เสียงเพรียก แห่งชีวิต...
Love the life you live, live the life you Love
สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตพูดถึงกีฬาสักหน่อย พอดีได้ติดตามการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก เกมส์ ที่นครริโอ เดจาเนโร ที่พึ่งจบไปสดๆร้อน ๆ ในฐานะคนพิการเหมือนกัน รู้สึกดีใจ และภูมิใจ แม้ไม่ใช่นักกีฬาร่วมทีม แต่ก็ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง...

เขาเหล่านั้นได้แสดงความสามารถ และความมุ่งมานะ จนได้เป็นตัวแทนของประเทศไปร่วมแข่งขัน และประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งสามารถคว้าเหรียญมาได้ถึง 18 เหรียญ คือเหรียญทอง 6 เหรียญ เหรียญเงิน 6 เหรียญและเหรียญทองแดงอีก 6 เหรียญ เป็นตัวเลขที่สวยอยู่นะครับ...(HA-HA)
[/img]

สุดยอด สุดยอด และก็สุดยอดครับ...
เหมือน ณ เวลานี้ ผู้เขียนขอเอ่ยถึงเพื่อนคนหนึ่ง ที่มีความบกพร่องในชีวิตและโชคชะตา ไม่ต่างอะไรกับตัวผู้เขียน เขามีความฝันเพียงเพื่อปากกับท้อง ของตัวเองและคนรอบข้าง เวลานี้ฝันของเขาได้กลายเป็นจริง เขาเป็นตัวแทนนักกีฬายิงธนูทีมชาติไทยไปร่วมมหกรรมกีฬา พาราลิมปิก เกมส์ ที่นครริโอ เดจาเนโร

“การร้องขอ ไม่เคยทำให้ใครถึงจุดหมาย มีแต่ความมุ่งมานะและความอดทน ที่จะนำพาตัวเองไปถึงฝั่งฝัน...” หาญฤชัย เนตศิริ เคยบอกไว้เมื่อตอนที่ได้คุยกันตามประสาเพื่อนนะครับ เขาเคยพูดกับผู้เขียนว่า เขาเคยคิดทำร้ายตัวเองนะ ถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย แต่พอได้ยินเสียงลูกร้อง ก็ทำไม่ลง เลยต้องเปลี่ยนความคิด คิดว่าทำอย่างไรจะผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ และสิ่งที่เขายึดมั่นในการดำเนินชีวิตคือการมีศรัทธาในตัวเอง เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างจะเชื่อมั่นในความสามรถของตัวเอง และเชื่อในความคิดอันโง่เขลาของตัวเอง ซึ่งผมก็เชื่อในความคิดเขานะ เพราะถ้าคนเราไม่เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเองก่อน แล้วใครที่ไหนจะมาเชื่อเรา
แล้วสุดท้ายก็เดินออกจากวังวนนั้นมาได้ ต่อสู้ อดทนและมุ่งมานะอยู่หลายปี กว่าจะถึงจุดนี้ จุดที่เขาทำให้ คนแบบพวกผมอีกหลายคนเริ่มหันมาศรัทธาในตัวเองแล้ว ลองทำในสิ่งที่อยากทำ
“จุดหมายอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปถึง แต่ไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะเริ่มต้น”
....หาญฤชัย เนตสิริ ได้กล่าวไว้ปิดท้าย
.................................................................................................................................................................................................
ตัวผู้เขียนเอง หลังจากที่ได้ติดตามข่าวการแข่งขัน พาราลิมปิก เกมส์ ก็นึกอยากจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับคนพิการ ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นคนพิการคนหนึ่ง ซึ่งตัวผู้เขียนเองเชื่อเหลือเกินว่า คนทุกคนนั่นมีความสามารถ ซึ่งอาจจะถนัดและมีความสามารถแตกต่างกันไป ตามสภาพแต่ละบุคคล แล้ววันนี้ คนพิการก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าความสามารถก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบุคคลทั่วไป เพียงแต่คนพิการอย่างพวกเรานั่น ขาดพื้นที่ในการแสดงออก ขาดพื้นที่ในการเข้าถึง บางพื้นที่ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง นั่นแหละคือความจริง
เพราะความสงสารไม่เคยยั่งยืน เท่ากับการให้โอกาส สิ่งนี้แหละ คือสิ่งที่ต้องการในฐานะคนหนึ่งคนในสังคมเดียวกัน...
การออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ยังหวาดหวั่น แต่ชีวิตก็เหมือนกีฬา ที่มีการแข่งขัน ถ้าพูดถึงเรื่องการแข่งขัน ผู้เขียนเองเชื่อเหลือเกินว่าทุกสัมมาอาชีพมีการแข่งขัน
ตัวผู้เขียนเอง วัยหนึ่ง เวลาหนึ่ง ก็เคยรู้สึกไม่อยากคิดอะไรและไม่อยากทำอะไร อยากจะอยู่นิ่งๆเหมือนดักแด้ใบตอง (HA-HA)
ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทำชีวิตเหมือนควันไฟ ควันที่เกิดจากกองฟืน ฟืนสุมไฟจนเกิดเป็นควัน ควันที่เกิดมาเพื่อรอการดับสลาย ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรเลย ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้น..แล้วอยู่ๆดักแด้ก็นึกอยากจะบิน...
...ชีวิตบนความพร่อง ไม่ง่ายที่ก้าวเดิน แต่ใจยังอยากเห็นพรุ่งนี้อยู่ ถ้าไม่ก้าว ก็ไม่เดินสักที เลยต้องเก็บกระเป๋าก้าวลงบันได ออกเดินทางไปในที่ๆไม่เคยไป

บางคน แข่งขันเพื่อปากและท้อง ท้องที่มันร้อง ร้องเหมือนมันไม่เคยอิ่ม ความหิวมันน่ากลัว น่ากลัวกว่ามัจจุราชในหลุมศพ
บ้างแข่งขันเพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ บรรดาศักดิ์เพียงเพื่อให้คนอื่นแหงนคอมอง
มองอะไร? (ปากถาม)
มองที่บ่าเขาสิวะ (ใจตอบ)
เองว่าบ่าสองข้างของเขา เคยแบกกระสอบปุ๋ย กระสอบข้าวไหม? (ปากถาม)
ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้าเคยเห็นเขากินข้าวเหนียวส้มตำปลาย่าง ตรงปากซอยวันก่อน (HA-HA) (ใจตอบ)

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนชื่นชมจากใจแด่ เหล่านักกีฬาพาราลิมปิกที่ใช้ความอดทนหลายเวลา หลายวัน หลายเดือนหรืออาจจะหลายขวบปี กว่าที่เขาเหล่านั้นจะเข้มแข็งมากพอที่จะมายืนตรงจุดนี้ได้...
...สดุดีในความมุ่งมานะ

อย่างที่เคยบอกกล่าวไปแล้วว่า ความบกพร่องของชีวิตไม่ใช่ปัญหาในการใช้ชีวิตหรือการร่วมกิจกรรมอื่นๆ แต่ปัญหาคือโอกาสการเข้าถึง นั้นคือตัวปัญหาที่แท้จริง...
ดังตัวอย่างจากพวกเขาเหล่านี้ แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า ความสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคนพิการ หรือคนทั่วไป เพียงแค่มีพื้นที่และโอกาส....
ชีวิตจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญที่เกิดมาแล้ว ได้ตอบแทนอะไรให้ชีวิตบ้าง วันหนึ่ง เวลาหนึ่ง คงได้โอบกอดความสำเสร็จของตัวเองบ้าง แม้จะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยในสายตาคนอื่น
ระหว่างทางก็มีความสำคัญของระหว่างทาง จุดหมายก็มีความสำคัญของจุดหมาย 2 อย่างนี้ ผู้เดินเท่านั้น ที่จะรู้คำตอบ...
สู้ต่อไป ประเทศไทยจะโอบกอบเธอ...บทความนี้ขอมอบแด่ นักกีฬาพาราลิมปิกทุกท่าน..


ดั่งบทเพลงหนึ่งของ บ๊อบ มาร์เล่ย์ ได้ร้องเอาไว้....
Love the life you live, live the life you Love
รักชีวิตแบบที่คุณใช้ ใช้ชีวิตแบบที่คุณรัก
...ขอบคุณทุกท่านในเรื่องราวที่เขียนนี้
สดุดีในหัวใจที่เกินร้อย แด่..นักกีฬาพาราลิมปิกทุกท่าน
Love the life you live, live the life you Love
สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตพูดถึงกีฬาสักหน่อย พอดีได้ติดตามการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก เกมส์ ที่นครริโอ เดจาเนโร ที่พึ่งจบไปสดๆร้อน ๆ ในฐานะคนพิการเหมือนกัน รู้สึกดีใจ และภูมิใจ แม้ไม่ใช่นักกีฬาร่วมทีม แต่ก็ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง...
เขาเหล่านั้นได้แสดงความสามารถ และความมุ่งมานะ จนได้เป็นตัวแทนของประเทศไปร่วมแข่งขัน และประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งสามารถคว้าเหรียญมาได้ถึง 18 เหรียญ คือเหรียญทอง 6 เหรียญ เหรียญเงิน 6 เหรียญและเหรียญทองแดงอีก 6 เหรียญ เป็นตัวเลขที่สวยอยู่นะครับ...(HA-HA)
[/img]
สุดยอด สุดยอด และก็สุดยอดครับ...
เหมือน ณ เวลานี้ ผู้เขียนขอเอ่ยถึงเพื่อนคนหนึ่ง ที่มีความบกพร่องในชีวิตและโชคชะตา ไม่ต่างอะไรกับตัวผู้เขียน เขามีความฝันเพียงเพื่อปากกับท้อง ของตัวเองและคนรอบข้าง เวลานี้ฝันของเขาได้กลายเป็นจริง เขาเป็นตัวแทนนักกีฬายิงธนูทีมชาติไทยไปร่วมมหกรรมกีฬา พาราลิมปิก เกมส์ ที่นครริโอ เดจาเนโร
“การร้องขอ ไม่เคยทำให้ใครถึงจุดหมาย มีแต่ความมุ่งมานะและความอดทน ที่จะนำพาตัวเองไปถึงฝั่งฝัน...” หาญฤชัย เนตศิริ เคยบอกไว้เมื่อตอนที่ได้คุยกันตามประสาเพื่อนนะครับ เขาเคยพูดกับผู้เขียนว่า เขาเคยคิดทำร้ายตัวเองนะ ถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย แต่พอได้ยินเสียงลูกร้อง ก็ทำไม่ลง เลยต้องเปลี่ยนความคิด คิดว่าทำอย่างไรจะผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ และสิ่งที่เขายึดมั่นในการดำเนินชีวิตคือการมีศรัทธาในตัวเอง เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างจะเชื่อมั่นในความสามรถของตัวเอง และเชื่อในความคิดอันโง่เขลาของตัวเอง ซึ่งผมก็เชื่อในความคิดเขานะ เพราะถ้าคนเราไม่เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเองก่อน แล้วใครที่ไหนจะมาเชื่อเรา
แล้วสุดท้ายก็เดินออกจากวังวนนั้นมาได้ ต่อสู้ อดทนและมุ่งมานะอยู่หลายปี กว่าจะถึงจุดนี้ จุดที่เขาทำให้ คนแบบพวกผมอีกหลายคนเริ่มหันมาศรัทธาในตัวเองแล้ว ลองทำในสิ่งที่อยากทำ
“จุดหมายอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปถึง แต่ไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะเริ่มต้น”
....หาญฤชัย เนตสิริ ได้กล่าวไว้ปิดท้าย
.................................................................................................................................................................................................
ตัวผู้เขียนเอง หลังจากที่ได้ติดตามข่าวการแข่งขัน พาราลิมปิก เกมส์ ก็นึกอยากจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับคนพิการ ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นคนพิการคนหนึ่ง ซึ่งตัวผู้เขียนเองเชื่อเหลือเกินว่า คนทุกคนนั่นมีความสามารถ ซึ่งอาจจะถนัดและมีความสามารถแตกต่างกันไป ตามสภาพแต่ละบุคคล แล้ววันนี้ คนพิการก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าความสามารถก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบุคคลทั่วไป เพียงแต่คนพิการอย่างพวกเรานั่น ขาดพื้นที่ในการแสดงออก ขาดพื้นที่ในการเข้าถึง บางพื้นที่ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง นั่นแหละคือความจริง
เพราะความสงสารไม่เคยยั่งยืน เท่ากับการให้โอกาส สิ่งนี้แหละ คือสิ่งที่ต้องการในฐานะคนหนึ่งคนในสังคมเดียวกัน...
การออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ยังหวาดหวั่น แต่ชีวิตก็เหมือนกีฬา ที่มีการแข่งขัน ถ้าพูดถึงเรื่องการแข่งขัน ผู้เขียนเองเชื่อเหลือเกินว่าทุกสัมมาอาชีพมีการแข่งขัน
ตัวผู้เขียนเอง วัยหนึ่ง เวลาหนึ่ง ก็เคยรู้สึกไม่อยากคิดอะไรและไม่อยากทำอะไร อยากจะอยู่นิ่งๆเหมือนดักแด้ใบตอง (HA-HA)
ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทำชีวิตเหมือนควันไฟ ควันที่เกิดจากกองฟืน ฟืนสุมไฟจนเกิดเป็นควัน ควันที่เกิดมาเพื่อรอการดับสลาย ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรเลย ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้น..แล้วอยู่ๆดักแด้ก็นึกอยากจะบิน...
...ชีวิตบนความพร่อง ไม่ง่ายที่ก้าวเดิน แต่ใจยังอยากเห็นพรุ่งนี้อยู่ ถ้าไม่ก้าว ก็ไม่เดินสักที เลยต้องเก็บกระเป๋าก้าวลงบันได ออกเดินทางไปในที่ๆไม่เคยไป
บางคน แข่งขันเพื่อปากและท้อง ท้องที่มันร้อง ร้องเหมือนมันไม่เคยอิ่ม ความหิวมันน่ากลัว น่ากลัวกว่ามัจจุราชในหลุมศพ
บ้างแข่งขันเพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ บรรดาศักดิ์เพียงเพื่อให้คนอื่นแหงนคอมอง
มองอะไร? (ปากถาม)
มองที่บ่าเขาสิวะ (ใจตอบ)
เองว่าบ่าสองข้างของเขา เคยแบกกระสอบปุ๋ย กระสอบข้าวไหม? (ปากถาม)
ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้าเคยเห็นเขากินข้าวเหนียวส้มตำปลาย่าง ตรงปากซอยวันก่อน (HA-HA) (ใจตอบ)
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนชื่นชมจากใจแด่ เหล่านักกีฬาพาราลิมปิกที่ใช้ความอดทนหลายเวลา หลายวัน หลายเดือนหรืออาจจะหลายขวบปี กว่าที่เขาเหล่านั้นจะเข้มแข็งมากพอที่จะมายืนตรงจุดนี้ได้...
...สดุดีในความมุ่งมานะ
อย่างที่เคยบอกกล่าวไปแล้วว่า ความบกพร่องของชีวิตไม่ใช่ปัญหาในการใช้ชีวิตหรือการร่วมกิจกรรมอื่นๆ แต่ปัญหาคือโอกาสการเข้าถึง นั้นคือตัวปัญหาที่แท้จริง...
ดังตัวอย่างจากพวกเขาเหล่านี้ แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า ความสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคนพิการ หรือคนทั่วไป เพียงแค่มีพื้นที่และโอกาส....
ชีวิตจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญที่เกิดมาแล้ว ได้ตอบแทนอะไรให้ชีวิตบ้าง วันหนึ่ง เวลาหนึ่ง คงได้โอบกอดความสำเสร็จของตัวเองบ้าง แม้จะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยในสายตาคนอื่น
ระหว่างทางก็มีความสำคัญของระหว่างทาง จุดหมายก็มีความสำคัญของจุดหมาย 2 อย่างนี้ ผู้เดินเท่านั้น ที่จะรู้คำตอบ...
สู้ต่อไป ประเทศไทยจะโอบกอบเธอ...บทความนี้ขอมอบแด่ นักกีฬาพาราลิมปิกทุกท่าน..
ดั่งบทเพลงหนึ่งของ บ๊อบ มาร์เล่ย์ ได้ร้องเอาไว้....
Love the life you live, live the life you Love
รักชีวิตแบบที่คุณใช้ ใช้ชีวิตแบบที่คุณรัก
...ขอบคุณทุกท่านในเรื่องราวที่เขียนนี้