***
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแสดงความคิดเห็นและต้องการให้แบ่งปันข้อมูลความรู้กันได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย***
สืบเนื่องจากเมื่อหลายวันก่อนไปหาซื้อซิม my 3G by CAT มาให้พี่ใช้งาน เพราะเน็ตราคาถูกดี เลยไปสำนักงาน CAT ที่ใกล้ที่สุดก็ที่ ปณ.ราชดำเนิน (ชั้น 3) พอไปถึงเห็นป้ายแปะหน้าประตูว่าจะ
ปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป แอบอุทาน!! ออกมาเบาว่า "แล้วจะให้...ไปใช้บริการสาขาไหนเนี๊ย"
พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่สาขา เลยถามไปว่า "จะไปเปิดที่ใหม่หรอครับ?" คำตอบ "ป่าว..เค้าปิดไปเลย ให้พวกพี่ๆไปช่วยตามสาขาที่เหลืออยู่..."
สาขาที่เหลือ?? ปกติสาขามันมีน้อยอยู่แล้วไม่ใช่หรอว่ะ (สำหรับใน กทม.และปริมณฑล)
ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในหัวผมมากมาย จนกลับเอามาเอามาคิดต่อ คือ ทำไม CAT ถึงตามค่ายเอกชนไม่ทันนะทั้งในแง่การตลาดและการให้บริการ ซึ่ง CAT เองก็ทรัพยากรดีๆ (โครงค่ายอินเตอร์เน็ตและคลื่น 850) อยู่ในมือแท้ๆ ลงทุนไปตั้งมากมายด้วย ผมเลยอยากเสนออะไรสัก 2-3 ข้อ ตามประสาประชาชนคนธรรมจะพอคิดได้ ดังนี้
1. ทำไม CAT ไม่ตั้งศูนย์บริการผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทย (ซึ่งเป็นบริษัทในกำกับของรัฐเช่นกัน) ที่มีหลายร้อยสาขาทั่วประเทศ รวมถึงมีสาขา ปณ.ในห้างสรรพสินค้าด้วย ใช้เป็นช่องทางการให้บริการ การจัดจำหน่ายของ CAT ไปเลย เช่น ตั้งบูธเล็กๆ ในสาขา ปณ. เพื่อให้บริการ หรือ อบรม จนท.ปณ. สัก 1-2 คน ให้เป็นตัวแทนของ CAT ในการให้บริการทั้งหมดของ CAT อาทิ การขอติดตั้งอินเตอร์เน็ต/ จำหน่ายซิม my/ ชำระค่าบริการ เติมเงิน/ การขอใช้บริการย้ายค่าย เปลี่ยนระบบ /บริการหลังการขาย ฯลฯ ของ CAT และ my 3G ซึ่งมองว่าน่าจะทำได้ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อย หรือจริงแล้วทำไมได้ อันนี้ไม่แน่ใจ
2. เมื่อทำตามข้อแรกแล้ว ย่อมส่งผลดีต่อการตลาด ทั้งในแง่กระประชาสัมพันธ์ การกระจายสินค้าบริการ ไปยังหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อมีคนใช้บริการมาก ย่อมส่งผลต่อผลกำไรหรือผลประกอบการที่ดีขึ้น นอกเหนือจากการปล่อยให้เช่าแบบ MVNO รวมถึงการทำโปรโมชั่นพ่วงต่างๆ (มือถือ+เน็ตบ้าน+IPTV หรือ ดาวเทียม) ที่จะเป็นการส่งเสริมการตลาด ขยายฐานลูกค้าได้ไม่น้อยเลย
3. ประชาสัมพันธ์
กึ่งบังคับ ให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานหันมาใช้บริการ CAT แทน ทั้งอินเตอร์เน็ตระบบสาย ระบบดาวเทียม และเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ของรัฐก็ให้ใช้เครือข่าย my 3G (เบอร์ส่วนตัวจะใช้ค่ายไหนตามใจ) เพราะเท่าที่ได้ยินได้ฟังมาทราบว่าเบอร์ส่วนใหญ่ของรัฐจะมีบริษัทค่ายมือถือ สีเขียว และ/หรือ สีแดง เข้ามาเสนอให้เกือบทุกปีเป็นแบบให้เครื่อง+โปรโมชั่น แล้วมีสัญญาผูกขาด 1-2 ปี แล้วแต่จะตกลงกัน พอหมดสัญญาก็มาประมูลเช่ากันใหม่ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมไม่ให้ใช้บริการของ my 3G ไปเลย เป็นการสนับสนุนบริการภาครัฐด้วยกันเองด้วย
ที่พยายามบอกมานี้ คือ อยากให้หน่วยงานในกำกับของรัฐได้บูรณาการงานกันบ้าง คิดแบบหลักการบูรณาการร่วมกัน ใช้ทรัพยากรคน/สถานที่ร่วมกัน เชื่อมโยงระบบบางส่วนเข้ากัน ให้มีการใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด ลดภาระงบประมาณ บริหารเงินภาษีที่เราจ่ายๆ กันไปให้มันมีประโยชน์สูงสุด เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำแบบนั้นได้ มันย่อมส่งผลดีต่อหลายๆ ฝ่าย ทั้งภาครัฐเอง และประชาชนผู้รับบริการด้วย...
สมาชิกพันทิปท่านอื่น มีความเห็นอย่างไรกันบ้างในเรื่องนี้ ช่วยแชร์กันหน่อยครับ ^__^
***
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแสดงความคิดเห็นและต้องการให้แบ่งปันข้อมูลความรู้กันได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย***
ทำไม กสท. หรือ CAT หน่วยงานของรัฐ ถึงสู้เอกชนไม่ได้สักที....แล้วอนาคตจะไปทิศทางใด
สืบเนื่องจากเมื่อหลายวันก่อนไปหาซื้อซิม my 3G by CAT มาให้พี่ใช้งาน เพราะเน็ตราคาถูกดี เลยไปสำนักงาน CAT ที่ใกล้ที่สุดก็ที่ ปณ.ราชดำเนิน (ชั้น 3) พอไปถึงเห็นป้ายแปะหน้าประตูว่าจะ ปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป แอบอุทาน!! ออกมาเบาว่า "แล้วจะให้...ไปใช้บริการสาขาไหนเนี๊ย"
พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่สาขา เลยถามไปว่า "จะไปเปิดที่ใหม่หรอครับ?" คำตอบ "ป่าว..เค้าปิดไปเลย ให้พวกพี่ๆไปช่วยตามสาขาที่เหลืออยู่..."
สาขาที่เหลือ?? ปกติสาขามันมีน้อยอยู่แล้วไม่ใช่หรอว่ะ (สำหรับใน กทม.และปริมณฑล)
ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในหัวผมมากมาย จนกลับเอามาเอามาคิดต่อ คือ ทำไม CAT ถึงตามค่ายเอกชนไม่ทันนะทั้งในแง่การตลาดและการให้บริการ ซึ่ง CAT เองก็ทรัพยากรดีๆ (โครงค่ายอินเตอร์เน็ตและคลื่น 850) อยู่ในมือแท้ๆ ลงทุนไปตั้งมากมายด้วย ผมเลยอยากเสนออะไรสัก 2-3 ข้อ ตามประสาประชาชนคนธรรมจะพอคิดได้ ดังนี้
1. ทำไม CAT ไม่ตั้งศูนย์บริการผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทย (ซึ่งเป็นบริษัทในกำกับของรัฐเช่นกัน) ที่มีหลายร้อยสาขาทั่วประเทศ รวมถึงมีสาขา ปณ.ในห้างสรรพสินค้าด้วย ใช้เป็นช่องทางการให้บริการ การจัดจำหน่ายของ CAT ไปเลย เช่น ตั้งบูธเล็กๆ ในสาขา ปณ. เพื่อให้บริการ หรือ อบรม จนท.ปณ. สัก 1-2 คน ให้เป็นตัวแทนของ CAT ในการให้บริการทั้งหมดของ CAT อาทิ การขอติดตั้งอินเตอร์เน็ต/ จำหน่ายซิม my/ ชำระค่าบริการ เติมเงิน/ การขอใช้บริการย้ายค่าย เปลี่ยนระบบ /บริการหลังการขาย ฯลฯ ของ CAT และ my 3G ซึ่งมองว่าน่าจะทำได้ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อย หรือจริงแล้วทำไมได้ อันนี้ไม่แน่ใจ
2. เมื่อทำตามข้อแรกแล้ว ย่อมส่งผลดีต่อการตลาด ทั้งในแง่กระประชาสัมพันธ์ การกระจายสินค้าบริการ ไปยังหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อมีคนใช้บริการมาก ย่อมส่งผลต่อผลกำไรหรือผลประกอบการที่ดีขึ้น นอกเหนือจากการปล่อยให้เช่าแบบ MVNO รวมถึงการทำโปรโมชั่นพ่วงต่างๆ (มือถือ+เน็ตบ้าน+IPTV หรือ ดาวเทียม) ที่จะเป็นการส่งเสริมการตลาด ขยายฐานลูกค้าได้ไม่น้อยเลย
3. ประชาสัมพันธ์กึ่งบังคับ ให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานหันมาใช้บริการ CAT แทน ทั้งอินเตอร์เน็ตระบบสาย ระบบดาวเทียม และเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ของรัฐก็ให้ใช้เครือข่าย my 3G (เบอร์ส่วนตัวจะใช้ค่ายไหนตามใจ) เพราะเท่าที่ได้ยินได้ฟังมาทราบว่าเบอร์ส่วนใหญ่ของรัฐจะมีบริษัทค่ายมือถือ สีเขียว และ/หรือ สีแดง เข้ามาเสนอให้เกือบทุกปีเป็นแบบให้เครื่อง+โปรโมชั่น แล้วมีสัญญาผูกขาด 1-2 ปี แล้วแต่จะตกลงกัน พอหมดสัญญาก็มาประมูลเช่ากันใหม่ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมไม่ให้ใช้บริการของ my 3G ไปเลย เป็นการสนับสนุนบริการภาครัฐด้วยกันเองด้วย
ที่พยายามบอกมานี้ คือ อยากให้หน่วยงานในกำกับของรัฐได้บูรณาการงานกันบ้าง คิดแบบหลักการบูรณาการร่วมกัน ใช้ทรัพยากรคน/สถานที่ร่วมกัน เชื่อมโยงระบบบางส่วนเข้ากัน ให้มีการใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด ลดภาระงบประมาณ บริหารเงินภาษีที่เราจ่ายๆ กันไปให้มันมีประโยชน์สูงสุด เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำแบบนั้นได้ มันย่อมส่งผลดีต่อหลายๆ ฝ่าย ทั้งภาครัฐเอง และประชาชนผู้รับบริการด้วย...
สมาชิกพันทิปท่านอื่น มีความเห็นอย่างไรกันบ้างในเรื่องนี้ ช่วยแชร์กันหน่อยครับ ^__^
***กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแสดงความคิดเห็นและต้องการให้แบ่งปันข้อมูลความรู้กันได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย***