พอถึงช่วงเดือน กันยายน ของทุกปี เดี๋ยวนี้คงมีคนจำนวนไม่น้อย (ผมก็ด้วยเช่นกัน) รอลุ้นว่า “iPhone” รุ่นใหม่ที่ออกจะหน้าตาเป็นยังไง ? ออกแล้วจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนดี บางคนอาจจะไม่เปลี่ยนก็เพราะว่ากลัวเปลือง เครื่องเก่าก็ยังใหม่อยู่ว่ากันไป…
แต่ส่วนตัวคิดว่าบางทีการเปลี่ยนมือถือใหม่ทุกปี อาจจะไม่ได้เปลืองอย่างที่คิดก็ได้นะ เพราะจากที่ลองเดินสำรวจราคาตลาดของ iPhone มือ 2 ในอดีตที่ผ่านมาพร้อมราคาขายตามตู้ที่ MBK แล้วลองมาคำนวณดูแล้วก็ไม่ได้เปลืองสักเท่าไหร่
ลองมาดูตัวอย่างประกอบกันดีกว่า อันนี้ลองเอาข้อมูล iPhone 6s ความจุ 64 GB อายุการใช้งาน 1 ปี ไปเช็คมาว่าแถวๆห้าง MBK นั้นถ้าขายจะได้ราคาเท่าไหร่ ? สรุปว่าราคารับซื้ออยู่ที่แถวๆ 17,000 บาทโดยเฉลี่ย แล้วราคามือ 1 ตอนที่ซื้อมานั้นก็อยู่ที่ 30,500 บาท นั่นหมายความว่า เมื่อผ่านมา 1 ปี เรามีค่าใช้จ่ายของมือถือเครื่องนี้อยู่ที่ 13,500/12 = 1,125 บาทต่อเดือน
ทีนี้ก็เลยมองไปว่า ถ้าอย่างกรณี iPhone 6 ความจุ 64 GB ผ่านการใช้งานมาแล้ว 2 ปี ราคาจะเหลือเท่าไหร่ ? พี่ทุยก็เลยลองไปเดินที่ห้าง MBK ที่เดิม สรุปว่า iPhone 6 ผ่านไป 2 ปี ราคาขายจะอยู่ที่ 10,000 บาท แปลว่าค่าใช้จ่ายสำหรับกรณี 2 ปี อยู่ที่ 20,500/24 = 854.17 บาทต่อเดือน
ลองย้อนกลับไปรุ่นเก่ากว่านี้อีกสักหน่อยดีกว่า แล้วถ้าเป็น iPhone 5s ความจุ 64 GB อายุการใช้งาน 3 ปี ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ค่าใช่จ่ายต่อเดือนของกรณีนี้จะเท่ากับ 26,500/36 = 736.11 บาทต่อเดือน
และจากตัวอย่างที่ยกมา… ถ้าดูแต่ค่าใช้จ่ายแล้ว กรณี iPhone 5s ระยะเวลา 3 ปี ผมขอตัดทิ้งละกัน เพราะส่วนตัวมองว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลา 2 ปี ค่าใช้จ่ายต่างกันแค่เดือนละ 118 บาทเอง ถ้าในกรณีนี้ พี่ทุยเลยเลือกเปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกๆ 2 ปี ไปเลยจะดีกว่าเพราะได้เครื่องใหม่ด้วยน่าจะเวิร์คกว่า
ทีนี้เราก็เหลือตัวเลือกที่จะมาวิเคราะห์กันแค่ 2 ข้อ คือ เปลี่ยนทุกปี กับ เปลี่ยนทุก 2 ปี แบบไหนดีกว่า ? ก่อนอื่นเลยมองก่อนว่าอะไรจะต่างกันบ้างสำหรับ 2 กรณี นี้
ข้อดีของการเปลี่ยนทุกปี ( ที่ดีกว่า เปลี่ยนทุก 2 ปี )
– ได้ประกันเครื่องใหม่ตลอดเวลา (เปลี่ยนทุกปี)
– ได้ใช้ Feature ใหม่ๆ
– ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเสื่อม ที่เป็นปัญหาของคนใช้สมาร์ทโฟนตอนนี้
ข้อดีของการเปลี่ยนเครื่องทุก 2 ปี (ที่ดีกว่าทุกปี)
– ส่วนต่างค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 270.83 บาท
ถ้าเปรียบเทียบกันส่วนตัวคิดว่าการเปลี่ยนเครื่องทุกปีก็ไม่เลวนะ เพราะแค่นึกว่าได้ประกันมือถือด้วยราคาเดือนละ 270 บาทเนี้ยก็น่าสนล่ะ เพราะมือถือมันติดตัวตลอดใช้งานทั้งวัน ใช้เยอะกว่าคอมพิวเตอร์อีก ก็เลยมองว่าคุ้มอยู่เหมือนกัน
ทั้งนี้ก็ไม่ได้เชียร์ให้เปลี่ยนมือถือใหม่กันนะ แค่อยากจะชี้ให้เห็นว่าบางทีการที่เห็นเพื่อนๆเค้าเปลี่ยนมือถือบ่อยๆแบบนี้ เค้าอาจจะเป็นคนที่คิดคำนวณมาแล้วอย่างดีก็ดีน้า แล้วถ้าจะเปลี่ยนก็อย่าใช้เงินจนเกินตัว ถ้าต้องซื้อแล้วเป็นหนี้ อันนี้พี่ทุยก็ว่าไม่สมควร แม้จะผ่อน 0% ก็ตาม จะรูดบัตรทุกครั้งอย่างที่พี่ทุยเตือนตลอดว่า เราควรมีเงินสดจ่ายได้ ณ ตอนนั้นเลยถึงมีสิทธิ์รูดนะครับ
ปล.1 น่าจะทำแบบนี้ได้เฉพาะ iPhone เท่านั้น เพราะราคาขายต่อค่อนข้างดีกว่ารุ่นอื่นๆ
ปล.2 ไม่ได้เชียร์ให้ใช้และเป็นสาวก iPhone แต่อย่างใด
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
www.moneybuffalo.in.th หรือ
FB Page :
fb.com/moneybuffalo
[บทวิเคราะห์] ซื้อ iPhone 7 เครื่องใหม่ กับ ใช้เครื่องเก่า แบบไหนคุ้มกว่ากัน ?
พอถึงช่วงเดือน กันยายน ของทุกปี เดี๋ยวนี้คงมีคนจำนวนไม่น้อย (ผมก็ด้วยเช่นกัน) รอลุ้นว่า “iPhone” รุ่นใหม่ที่ออกจะหน้าตาเป็นยังไง ? ออกแล้วจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนดี บางคนอาจจะไม่เปลี่ยนก็เพราะว่ากลัวเปลือง เครื่องเก่าก็ยังใหม่อยู่ว่ากันไป…
แต่ส่วนตัวคิดว่าบางทีการเปลี่ยนมือถือใหม่ทุกปี อาจจะไม่ได้เปลืองอย่างที่คิดก็ได้นะ เพราะจากที่ลองเดินสำรวจราคาตลาดของ iPhone มือ 2 ในอดีตที่ผ่านมาพร้อมราคาขายตามตู้ที่ MBK แล้วลองมาคำนวณดูแล้วก็ไม่ได้เปลืองสักเท่าไหร่
ลองมาดูตัวอย่างประกอบกันดีกว่า อันนี้ลองเอาข้อมูล iPhone 6s ความจุ 64 GB อายุการใช้งาน 1 ปี ไปเช็คมาว่าแถวๆห้าง MBK นั้นถ้าขายจะได้ราคาเท่าไหร่ ? สรุปว่าราคารับซื้ออยู่ที่แถวๆ 17,000 บาทโดยเฉลี่ย แล้วราคามือ 1 ตอนที่ซื้อมานั้นก็อยู่ที่ 30,500 บาท นั่นหมายความว่า เมื่อผ่านมา 1 ปี เรามีค่าใช้จ่ายของมือถือเครื่องนี้อยู่ที่ 13,500/12 = 1,125 บาทต่อเดือน
ทีนี้ก็เลยมองไปว่า ถ้าอย่างกรณี iPhone 6 ความจุ 64 GB ผ่านการใช้งานมาแล้ว 2 ปี ราคาจะเหลือเท่าไหร่ ? พี่ทุยก็เลยลองไปเดินที่ห้าง MBK ที่เดิม สรุปว่า iPhone 6 ผ่านไป 2 ปี ราคาขายจะอยู่ที่ 10,000 บาท แปลว่าค่าใช้จ่ายสำหรับกรณี 2 ปี อยู่ที่ 20,500/24 = 854.17 บาทต่อเดือน
ลองย้อนกลับไปรุ่นเก่ากว่านี้อีกสักหน่อยดีกว่า แล้วถ้าเป็น iPhone 5s ความจุ 64 GB อายุการใช้งาน 3 ปี ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ค่าใช่จ่ายต่อเดือนของกรณีนี้จะเท่ากับ 26,500/36 = 736.11 บาทต่อเดือน
และจากตัวอย่างที่ยกมา… ถ้าดูแต่ค่าใช้จ่ายแล้ว กรณี iPhone 5s ระยะเวลา 3 ปี ผมขอตัดทิ้งละกัน เพราะส่วนตัวมองว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลา 2 ปี ค่าใช้จ่ายต่างกันแค่เดือนละ 118 บาทเอง ถ้าในกรณีนี้ พี่ทุยเลยเลือกเปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกๆ 2 ปี ไปเลยจะดีกว่าเพราะได้เครื่องใหม่ด้วยน่าจะเวิร์คกว่า
ทีนี้เราก็เหลือตัวเลือกที่จะมาวิเคราะห์กันแค่ 2 ข้อ คือ เปลี่ยนทุกปี กับ เปลี่ยนทุก 2 ปี แบบไหนดีกว่า ? ก่อนอื่นเลยมองก่อนว่าอะไรจะต่างกันบ้างสำหรับ 2 กรณี นี้
ข้อดีของการเปลี่ยนทุกปี ( ที่ดีกว่า เปลี่ยนทุก 2 ปี )
– ได้ประกันเครื่องใหม่ตลอดเวลา (เปลี่ยนทุกปี)
– ได้ใช้ Feature ใหม่ๆ
– ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเสื่อม ที่เป็นปัญหาของคนใช้สมาร์ทโฟนตอนนี้
ข้อดีของการเปลี่ยนเครื่องทุก 2 ปี (ที่ดีกว่าทุกปี)
– ส่วนต่างค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 270.83 บาท
ถ้าเปรียบเทียบกันส่วนตัวคิดว่าการเปลี่ยนเครื่องทุกปีก็ไม่เลวนะ เพราะแค่นึกว่าได้ประกันมือถือด้วยราคาเดือนละ 270 บาทเนี้ยก็น่าสนล่ะ เพราะมือถือมันติดตัวตลอดใช้งานทั้งวัน ใช้เยอะกว่าคอมพิวเตอร์อีก ก็เลยมองว่าคุ้มอยู่เหมือนกัน
ทั้งนี้ก็ไม่ได้เชียร์ให้เปลี่ยนมือถือใหม่กันนะ แค่อยากจะชี้ให้เห็นว่าบางทีการที่เห็นเพื่อนๆเค้าเปลี่ยนมือถือบ่อยๆแบบนี้ เค้าอาจจะเป็นคนที่คิดคำนวณมาแล้วอย่างดีก็ดีน้า แล้วถ้าจะเปลี่ยนก็อย่าใช้เงินจนเกินตัว ถ้าต้องซื้อแล้วเป็นหนี้ อันนี้พี่ทุยก็ว่าไม่สมควร แม้จะผ่อน 0% ก็ตาม จะรูดบัตรทุกครั้งอย่างที่พี่ทุยเตือนตลอดว่า เราควรมีเงินสดจ่ายได้ ณ ตอนนั้นเลยถึงมีสิทธิ์รูดนะครับ
ปล.1 น่าจะทำแบบนี้ได้เฉพาะ iPhone เท่านั้น เพราะราคาขายต่อค่อนข้างดีกว่ารุ่นอื่นๆ
ปล.2 ไม่ได้เชียร์ให้ใช้และเป็นสาวก iPhone แต่อย่างใด
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
www.moneybuffalo.in.th หรือ
FB Page : fb.com/moneybuffalo