ไฟไหม้สำเพ็ง !!!
ประกาศของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เรื่องงดจ่ายเงินสนับสนุนทีม ในดิวิชั่น 1 ทีมในดิวิชั่น 2 งวดสุดท้าย และ เงินสนับสนุนค่าเดินทาง ของเลก 2 แบบที่เห็นนี้
สำนวนโบราณ เขาเรียกว่า "ไฟไหม้สำเพ็ง" ล่ะครับ
คือ เถ้าแก่หมดตัว หรือ เจ๊งแน่ๆ
แต่ทำไงได้ ก็สมาคมฯ ไม่มีเงินติดตัวแล้ว
เงินทุกบาทที่หามาได้ในปีนี้ มีสปอนเซอร์ ผู้สนับ สนุน ทุกบาททุกสตางค์ แค่ใช้จ่ายดูแลทีมชาติทุกทีม ยังแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง
นายกฯสมยศ เปรยๆ กับทีมงาน ก่อนลงนามในประกาศงดจ่ายเงินสนับสนุนทีม และค่าเดินทาง ว่าใครจะด่าก็ด่า แต่ถ้าจะต้องให้สมาคมไปกู้เงินมาจ่ายเป็นเงินอุดหนุนให้ทีม ไม่ทำเด็ดขาด หนี้เก่ายังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย จะให้ไปก่อหนี้ใหม่ คนที่จะเข้ามาบริหารสมาคมชุดใหม่ ก็ด่าไล่หลังแน่ๆ
"สมาคมไม่มีเงิน มีแต่หนี้ แล้วจะไปอุดหนุนได้ยังไง
ถ้าสมาคมมีเงิน เท่าไรก็ให้ได้ นี่แค่จะหาเงินไปจ่ายภาษีที่ชุดเก่า ค้างสรรพากรไว้เกือบ 200 ล้าน ก็แทบอ้วกแล้ว"
ได้ฟังแล้วก็เห็นใจ จะให้เตี้ยไปอุ้มค่อม ก็ย่อมจะไปได้ไม่ถึงไหน แค่ยืดเวลาล้มละลาย สุดท้ายก็ตายทั้งคู่
เมื่อบิ๊กอ๊อด เลือกเดินแนวทางนี้ ยินดีให้เจ้าของทีมด่าว่าเบี้ยวข้อตกลงเมื่อตอนหาเสียง แต่ไม่เสี่ยงที่จะเอาสมาคมฯไปเป็นจำเลยคดีหนีภาษี ที่จะต้องถูกสรรพากรฟ้อง เพราะพี่ยี ที่รักและคิดถึงของแฟนบอลชาวไทย และทีมบริหารชุดเก่า ก่อหนี้ ค้างชำระภาษีไว้เกือบ 200 ล้านบาท
พลันที่ประกาศงดจ่ายเงินสนับสนุนทีมและค่าเดินทาง ออกมาสู่สายตาประชาชน ก็ "ไฟไหม้สำเพ็ง" ล่ะครับ
เจ้าของทีมน้อยใหญ่ ทั้งที่ควักกระเป๋าทำทีมเอง ทั้งที่ไปกู้หนี้ยืมสินมาทำทีม หวังว่าจะได้เงินจากสมาคมฯ ไปจ่ายหนี้คืนสิน ที่ก่อไว้ ด้วยใจรักฟุตบอล ทั้งรักจริงและรักเกือบจริง ก็ถึงกับตาเหลือก พวกที่รวยแต่เปลือก ก็เหลือกแทบถลน พวกที่รวยทั้งเปลือกและเนื้อใน ก็แค่ประหลับประเหลือก ไม่บาดเจ็บเท่าไรนัก
เสียงสวดชยันโตจากเจ้าของทีม โดยเฉพาะดิวิชั่น 2 ที่มีมากถึง 95 ทีม ก็ดังกระหึ่ม แต่ถ้าสมาคมจ่ายเงินอุดหนุนให้ 95 ทีม ก็อาจจะมีเสียงคำรามจากสรรพากร มาแทน
มีด่า ก็ มีชม หลังจากประกาศถูกส่งออกไปในโลก social network กระแสแฟนบอล พากันแห่ชื่นชม ตีกลับ สวนทางเจ้าของทีม แห่เชียร์ แห่ชม สนับ สนุนแนวทางของบิ๊กอ๊อด กันเจี๊ยวจ๊าว บางเสียงบางกระแสถึงกับฟันธงว่า ประกาศของบิ๊กอ๊อด ฉบับนี้ เป็น "เกมไล่กุ๊ย"
พูดง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นการส่งสัญญาณไปยังเจ้าของทีมที่คิดจะส่งทีมเข้าแข่งขัน เพื่อให้ตัวเองมีหน้ามีตาในสังคมกีฬา ในท้องถิ่น ในจังหวัด แล้วมารอขอเงินจากสมาคม ไปทำทีม หรือ รวมหัวรวมตัวมากดดันสมาคม ให้จ่ายเท่านั้นเท่านี้ เพื่อแลกคะแนนเลือกตั้งนายกสมาคม ให้หยุดคิดแบบเก่า หยุดทำแบบเก่า ได้แล้ว เพราะสมาคมชุดใหม่ จะไม่เดินแนวทางเก่าอีกต่อไป
ที่สำคัญ คือ ทุกทีมที่ส่งทีมเข้าแข่งขันใน ดิวิชั่น1 และดิวิชั่น 2 จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัทจำกัด มีวัตถุประสงค์ทำธุรกิจ ทุกทีม ทุกสโมสร จึงต้องมุ่งหารายได้ให้ตัวเอง อยู่รอดได้ ไม่ใช่มารอเงินอุดหนุนจากสมาคม เป็นหลัก นอกเหนือจากค่าสิทธิประโยชน์ที่บริษัทผู้จัดการแข่งขัน จะจ่ายให้ตามข้อตกลง ในวันที่สมัครเข้าแข่งขัน ส่วนที่สมา คมจะอุดหนุนให้พิเศษนั้น
"ถ้ามีก็จะให้ ถ้าไม่มีก็ยังไม่ให้"
มีความเป็นไปได้อย่างสูงยิ่งว่า ปีหน้า และปีถัดๆ ไป สโมสรในดิวิชั่น 2 จะล้มหายตายจากกันไปพอสม ควร คนที่คิดและวางแผนทำทีม หลอกนักกีฬามาเล่น แล้วรอเงินจากสมาคมมาจ่ายแทน แบบ สโมสรพัทยา อินเตอร์ ก็คงต้องพับแผน ล้มเลิกความคิดกันไป
ผลบวกจากยุทธการ "ไล่กุ๊ย" ครั้งนี้ ที่น่าสนใจ ก็คือ ทีมที่จะเดินหน้าต่อจากนี้ไป น่าจะเป็นทีมที่แข็งแรง และตั้งใจทำเป็นธุรกิจฟุตบอลอาชีพจริงๆ เกมฟุตบอลจะสนุกสนานมากขึ้น มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ผลลบหลังจาก "ไล่กุ๊ย" ครั้งนี้ ที่น่าติดตามต่อไปก็คือ หลายจังหวัด จะไม่มีเกมฟุตบอลให้ชม ให้เชียร์ เหมือนปีที่ผ่านๆ มา ถ้าหากว่าไม่มีคนใหม่มาทำทีมแทนคนเก่าที่เดินจากไป หรือ หันหลังให้กับสมาคมที่ตัดสินใจแบบนี้
การพัฒนาดาวรุ่ง ดาวโรจน์จากลีกภูมิภาค จะสะดุดหรือไม่ แฟนๆ ที่เคยมีทีมเชียร์ ถ้าปีหน้าจะไม่มีทีมให้เชียร์ จะหงุดหงิดกันแค่ไหน มีผลต่อกระแสความนิยมฟุตบอลไทย มากแค่ไหน ยังตอบไม่ได้
แต่เชื่อว่าก่อนจะมีประกาศงดจ่ายเงินสนับสนุนทีม ฉบับนี้ออกมา ผู้บริหารสมาคมน่าจะได้หยั่งเสียง ตรวจสอบกระแสกับเจ้าของทีม และแฟนบอลมาพอสมควรแล้ว จึงกล้าตัดสินใจเช่นนี้ และเชื่อว่าเจ้าของทีมส่วนใหญ่จะกัดฟัน กลืนเลือด สู้กันต่อไป ด้วยหัวใจที่รักฟุตบอลเป็นทุนเดิม เพียงแต่ต้องเหนื่อยมากขึ้นกับการหาเงิน หาผู้สนับสนุนมาช่วยทำทีมมากขึ้น
พวกที่จะหายไปก็น่าจะเป็นพวกที่รักฟุตบอลไม่จริง แต่ต้องการเข้ามาหาประโยชน์จากกระแสความนิยมฟุตบอล มากกว่า ซึ่งถ้าคนพวกนี้หายไปจริงๆ ก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย หรือเสียใจ แต่น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับฟุตบอลไทยในอนาคต ด้วยซ้ำไป
ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ให้กำลังใจทุกคนที่รักฟุตบอลจริง ทำเพื่อพัฒนาฟุตบอลไทย และ ขับไล่พวกที่เข้ามาฉกฉวยหาประโยชน์จากฟุตบอลไทย ด้วยเจตนาทุจริต ให้ออกไปเร็วๆ
ขอภาวนาให้ท่อน้ำเลี้ยงฟุตบอลไทย จากสมาคมฯ ได้เปิดได้ไหลกันอีกที ในเร็วๆ นี้ ด้วยเทอญ
เครดิตบทความจาก
http://www.1morenews.com/8240.html 
จริงไหมครับ ที่เขาว่าเป็นเกมไล่กุ๊ย ? สมาคมบอล งดจ่ายเงินสนับสนุนทีม ในดิวิชั่น 1 ทีมในดิวิชั่น 2
ประกาศของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เรื่องงดจ่ายเงินสนับสนุนทีม ในดิวิชั่น 1 ทีมในดิวิชั่น 2 งวดสุดท้าย และ เงินสนับสนุนค่าเดินทาง ของเลก 2 แบบที่เห็นนี้
สำนวนโบราณ เขาเรียกว่า "ไฟไหม้สำเพ็ง" ล่ะครับ
คือ เถ้าแก่หมดตัว หรือ เจ๊งแน่ๆ
แต่ทำไงได้ ก็สมาคมฯ ไม่มีเงินติดตัวแล้ว
เงินทุกบาทที่หามาได้ในปีนี้ มีสปอนเซอร์ ผู้สนับ สนุน ทุกบาททุกสตางค์ แค่ใช้จ่ายดูแลทีมชาติทุกทีม ยังแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง
นายกฯสมยศ เปรยๆ กับทีมงาน ก่อนลงนามในประกาศงดจ่ายเงินสนับสนุนทีม และค่าเดินทาง ว่าใครจะด่าก็ด่า แต่ถ้าจะต้องให้สมาคมไปกู้เงินมาจ่ายเป็นเงินอุดหนุนให้ทีม ไม่ทำเด็ดขาด หนี้เก่ายังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย จะให้ไปก่อหนี้ใหม่ คนที่จะเข้ามาบริหารสมาคมชุดใหม่ ก็ด่าไล่หลังแน่ๆ
"สมาคมไม่มีเงิน มีแต่หนี้ แล้วจะไปอุดหนุนได้ยังไง
ถ้าสมาคมมีเงิน เท่าไรก็ให้ได้ นี่แค่จะหาเงินไปจ่ายภาษีที่ชุดเก่า ค้างสรรพากรไว้เกือบ 200 ล้าน ก็แทบอ้วกแล้ว"
ได้ฟังแล้วก็เห็นใจ จะให้เตี้ยไปอุ้มค่อม ก็ย่อมจะไปได้ไม่ถึงไหน แค่ยืดเวลาล้มละลาย สุดท้ายก็ตายทั้งคู่
เมื่อบิ๊กอ๊อด เลือกเดินแนวทางนี้ ยินดีให้เจ้าของทีมด่าว่าเบี้ยวข้อตกลงเมื่อตอนหาเสียง แต่ไม่เสี่ยงที่จะเอาสมาคมฯไปเป็นจำเลยคดีหนีภาษี ที่จะต้องถูกสรรพากรฟ้อง เพราะพี่ยี ที่รักและคิดถึงของแฟนบอลชาวไทย และทีมบริหารชุดเก่า ก่อหนี้ ค้างชำระภาษีไว้เกือบ 200 ล้านบาท
พลันที่ประกาศงดจ่ายเงินสนับสนุนทีมและค่าเดินทาง ออกมาสู่สายตาประชาชน ก็ "ไฟไหม้สำเพ็ง" ล่ะครับ
เจ้าของทีมน้อยใหญ่ ทั้งที่ควักกระเป๋าทำทีมเอง ทั้งที่ไปกู้หนี้ยืมสินมาทำทีม หวังว่าจะได้เงินจากสมาคมฯ ไปจ่ายหนี้คืนสิน ที่ก่อไว้ ด้วยใจรักฟุตบอล ทั้งรักจริงและรักเกือบจริง ก็ถึงกับตาเหลือก พวกที่รวยแต่เปลือก ก็เหลือกแทบถลน พวกที่รวยทั้งเปลือกและเนื้อใน ก็แค่ประหลับประเหลือก ไม่บาดเจ็บเท่าไรนัก
เสียงสวดชยันโตจากเจ้าของทีม โดยเฉพาะดิวิชั่น 2 ที่มีมากถึง 95 ทีม ก็ดังกระหึ่ม แต่ถ้าสมาคมจ่ายเงินอุดหนุนให้ 95 ทีม ก็อาจจะมีเสียงคำรามจากสรรพากร มาแทน
มีด่า ก็ มีชม หลังจากประกาศถูกส่งออกไปในโลก social network กระแสแฟนบอล พากันแห่ชื่นชม ตีกลับ สวนทางเจ้าของทีม แห่เชียร์ แห่ชม สนับ สนุนแนวทางของบิ๊กอ๊อด กันเจี๊ยวจ๊าว บางเสียงบางกระแสถึงกับฟันธงว่า ประกาศของบิ๊กอ๊อด ฉบับนี้ เป็น "เกมไล่กุ๊ย"
พูดง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นการส่งสัญญาณไปยังเจ้าของทีมที่คิดจะส่งทีมเข้าแข่งขัน เพื่อให้ตัวเองมีหน้ามีตาในสังคมกีฬา ในท้องถิ่น ในจังหวัด แล้วมารอขอเงินจากสมาคม ไปทำทีม หรือ รวมหัวรวมตัวมากดดันสมาคม ให้จ่ายเท่านั้นเท่านี้ เพื่อแลกคะแนนเลือกตั้งนายกสมาคม ให้หยุดคิดแบบเก่า หยุดทำแบบเก่า ได้แล้ว เพราะสมาคมชุดใหม่ จะไม่เดินแนวทางเก่าอีกต่อไป
ที่สำคัญ คือ ทุกทีมที่ส่งทีมเข้าแข่งขันใน ดิวิชั่น1 และดิวิชั่น 2 จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัทจำกัด มีวัตถุประสงค์ทำธุรกิจ ทุกทีม ทุกสโมสร จึงต้องมุ่งหารายได้ให้ตัวเอง อยู่รอดได้ ไม่ใช่มารอเงินอุดหนุนจากสมาคม เป็นหลัก นอกเหนือจากค่าสิทธิประโยชน์ที่บริษัทผู้จัดการแข่งขัน จะจ่ายให้ตามข้อตกลง ในวันที่สมัครเข้าแข่งขัน ส่วนที่สมา คมจะอุดหนุนให้พิเศษนั้น
"ถ้ามีก็จะให้ ถ้าไม่มีก็ยังไม่ให้"
มีความเป็นไปได้อย่างสูงยิ่งว่า ปีหน้า และปีถัดๆ ไป สโมสรในดิวิชั่น 2 จะล้มหายตายจากกันไปพอสม ควร คนที่คิดและวางแผนทำทีม หลอกนักกีฬามาเล่น แล้วรอเงินจากสมาคมมาจ่ายแทน แบบ สโมสรพัทยา อินเตอร์ ก็คงต้องพับแผน ล้มเลิกความคิดกันไป
ผลบวกจากยุทธการ "ไล่กุ๊ย" ครั้งนี้ ที่น่าสนใจ ก็คือ ทีมที่จะเดินหน้าต่อจากนี้ไป น่าจะเป็นทีมที่แข็งแรง และตั้งใจทำเป็นธุรกิจฟุตบอลอาชีพจริงๆ เกมฟุตบอลจะสนุกสนานมากขึ้น มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ผลลบหลังจาก "ไล่กุ๊ย" ครั้งนี้ ที่น่าติดตามต่อไปก็คือ หลายจังหวัด จะไม่มีเกมฟุตบอลให้ชม ให้เชียร์ เหมือนปีที่ผ่านๆ มา ถ้าหากว่าไม่มีคนใหม่มาทำทีมแทนคนเก่าที่เดินจากไป หรือ หันหลังให้กับสมาคมที่ตัดสินใจแบบนี้
การพัฒนาดาวรุ่ง ดาวโรจน์จากลีกภูมิภาค จะสะดุดหรือไม่ แฟนๆ ที่เคยมีทีมเชียร์ ถ้าปีหน้าจะไม่มีทีมให้เชียร์ จะหงุดหงิดกันแค่ไหน มีผลต่อกระแสความนิยมฟุตบอลไทย มากแค่ไหน ยังตอบไม่ได้
แต่เชื่อว่าก่อนจะมีประกาศงดจ่ายเงินสนับสนุนทีม ฉบับนี้ออกมา ผู้บริหารสมาคมน่าจะได้หยั่งเสียง ตรวจสอบกระแสกับเจ้าของทีม และแฟนบอลมาพอสมควรแล้ว จึงกล้าตัดสินใจเช่นนี้ และเชื่อว่าเจ้าของทีมส่วนใหญ่จะกัดฟัน กลืนเลือด สู้กันต่อไป ด้วยหัวใจที่รักฟุตบอลเป็นทุนเดิม เพียงแต่ต้องเหนื่อยมากขึ้นกับการหาเงิน หาผู้สนับสนุนมาช่วยทำทีมมากขึ้น
พวกที่จะหายไปก็น่าจะเป็นพวกที่รักฟุตบอลไม่จริง แต่ต้องการเข้ามาหาประโยชน์จากกระแสความนิยมฟุตบอล มากกว่า ซึ่งถ้าคนพวกนี้หายไปจริงๆ ก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย หรือเสียใจ แต่น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับฟุตบอลไทยในอนาคต ด้วยซ้ำไป
ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ให้กำลังใจทุกคนที่รักฟุตบอลจริง ทำเพื่อพัฒนาฟุตบอลไทย และ ขับไล่พวกที่เข้ามาฉกฉวยหาประโยชน์จากฟุตบอลไทย ด้วยเจตนาทุจริต ให้ออกไปเร็วๆ
ขอภาวนาให้ท่อน้ำเลี้ยงฟุตบอลไทย จากสมาคมฯ ได้เปิดได้ไหลกันอีกที ในเร็วๆ นี้ ด้วยเทอญ
เครดิตบทความจาก http://www.1morenews.com/8240.html