฉันก็เลย หยิบมือถือเขาขึ้นมากะจะเอามาโทรหาโทรศัพท์ตัวเอง เพราะหาไม่เจอ เลยได้โอกาสเชกโทรศัพท์เลย ซึ่งปกติไม่เคยไปเชกของเขา มีแต่เขาที่มาเชกโทรศัพท์ดิฉัน ดิฉันก็เชก รูปและข้อความ สิ่งที่เจอ บอกคำเดียว ดิฉัน อึ้ง พูดไม่ออก มือสั่น ดิฉันเจอรูปที่เขาถ่ายกะเพื่อนผู้ชายคนนึง ซึ่ง เอาหน้าชนกัน แล้วกอดกัน เขากอดเพื่อนคนนั้นจากด้านหลัง แล้วเป็นรูปที่ถ่ายกันเอง2คน ดูเหมือนไปเที่ยวกันในบ้านที่อยู่กลางป่า มีรูปบ้านและสวน ในโทรศัพท์ มีแค่รูปเขากะเพื่อนคนนี้ ดิฉันพยายามใจเข็งและไม่คิดมาก เลยพยายามไล่เช็กข้อความ เขามีtext ไปหาเพื่อนเขาว่า you are the best person in the world อารม เธอเป็นคนที่ดีที่สดในโลก ประโยคนี้ เขาเคยพูดกะดิฉัน แล้วด้วยนิสัยเขา จะไม่พูดสิ่งเหล่านี้พร่ำเพื่อ มากไปกว่านั้น เพื่อนมีตอบกลับมาด้วยว่า homosexuality doesnot work betweek 2 guys with big dicks ซึ่งข้อความนี้เกิดขึ้น ก่อนที่เขาถ่ายรูปสนิทชิดเชื้อกัน
คือดิฉันไม่อยากคิดมากจริงๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ และพยายามปะติดปะต่อเรื่อง คือตอนที่ดิฉันขึ้นรถเขา ตอนที่เขามารับดิฉันที่สนามบิน เบาะนั่งข้างหน้าเหมือนยุบลง เหมือนมีคนตัวใหญ่ๆนั่งทับ แล้วเบาะรับนำหนักไม่ไหว ดิฉัน ก็ถามเขาว่าเกิดไรขึ้น เขาบอกเพื่อนเขาทำพัง ซึ่งพอดูรูปเพื่อนเขาก็ไม่ได้ดูตัวใหญ่มาก ดิฉันไม่อยากนึกเลย ว่าเขาทำอะไรกันบนเบาะนั้น
คือดิฉัน แอบมีความรู้สึกบางอย่าง ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ พอมองย้อนดูหลายๆเรื่อง คิดเรื่องเก่าๆ แต่ประเดนคือ เขามาดูแลมาเจอดิฉํนทำไม คือตอนนี้ดิฉันกลับไทยมาได้สักระยะ เขาก็ยังโทรมา ทำตัวเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คุณว่าดิฉันคิดมากไปหรือเปล่าค้า หรือผู้ชายเขาเปลี่ยนได้จริงๆ หรือ เขาเป็น ไบเซกชวลอยู่แล้ว คือได้ทั้งชายและหญิง บอกตรงๆ ดิฉันไม่รู้ว่าจะทำไง คือถามเขาเขาก็บอกไม่มีไร แต่ใครจะตอบว่ามี ใครมีประสบการณ์แบบนี้บ้างค้า