หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ดอยมณฑาหน้าฝน ดอยไม่ดังแต่มีดี
กระทู้รีวิว
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เดินป่า
เที่ยวไทย
จังหวัดตาก
ดอยมณฑาแห่งนี้หากไม่ใช่นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ น้อยคนนักที่จะรู้จักหรือแม้กระทั่งเคยได้ยินมาก่อน ตัวผมเองมีโอกาสได้ไปสัมผัสความงดงามและบริสุทธ์ของดอยแห่งนี้เมื่อวันที่ 24-25 ก.ย. 2559 จึงขอพาทุกท่านได้ไปทำความรู้จักให้มากขึ้น เชิญรับชมได้เลยครับ ....
ดอยมณฑา(ดอยโล้น)อยู่ในเขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และเป็นพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช บริเวณบนยอดดอยเป็นลานโล่ง มองเห็นวิวภูเขาได้กว้างไกลแบบ 360 องศา และถ้าอากาศเป็นใจจะมีทะเลหมอกให้ชมอย่างงดงามไม่แพ้ที่อื่นเลย แต่กว่าจะถึงจุดนั้นเราต้องผ่านอะไรบ้างหรือครับ โปรดติดตามต่อได้เลยครับ
การเดินทางต้องไปเริ่มต้นที่บ้านปูแป้ ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างจากกรุงเทพประมาณ 480 กม. เพื่อไปพบคนนำทาง และลูกหาบ ที่ต้องติดต่อไว้ก่อน ขอบอกว่าพี่ๆน่ารัก ใจดีกันทุกคนเลยครับ
ช่วงนี้ถนนสายตาก-แม่สอด กำลังขยายถนน ขับรถระมัดระวังกันด้วยนะครับ
มาถึงแล้วถ้ามีเวลาแวะไหว้พระที่วัดเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ดีนะครับ
เจดีย์ทราย สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องกระเหรี่ยงสะกอ ก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามา
ที่วัดกำลังสร้างพระอุโบสถ ยังต้องการปัจจัยอีกมากนะครับ เดือน พ.ย. นี้จะมีกฐินล่องแพ ท่านใดสนใจติดต่อไปได้ที่ นายทองสุก ปูแป้ 082 882 3196
จากงานบุญ เรามากลับเข้าเรื่องกันต่อครับ แหะๆ ภาพบ้านของชาวบ้าน และห้องน้ำสุดท้ายที่เรามี ก่อนเราจะไปขึ้นเขาครับ
ต้องขึ้นรถอีแต๊กไปจุดเริ่มเดิน เป็นทางลูกรัง หัวสั่นด๊อกแด๊กผ่านบ้านเรือน ไร่นาชาวบ้าน และทางน้ำ ประมาณ 20 นาที
มีไม้ล้มขวางทาง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมืออาชีพแบบพี่ๆลูกหาบ
เริ่มเดินก็ต้องข้ามน้ำ และเดินไปตามคันนา นาข้าวกำลังเขียวชอุ่มเลยครับ
ผ่านไร่ข้าวโพด
ช่วงนี้หน้าฝน น้ำกำลังเยอะ แอบกระซิบว่า ไม่ต้องกลัวรองเท้าเปียกนะครับ เพราะเปียกแน่นอนครับ
ช่วงแรกๆนี้จะยังเป็นทางราบเสียส่วนใหญ่ เหมือนเป็นการวอร์มอัพร่างกาย
เดินข้ามลำธารไปๆมาๆ เดี๋ยวเปียกเดี๋ยวแห้ง เป็นระยะทางประมาณ 3.5 กม.
ถ้ามาหน้าฝน ไม่ต้องใส่รองเท้ากันน้ำหรอกครับ ใส่รองเท้าระบายน้ำดีกว่า
พี่ๆลูกหาบจะพักเติมพลังกันในจุดนี้ พวกเรานักท่องเที่ยวบางคนแม้จะยังไม่ทันเหนื่อย แต่ก็เติมพลังเถอะครับ เชื่อผม
หลังจากจุดพักเติมพลัง เราจะเดินขึ้นที่สูงขึ้น แต่ยังคงเป็นทางน้ำที่น้ำน้อย จนแห้งไปเลย
ช่วงนี้จะเริ่มเป็นป่ามากขึ้นแล้วนะครับ ต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย
รอยที่ต้นไม้เป็นรอยมีดนะครับ เป็นเครื่องหมายบอกทางว่าเรา(ยัง)ไม่หลง
เริ่มมีทางชันมากขึ้นๆ
เหล่าผู้พิชิตเนินที่ 1 ครับ ชัน 30-40 องศา
เนินที่ 2 ครับ ชันกว่าเนินที่ 1 นิดหน่อย ประมาณ 40-45 องศา ถ้าพิชิตได้มีรางวัลเป็นสัญญานโทรศัพท์ทุกเครือข่าย และวิวภูเขาสวยๆครับ สู้ๆ
วิวนี่คือรางวัลของผู้พิชิตเนินที่ 2 ครับ
เนินที่ 3 ชันประมาณ 60 องศา
เนินที่ 4 อยู่ตรงหน้าเราแล้วครับ เป็นจุดวัดใจนะครับ เพราะ ทางขึ้นชันมากและแคบมาก ทางขวามือเป็นเหวลึกเลยครับ
นั่งทำใจแปปครับ แหะๆ ป่าวหรอกครับ ชมวิวๆ
ผมขึ้นมาถึงครึ่งทางแล้วครับ ถึงตาพี่ๆบ้างแล้วละ
ทางเป็นดินร่วนๆ บางจุดเหยียบแล้วดินแตก ต้องใช้ทั้งสองมือสองเท้าเลยละครับ ถ้าพลาดไป คงลงไปจุดเริ่มต้นใหม่แน่ครับ
เนินที่ 4 นี่ถ้าให้เทียบก็คงคล้ายเนินมรณะ ของภูสอยดาวนะครับ เพราะทั้งร้อนทั้งชัน แต่ที่นี่ไม่มีขั้นบันไดให้และมีเหวอยู่ใกล้ๆตัวเท่านั้นเองครับ
Amazing Thailand .
เดินไปตามสันเขา ยาวๆครับ
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ้ง
ใกล้ถึงจุดตั้งแค้มป์แล้วครับ แค่หลังเขานู่นนนนนน
ไม่ได้ถ่ายเอียงนะครับ ทางเป็นแบบนี้จริงๆ
แค้มป์อยู่นั่นเอง ระยะทางเดินขึ้นดอยประมาณ 12.5 กม. 6-7 ชม.
วิวเมื่อมองจากแค้มป์ ฝนมามืดพอดี
แล้วเย็นนั้นก็มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อยครับ กลางคืนฝนไม่ตก ฟ้าค่อนข้างเปิด คิดว่าเช้าจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกนุ่มฟูกำลังดี
เช้านั้นหมอกมาเต็มครับ เต็มเกินไปจนมองวิวอะไรไม่เห็น
ความไม่มีอะไรแน่นอนนี่แหละครับ"ธรรมชาติ"
อุณหภูมิตอนเช้าประมาณ 21 องศา ลมค่อนข้างแรง
บนนั้นคือยอดสูงสุดของดอยมณฑานะครับ สูงประมาณ 1100 MSL ปกติจะใช้ชมพระอาทิตย์ตก
ณ เวลา 9.00 น. ก่อนบอกลาดอยมณฑา
เราเดินทางลงอีกทางหนึ่ง ซึ่งระยะทางจะสั้นกว่าทางขึ้น แต่ไม่ค่อยจะเห็นวิวอะไร จึงเป็นทางขึ้นของพี่ๆลูกหาบ
ชันมากครับทางลง ดินมีความชื้นและลื่นนะครับ แถมมีทากเล็กน้อยครับ
เมื่อลงมาเรื่อยๆก็เข้าใกล้ทางน้ำมากขึ้น ความชื้นสูงจะสังเกตเห็นได้จากมีมอสคลุมก้อนหิน และต้นไม้
ถ้ำเล็กๆเป็นจุดพัก
เดินอีกไม่นาน ข้ามลำธารไปมาอีกสักพักก็จะกลับมาเจอจุดที่เรานั่งพักทานอาหารกลางวันเมื่อวานแล้วครับ
หลังจากนั้นก็เดินกลับเส้นทางเดียวกับขามานะครับ คือเดินข้ามลำธาร และไร่นาของชาวบ้าน ระยะทางเดินลงดอยประมาณ 8 กม. 3-4 ชม เท่านั้นครับ
กลับมาขึ้นรถอีแต๊กกลับเข้าหมู่บ้าน
สรุป
ดอยมณฑาแห่งนี้เป็นการเดินป่าในระดับปานกลาง ผู้ที่จะมาควรมีประสบการณ์การเดินป่าบ้างหรือร่างกายแข็งแรง ด้านบนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำ มีทากบ้างเล็กน้อย(ถุงกันทากไม่จำเป็นเลยครับ) ถ้าให้เปรียบเทียบ ผมขอเปรียบเทียบว่าเป็น โกรกอีดกผสมกับภูสอยดาว
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆผู้ร่วมทริปนี้ที่มอบมิตรภาพดีๆให้แก่กันครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดีครับ
ชื่อสินค้า:
ดอยมณฑา (ดอยโล้น) แห่งแม่สอด
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ดอยหลวงแม่ละเมา ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านแม่ละเมา ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก มีความสูง 1,758 เมตรจากระดับน้ำ
ดอยแม่ละเมา อ.พบพระ จ.ตาก ดอยที่มีความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 1,758 เมตร ใช้ระยะเวลาในการเดิน 3 วัน 2 คืน ระยะทางประมาณ 13 กม. ช
Freedom is from within
พิชิตดอยม่อนจอง ต้องลองสักครั้ง! หนาวสุดสวยสุดสูงสุดๆ
สวัสดีค่ะ จ๋าจากเพจ Travel101 : บางวันเที่ยว บางวันก็ไม่เที่ยวนะคะ ห่างหายกันไปนาน วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเดินป่าครั้งแรกที่แม้จะไปกันแบบงงๆแต่ก็ประทับใจมากๆค่ะ และ จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ก็
สมาชิกหมายเลข 4721259
พิกัด 8 ที่พักในอ้อมกอดธรรมชาติต้อนรับฤดูหนาว ที่แม่ออน ดอยสะเก็ด เชียงดาว เชียงใหม่
เรื่อง นฤภรกมล แมงกะพรุนภาพ the cloud หน้าหนาวเป็นฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการเดินทาง เพราะสภาพอากาศเย็นเป็นความพิเศษที่เกิดในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ช่วงนี้ลมหนาวเริ่มพัดผ่านมาแตะผิวเบา ๆ ส่งสัญญาณให้เรา
สมาชิกหมายเลข 8930230
ทริปแรกของปี 2020 ที่ดอยม่อนจอง
..ทริปแรกของปี 2020 ของเรา ไปม่อนจองกันเต๊อะ.. เปิดทริปแรกในช่วงต้นปี 2020 ด้วยทุ่งหญ้าสีทองในช่วงฤดูหนาวที่ม่อนจอง ทริปนี้เรามีสมาชิกด้วยกัน 3 คน ไปเดินชิลกันที่ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน (24
Tammy Natthaporn
แบกเป้สะพายหลัง เดินป่าหน้าฝน @ ดอยหลวงตาก
ช่วงหน้าฝน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อากาศน่านอนพักผ่อนอยู่กับบ้านมากกว่าจะออกไปเที่ยวไหน หลายคนจะรอให้พ้นหน้านี้ไปให้ถึงหน้าหนาวแล้วเริ่มออกท่องเที่ยวกัน แต่ฤดูนี้เองก็มีเรื่องน่าสนใจตรงที่ "การเดินป่าห
สมาชิกหมายเลข 1796688
รีวิว เดินครบ 5 ดอย !!!! ในรอบ1 ปี
รีวิว เดินครบ 5 ดอย !!!! ในรอบ1 ปี 1.ดอยมะม่วง สามหมื่น( ความยาก 7.5 / 10) 2.ม่อนจอง ( ความยาก 3/10 ) 3.เขาเจ็ดยอดพัทลุง (ความยาก 8/10) 4.ดอยหลวง ดอยหนอกพะเยา ( ความยาก 7.5/10) 5.ภูสอยดาว (ความยาก 6.5
สมาชิกหมายเลข 6753100
ดอยหลวง - ดอยหนอกพะเยา ความทรงจำ เพื่อนใหม่ กับทุกสภาพอากาศที่ได้เจอ
สมาชิกในครั้งนี้มีทั้งหมด 9 คน ดอยหนอก เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ที่มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ 1.เชียงราย 2.ลำปาง 3.พะเยา เหตุที่เรียกว่าดอยหนอกก็เพราะว่า ยอดสูงสุดของดอยแห่งนี้มีลักษณ
สมาชิกหมายเลข 3601474
ครั้งแรกกับการเดินป่า ~ ด อ ย ม่ อ น จ อ ง
"ดอยม่อนจอง" ตั้งอยู่บนทิวเขาถนนธงชัยตอนกลาง ปัจจุบันตั้งอยู่ใน อ.นันทบุรี เดิมตั้งอยู่ใน ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ โดยขึ้นกับพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย "ดอยม่อนจอง&q
Looper
NAD ADVENTURE:: อยากหวาดเสียว ให้มาเที่ยว “ดอยมณฑา”
ดอยมณฑา กับเพื่อน 8 คน Date: 7-8 December 2019 หัวข้อที่รีวิว 1. ทำความรู้จัก “ดอยมณฑา” 2. การติดต่อ 3. ช่วงการเปิดให้ขึ้นดอย/สภาพอากาศ 4. การเตรียมชุด/อุปก
สมาชิกหมายเลข 4456547
ดอยมณฑา เลาะห้วย เข้าป่า แตะขอบฟ้าแม่สอด
“ตอนนี้ยังไม่เปิดครับ ฝนกำลังดี ชาวบ้านนำทางลูกหาบเขายังทำไร่ทำนาอยู่” นั่นคือคำตอบของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จังหวัดตาก บอกกับผมตอนโทรไปถามข้อมูลการท่องเที่ยวเดินป่าขึ้นดอยม
นายสองสามก้าว
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เดินป่า
เที่ยวไทย
จังหวัดตาก
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 220
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ดอยมณฑาหน้าฝน ดอยไม่ดังแต่มีดี
ดอยมณฑา(ดอยโล้น)อยู่ในเขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และเป็นพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช บริเวณบนยอดดอยเป็นลานโล่ง มองเห็นวิวภูเขาได้กว้างไกลแบบ 360 องศา และถ้าอากาศเป็นใจจะมีทะเลหมอกให้ชมอย่างงดงามไม่แพ้ที่อื่นเลย แต่กว่าจะถึงจุดนั้นเราต้องผ่านอะไรบ้างหรือครับ โปรดติดตามต่อได้เลยครับ
การเดินทางต้องไปเริ่มต้นที่บ้านปูแป้ ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างจากกรุงเทพประมาณ 480 กม. เพื่อไปพบคนนำทาง และลูกหาบ ที่ต้องติดต่อไว้ก่อน ขอบอกว่าพี่ๆน่ารัก ใจดีกันทุกคนเลยครับ
ช่วงนี้ถนนสายตาก-แม่สอด กำลังขยายถนน ขับรถระมัดระวังกันด้วยนะครับ
มาถึงแล้วถ้ามีเวลาแวะไหว้พระที่วัดเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ดีนะครับ
เจดีย์ทราย สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องกระเหรี่ยงสะกอ ก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามา
ที่วัดกำลังสร้างพระอุโบสถ ยังต้องการปัจจัยอีกมากนะครับ เดือน พ.ย. นี้จะมีกฐินล่องแพ ท่านใดสนใจติดต่อไปได้ที่ นายทองสุก ปูแป้ 082 882 3196
จากงานบุญ เรามากลับเข้าเรื่องกันต่อครับ แหะๆ ภาพบ้านของชาวบ้าน และห้องน้ำสุดท้ายที่เรามี ก่อนเราจะไปขึ้นเขาครับ
ต้องขึ้นรถอีแต๊กไปจุดเริ่มเดิน เป็นทางลูกรัง หัวสั่นด๊อกแด๊กผ่านบ้านเรือน ไร่นาชาวบ้าน และทางน้ำ ประมาณ 20 นาที
มีไม้ล้มขวางทาง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมืออาชีพแบบพี่ๆลูกหาบ
เริ่มเดินก็ต้องข้ามน้ำ และเดินไปตามคันนา นาข้าวกำลังเขียวชอุ่มเลยครับ
ผ่านไร่ข้าวโพด
ช่วงนี้หน้าฝน น้ำกำลังเยอะ แอบกระซิบว่า ไม่ต้องกลัวรองเท้าเปียกนะครับ เพราะเปียกแน่นอนครับ
ช่วงแรกๆนี้จะยังเป็นทางราบเสียส่วนใหญ่ เหมือนเป็นการวอร์มอัพร่างกาย
เดินข้ามลำธารไปๆมาๆ เดี๋ยวเปียกเดี๋ยวแห้ง เป็นระยะทางประมาณ 3.5 กม.
ถ้ามาหน้าฝน ไม่ต้องใส่รองเท้ากันน้ำหรอกครับ ใส่รองเท้าระบายน้ำดีกว่า
พี่ๆลูกหาบจะพักเติมพลังกันในจุดนี้ พวกเรานักท่องเที่ยวบางคนแม้จะยังไม่ทันเหนื่อย แต่ก็เติมพลังเถอะครับ เชื่อผม
หลังจากจุดพักเติมพลัง เราจะเดินขึ้นที่สูงขึ้น แต่ยังคงเป็นทางน้ำที่น้ำน้อย จนแห้งไปเลย
ช่วงนี้จะเริ่มเป็นป่ามากขึ้นแล้วนะครับ ต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย
รอยที่ต้นไม้เป็นรอยมีดนะครับ เป็นเครื่องหมายบอกทางว่าเรา(ยัง)ไม่หลง
เริ่มมีทางชันมากขึ้นๆ
เหล่าผู้พิชิตเนินที่ 1 ครับ ชัน 30-40 องศา
เนินที่ 2 ครับ ชันกว่าเนินที่ 1 นิดหน่อย ประมาณ 40-45 องศา ถ้าพิชิตได้มีรางวัลเป็นสัญญานโทรศัพท์ทุกเครือข่าย และวิวภูเขาสวยๆครับ สู้ๆ
วิวนี่คือรางวัลของผู้พิชิตเนินที่ 2 ครับ
เนินที่ 3 ชันประมาณ 60 องศา
เนินที่ 4 อยู่ตรงหน้าเราแล้วครับ เป็นจุดวัดใจนะครับ เพราะ ทางขึ้นชันมากและแคบมาก ทางขวามือเป็นเหวลึกเลยครับ
นั่งทำใจแปปครับ แหะๆ ป่าวหรอกครับ ชมวิวๆ
ผมขึ้นมาถึงครึ่งทางแล้วครับ ถึงตาพี่ๆบ้างแล้วละ
เนินที่ 4 นี่ถ้าให้เทียบก็คงคล้ายเนินมรณะ ของภูสอยดาวนะครับ เพราะทั้งร้อนทั้งชัน แต่ที่นี่ไม่มีขั้นบันไดให้และมีเหวอยู่ใกล้ๆตัวเท่านั้นเองครับ
Amazing Thailand .
เดินไปตามสันเขา ยาวๆครับ
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ้ง
ใกล้ถึงจุดตั้งแค้มป์แล้วครับ แค่หลังเขานู่นนนนนน
ไม่ได้ถ่ายเอียงนะครับ ทางเป็นแบบนี้จริงๆ
แค้มป์อยู่นั่นเอง ระยะทางเดินขึ้นดอยประมาณ 12.5 กม. 6-7 ชม.
วิวเมื่อมองจากแค้มป์ ฝนมามืดพอดี
แล้วเย็นนั้นก็มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อยครับ กลางคืนฝนไม่ตก ฟ้าค่อนข้างเปิด คิดว่าเช้าจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกนุ่มฟูกำลังดี
เช้านั้นหมอกมาเต็มครับ เต็มเกินไปจนมองวิวอะไรไม่เห็น
ความไม่มีอะไรแน่นอนนี่แหละครับ"ธรรมชาติ"
อุณหภูมิตอนเช้าประมาณ 21 องศา ลมค่อนข้างแรง
บนนั้นคือยอดสูงสุดของดอยมณฑานะครับ สูงประมาณ 1100 MSL ปกติจะใช้ชมพระอาทิตย์ตก
ณ เวลา 9.00 น. ก่อนบอกลาดอยมณฑา
เราเดินทางลงอีกทางหนึ่ง ซึ่งระยะทางจะสั้นกว่าทางขึ้น แต่ไม่ค่อยจะเห็นวิวอะไร จึงเป็นทางขึ้นของพี่ๆลูกหาบ
ชันมากครับทางลง ดินมีความชื้นและลื่นนะครับ แถมมีทากเล็กน้อยครับ
เมื่อลงมาเรื่อยๆก็เข้าใกล้ทางน้ำมากขึ้น ความชื้นสูงจะสังเกตเห็นได้จากมีมอสคลุมก้อนหิน และต้นไม้
ถ้ำเล็กๆเป็นจุดพัก
เดินอีกไม่นาน ข้ามลำธารไปมาอีกสักพักก็จะกลับมาเจอจุดที่เรานั่งพักทานอาหารกลางวันเมื่อวานแล้วครับ
หลังจากนั้นก็เดินกลับเส้นทางเดียวกับขามานะครับ คือเดินข้ามลำธาร และไร่นาของชาวบ้าน ระยะทางเดินลงดอยประมาณ 8 กม. 3-4 ชม เท่านั้นครับ
กลับมาขึ้นรถอีแต๊กกลับเข้าหมู่บ้าน
สรุป ดอยมณฑาแห่งนี้เป็นการเดินป่าในระดับปานกลาง ผู้ที่จะมาควรมีประสบการณ์การเดินป่าบ้างหรือร่างกายแข็งแรง ด้านบนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำ มีทากบ้างเล็กน้อย(ถุงกันทากไม่จำเป็นเลยครับ) ถ้าให้เปรียบเทียบ ผมขอเปรียบเทียบว่าเป็น โกรกอีดกผสมกับภูสอยดาว
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆผู้ร่วมทริปนี้ที่มอบมิตรภาพดีๆให้แก่กันครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดีครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น