รู้สึกเหมือนคนนี้ยังไม่ใช่ รักแต่อึดอัด

สวัสดีคะพี่ๆชาวพันทิปทุกท่าน

ขอแทนตัวเองว่า เอ(เรา) และแฟนของเอ(ผู้ชาย)ว่า บี

เอกับบีคุยกันผ่านแชทFB ประมาณ6เดือน โดยไม่เคยเจอกันเลย เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และคณะเดียวกัน คุยครั้งแรกตอนนั้นเอเรียนภาษาอยู่ที่สิงคโปร์คะ คือบีแอดเฟซบุคเรามา เราก็รับ เพราะเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ และเรียนแบบเดียวกับเรา ก็คุยๆกัน ช่วงแรกๆทุกอย่างก็ดีไปหมดคะ แต่ว่าพอคุยกันได้ประมาณเดือนนึง บีตกลงทำงาน part-time ผ่านเน็ต (ที่ tag ต่อๆกันมา ความจริงเป็นงานยังไงกระทู้ใน pantip เคยออกมารีวิวและแฉกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)  ในนามของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่ง ทีนี้ไม่รู้ยังไง ก็คุยกันตามปกติเหมือนทุกๆครั้ง แต่บีดันมาถามว่า 'ครอบครัวเอ มีใครเป็นมะเร็งมั้ย' แล้วก็โฆษณาว่า ผลิตภัณฑ์อันนี้มันดีอย่างนู้นอย่างนี้ช่วยได้นะ คือแบบ..แกเรารู้จักกันแค่1เดือน แถมรู้จักกันผ่านเน็ต ทำแบบนี้มันใช่เหรอออ พอดีกับที่แม่ของเอเป็นพยาบาลคะ เลยตอบกลับบีว่า 'คุณแม่เป็นพยาบาลดูแลทุกคนในครอบครัวดีไม่ต้องเป็นห่วงทุกคนสุขภาพแข็งแรง' ตอนแรกก็คิดว่าจะจบแล้ว แต่ไม่คะ บีก็พิมพ์กลับมาว่า '55555งั้นเอางี้ ถ้าเอช่วยเราขายได้เราจะแบ่งให้10%นะ' เรานี่อึ้งเลยคะ แบบนี้ก็ได้เหรอออ โดยส่วนตัวเอก็ชอบนะคะคนทำมาหากิน ขยันหาลู่ทาง แต่แบบนี้มันไม่ใช่อ่าคะ เราก็ตอบได้แค่ อืมๆ5555 ในใจรู้ทั้งรู้ว่าคนนี้มาแปลกๆนะคะ แต่ก็ยังทนคุยต่อ เพราะอยู่ต่างประเทศแล้วเหงา การมีเพื่อนคุยด้วยทุกวันมันก็ดีค่ะ จนเอกลับไทยได้ไปเจอบีจริงๆครั้งแรก

เรานัดเจอกันที่มหาวิทยาลัยคะ ยอมรับว่าตอนนั้นคุยกับบีแค่คนเดียว เลยรู้สึกว่าชอบ ก็ยอมไปเจอแล้วก็ไปเที่ยวกันคะ ที่ที่เราเที่ยวกันไม่ใช่ห้าง แต่เป็นวัด เพราะวันนั้นตรงกับวันลอยกระทง ก็เก็บความทรงจำดีๆไว้คะ บีไม่ลุ่มล่ามหรือลวนลามเอเลย ส่วนค่าอาหารเราแบ่งกันจ่าย พูดจาสุภาพ ทำให้เอประทับใจอย่างมาก หลังจากกลับบ้านเราก็คุยกันต่อเรื่อยๆคะ



พอถึงช่วงปลายปี บีขอเราคบเป็นแฟน ยอมรับว่าตอนนั้นคิดหนัก เพราะยังติดใจเรื่องขายของที่บีเคยทำกับเอไว้ ปรึกษาเพื่อนหลายคนคะ แต่สุดท้ายก็ยอมคบ เพราะคิดว่าคนเราผิดพลาดกันได้ ก็ตอบตกลงไป แล้วเราก็เป็นกันค่ะ

หลังจากเป็นแฟน มีหลายเรื่องที่ดีและไม่ดีไปพร้อมๆกัน แต่พอมาคิดรวมๆแล้ว เออึดอัดค่ะ และคนรอบตัวเอ รวมถึงรอบตัวบี ทุกคนจะพุดเป็นเสียงเดียวว่าเอควรหาคนใหม่ คบกับบีไปได้ยังไง จะยกเป็นเรื่องๆนะคะ

1.เรื่องเวลา
เอเป็นสาวกิจกรรมคะ แต่ไม่ได้กิจกรรมตลอด กิจกรรมบ้างเรียนบ้างอยู่กับเพื่อนกับแฟนบ้าง แต่สำหรับบี บีบอกว่ามันไม่พอ เพราะเหมือนเราไม่ใส่ใจบี ทั้งๆที่ความจริงเราใส่ใจบีทุกรายละเอียด บีอยากไปไหนเอก็จะชวนไปเลย เห็นแฟนชอบอะไรก็จะแอบซื้อมาเซอร์ไพส์ตลอด บีจะงอนตลอดเวลาเออยู่กับเพื่อน ซึ่งเอก็อธิบายไปแล้วว่าเพื่อนบางคนรู้จักนานกว่าที่รู้จักบีด้วยซ้ำ บีบอกว่าบีเข้าใจตลอด แต่พอเวลาจริงๆบีก็จะงอนตลอดเช่นกัน

2.เรื่องการใช้จ่าย
เรื่องนี้แอบเป็นเรื่องสำคัญ คนรอบตัวเอบอกว่าให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ซะ เพราะบีเป็นคนที่ประหยัดมากกกกก ไม่รู้ว่าจะเรียกว่า ขี้งก ดีมั้ย คือบีเป็นคนที่กินเยอะมากกกก ยิ่งถ้าเป็นบุฟเฟ่ร์แบบไม่กำหนดเวลา บีจะกินจนกว่าพุงจะแตก คือคนอื่นกินอิ่มหมดแล้ว แต่บีจะกินจนอิ่มแล้วรอย่อยแล้วกินอีกนานหลายๆชั่วโมง บีชอบบอกว่าต้องเอาให้คุ้มค่า พอบีเป็นคนกินเยอะ(ถึงขั้นตะกละ) เวลาเราไปกินอะไรด้วยกัน บีจะไม่ค่อยสั่ง ให้เอเป็นคนสั่ง ด้วยความที่เอเป็นคนกินไม่เยอะ แค่กินพอให้หายอยากกิน บีก็จะกินต่อตลอด แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า บีจะไม่เคยเอ่ยปากว่าให้เราช่วยหารมั้ย บีจะนั่งเงียบทุกครั้งที่มีการเช็คบิล หรือเก็บเงิน ตอนแรกๆเอก็ไม่อะไรมาก เพราะเห็นว่าเป็นแฟนช่วยๆกันไป แต่พอนานๆเข้าเหมือนโดนเอาเปรียบ กลายเป็นว่าเอเลี้ยงบีเกือบตลอด แค่เรื่องเล็กๆน้อย ถ้าเกี่ยวกับเงิน บีจะเงียบชนิดที่ว่านึกว่าตายไปแล้ว พอลองถามเพื่อนของบี เพื่อนของบีเกือบทุกคนบอกว่าบีเป็นคนไม่ค่อยมีน้ำใจ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเงินๆทองๆ

3.ชอบโกหกแต่งเรื่อง
บีโกหกเอมาตั้งแต่ที่เริ่มคบกัน คือ เรื่องคุณพ่อของบีทำงานอะไร ตอนแรกบีบอกว่าคุณพ่อของบีเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลหนึ่ง พอคบไปได้สักพัก เรารู้สึกสงสัย เพราะว่าบีมีพิรุธหลายอย่าง เลยแอบสืบชื่อพ่อของบี ไปหาใน google ก็เจอว่าความจริงแล้ว พ่อของบีไม่ได้เป็นแพทย์ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พอเอรู้ก็เงียบๆไว้ก่อน และมีอีกหลายสถานการณ์ที่บีโกหก เช่น โกหกว่าเพื่อนคนนี้พูดอย่างงี้ ทั้งๆที่ความจริงบีใส่สีตีไข่ บีชอบพูดให้ตัวเองดูดีให้คนอื่นดูแย่ สักพักเอทนไม่ไหว เลยถามบีตรงๆ บีก็ดราม่าแล้วเล่าความจริงให้ฟัง วึ่งเอฟังแล้ว มันเหมือนนิยายน้ำเน่าที่แต่งเรื่องขึ้นมาแก้ให้ตัวเองดูดี เช่น เรื่องคุณพ่อ บีบอกว่า 'เค้าก็พึ่งมารู้ความจริงว่าพ่อไม่ได้เป็นแพทย์ ก็ช้ำใจนะที่อยู่กับพ่อมาตั้ง20ปี แต่พึ่งมารู้(ทำหน้าเศร้า)' เรารู้สึกเหมือนนางเฟคยังไงไม่รู้ ส่วนเรื่องเพื่อนนางก็แก้ตัวตามเนื้อเรื่องไป

4.เรื่องบุคลิก
เอไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่ด้วยที่เป็นเด็กกิจกรรม เลยค่อนข้างดูแลตัวเอง พอไปวัดไปวาได้ ทุกคนจะอึ้งตลอดเวลาเอพาบีไปไหนด้วย คือบี เป็นคนที่อ้วนมากกกกกก แถมตัวเล็กด้วย(สูงไม่ถึง170 เอสูง162) และผิวคล้ำ พีคสุดคืออนาคตรู้ได้เลยว่านี่มีเงินล้านอ่าคะ ทำให้บีดูหน้าแก่กว่าวัยมากกกก คนเห็นนึกว่าเป็นพ่อเอ เอบอกให้ดูแลตัวเองบ้าง ออกกำลังกาย ทาครีมบำรุงหน้าด้วย เสียเงินสักนิดเข้าร้านทำผม ทำผมให้มันดีๆหน่อย ไม่ใช่ปล่อยรุงรัง บีก็จะบอกว่า คร๊าบๆตลอด แต่ไม่เคยทำอย่างจริงจังสักครั้ง

5.คิดไม่รอบคอบ
ตอนที่เอตกลงคบกับบี บีก็เอาโทรศัพท์เอไปตั้งสถานะคบกันในเฟซบุค โดยใช้เฟซเอส่งคำร้องขอเป็นแฟนไปที่บี แล้วบีก็ใช้โทรศัพท์ตัวเองกดตกลง พอเอกลับบ้าน คุณแม่เอบอกว่า ไม่ชอบคนนี้รู้สึกไม่ถูกชะตาเลิกคบไปเถอะ(คือรูปโปรไฟล์ที่บีใช้ค่อนข้างดูไม่งามเท่าไหร่) เอก็ไม่ฟัง ปิดสถานะไม่ให้คุณแม่เห็น พอเวลาเพื่อนๆถามบีว่าคบกับเอได้ยังไง บีก็จะตอบว่าเอไปจีบบีก่อน ทั้งๆที่ความจริง บีเป็นฝ่ายชวนเอคุย และจีบเอก่อน

ก็ประมาณนี้คะ แต่ข้อดีของบีก็มีนะคะ
บีเป็นคนที่รองรับอารมณ์เอได้ตลอด คือเวลาเอหงุดหงิด โมโห เสียใจ บีก็จะคอยปลอบ ใจเย็น ไม่ดื่มเหล้าเบียร์ ไม่สูบบุหรี่ แถมเรื่องนอกใจไม่มีเลย บีรักเอมาก บีจะคอยบอกเอตลอด แต่บางครั้งบีรักมากเกินไป จนทำให้เออึดอัด บวกกับเรื่องนิสัยจุกจิกที่ผ่านมาทั้งหมด เอเคยพูดกับบีตรงๆ เคลียร์กันแบบจริงจังหลายรอบมาก แต่บีก็ปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ช่วงแรก พอผ่านไปก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก

บอกตรงๆว่าอึดอัดค่ะ เคยพูดทำนองบอกเลิกกับบี บีร้องไห้แทบจะกอดขาเลย บีเสียคุณแม่ไปตอนสมัยมัธยม บีเลยผูกติดกับเอมาก ใจนึงก็สงสาร ยังรักคะ แต่อีกใจก็อึดอัดที่เอต้องมาโกหกพ่อแม่ว่าไม่มีแฟน ไปเที่ยวกับเพื่อน ต้องแบ่งเวลาให้แฟน ไม่งั้นแฟนจะงอน เบื่อคะจริงๆ เคยคิดนะคะตอนอยู่คนเดียวชีวิตมันอาจจะเหงา แต่มันก็ฟรีกว่านี้ สบายกว่านี้มาก ทั้งกายทั้งใจ

ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ขออภัยที่ยาวเกินไปคืออยากพิมพ์ทีเดียวให้จบไปเลย ไม่อยากมาต่อเป็นคอมเม้นท์ๆไป
ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำ คอมเม้นท์ ไว้ณที่นี้ด้วยนะคะ
ร้องไห้

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เหมือนว่าไม่ได้รักแต่กำลังสงสารและพยายามจะทำให้คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกดี ไม่อยากให้เสียใจ อยากทำสิ่งดี ๆ ให้
ไม่ใช่ความรัก ลองพิจารณาดูให้ดีเพราะความรักอยู่ใกล้กับความเห็นแก่ตัว (รักตัวเอง) ความรักที่แท้จริงคือการเสียสละ การให้ รักคือการให้ สำคัญต้องไม่ด่วนได้ ไม่ด่วนตัดสินใจ หากลงเอยไปแล้ว จะมีแผลในใจยิ่งนานยิ่งเจ็บลึก
สังเกตอาการลองฟังเทปชุดนี้ดูนะคะเชื่อว่าจะทำให้เราเข้าใจความรักมากขึ้น

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่