[Spoil] Danganronpa 3 The End of Kibougamine Gakuen - Mirai Hen ตอนสุดท้าย



เปิดตอนด้วยฉากย้อนอดีตระหว่างเท็นกันกับจิสะ
จิสะรายงานเท็นกันเกี่ยวกับวิดีโอที่จุนโกะเอาเทคนิคของมิตาราอิไปใช้ในการสะกดให้คนสิ้นหวังและสะกดให้คนฆ่าตัวตาย
พอจิสะบอกเท็นกันไปว่าตัวเองก็ยังไม่ได้ลองดูวิดีโอดังกล่าว เท็นกันก็ทำท่าทีครุ่นคิด แล้วจิสะก็ยิ้มแบบสิ้นหวังออกมา
(จุดประสงค์น่าจะเพื่อให้เท็นกันลองเอาวิดีโอไปดูเพื่อตรวจสอบล่ะมั้ง)





ตัดมาที่ฉากปัจจุบัน
ข้อความที่เท็นกันส่งมาเป็นไฟล์วิดีโอที่เท็นกันสารภาพว่าตัวเองเป็นคนจัดเกมขึ้น




มิตาราอิเห็นเท็นกันสิ้นหวังเลยรู้สึกจนตรอก เขาเล่าอดีตเกี่ยวกับเขาและจุนโกะให้พวกนาเอกิฟัง รวมถึงเรื่องวิดีโอแห่งความสิ้นหวัง






จากนั้นมิตาราอิก็พูดถึงวิดีโอแห่งความหวังที่ตัวเองสร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับวิดีโอแห่งความสิ้นหวัง และกล่าวว่าเขาจะไม่เอาแต่หนีเหมือนที่ผ่าน ๆ มาอีกต่อไปแล้ว โดยครั้งนี้เขาจะสู้กับความสิ้นหวังโดยการเผยแพร่วิดีโอแห่งความหวังที่เข้าทำขึ้นเพื่อปลดปล่อยคนทั้งโลกจากความสิ้นหวัง
นาเอกิทักท้วงเรื่องผลของวิดีโอที่อาจเกิดขึ้นต่อจิตใจของคน แต่มิตาราอิก็เถียงกลับไปว่าสภาพในตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าขืนยังเอาแต่สู้อยู่แบบนี้ต่อไปก็ไม่มีวันชนะ





แล้วมิตาราอิก็แสดงพลังที่แท้จริงของตัวเองโดยการโชว์วิดีโอในมือถือให้อาซาฮินะดู
พออาซาฮินะดูปุ๊ปก็โดนสะกดจิตและจับนาเอกิล็อคตามคำสั่งของมิตาราอิทันที




ส่วนเหตุผลที่มิตาราอิเพิ่งจะมาใช้วิดีโอล้างสมองเอาป่านนี้ก็เพราะโดน NG code ผนึกไว้
เมื่อไม่มีใครขัดขวางแล้วมิตาราอิก็เดินจากไปทำภารกิจกู้โลก




พอเจอหน่วยทหารที่ลงมาช่วยก็ฉายวิดีโอสะกดจิตให้ดูตามสูตร แถมยังให้กระจายต่อให้ดูกันทั้งกองทัพ




แล้วทหารของนายอนิเมเตอร์ก็มาไล่ยิงพวกนาเอกิ



มุนาคาตะกลับมาช่วยพวกนาเอกิไว้ได้ทันพอดี แล้วทั้งสามคนก็มาถกเรื่องราวทั้งหมดกันอีกรอบ



นาเอกิบอกว่าเท็นกันไม่ใช่เศษซากของความสิ้นหวัง และท่าทางของเท็นกันก็ไม่ต้องการให้มิตาราอิเข้าร่วมเกมครั้งนี้ด้วยตั้งแต่แรก
โดยจุดประสงค์ของเกมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดให้กลุ่มมิไรคิคัง(มิตาราอิ)ได้เห็นเพื่อกระตุ้นให้มิตาราอิเลิกหนีแล้วใช้ความสามารถของตัวเองเข้าต่อสู้กับความสิ้นหวัง
ข้อความสุดท้ายที่เท็นกันทิ้งไว้ก็เป็นข้อความถึงมิตาราอิซึ่งเท็นกันเห็นว่าเป็นความหวังของโลก
(สรุปคือเท็นกันเชื่อว่าการทำลายความสิ้นหวังแบบฉบับของมุนาคาตะไม่ใช่วิธีที่สามารถกำจัดความสิ้นหวังได้ ต้องใช้วิดีโอล้างสมองของมิตาราอิถึงจะเป็นวิธีที่ได้ผลสินะ... แถมไอ้การสังเวยมิไรคิคังเพื่อเปลี่ยนอนิเมเตอร์ให้เป็นสุดยอดความหวังนี่มันตรรกะวิบัติสุด ๆ)




ระหว่างที่พวกนาเอกิกำลังถกกัน วิดีโอล้างสมองก็ถูกเผยแพร่ไปเรื่อย ๆ ภายในกองทัพ



หากว่ามนุษย์สูญเสียความรู้สึกด้านลบซึ่งเป็นต้นเหตุของความสิ้นหวังทั้งหมดไปจากการดูวิดีโอแห่งความหวังแล้วล่ะก็ ถึงตอนนั้นมนุษย์ก็จะไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกัน
กลุ่มนาเอกิตัดสินใจจะไปหยุดมิตาราอิโดยมีมุนาคาตะเป็นทัพหน้าคอยดึงความสนใจของพวกทหารไว้




มุนาคาตะหลบกระสุนของกลุ่มทหารเข้าไปในห้องประชุม ได้จังหวะก็กล่าวขอโทษจิสะผู้ที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาตลอด แล้วก็หยิบดาบจากศพของจิสะขึ้นมาเพื่อใช้วิชาดาบคู่






ระหว่างที่นาเอกิกับอาซาฮินะวิ่งตามมิตาราอิ อาซาฮินะก็โดนยิงเข้าที่ขาจนต้องหลบไปหยุดทำแผล





พอทำแผลเสร็จอาซาฮินะก็บอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรแล้ว และให้นาเอกิรีบไปต่อก่อนที่ตัวเองจะล้มฟุบลงไปลับหลังนาเอกิ





มิตาราอิเดินทางมาถึงห้องควบคุมแล้วเริ่มต้นแผนการเผยแพร่วิดีโอแห่งความหวัง





อีกไม่นานโลกก็จะเต็มไปด้วยความหวัง ปราศจากความทุกข์ ความเศร้า ความเจ็บปวด ฯลฯ
(ภาพมโนการล้างสมองหมู่)








--จบครึ่งแรก--

ครึ่งหลังเป็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมดในรูปแบบของการพูดคุยระหว่างจิสะกับจุนโกะในโรงหนัง




ตัวการของเหตุการทั้งหมดก็คือเท็นกันซึ่งไม่เห็นด้วยกับวิธีการกำจัดความสิ้นหวังตามแบบมุนาคาตะ



เท็นกันจัดเกมขึ้นมาเพื่อกดดันให้มิตาราอิเริ่มเคลื่อนไหว



รอจังหวะที่ทุกคนรวมตัวกันเพื่อพิจารณาความผิดของนาเอกิที่ปกป้องกลุ่มเศษซากความสิ้นหวังในการเริ่มเกม




โดยมีจิสะผู้สิ้นหวังคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกต่อหนึ่ง





จุนโกะแซวจิสะถึงความสิ้นหวังของเรื่องราวที่ผ่านมา จิสะเลยบอกกลับไปว่าจากนี้ต่างหากจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวแห่งความหวัง



ปิดท้ายหลังเพลงจบด้วยความช่วยเหลือจากฮากาคุเระกับโทกามิ







กับการเข้าร่วมสนุกของตัวละครหลักตัวสุดท้าย ฮินาตะ ฮาจิเมะ




ติดตามต่อได้ในบท "ความหวัง"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่