[CR] ตามหาแสงสาดส่องพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ที่ถ้ำพระยานคร



ถ้ำพระยานคร
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ที่อยู่ในเทือกเขาในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ทางเข้าสู่ถ้ำนั้น ต้องขึ้นจากหน้าหาดแหลมศาลา แต่เนื่องจากหาดนี้เป็นชายหาดที่ไม่มีถนนเข้าถึง การจะมาหาดที่นี่จึงมาได้ 2วิธี คือ

1.เช่าเรือจากบ้านบางปู แล้วนั่งเรืออ้อมเขามาที่หน้าหาด โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15นาที ราคาไปกลับ 400บาทต่อลำ

2.เดินขึ้นเขาจากจุดที่ขายบัตรเข้าอุทยาน เดินข้ามเขาเทียนเป็นระยะทางประมาณ 530เมตร ไปยังหน้าหาด

แล้วจากชายหาดแหลมศาลา จะมีเส้นทางเดินขึ้นเขาประมาณ 450เมตรไปสู่ถ้ำพระยานคร

เราเคยเห็นภาพสวยๆจากอินเตอร์เน็ท ภาพพระที่นั่งเวลาที่มีแสงส่องลงมากระทบแล้วมันสวยมาก สวยเหมือนสวรรค์ (ไม่เคยเหมือนกันค่ะ เดาเอา)
ครั้งนี้มีโอกาสได้มา เลยตั้งความหวังไว้ว่า จะต้องได้เห็นภาพนั้นกับตาสักครั้ง ลองมาตามหาแสงนั้นไปพร้อมๆกันค่ะ



เราจองที่พักไว้ที่หาดสามร้อยยอด ขับรถมาอีกไม่ไกลสู่บ้านบางปู
ระหว่างที่ขับรถมองไปข้างทาง เห็นวิวภูเขาที่โดนแดดสีเขียวเข้ม ตัดกับพื้นดินสีส้ม ก้อนเมฆเป็นก้อนปุยๆ บนท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม มันสวยมากๆ ทำให้อดใจแวะจอดถ่ายรูปไม่ได้





มาถึงบ้านบางปู ก็บ่ายแก่ๆมากแล้ว ตอนนั้นเหนื่อยไม่กลัว กลัวอยู่สองอย่าง คือ กลัวฝนตก กับ กลัวเดินไปไม่ทันแสงส่องพลับพลา
น้ำกำลังลง เห็นนักท่องเที่ยวหลายคน เดินไปขึ้นเรือเพื่อไปหาดแหลมศาลา

ส่วนเราแวะกินข้าวที่ร้านแถวๆชายหาดซึ่งมีร้านอาหารอยู่หลายร้านเลย เติมพลังกันก่อน เพราะเราไม่ไปทางเรือ เราตั้งใจที่จะเดินข้ามเขาไปค่ะ





บริเวณที่ขายบัตรเข้าอุทยานค่ะ เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปเรือ ไปกลับ 400บาท เพราะเค้าเห็นว่าเย็นแล้ว กลัวว่าเราจะกลับมาไม่ทันค่ำ เราก็ยังยืนยันจะเดินข้ามเขาไปค่ะ ตอนนั้นคิดว่าน่าจะกลับมาทัน

ระหว่างคุยไปคุยมาจากฟ้าใสๆ กลับมีฝนตกลงมาหนักมาก ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ตกตอนที่เราออกเดินไปแล้ว รอฝนหยุดสัก 10นาที ก็ออกเดินทางกันค่ะ

(มีป้ายติดบอกว่า ถ้ำพระยานคร 2กิโลเมตร ใจก็แป้วอยู่เหมือนกัน เอาน่า! ตั้งใจมาเดินขึ้นเขา 2โลก็2โล สู้ๆ)




ทางเดินขึ้นเขาลูกแรกนี้ ไม่ยากมาก ทางอุทยานทำทางเดินไว้ให้อย่างดี และมีราวให้เกาะ เขาก็ยังไม่ชันมาก เราแวะถ่ายรูปและเดินดูวิวชิลๆ ไปได้ตลอดทาง




มองออกไปเห็นชายหาด ภูเขาและเกาะไกลๆ ฟ้าหลังฝนนั้นสวยจริงๆค่ะ ฟ้าใสมาก





ยิ่งเดินขึ้นไปสูงก็ยิ่งสวย มองลงมาเห็นเรือมารับคนอยู่ไกลๆ



เดินตามทางไปเรื่อยๆจนพ้นเหลี่ยมเขานี้ไป ก็จะเจอหาดแหลมศาลา พริบตาแรกที่เห็น เราเผลอร้อง โว้วววว ออกมาโดยไม่รู้ตัว

ภาพที่เห็นคือชายหาดที่มีหาดทรายสีขาว สะท้อนกับแสงอาทิตย์ มีต้นสนตลอดแนวชายหาด มันสวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ดูรูปดีกว่าค่ะ



เวลาส่วนใหญ่ จึงหมดไปกับการหยุดถ่ายรูป ไม่ใช่การเดินหรอกค่ะ คิดแต่ว่า สวยจัง ชิลดีจัง
โดยไม่ได้คิดไปถึงเขาช่วงที่ 2 ที่เป็นทางชันของจริง ที่รอเราอยู่ข้างหน้า



ลงจากเขาลูกแรกมาสู่ทางเดินเลียบชายหาดแหลมศาลา ที่เต็มไปด้วยต้นสนบรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ เดินตามป้ายตรงไปเรื่อยๆ
ชายหาดที่นี่ขาวสะอาดกว่าตรงหาดบ้านบางปูที่เป็นทางขึ้นมาก ไม่คิดเลยว่าแค่ข้ามเขามาลูกเดียวก็เจอกับหาดที่สวยมากขนาดนี้
คงเพราะเป็นเขตบ้านพักอุทธยาน ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี บ้านพักที่นี่จึงน่าพักมาก วิวทะเลก็สวย ยังคิดเลยว่า คราวหน้าจะหาโอกาสมาพักที่นี่บ้าง





เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ




ผู้หญิงใจสู้ 2 คน กล้อง 2ตัว และน้ำ 1ขวด สู่จุดเริ่มต้นเขาลูกที่2 สำหรับการเดินขึ้นเขาสู่ถ้ำพระยานคร คราวนี้ไม่ชิลแล้ว เขาช่วงแรกนั้นดูเด็กๆ ไปเลยเมื่อเจอเขาลูกนี้ เพราะทางชันมาก เหนื่อยก็พัก ไม่ไหวก็ลากกันไป โดยมีจุดหมายคือไปให้ทันดูแสงสาดพลับพลาให้ได้

ความเหนื่อยได้รอเราอยุ่ตรงหน้าแล้ว

มีป้ายบอกว่าให้ขึ้นไปอีก 430 เมตร สู่ถ้ำพระยานคร เวลาตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว สวนทางกับคนลงมาหลายคน และเราเป็นชุดสุดท้ายที่ขึ้นไป





ทางขึ้นอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่มีทางลง หรือทางราบเลย ทางเดินมีลักษณะเป็นก้อนหินที่ทำเป็นขั้นบันได สร้างขึ้นมาให้เดินได้สะดวกมากขึ้น แต่มันก็ยังเหนื่อยมากๆ เหนื่อยจนบอกไม่ถูก ถึงจะไม่มีแดดออก อากาศก็ไม่ร้อนเนื่องจากฝนเพิ่งจะตก แต่เวลาได้ออกแรงเยอะๆ แบบนี้ เหงื่อก็ไหลมาเป็นสายน้ำเลยค่ะ

ที่ฟิตร่างกายมาขึ้นเขานี่ เหมือนไม่ช่วยอะไรเลย แวะนั่งพักนานก็ไม่ได้ เพราะกลัวแสงหมดซะก่อน

ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปนั้น สวนกลับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 กลุ่มที่กำลังเดินลงมา ใจก็คิดว่า พวกเค้ารู้ได้ยังไงนะ ว่ามีที่สวยๆแบบนี้ซ่อนอยู่ในภูเขา ก็แอบปลื้มใจเล็กๆที่เค้าดั้นด้นขึ้นมาดู เหนื่อยมากขนาดนี้ ไม่พยายามจริง คงมาไม่ได้



จุดชมวิวถ้ำพระยานคร เป็นระเบียงที่ทำไว้ให้นักท่องเที่ยวพักเหนื่อย พร้อมดูวิวสวยๆของทะเลข้างล่าง เป็นจุดชมวิวเพียงจุดเดียวของที่นี่
มาถึงจุดนี้ได้คือใกล้จะถึงแล้วค่ะ อีกนิดเดียวเท่านั้น
แวะดมยาแพร๊บค่ะ ไม่ไหว จะเป็นลม หมดสภาพมากรูปนี้ เหมือนจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ T T



แล้วก็โดนเร่งให้ออกเดินต่อ โอยยยยยย



เพื่อนเดินออกนำไปไกล จนต้องตะโกนเรียกว่า ขอพักหน่อย!!!! ไม่ไหวแล้ว!!!! พักดมยาหน่อย!!!

เหนื่อยจริงๆ ตัวมีแต่เหงื่อ หน้าแดงแป๊ดดด



เข้าสู่โค้งสุดท้าย เห็นปากทางเข้าถ้ำแล้ว (ประมาณ 5นาทีจากจุดชมวิว) ก็ถึงยอดที่สูงสุดของเขา จากนั้นก็เป็นทางเดินลงค่ะ

เดินลงนี่มันดีกับขาจริงๆ ตอนนี้เหนื่อยจนอยากนั่งพักทิ้งตัวมากแต่ก็ต้องกัดฟันเดินต่อไป






แสงก็จวนเจียนจะหมดเต็มที เราเลยไม่ได้มีเวลาที่จะดูสภาพแวดล้อมของถ้ำเลย หินงอกหินย้อยสวยงามละลานตา ได้แต่ถ่ายรูปไว้ไกลๆ แล้วก็เดินเข้าไปสู่ไฮไลท์ของเราเดินทางครั้งนี้




และในที่สุด!!! ก็ถึงสักที

ถ้ำพระยานคร เป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี เป็นถ้ำขนาดใหญ่ เพดานถ้ำมีปล่องให้แสงสว่างส่องลงมา ตรงกลางถ้ำนั้นมี พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อปี 2433 โดยสร้างที่กรุงเทพ แล้วส่งมาประกอบที่นี่ ปัจจุบันมีการดูแลเป็นอย่างดี การสร้างพลับพลานั้นอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะจะให้แสงสว่างส่องลงมาจากโพรงถ้ำ แต่เมื่อฝนตกลงมาจะไม่ถูกพลับพลาโดยตรง

พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เมื่อมีแสงสาดส่องลงมากระทบนั้นสวยงามมาก ลำแสงยามเที่ยงลอดช่องเพดานสู่พระที่นั่งฯ
ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ 10.30-11.30 น. แล้วจากนั้นลำแสงจะเปลี่ยนมุมไปเรื่อยๆ และไม่ควรมาเกินบ่าย 2โมง เพราะลำแสงจะไม่ส่องลงมาในโพรงถ้ำ เป็นลำยาวๆ สวยๆแล้ว

ซึ่งเรามาไม่ทันแน่นอนค่ะ...






ภาพนี้จึงเป็นภาพในฝันของเรา ที่เราได้ทำการตกแต่งขึ้นมาเอง ภาพที่เราพยายามดั้นด้นมาเพื่อเก็บภาพกลับไปเป็นที่ระลึก แต่เสียดาย ตอนที่มาไม่ใช่เวลาที่แสงส่องลงมาได้สวยที่สุด เสียใจเหมือนกัน แต่ไม่เสียดายนะ ได้มาเห็นก็ดีใจแล้ว มโนเอาเองก็ได้ T T



อยู่ได้แค่ 10นาที ก็ต้องรีบออกมา เนื่องจากพอเย็นใกล้ค่ำแล้วมันจะมืดเร็วมาก ยิ่งอยู่ในถ้ำด้วยแล้ว ยิ่งมืดเข้าไปอีก

ขาลงเขานั้นสบายมาก ไม่เหนื่อย แค่ระวังข้อเท้าหน่อย เพราะก้อนหินไม่เรียบ เหยี่ยบพลาด อาจเท้าพลิกได้ค่ะ

ระหว่างเดินกลับออกมานั้น ก็เลยคุยกับเพื่อนว่า หมดแรงที่จะขึ้นเขากลับออกไปแล้ว นั่งเรือกลับกันเถอะ หมดแรงจริงๆ คนเรือมาส่งคนที่นี่พอดี เลยได้กลับออกไปด้วยในราคาเที่ยวเดียว คือ 200 บาท

ดังนั้นขากลับ เราจึงได้นั่งเรือออกมาค่ะ ทันแสงสุดท้ายลับเหลี่ยมเขาพอดี








ขับรถกลับสู่ที่พักที่หาดสามร้อยยอด มานั่งชิลๆอยู่ริมทะเล เป็นการพักผ่อนที่มันฟินมากจริงๆค่ะ
แล้วก็นั่งดูพระอาทิตย์ลับทิวเขาไปที่หาดนี้





ทริปเหนื่อยๆนี้ ยังไม่จบเพียงแค่นี้ วันต่อไปเราจะไปขึ้นเขาผาแดง จุดชมวิวที่สูงและเสียวและสวยมาก อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ค่ะ

ฝากติดตามเพจน้อยๆ เป็นเพจท่องเที่ยวแบบสนุกและสบายใจ ( ผจญภัยไปด้วยกัน )
https://www.facebook.com/sandysohappy
"แสนดีแฮปปี้ คนอ่านก็แฮปปี้"
ชื่อสินค้า:   ถ้ำพระยานคร หาดสามพระยา อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่