ไปดูมาแล้ว...
ปลุกตำนานแม่มดแบลร์ เน้นตุ้งแช่แม้ว่าดูไร้รสนิยม "Blair Witch : ตำนานผีดุ" (ให้ 7/10)

*****ไม่สปอยล์*****

เคยได้ยินตำนาน 'แม่มดแบลร์' ไหม? หากย้อนกลับไปในปี 1999 ตำนานแม่มดแบลร์เคยสร้างประสบการณ์หลอนสั่นประสาทมาแล้วให้กับคนทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่อง 'The Blair Witch Project' ที่ผู้กำกับเขาได้สร้างเรื่องสร้างราวหลอกคนดูว่าเรื่องราวทั้งหมดมันคือเรื่องจริง หนังที่ได้ดูก็มาจากฟุตเทจที่มีคนถ่ายไว้จริง แต่สุดท้ายก็มาเฉลยว่าทั้งหมดมันก็แค่การหลอกลวง ทำให้เรื่องราวของแม่มดแบลร์กลายมาเป็นตำนานจริงด้วยการสร้างวิธีการเล่าเรื่องแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร
.
“ตำนานแม่มดแบลร์” แห่งป่าแบล็กฮิลล์ในเมืองเบอร์สกิตวิลล์ รัฐแมรี่แลนด์ ที่เล่าต่อกันมานั้น เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของแม่มดลึกลับ ที่มักล่อลวงมนุษย์ที่เป็นเหยื่อที่หลงเข้ามาในป่าแห่งนี้เพื่อฆ่าเอาเลือดสด ๆ มาประกอบพิธีกรรมชวนขนหัวลุก โดยที่ผ่านมาได้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งออกไปล่าท้าผีในป่าแห่งนี้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับออกมา และเมื่อน้องชายของหนึ่งในนักศึกษากลุ่มนี้ได้ดูคลิปวิดีโอลึกลับผ่าน Youtube เขาก็ได้เห็นเงาผู้หญิงคล้ายพี่สาวอยู่ในคลิป เขาจึงเธอยังไม่ตายและตัดสินใจชวนเพื่อนบุกเข้าป่าอีกครั้งเพื่อตามหาพี่สาว และแล้วเรื่องราวสยองขวัญทั้งหมดก็ได้เริ่มขึ้น
.
ความสยองครั้งใหม่ของ 'Blair Witch : ตำนานผีดุ' นั้นมันเป็นหนังคนละม้วนกับแบลร์วิชภาคเก่าโดยสิ้นเชิง ในภาคเก่านั้นมันอาจจะดูน่าเบื่อไม่มีอะไรจริงๆ แต่มันดูลึกลับและน่าค้นหาชวนให้เราสงสัยตลอดเวลาว่ามันเกิดอะไรขึ้น? แต่ในภาคนี้ทุกอย่างมันโจ่งครึ้ม ผีออกมาให้เห็นตัวเป็นๆ ไร้ความลึกลับใดๆ ทั้งสิ้น และจุดที่สำคัญมากที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงบทบาทของความลึกลับน่ากลัวของแม่มดแบลร์ให้กลายเป็นผีตุ้งแช่ธรรมดาที่เจอได้ตามหนังผีทั่วไปซึ่งมันทำให้หนังขาดเสน่ห์ที่ภาคเก่าเคยมี
.
ถ้ามองในแง่หนังแฟนตาซีผีตุ้งแช่ก็คิดว่าทำออกมาได้ดีด้วยเทคนิคการถ่ายภาพโดยใช้กล้องแฮนด์เฮลทำให้ภาพที่ออกมานั้นจะเห็นได้เฉพาะเพียงข้างหน้าบวกกับบรรยากาศของป่าที่มันมืดและมีแสงไฟจากไฟฉายเท่านั้นทำให้ชวนลุ้นว่า แล้วไกลออกไปมันจะมีอะไรไหม? แล้วข้างซ้ายข้างขวาหละ จะมีอะไรโผล่มาไหม? จุดพีคสุดคือช่วงซีนท้ายๆ ที่สามารถบิ้วอารมณ์ความกลัวได้ถึงขีดสุด ลุ้นเกร็งจนถึงขั้นต้องจิกเบาะ กำพระแน่นมาก
.
แต่ในความน่ากลัวมันก็แฝงไปด้วยความน่ารำคาญ เพราะในช่วงแรกเหมือนผู้กำกับต้องการบิ้วอารมณ์คนดูโดยการกระหน่ำใส่ฉากตุ้งแช่มามากมายทั้งการตัดภาพของกล้องที่มักจะมีเสียงดังเกิดขึ้นทุกครั้ง การตะโกนของกลุ่มนักศึกษา หรือแม้กระทั่งการที่กลุ่มนักศึกษาชอบเข้ามาข้างหลังเงียบๆ แล้วค่อยมาส่งเสียงดังๆ ตอนประชิดตัว ทุกอย่างล้วนดูแล้วน่ารำคาญทั้งสิ้น มันทำให้คนดูตกใจกับเสียงที่ดังก็จริงแต่มันไม่ได้มีความกลัวเกิดขึ้นมาเลย อีกทั้งการบิ้วอารมณ์ด้วยพฤติกรรมที่โง่เง่าของตัวละครอย่างออกไปในป่าคนเดียวมันออกจะดูเฉยมากสำหรับการทำหนังในยุคปัจจุบัน
.
ความเป็นสารคดีที่เคยมีในภาคแรกมันก็หายไปอย่างสิ้นเชิงด้วยกลายเป็นหนังผีทั่วไปที่แค่มีลูกเล่นจากการใช้กล้องถ่ายแล้วภาพสั่นไปสั่นมาเท่านั้น ทำให้ช่วงแรกของหนังที่เป็นการสัมภาษณ์กลุ่มเพื่อนมันดูเฟคและปลอมมาก และความปลอมก็จะมีมาเรื่อยๆ เกือบตลอดทั้งเรื่อง ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องก็คงต้องยกให้ช่วงซีนสุดท้ายจริงๆ
.
สำหรับแฟนหนังสยองขวัญคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาด แต่ถ้าคุณเป็นแฟนแม่มดแบลร์มาตั้งแต่ภาคแรกแล้วละก็ การมาดูภาคนี้ก็ควรจะเตรียมใจมานิดนึง เพราะมันไม่เหมือนภาคแรกอย่างแน่นอน 'Blair Witch : ตำนานผีดุ' วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

https://www.facebook.com/Universalreviews/posts/1771166433168236:0