ถ้าวิ่ง สู้ ฟัด เหมือนเกาหลีเหนือ หรือเวียดนาม คงสู้ในระดับเอเชียได้สบาย

กระทู้คำถาม
เนื่องจากสรีระเราเมื่อเทียบเพียงในระดับเอเชียแล้ว
ยังถือว่าเรายังตัวเล็กกว่าเขามาก
ไม่ว่าจะเป็นอาหรับ หรือ ยุ่น หลี ออสฯ

ผมสังเกตเพื่อบ้านอย่างเวียดนาม จะเห็นว่า เวลาเล่นกับทีมอาหรับ
กลับไม่ได้เป็นรองเลย แถมมีโอกาสชนะอีกด้วยซ้ำ ในหลายๆเกม
ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ฟลุค แพ็คเกมรับอย่างเหนียวแน่นแบบกัดไม่ปล่อย

ส่วนไทยเรามีทักษะบวกกับเทคนิคเท่านั้นที่ดีกว่าอาเซียนด้วยกัน
แต่ถ้าพูดถึงความฟิต แรงปะทะ การวิ่งสู้ฟัดแล้ว เรายังขาดเรื่องนี้
อย่างเห็นได้ชัด

ก็จริงอยู่ว่าวิธีเล่นแบบนี้ มันไม่ใช่ทุกอย่างในเกมฟุตบอล
แต่คิดว่ามันสามารถสร้างประโยชน์ได้กับทีมที่เสียเปรียบรูปร่าง
แต่ไม่เสียเปรียบพละกำลัง

ในวันนี้ทีมอื่นที่เราเสียเปรียบรูปร่างเขา เขาก็ไม่ได้เสียเปรียบ
เรื่องความฟิตเราแม้แต่น้อย แถมเทคนิคก็ยังดีกว่า เบสิคไม่ต้องพูดถึง

ถ้าในวันนี้บอลไทยเพิ่งเริ่มต้นที่จะสร้างทีมไปสู่อนาคต
แต่ชุดที่มีอยู่ปัจจุบันก็ไม่ได้สร้างจากอะคาเดมี่
หรือลีกเยาวชนโดยตรง เพียงแต่เราได้เด็กจากการคัดเลือกเท่านั้น
แล้วจับเข้าสู่อะคาเดมี่หรือสโมสรเล็กถึงใหญ่

มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเวลาที่เหลือ เราจะเพิ่มในเรื่องความแข็งแกร่ง
ของกล้ามเนื้อและพละกำลัง

ถ้าญี่ปุ่นมีพละกำลัง 100 เรามี 120
ถ้าเกาหลีมีพละกำลัง 120 เรามี 150

แต่ถ้ายังเป็นเหมือนเดิม
ผมคนนึงที่ยืนยันและนอนยันว่า...
แม้แต่เกาหลีเหนือ ไทยเราก็ไม่สามารถชนะได้เลย

แต่ถ้าเราผ่านเกาหลีเหนือไปได้ แสดงว่า
เราฟิตพอๆกับเขา เทคนิค แท็คติกเราสู้ได้
ไม่ว่าเจอกันชุดไหนก็เอาอยู่

เมื่อนั้น เราไปเจอกับอาหรับทีมไหน
ยุ่น หลี ออส ยังไง เราจะสู้ได้อย่างไม่เป็นรอง

เหมือนดังคำของผมที่ว่า  "มีความฟิต ทำได้อย่างที่คิด"

สุดท้าย ก็ขอฝากน้องๆเยาวชนไทยด้วยนะครับ
ถ้าได้มาเป็นนักฟุตบอลแล้ว อย่าเหลิงต่อคำชม
อย่าคิดว่าเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนดัง
อยู่อะคาเดมี่ หรือสังกัดสโมสรใดๆแล้ว เราเก่ง

ขอให้มองไปนอกกรอบ ว่าในระดับที่อยู่สูงกว่าเรา
เขาทำกันยังไง มีความมุ่งมั่นทุ่มเทแค่ไหน
ถึงไปอยู่ระดับนั้นได้

ถ้าเรามัวแต่เหลิง แอ็คชั่น หรือเก๊กโชว์เท่ไปวันๆ
เราจะไม่พัฒนาทั้งฝีเท้าและรูปร่าง ความแข็งแกร่ง
เด็กรุ่นหลังก็จะไล่ตาม จนเราตั้งมีอันหมดไป
และจะถอยหลังไปอย่างเงียบทีละน้อยๆ

จงมองให้สูงครับ ฝ่าฟันอุปสรรคและแรงกดดันทั้งหลาย
สร้างวินัยในตัวเองให้จงดี

เขื่อเถอะครับว่าฟุตบอลสมัยนี้เปรียบเสมือน
การศึกษาตั้งแต่ก่อนประถมศึกษาไปถึงระดับด๊อกเตอร์ฉันใด
ฟุตบอลทุกวันนี้ก็ต้องใช้การศึกษาเพื่อบินขึ้นให้สูงฉันนั้น..

มันเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องเรียนรู้
และควบคู่กับพรแสวงและสวรรค์ สาาาาา....ธ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่