กระทู้นี้ไม่ได้ล่อเป้านะ แต่ผมเขียนตามความรู้สึก ถ้าไม่สบอารมณ์ใครก็ขออภัย
------------------------
ผมอายุหลักสามแล้วฟังเพลงมาตั้งแต่วัยรุ่น เรียกว่าเสพได้ทุกแนวจากทั่วโลกไม่ว่า ยูเค ยูเอส ยุโรป อเมริกาใต้ เอเซีย หลายหลายแนวตั้งแต่ เมทัล ร็อค แจ๊ส เทคโน โซล ฟังค์ บลูส์
ผมเคยมามอง ทำไมเพลงไทยไม่พัฒนา เหมือนเดิม ไม่ค่อยมีแนวแปลกๆ ถึงมีก็ยังอยู่ใต้ดิน คนฟังกลุ่มเล็กๆ
ตอนแรกจะโทษค่าย ก็ไม่ถูก เพราะเขาเป็นนักธุรกิจซะมากกว่า ผมเลยมามองที่คนฟัง และ เขียนเป็นข้อๆดังนี้
1.คนไทยมักฟังอะไรเดิมๆ
คนไทยมักจะฟังเพลงดังนี้
-เพลงป็อป ป็อปร็อค ที่มีท่อนฮุคติดหู ป้าง ลาบานูน ตอนนี้ ดนตรีต่างกับ ป้าง ลาบานูน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วยังไง
คำตอบคือเหมือนเดิม พี่เบิร์ดต่างกับพี่เบิร์ดอัลบัมเก่ายังไง ก็ยังเหมือนเดิม
-ชอบเพลงสามช่า ลูกทุ่ง ออกแนวรำวง หรือ ไม่ก็เพื่อชีวิต ถ้ามาดูเพลงของพุ่มพวง กับ เพลงของ หญิงลี แตกต่างกันตรงไหน ไม่แตกต่าง เหมือนเดิม
เพลงแนวอื่นเกิดยาก เมทัล หรือ อินดี้ร็อคแบบ เดอะ สโตรค คิงออฟลีออน อาละวาดไปทั่วโลก แต่เพลงแนวนี้กลับแจ้งเกิดในเมืองไทยยาก
-บอยแบนด์เกิร์ลกรุป ที่อื่นในโลกโดยเฉพาะยุโรปอเมริกา เขาเบือนหน้าหนีพวกเต้นๆ แต่ในเอเซีย โดยเฉพาะไทยก็ยังขายได้อยู่
2.ช้ากว่าชาวบ้านเขาสิบปี
เพลงไทยยุคปัจจุบันที่ฮิตๆหลายวง ได้อิทธิพลจากยุคเบเกอรี่รุ่งเรืองมากกว่า เราได้ยินซาวน์แบบ พี่บอย พรู
จากวงรุ่นใหม่ ซึ่งดนตรีต่างกับเบเกอรี่สิบกว่าปีก่อนมั้ย ตอบเลยว่าไม่ต่าง แต่อยู่ในกลุ่มที่มันเป็นเมนสตรีมขึ้นมา
3.ชอบเพลงติดหู ร้องได้
นักดนตรีกลางคืนไม่ค่อยได้แกะเพลงใหม่ๆหรอก หรือ เพลงแนวแปลก ไม่ดัง เพราะคนฟังร้องไม่ได้
ดังนั้นเราจึงได้ยินเพลง "ใจนักเลง" ในแทบทุกคืน
4.ไม่ค่อยเปิดใจฟังเพลงต่างประเทศ
ถ้าฟังเพลงต่างประเทศจะเห็นว่า แนวเพลงโครตหลากหลายเลย ไม่งั้น กลาสตันบิวรี่ หรือ โคชเชลล่า คงไม่มีคนรอคอยทุกปีหรอก
คนไทยต้องมีกระแสอะไรสักอย่างถึงไปฟังเพลงฝรั่งเป็นเพลงๆไป เช่น กระแสมหาหิงกับทูดอร์ ก็ไปฟัง What You Know เพลงเดียว
กระแส Im Your จากเดี่ยวอุดม ก็ไปฟังเพลงเดียว แต่คิดไปฟังเอง เหอะ ไม่ฟังหรอก
ถ้าฟังก็เพลงเก๊าเก่า เช่น Zombie หรือ When You Say Nothing At All เพลงพวกนี้ตั้งแต่ผมยังตัดหัวเกรียนเดินลานน้ำพุสยามอยู่เลยนะ
และ ยิ่งแนวแปลกๆจากต่างประเทศ คงไม่เปิดใจรับเลย
5.ไม่เปิดใจรับแนวเพลงแปลกๆ
เมทัล หนักไป ร็อค รุนแรงไป พังค์ ก็รุนแรง คำพวกนี้ผมได้ยินบ่อย
อินดี้ เซาท์เทิร์น-คันทรี่โฟล์ค นิวเวฟ ชูเกซ โล-ไฟ แมดเชสเตอร์ เพลงอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง (ฮิวโก้ร้องเพลงอะไรไม่รู้ แต่โลโซโอเค)
แจ๊ส บลูส์ โซล ร็อคแอนด์โรล โพรเกรสซีฟร็อค เพลงอะไรแก๊แก่
สรุป กลับไปฟังอะไรๆเหมือนเดิม
6.ค่ายเพลงเปิดอะไรก็ฟัง
ผมนึกถึงข่าวนึงก็อปมาจากเฟสบุ๊ค
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้5 ปีติดต่อกันแล้วที่ผู้ชนะการประกวด X Factor (คล้ายๆรายการประกวดร้องเพลงบ้านเราแหละ) จะออกซิงเกิ้ลใหม่ในช่วงคริสต์มาส และทำยอดขายมากเป็นอันดับ 1 , ขึ้นอันดับ 1 ใน UK ชาร์ต ใกล้เทศกาลคริสต์มาสทีไรบริษัทรับพนันก็ต่างพากันยกให้ซิงเกิ้ลของผู้ชนะจากจาก X Factor เป็นตัวเต็งที่จะคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตไปครอง
แต่ปี 2009 นี้ต่างออกไปเพราะ จอน และ เทรซี่ มอเตอร์ คู่สามีภรรยา คงจะเบื่อเต็มทนกับการที่วงการเพลงโดนครอบงำโดยสื่อ และไม่อยากจะเห็นเพลงจากค่าย X factor ขึ้นอันดับ 1 เหมือนทุกที ทั้งคู่ได้ปิ๊งไอเดียสุดแจ่ม โดยได้รณรงค์ผ่านทาง Facebook ให้ทุกคนช่วยกันซื้อ/โหลดเพลง Killing in The Name เพลงโคตรเก่าที่ออกมาตั้งแต่ปี 1992 (ปัจจุบันมีอายุปาเข้าไป 17 ปีแล้ว) ของวง Rage Against The Machine ให้ขึ้นชาร์ต อันดับ 1 ในช่วงคริสต์มาสแทน
ใช้เวลาไม่นานเพจเฟซบุ๊คที่ว่าก็มีแฟนเพจมากถึง 1.1 ล้านคน และเรื่องนี้ก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่ว สื่อต่างๆหันมาให้ความสนใจ ศิลปิน,คนดังอย่าง Sir Paul McCartney , Dave Grohl , Muse ต่างออกมาให้การสนับสนุนแคมเปญนี้ ทางวง Rage เองพอรู้ข่าว ก็เตรียมตัวอย่างด่วนเพื่อจะจัดการแสดงสดในรายการ The Breakfast Show (รายการข่าวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน UK ช่อง BBC 5 )
มีการออกมาให้สัมภาษณ์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางในเรื่องนี้ โดย
Joe McElderry ผู้ชนะจาก X Factor ที่มาพร้อมกับเพลง The Climb (Cover มาจาก Miley Cyrus) บอกว่า “พวกนั้นเอาจริงป่าวเนี่ย เพลงนั่นมันไม่เวิร์คเลยหวะ ผมไม่ชอบเลย มีคนสนุกกับเพลงแบบนี้ด้วยหรอ ลองนึกภาพตอนคุณยายนั่งฟังเพลงนี้ตอนกินมื้อเที่ยงดูซิ”
Simon Cowell (โปรดิวเซอร์รายการ X Factor ) ออกมาการันตีว่าผู้ชนะจะต้องเป็นซิงเกิ้ลจาก X Factor แน่นอน
หนังสือพิมพ์ The Guardian วันที่ 14 ธ.ค. 2009 ชี้ชัดว่า “Rage Against The Machine จะขึ้นอันดับ 1 ช่วงคริสต์มาสนะหรอ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นไปได้”
แฟนบอลที่ไม่เปิดเผยตัวคนหนึ่งให้ความเห็นว่า “Rage ได้อันดับ 1 ถึงมันจะเป็นไปได้ยากโคตรๆ แต่ก็ยังมีโอกาสมากกว่าที่ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกนะ” ประโยคนี้ฮาอะ จขกท แฟนผี
ทางฝั่งวง Rage ก็ออกมาให้สัญญาว่าจะบริจาครายได้ทั้งหมดจากเพลง Killing in The Name ให้แก่มูลนิธิเพื่อคนไร้บ้าน และสัญญาว่าจะจัดฟรีคอร์นเสิร์ต "A Victory Party" (ปาร์ตี้ฉลองชัยชนะ) ถ้าเพลงของพวกเขาได้อันดับ 1
วันที่ 20 ธ.ค. 2009 สรุปยอดขายซิงเกิ้ล
X Factor 450,838
Rage 502,672
และเพลง Killing In The Name ได้กลายเป็นซิงเกิ้ลที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในหนึ่งสัปดาห์ ในประวัติศาสตร์ UK
เห็นได้ว่าคนอังกฤษส่วนมาก ไม่ชอบการยัดเยียดของค่ายเพลง พวกฉันอยากให้เพลงที่เจ๋งขึ้นอันดับ1 เลยระดมดาวโหลดเพลงของ RATM
จนขึ้นอันดับ1ในปี2009ได้
แต่คนไทยล่ะ ยังติดอยู่ในกรอบ ทุกวันนี้มียูทูป ที่คุณเข้ามือถือปุ๊บ จะไปฟังเพลงอะไรก็ได้ เพลงจากที่ไหนในโลกก็ได้
แต่ก็ยังเข้าไปฟังเพลงจากค่ายยักษ์ใหญ่ในไทย2ค่ายเหมือนเดิม เขาเปิดเพลงอะไร ทำเพลงอะไรออกมา ก็ฟังเหมือนเดิม
ไม่มีแตกแถว ไม่มีขัดขืน ไม่ค่อยหาเพลงแนวใหม่ๆเปิดโลกทัศน์ตัวเอง ก็ตามนั้นแหละ
ผมจึงเลิกโทษค่ายแล้วทำไมถึงทำเพลงเดิมๆ เหมือนเดิม เพราะถ้าเขาขายไม่ได้ เขาคงไม่ทำออกมา
แต่เพราะขายได้ คนยังชอบฟัง จะเปลี่ยนแนวทำไมล่ะ ทดลองทำแนวแปลกๆออกมาก็เสี่ยงขาดทุนอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหมือนหนังอะ มีแต่ หนังตลก หนังผี หนังผีตลก หนังรักฟีลกู๊ด ทำไมไม่ทำหนังไซไฟ หนังสืบสวน อะไรบ้าง เพราะมันขายไม่ได้ หรืออาจจะขายได้ แต่ไม่กล้าลอง เลยไม่ลองทำ ยึดตามอะไรเดิมๆ ความสำเร็จเดิมๆดีกว่า เพราะคนไทยก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปหรอก
ทำไมคนไทยฟังเพลงแคบ
------------------------
ผมอายุหลักสามแล้วฟังเพลงมาตั้งแต่วัยรุ่น เรียกว่าเสพได้ทุกแนวจากทั่วโลกไม่ว่า ยูเค ยูเอส ยุโรป อเมริกาใต้ เอเซีย หลายหลายแนวตั้งแต่ เมทัล ร็อค แจ๊ส เทคโน โซล ฟังค์ บลูส์
ผมเคยมามอง ทำไมเพลงไทยไม่พัฒนา เหมือนเดิม ไม่ค่อยมีแนวแปลกๆ ถึงมีก็ยังอยู่ใต้ดิน คนฟังกลุ่มเล็กๆ
ตอนแรกจะโทษค่าย ก็ไม่ถูก เพราะเขาเป็นนักธุรกิจซะมากกว่า ผมเลยมามองที่คนฟัง และ เขียนเป็นข้อๆดังนี้
1.คนไทยมักฟังอะไรเดิมๆ
คนไทยมักจะฟังเพลงดังนี้
-เพลงป็อป ป็อปร็อค ที่มีท่อนฮุคติดหู ป้าง ลาบานูน ตอนนี้ ดนตรีต่างกับ ป้าง ลาบานูน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วยังไง
คำตอบคือเหมือนเดิม พี่เบิร์ดต่างกับพี่เบิร์ดอัลบัมเก่ายังไง ก็ยังเหมือนเดิม
-ชอบเพลงสามช่า ลูกทุ่ง ออกแนวรำวง หรือ ไม่ก็เพื่อชีวิต ถ้ามาดูเพลงของพุ่มพวง กับ เพลงของ หญิงลี แตกต่างกันตรงไหน ไม่แตกต่าง เหมือนเดิม
เพลงแนวอื่นเกิดยาก เมทัล หรือ อินดี้ร็อคแบบ เดอะ สโตรค คิงออฟลีออน อาละวาดไปทั่วโลก แต่เพลงแนวนี้กลับแจ้งเกิดในเมืองไทยยาก
-บอยแบนด์เกิร์ลกรุป ที่อื่นในโลกโดยเฉพาะยุโรปอเมริกา เขาเบือนหน้าหนีพวกเต้นๆ แต่ในเอเซีย โดยเฉพาะไทยก็ยังขายได้อยู่
2.ช้ากว่าชาวบ้านเขาสิบปี
เพลงไทยยุคปัจจุบันที่ฮิตๆหลายวง ได้อิทธิพลจากยุคเบเกอรี่รุ่งเรืองมากกว่า เราได้ยินซาวน์แบบ พี่บอย พรู
จากวงรุ่นใหม่ ซึ่งดนตรีต่างกับเบเกอรี่สิบกว่าปีก่อนมั้ย ตอบเลยว่าไม่ต่าง แต่อยู่ในกลุ่มที่มันเป็นเมนสตรีมขึ้นมา
3.ชอบเพลงติดหู ร้องได้
นักดนตรีกลางคืนไม่ค่อยได้แกะเพลงใหม่ๆหรอก หรือ เพลงแนวแปลก ไม่ดัง เพราะคนฟังร้องไม่ได้
ดังนั้นเราจึงได้ยินเพลง "ใจนักเลง" ในแทบทุกคืน
4.ไม่ค่อยเปิดใจฟังเพลงต่างประเทศ
ถ้าฟังเพลงต่างประเทศจะเห็นว่า แนวเพลงโครตหลากหลายเลย ไม่งั้น กลาสตันบิวรี่ หรือ โคชเชลล่า คงไม่มีคนรอคอยทุกปีหรอก
คนไทยต้องมีกระแสอะไรสักอย่างถึงไปฟังเพลงฝรั่งเป็นเพลงๆไป เช่น กระแสมหาหิงกับทูดอร์ ก็ไปฟัง What You Know เพลงเดียว
กระแส Im Your จากเดี่ยวอุดม ก็ไปฟังเพลงเดียว แต่คิดไปฟังเอง เหอะ ไม่ฟังหรอก
ถ้าฟังก็เพลงเก๊าเก่า เช่น Zombie หรือ When You Say Nothing At All เพลงพวกนี้ตั้งแต่ผมยังตัดหัวเกรียนเดินลานน้ำพุสยามอยู่เลยนะ
และ ยิ่งแนวแปลกๆจากต่างประเทศ คงไม่เปิดใจรับเลย
5.ไม่เปิดใจรับแนวเพลงแปลกๆ
เมทัล หนักไป ร็อค รุนแรงไป พังค์ ก็รุนแรง คำพวกนี้ผมได้ยินบ่อย
อินดี้ เซาท์เทิร์น-คันทรี่โฟล์ค นิวเวฟ ชูเกซ โล-ไฟ แมดเชสเตอร์ เพลงอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง (ฮิวโก้ร้องเพลงอะไรไม่รู้ แต่โลโซโอเค)
แจ๊ส บลูส์ โซล ร็อคแอนด์โรล โพรเกรสซีฟร็อค เพลงอะไรแก๊แก่
สรุป กลับไปฟังอะไรๆเหมือนเดิม
6.ค่ายเพลงเปิดอะไรก็ฟัง
ผมนึกถึงข่าวนึงก็อปมาจากเฟสบุ๊ค
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เห็นได้ว่าคนอังกฤษส่วนมาก ไม่ชอบการยัดเยียดของค่ายเพลง พวกฉันอยากให้เพลงที่เจ๋งขึ้นอันดับ1 เลยระดมดาวโหลดเพลงของ RATM
จนขึ้นอันดับ1ในปี2009ได้
แต่คนไทยล่ะ ยังติดอยู่ในกรอบ ทุกวันนี้มียูทูป ที่คุณเข้ามือถือปุ๊บ จะไปฟังเพลงอะไรก็ได้ เพลงจากที่ไหนในโลกก็ได้
แต่ก็ยังเข้าไปฟังเพลงจากค่ายยักษ์ใหญ่ในไทย2ค่ายเหมือนเดิม เขาเปิดเพลงอะไร ทำเพลงอะไรออกมา ก็ฟังเหมือนเดิม
ไม่มีแตกแถว ไม่มีขัดขืน ไม่ค่อยหาเพลงแนวใหม่ๆเปิดโลกทัศน์ตัวเอง ก็ตามนั้นแหละ
ผมจึงเลิกโทษค่ายแล้วทำไมถึงทำเพลงเดิมๆ เหมือนเดิม เพราะถ้าเขาขายไม่ได้ เขาคงไม่ทำออกมา
แต่เพราะขายได้ คนยังชอบฟัง จะเปลี่ยนแนวทำไมล่ะ ทดลองทำแนวแปลกๆออกมาก็เสี่ยงขาดทุนอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้