สวัสดีครับ ผม Hunter Henderson ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถกลับจากกาญจนบุรี และผมจะมาเล่าเรื่องราวกาญไปเที่ยวที่น้ำตก เอราวัณ ให้ฟังนะครับ
เริ่มกันเลย
มันเป็นช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผมไปทำธุระที่จังหวัดนครปฐมครับ หลังจากทำธุรเสร็จจึงวางแผนจะไปเที่ยวต่อกันที่กาญจนบุรี และเป้าหมายคืนน้ำตกเอราวัณนั่นเอง เราออกเดินทางกันตอนประมาณ 10:00น. สายหน่อย แต่โอเคร เดินทางโดยรถประจำทางน่าจะเป็นกรุงเทพ-กาญจนบุรี ขึ้นที่นครปฐมถึง บขส.กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง เมื่อถึงก็หารถโดยสารที่จะนั่งไปต่อที่น้ำตกเอราวัณ ซึ่งก็พบกับรถบัสคันเล็กๆ ขึ้นไปนั่งท้ายรถแบบชิลก่อนที่นถจะออกในเวลาไม่เกิน 20 นาที นั่งรถชมทิวทัศที่สวยงามไปด้วยต้นไม้ป่าเขา ยอ่งไกลผู้โดยสารก็น้อยลงจนดูเหมือนจะเหลือแค่นักท่องเที่ยวที่ไปด้วยกัน ทั้งรถมีชาวต่างชาติหลายคนเลย กับรถบัสคันเล็กๆนี่ เรานั่งรถผ่านฝนบ้างจนทำให้คิดไปว่าอาจจะไม่ได้เล่นน้ำ รถขับไปเรื่อยๆจนภึงที่หมาย เราลงรถและไปติดต่อที่พักกันที่จุดบริการนักท่องเที่ยว พบว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยซะอีก เค้าอยู่ตั้งไกลยังได้มาเที่ยวก่อนผมซะอีกเนอะ ผมไปติดต่อที่พักและพบว่าที่พักนั้นเต็มหมดแล้ว เหลือแค่เต็นท์ที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่แนะนำซะด้วย วานหยาบแล้วสิ เราปรึกษากันระหว่างที่ในเริ่มตกหนักอีกครั้ง ไฟฟ้าก็ดับ ใจผมอยากจะไปพักที่บ้านแพรริมน้ำ จะได้บรรยากาศน้ำเติมๆ แต่ติดที่การเดินทาง เราจึงเลือกที่จะเสี่ยงกับเต็นท์ ผมกังวลหน่อยๆเกี่ยวกับเรื่องน้ำป่าที่อาจจะมาจากบนเขาเหมือนที่เคยเห็นในข่าว แต่เราก็ชอบความตื่นเต้นอยู่แล้ว เราตัดสินใจไปรับประทานอาหารกลางวันซึ่งก็บ่ายแล้ว ก็ที่จะไปเข้าที่พัก ซื้อเสื้อกันฝนคนละตัวเพื่อเดินไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ คิดว่าอาจจะได้ใช้ประโยชน์อีกเยอะ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จฝนก็หยุกตก แล้วก็เดินไปยังที่พักติดต่อเรื่องเต้นท์แล้วก็เลือกเต้นท์กันเลย และผมก็ต้องแปลกใจกับสถานที่กลางเต้นท์ที่สวยไม่แพ้รีสอทอื่นๆเลย เราเลือกเต้นท์ที่ติดแม่น้ำ บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ เยี่ยมไปเลย หลังจากที่เข้าเต้นท์และจัดการอะไรเรียบร้อยก็ได้เวลาไปเล่นน้ำกัน เราเดินออกจากที่พักไปไม่ไกลก็ถึงน้ำตก ในตอนแรกนั้นน้ำเป็นสีแดงหน่อยๆผมนึกว่าจะผิดหวังซะแล้ว แต่พอไปถึงชั้น 2 (ผ่านชั้น 1 แบบไม่รู้ตัว) น้ำไม่ขุ่นเลยแม้แต่น้อย สวยใสเป็นธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำกันหลายคน เราจึงตัดสินใจไปดูชั้นอื่นก่อน และพวกเราก็เลือกที่จะไปชั้น 4 ที่เคยเห็นสวยๆในเน็ต ครับเราเดินขึ้นเขาสูงๆต่ำๆ ไปไม่ไกลมากก็พบกับ น้ำตกเอราวัณชั้น 4 สวยจริงๆด้วย น้ำใส มีสีเขียวฟ้า มีปลาน้อยใหญ่แหวกว่าย เราไม่รอช้าที่จะลงไปเล่นน้ำ เพราะมีเวลาเหลือแค่ 30 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่จะปิด เราลงไปว่ายน้ำ กระโดดน้ำ นั่งให้ปลาตอดผิว ยื้ย สยอง อากาศครึ้มหน่อยๆและน่ำก็ลึกจนไม่รู้ว่าพื้นอยู่ที่ไหน ทำให้ในน้ำนั่นลึกลับนิดๆ แต่เราก็เล่นอย่างสนุกสนาน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคู่นึงมาเล่นน้ำกับเราด้วยที่นี่ ผมลองปีนไปบนก้อนหินก่อนจะสไลท์หนอนลงมาในน่ำอย่างสนุกสุดมัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเป่านกหวีดเรียกเราขึ้นไป เรารีบขึ้นจากน้ำและลงไปยังชั้นสองและหวังว่าจะได้เล่นน้ำอีกหน่อย และก็ไม่พลาด เราลงไปเล่นในชั้นสองที่มีคนเยอะแยะ ชั้น 2 น้ำตื่นกว่ากว้างกว่า น่ำเยอะกว่า แต่ว่า หินสากมาก ไม่มีอะไรน่าเล่นที่นี่ มีเพียงใต้น้ำตก ที่ไม่รู้ทำไมคนชอบไปนั่งนิ่งๆใต้นั้น เราก็ไปนั่งใต้น้ำตกสักพักก็เข้าใจแล้วว่าทำไม ตอนเรานั่งใต้น้ำตกจะรู้สึกคล้ายกับฝนตกที่หน้าต่าง ทำให้เราอยากคิดถึงใครสักคน รู้สึกเหมือนเป็นพระเอก MV อะไรทำนองนั้น ว่าไปนั่น เรานั่งสักพักก็ตัดสินใจเลิกเล่น น้ำตกเอราวัณชั้น 2 เป็นน้ำตกที่มีพื้นที่กว้าง พื้นเป็นทรายหยาบๆ ตื่นๆ เหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว สวยไม่แพ้ใคร พวกผมเลิกเล่นน้ำและกับไปยังที่พัก อาบน้ำแต่งตัวไปรับประทานอาหาร ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวมีเตามีกระทะเหล็กปิ้งย่าง ให้เช่าพร้อมเพียง ยกเว้นของสด ซึ่งมันคงจะดีที่สุด ถ้าพวกผมรู้เรื่องนี้ก่อน ช่างน่าเสียดาย เราไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร ระหว่างทางเจอหมูป่าสองตัวเดินผ่านมา เดินยังกะนักเลง พวกผมมาสี่คนก็มีกลัวบ้างแหละ ผมรู้ว่ามันไม่ทำอะไรเราหรอก ถ้ามันจะทำคงทำตั้งแต่เห็นเราละ แต่เพื่อนผมก็กลัวกันหน่อยเราปล่อยให้มันเดินผ่านเราไป มันมาสองตัวเหมือนแฟนกันเลย อิจฉา เราไปรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และกลับที่พักมาชาจแบตโทรศัพท์ทีศาลา มีหมาตัวนึงมานั่งเป็นเพื่อน เราแบ่งขนมให้เจ้าหมาและหวังว่ามันจะมานอนเป็นเพื่อน แน่นอนมันมานอนเฝ้าที่หน้าเต้นท์ทำให้เราอุ่นใจจนเช้า ดีจัง
น้ำตกเอราวัณ
เริ่มกันเลย
มันเป็นช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผมไปทำธุระที่จังหวัดนครปฐมครับ หลังจากทำธุรเสร็จจึงวางแผนจะไปเที่ยวต่อกันที่กาญจนบุรี และเป้าหมายคืนน้ำตกเอราวัณนั่นเอง เราออกเดินทางกันตอนประมาณ 10:00น. สายหน่อย แต่โอเคร เดินทางโดยรถประจำทางน่าจะเป็นกรุงเทพ-กาญจนบุรี ขึ้นที่นครปฐมถึง บขส.กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง เมื่อถึงก็หารถโดยสารที่จะนั่งไปต่อที่น้ำตกเอราวัณ ซึ่งก็พบกับรถบัสคันเล็กๆ ขึ้นไปนั่งท้ายรถแบบชิลก่อนที่นถจะออกในเวลาไม่เกิน 20 นาที นั่งรถชมทิวทัศที่สวยงามไปด้วยต้นไม้ป่าเขา ยอ่งไกลผู้โดยสารก็น้อยลงจนดูเหมือนจะเหลือแค่นักท่องเที่ยวที่ไปด้วยกัน ทั้งรถมีชาวต่างชาติหลายคนเลย กับรถบัสคันเล็กๆนี่ เรานั่งรถผ่านฝนบ้างจนทำให้คิดไปว่าอาจจะไม่ได้เล่นน้ำ รถขับไปเรื่อยๆจนภึงที่หมาย เราลงรถและไปติดต่อที่พักกันที่จุดบริการนักท่องเที่ยว พบว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยซะอีก เค้าอยู่ตั้งไกลยังได้มาเที่ยวก่อนผมซะอีกเนอะ ผมไปติดต่อที่พักและพบว่าที่พักนั้นเต็มหมดแล้ว เหลือแค่เต็นท์ที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่แนะนำซะด้วย วานหยาบแล้วสิ เราปรึกษากันระหว่างที่ในเริ่มตกหนักอีกครั้ง ไฟฟ้าก็ดับ ใจผมอยากจะไปพักที่บ้านแพรริมน้ำ จะได้บรรยากาศน้ำเติมๆ แต่ติดที่การเดินทาง เราจึงเลือกที่จะเสี่ยงกับเต็นท์ ผมกังวลหน่อยๆเกี่ยวกับเรื่องน้ำป่าที่อาจจะมาจากบนเขาเหมือนที่เคยเห็นในข่าว แต่เราก็ชอบความตื่นเต้นอยู่แล้ว เราตัดสินใจไปรับประทานอาหารกลางวันซึ่งก็บ่ายแล้ว ก็ที่จะไปเข้าที่พัก ซื้อเสื้อกันฝนคนละตัวเพื่อเดินไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ คิดว่าอาจจะได้ใช้ประโยชน์อีกเยอะ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จฝนก็หยุกตก แล้วก็เดินไปยังที่พักติดต่อเรื่องเต้นท์แล้วก็เลือกเต้นท์กันเลย และผมก็ต้องแปลกใจกับสถานที่กลางเต้นท์ที่สวยไม่แพ้รีสอทอื่นๆเลย เราเลือกเต้นท์ที่ติดแม่น้ำ บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ เยี่ยมไปเลย หลังจากที่เข้าเต้นท์และจัดการอะไรเรียบร้อยก็ได้เวลาไปเล่นน้ำกัน เราเดินออกจากที่พักไปไม่ไกลก็ถึงน้ำตก ในตอนแรกนั้นน้ำเป็นสีแดงหน่อยๆผมนึกว่าจะผิดหวังซะแล้ว แต่พอไปถึงชั้น 2 (ผ่านชั้น 1 แบบไม่รู้ตัว) น้ำไม่ขุ่นเลยแม้แต่น้อย สวยใสเป็นธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำกันหลายคน เราจึงตัดสินใจไปดูชั้นอื่นก่อน และพวกเราก็เลือกที่จะไปชั้น 4 ที่เคยเห็นสวยๆในเน็ต ครับเราเดินขึ้นเขาสูงๆต่ำๆ ไปไม่ไกลมากก็พบกับ น้ำตกเอราวัณชั้น 4 สวยจริงๆด้วย น้ำใส มีสีเขียวฟ้า มีปลาน้อยใหญ่แหวกว่าย เราไม่รอช้าที่จะลงไปเล่นน้ำ เพราะมีเวลาเหลือแค่ 30 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่จะปิด เราลงไปว่ายน้ำ กระโดดน้ำ นั่งให้ปลาตอดผิว ยื้ย สยอง อากาศครึ้มหน่อยๆและน่ำก็ลึกจนไม่รู้ว่าพื้นอยู่ที่ไหน ทำให้ในน้ำนั่นลึกลับนิดๆ แต่เราก็เล่นอย่างสนุกสนาน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคู่นึงมาเล่นน้ำกับเราด้วยที่นี่ ผมลองปีนไปบนก้อนหินก่อนจะสไลท์หนอนลงมาในน่ำอย่างสนุกสุดมัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเป่านกหวีดเรียกเราขึ้นไป เรารีบขึ้นจากน้ำและลงไปยังชั้นสองและหวังว่าจะได้เล่นน้ำอีกหน่อย และก็ไม่พลาด เราลงไปเล่นในชั้นสองที่มีคนเยอะแยะ ชั้น 2 น้ำตื่นกว่ากว้างกว่า น่ำเยอะกว่า แต่ว่า หินสากมาก ไม่มีอะไรน่าเล่นที่นี่ มีเพียงใต้น้ำตก ที่ไม่รู้ทำไมคนชอบไปนั่งนิ่งๆใต้นั้น เราก็ไปนั่งใต้น้ำตกสักพักก็เข้าใจแล้วว่าทำไม ตอนเรานั่งใต้น้ำตกจะรู้สึกคล้ายกับฝนตกที่หน้าต่าง ทำให้เราอยากคิดถึงใครสักคน รู้สึกเหมือนเป็นพระเอก MV อะไรทำนองนั้น ว่าไปนั่น เรานั่งสักพักก็ตัดสินใจเลิกเล่น น้ำตกเอราวัณชั้น 2 เป็นน้ำตกที่มีพื้นที่กว้าง พื้นเป็นทรายหยาบๆ ตื่นๆ เหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว สวยไม่แพ้ใคร พวกผมเลิกเล่นน้ำและกับไปยังที่พัก อาบน้ำแต่งตัวไปรับประทานอาหาร ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวมีเตามีกระทะเหล็กปิ้งย่าง ให้เช่าพร้อมเพียง ยกเว้นของสด ซึ่งมันคงจะดีที่สุด ถ้าพวกผมรู้เรื่องนี้ก่อน ช่างน่าเสียดาย เราไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร ระหว่างทางเจอหมูป่าสองตัวเดินผ่านมา เดินยังกะนักเลง พวกผมมาสี่คนก็มีกลัวบ้างแหละ ผมรู้ว่ามันไม่ทำอะไรเราหรอก ถ้ามันจะทำคงทำตั้งแต่เห็นเราละ แต่เพื่อนผมก็กลัวกันหน่อยเราปล่อยให้มันเดินผ่านเราไป มันมาสองตัวเหมือนแฟนกันเลย อิจฉา เราไปรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และกลับที่พักมาชาจแบตโทรศัพท์ทีศาลา มีหมาตัวนึงมานั่งเป็นเพื่อน เราแบ่งขนมให้เจ้าหมาและหวังว่ามันจะมานอนเป็นเพื่อน แน่นอนมันมานอนเฝ้าที่หน้าเต้นท์ทำให้เราอุ่นใจจนเช้า ดีจัง