สวัสดีครับ วันนี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์การทำ วิซ่านักเรียน F-1 ครับ เผื่อๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนไหนจะไปทำ
จะได้อ่านเป็นประสบการณ์ครับ คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ฮ่าๆ
ก่อนอื่น เกริ่นก่อนว่า พอดีพึ่งเรียนจบ ผมแพลนจะไปเรียนภาษาที่ เมืองชิคาโก เป็นเวลา 6 เดือน ช่วงปลายปีนี้
โดย Ds-160 ให้เอเจนซี่เป็นคนกรอกให้ครับ
วันนัดสัมภาษณ์ 19 ก.ย. 59 เวลา 9.45
เอกสารหลักที่ผมเตรียมไป
- DS-160 (ที่มีหน้าเราและบาร์โค้ด)
- ใบนัด
- I-20 ที่ได้จากทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ USA
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวิซ่าจากธนาคาร
- ใบเสร็จ Sevis I901
- Transcipt (เป็นภาษาอังกฤษ)
- ใบรับรองทางการเงินของสปอนเซอร์ (ภาษาอังกฤษ สกุลเงิน ดอลล่าห์)
- ใบเปลี่ยนชื่อ
เอกสารอื่นๆ
- สมุดบัญชีเงินฝากของสปอนเซอร์
- ใบรับรองของมหาวิทยาลัย
- จดหมายแนะนำตัวภาษาไทย
- ประวัติส่วนตัวภาษาไทย
- โฉนดที่ดิน
คำแนะนำอื่นๆ
- สามารถฝากมือถือได้แค่เครื่องเดียว ของอื่นๆห้ามเอาเข้าครับ
- ถึงก่อนซัก 30 นาทีกำลังพอดี ครับหรืออย่างช้าถึงก่อน 15 นาที ครับ
- เดินทางโดย BTS สะดวกสุด
- ถ้าขับรถมาต้องไปจอดฝั่งตรงข้าม คล้ายๆห้าง แต่มีคนบอกว่าแพงมากครับ ฮ่าๆ
- แต่งตัวให้ดูดีนะครับ
- ลองซ้อมพูดๆกับตัวเองบ้าง เพราะเวลาสัมภาษณ์จริงๆจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก
ผมออกจากบ้านประมาณ 7 โมงนิดๆครับ เดินทางโดยรถไฟฟ้าครับ ลงสถานีเพลินจิตร ทางออกผมจำไม่ได้แต่พยายามลองมองหาป้ายที่เขียนว่า
ไปสถานทูตUSA ก็เดินลงทางออกนั้นแหละครับ ซึ่งสถานฑูตจะอยู่บนถนน วิทยุครับ จากปากซอยจะเดินเข้าไปก็ได้ ประมาณ 10 นาที ไม่ไกลมาก
แต่ผมเลือกนั่งพี่วิน 30 บาท แปปเดียวถึง เพราะขี้เกี้ยจอิอิ และตรงที่ทำวิซ่าจะอยู่ทางซ้ายมือ ขวามือจะเป็นสถานเอกอัครฑูตอันนั้นไม่ใช่นะครับ ระวังไปผิดที่ **จุดสังเกตจะเห็นคนมาเข้าแถวเยอะมากๆ อันนั้นแหละครับที่ทำวิซ่า...
ถึงหน้ากงศุล 8.15 มาเร็วมาก อ่านป้ายเขาบอกว่า ให้มาก่อนประมาณ 15 นาที (มาเร็วไปหน่อย) หาอะไรทำดีกว่า ผมก็เลยเดินขึ้นไปเรื่อยๆ เจอร้านสตาบัค เลยนั่งกินกาแฟชิลๆ จนถึงประมาณ 9 โมง ผมก็เดินกลับไปที่หน้ากงศุล เพื่อเข้าแถว .. ตอนเข้าแถวให้เตรียม หน้าDS-160 กับ พาสปอร์ตจะมีเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจ และก็ให้เราบอกเวลานัดของเราว่ากี่โมง พอเจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จก็จะให้บัตรเล็กๆมา ให้เดินต่อไปจะมี รปภ. มาเก็บบัตรเล็กๆไป และเข้าไปจุดตรวจอาวุธต่างๆ ห้องนั้นเราสามารถฝากมือถือได้ แค่ 1 เครื่องครับ โดยนำบัตรประชาชนให้เขา แล้วจะให้เหมือนสายรัดข้อมือมา (หูฟัง เพาร์เวอร์แบงค์ อุปกรณ์อื่นๆ เข้าไม่ได้ครับ ถ้าเอามาต้องไปหาร้านฝากข้างนอก ไม่รู้ตรงไหนนะครับ ถ้ามากับญาติหรือเพื่อนก็ฝากไว้กับเพื่อนข้างนอกก็ได้ครับ) ในห้องนั้นก็จะมีการตรวจอาวุธ แสกนผ่านเครื่อง ก็ทำตามที่เจ้าหน้าที่บอกครับ ไม่ยาก ชิลๆ
ด่านแรก จะเป็นเจ้าหน้าที่คนไทย เขาจะขอเอกสารต่างๆ ก็ให้เขาไปตามที่เขาขอ แล้วเจ้าหน้าที่จะจัดเอกสารใส่แฟ้มให้ แล้วก็ถามนิดหน่อย เช่น ทำครั้งแรกใช่ไหมคะ พอเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าให้จด เลข EMS ด้วยนะคะ เพราะจะได้ติดตามได้ค่ะ สรุปด่านแรกนี้ชิวๆเลยครับ เจ้าหน้าที่พูดจาดีมาก ยิ้มแย้ม แจ่มใส อุ่นใจ เสร็จจากด่านนี้ก็เดินเข้าไปที่อีกห้องนึงครับเป็นห้องแอร์คนเยอะพอสมควร
ด่านสอง เดินเข้าแถวไปครับ ด่านนี้จะสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนไทยจะดุๆจริงจังหน่อยครับ ช่องไหนว่างเขาก็จะเรียกครับ ตามแถว คำแนะนำคือช่องนี้เป็นช่องที่เจ้าหน้าที่จะแสกนเราพอสมควร ถ้าเราทำตัวไม่น่าไว้ใจ หรือเอกสารไม่ครบ หรืออะไรก็ตามที่แปลกๆ ก็อาจจะงานเข้าครับ หึหึ ของผม พอเขาเรียก ก็ยกมือไหว้งามๆ ยิ้มหวานๆ บทสนนทนาเป็นดังนี้ครับ
เจ้าหน้าที่ - ขอเอกสารด้วยค่ะ (ให้ไปตามที่เขาต้องการ)
เจ้าหน้าที่ - ไปไหนคะ
ผม - ไปชิคาโกครับ
เจ้าหน้าที่ - ไปทำอะไรค่ะ แล้วนานเท่าไร
ผม - ไปเรียนภาษาครับ 6 เดือน
เจ้าหน้าที่ - ใครเป็นสปอนเซอร์คะ
ผม - คุณแม่ครับ
เจ้าหน้าที่ - วางนิ้งแสกนด้วยค่ะ (ทำตามที่เขาบอก)
พอแสกนเสร็จ เจ้าหน้าที่จะให้เอกสารคืนและติดบาร์โค้ด แล้วให้เอาไปโชว์กับอีกช่องนึง ซึ่งเป็นฝรั่ง แต่ไม่ใช่คนที่สัมภาษณ์นะครับ เขาก็จะขอดูเลขบาร์โคด และให้เอาเราเอานิ้วแสกนอีกรอบนึง พอเสร็จก็เดินไปต่อแถวเพื่อสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงศุล TT อันนี้แหละของจริง แง
ด่านที่ 3 ด่านสุดโหด ? ก็เข้าแถวตามคิวครับ จะมี อยู่ 3 ช่อง เป็น ผู้หญิงผิวสี ผู้หญิงผิวขาว ผู้ชายผิวสี ก็ตุบๆดีครับ ซึ่งผมไม่ได้อยากได้ใครเป็นพิเศษคนไหนก็ได้ครับ ซึ่งคนก่อนหน้าผมสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงผิวสี แล้วไม่ผ่าน !! โอ้ ทำให้ผมก็ตื่นเต้นขึ้นไปใหญ่ ในที่สุดผมก็ได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงฝรั่งผิวขาวครับ เหมือนเดิมเข้าไปยิ้มให้ 1 ที และไหว้งามๆ ยื่นเอกสารให้เขา ต่อไปคือบทสนนทนาครับ
ฝรั่ง - สวัสดีค่ะ (พูดไทยใส่)
ผม - สวัสดีครับ
ฝรั่ง - ไปเมืองไหนคะ
ผม - ชิคาโกครับ
ฝรั่ง - ทำไมต้อง ชิคาโก ด้วยคะ (คำถามนี้เจ้าหน้าที่จะดูว่าเราเตรียมตัวมาจริงหรือเปล่า มีหลายคนบอกหนะครับ เพราะบางคนตอบไม่ได้..)
ผม - พอดีชอบเมืองที่มีหิมะตกครับ ช่วงที่ไปก็หน้าหนาวพอดี และเมืองนี้เดินทางสะดวกครับ
ฝรั่ง - พิม ต๊อกแต๊กๆๆๆๆ
ฝรั่ง - ไปนานเท่าไรคะ
ผม - 6 เดือนครับ
ฝรั่ง - เรียนเสร็จแล้วทำอะไรต่อคะ
ผม - กลับมาทำงานที่ไทยครับ
ฝรั่ง - ใครเป็นสปอนเซอร์ค่ะ
ผม - คุณแม่ครับ
ฝรั่ง - หยิบใบเกรดแล้วพูดภาษาอังกฤษใส่ oh your grade is not really good พร้อมทำหน้าแบบฟิลรู้สึกผิด
.. (ภาษาอาจผิดๆถูกบ้างนะครับขออภัยตอบตามที่พอสื่อสารได้ ฮ่าๆ)
ผม - Yes my grade is not really good because mean(ค่าเฉลี่ยใช้ถูกมั้งครับ55) is very high that why my grade is not good but i try a lot and improve all the time
ฝรั่ง - oh good
ฝรั่ง - Did you study english in University ? it good ?
ผม - ชี้ในใบเกรดครับ Eng 2 , Eng 3 , Eng4 (B,C+,C+)
ฝรั่ง - oh ok !
ฝรั่ง - why don't you take English couse in your University ?
ผม - เอ่อ sorry again please ตอนนั้นฟังไม่ทัน
ฝรั่ง - why don't you take English couse in your University ?
ผม - because i'm just graduated and i can't study anymore (มั่วแหลก)
ฝรั่ง - ok (ยิ้มๆ)
ฝรั่ง what kind of job do you want to do after come back to Thailand?
ผม - I want to work at CP company . This company is about Food product (อันนี้ก็พูดผิดพูดถูกครับ)
ฝรั่ง - ok ค่ะ (ยิ้มนิดๆ)
ฝรั่ง -what does your mother do ?
ผม - she has owns's business about Bakery เอ่อ she made Cookie cake and a lot of dessert
ฝรั่ง - ok how did you know this school ?
ผม - I search on google (หัวเราะนิดๆ)
ฝรั่ง - ยิ้ม
ฝรั่ง - How did you learn English ? because you english is good (อ้าวดีหรอวะเนี่ย555)
ผม - I love listening english song on youtube and watch Tv show on youtube
ฝรั่ง - oh wow
ฝรั่ง - พิมต๊อกแต๊กๆ
ฝรั่ง - พูดอะไรจำไม่ได้ แล้วพูดว่า Congrats and .... will send in 1 weeks (ผ่านแล้วมั้ง)
ผม- Thank you ครับ ขอบคุณครับ
ฝรั่ง - ค่า พร้อมยิ้มให้
เสร็จแล้วก็เดินออกมาแบบ งง ว่า เห้ย ผ่านแล้ว 555555
สรุปนะครับ เวลาสัมภาษณ์ให้มองตาเขาตลอดนะครับ ตอบแบบมั่นใจ อย่าคิดนานมาก ถ้าอันไหนฟังไม่ออกก็ถามเขาอีกครั้ง
หรือถ้าพูดไม่ได้เลยก็บอกเขาไปตรงๆครับ เขาก็จะถามภาษาไทย
อ่อแล้วก็แต่งตัวให้โอเคหน่อยนะครับ เพราะบุคลิกดี ก็น่าจะมีผลนะครับ ทำไม่นานเลยครับเข้าไป ประมาณ 9 โมง นิดๆ เสร็จประมาณ 9.40 ครับ
... ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ไม่รู้ว่าพิมพ์งงหรือเปล่า ยังไงผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะครับ ถ้ามีคำถามที่พอตอบได้ก็ยินดีตอบครับ
ขอบคุณครับ
แชร์ ประสบการณ์ ทำวิซ่า(VISA) นักเรียน F-1 USA ครับ 19 ก.ย. 2559
จะได้อ่านเป็นประสบการณ์ครับ คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ฮ่าๆ
ก่อนอื่น เกริ่นก่อนว่า พอดีพึ่งเรียนจบ ผมแพลนจะไปเรียนภาษาที่ เมืองชิคาโก เป็นเวลา 6 เดือน ช่วงปลายปีนี้
โดย Ds-160 ให้เอเจนซี่เป็นคนกรอกให้ครับ
วันนัดสัมภาษณ์ 19 ก.ย. 59 เวลา 9.45
เอกสารหลักที่ผมเตรียมไป
- DS-160 (ที่มีหน้าเราและบาร์โค้ด)
- ใบนัด
- I-20 ที่ได้จากทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ USA
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวิซ่าจากธนาคาร
- ใบเสร็จ Sevis I901
- Transcipt (เป็นภาษาอังกฤษ)
- ใบรับรองทางการเงินของสปอนเซอร์ (ภาษาอังกฤษ สกุลเงิน ดอลล่าห์)
- ใบเปลี่ยนชื่อ
เอกสารอื่นๆ
- สมุดบัญชีเงินฝากของสปอนเซอร์
- ใบรับรองของมหาวิทยาลัย
- จดหมายแนะนำตัวภาษาไทย
- ประวัติส่วนตัวภาษาไทย
- โฉนดที่ดิน
คำแนะนำอื่นๆ
- สามารถฝากมือถือได้แค่เครื่องเดียว ของอื่นๆห้ามเอาเข้าครับ
- ถึงก่อนซัก 30 นาทีกำลังพอดี ครับหรืออย่างช้าถึงก่อน 15 นาที ครับ
- เดินทางโดย BTS สะดวกสุด
- ถ้าขับรถมาต้องไปจอดฝั่งตรงข้าม คล้ายๆห้าง แต่มีคนบอกว่าแพงมากครับ ฮ่าๆ
- แต่งตัวให้ดูดีนะครับ
- ลองซ้อมพูดๆกับตัวเองบ้าง เพราะเวลาสัมภาษณ์จริงๆจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก
ผมออกจากบ้านประมาณ 7 โมงนิดๆครับ เดินทางโดยรถไฟฟ้าครับ ลงสถานีเพลินจิตร ทางออกผมจำไม่ได้แต่พยายามลองมองหาป้ายที่เขียนว่า
ไปสถานทูตUSA ก็เดินลงทางออกนั้นแหละครับ ซึ่งสถานฑูตจะอยู่บนถนน วิทยุครับ จากปากซอยจะเดินเข้าไปก็ได้ ประมาณ 10 นาที ไม่ไกลมาก
แต่ผมเลือกนั่งพี่วิน 30 บาท แปปเดียวถึง เพราะขี้เกี้ยจอิอิ และตรงที่ทำวิซ่าจะอยู่ทางซ้ายมือ ขวามือจะเป็นสถานเอกอัครฑูตอันนั้นไม่ใช่นะครับ ระวังไปผิดที่ **จุดสังเกตจะเห็นคนมาเข้าแถวเยอะมากๆ อันนั้นแหละครับที่ทำวิซ่า...
ถึงหน้ากงศุล 8.15 มาเร็วมาก อ่านป้ายเขาบอกว่า ให้มาก่อนประมาณ 15 นาที (มาเร็วไปหน่อย) หาอะไรทำดีกว่า ผมก็เลยเดินขึ้นไปเรื่อยๆ เจอร้านสตาบัค เลยนั่งกินกาแฟชิลๆ จนถึงประมาณ 9 โมง ผมก็เดินกลับไปที่หน้ากงศุล เพื่อเข้าแถว .. ตอนเข้าแถวให้เตรียม หน้าDS-160 กับ พาสปอร์ตจะมีเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจ และก็ให้เราบอกเวลานัดของเราว่ากี่โมง พอเจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จก็จะให้บัตรเล็กๆมา ให้เดินต่อไปจะมี รปภ. มาเก็บบัตรเล็กๆไป และเข้าไปจุดตรวจอาวุธต่างๆ ห้องนั้นเราสามารถฝากมือถือได้ แค่ 1 เครื่องครับ โดยนำบัตรประชาชนให้เขา แล้วจะให้เหมือนสายรัดข้อมือมา (หูฟัง เพาร์เวอร์แบงค์ อุปกรณ์อื่นๆ เข้าไม่ได้ครับ ถ้าเอามาต้องไปหาร้านฝากข้างนอก ไม่รู้ตรงไหนนะครับ ถ้ามากับญาติหรือเพื่อนก็ฝากไว้กับเพื่อนข้างนอกก็ได้ครับ) ในห้องนั้นก็จะมีการตรวจอาวุธ แสกนผ่านเครื่อง ก็ทำตามที่เจ้าหน้าที่บอกครับ ไม่ยาก ชิลๆ
ด่านแรก จะเป็นเจ้าหน้าที่คนไทย เขาจะขอเอกสารต่างๆ ก็ให้เขาไปตามที่เขาขอ แล้วเจ้าหน้าที่จะจัดเอกสารใส่แฟ้มให้ แล้วก็ถามนิดหน่อย เช่น ทำครั้งแรกใช่ไหมคะ พอเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าให้จด เลข EMS ด้วยนะคะ เพราะจะได้ติดตามได้ค่ะ สรุปด่านแรกนี้ชิวๆเลยครับ เจ้าหน้าที่พูดจาดีมาก ยิ้มแย้ม แจ่มใส อุ่นใจ เสร็จจากด่านนี้ก็เดินเข้าไปที่อีกห้องนึงครับเป็นห้องแอร์คนเยอะพอสมควร
ด่านสอง เดินเข้าแถวไปครับ ด่านนี้จะสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนไทยจะดุๆจริงจังหน่อยครับ ช่องไหนว่างเขาก็จะเรียกครับ ตามแถว คำแนะนำคือช่องนี้เป็นช่องที่เจ้าหน้าที่จะแสกนเราพอสมควร ถ้าเราทำตัวไม่น่าไว้ใจ หรือเอกสารไม่ครบ หรืออะไรก็ตามที่แปลกๆ ก็อาจจะงานเข้าครับ หึหึ ของผม พอเขาเรียก ก็ยกมือไหว้งามๆ ยิ้มหวานๆ บทสนนทนาเป็นดังนี้ครับ
เจ้าหน้าที่ - ขอเอกสารด้วยค่ะ (ให้ไปตามที่เขาต้องการ)
เจ้าหน้าที่ - ไปไหนคะ
ผม - ไปชิคาโกครับ
เจ้าหน้าที่ - ไปทำอะไรค่ะ แล้วนานเท่าไร
ผม - ไปเรียนภาษาครับ 6 เดือน
เจ้าหน้าที่ - ใครเป็นสปอนเซอร์คะ
ผม - คุณแม่ครับ
เจ้าหน้าที่ - วางนิ้งแสกนด้วยค่ะ (ทำตามที่เขาบอก)
พอแสกนเสร็จ เจ้าหน้าที่จะให้เอกสารคืนและติดบาร์โค้ด แล้วให้เอาไปโชว์กับอีกช่องนึง ซึ่งเป็นฝรั่ง แต่ไม่ใช่คนที่สัมภาษณ์นะครับ เขาก็จะขอดูเลขบาร์โคด และให้เอาเราเอานิ้วแสกนอีกรอบนึง พอเสร็จก็เดินไปต่อแถวเพื่อสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงศุล TT อันนี้แหละของจริง แง
ด่านที่ 3 ด่านสุดโหด ? ก็เข้าแถวตามคิวครับ จะมี อยู่ 3 ช่อง เป็น ผู้หญิงผิวสี ผู้หญิงผิวขาว ผู้ชายผิวสี ก็ตุบๆดีครับ ซึ่งผมไม่ได้อยากได้ใครเป็นพิเศษคนไหนก็ได้ครับ ซึ่งคนก่อนหน้าผมสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงผิวสี แล้วไม่ผ่าน !! โอ้ ทำให้ผมก็ตื่นเต้นขึ้นไปใหญ่ ในที่สุดผมก็ได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงฝรั่งผิวขาวครับ เหมือนเดิมเข้าไปยิ้มให้ 1 ที และไหว้งามๆ ยื่นเอกสารให้เขา ต่อไปคือบทสนนทนาครับ
ฝรั่ง - สวัสดีค่ะ (พูดไทยใส่)
ผม - สวัสดีครับ
ฝรั่ง - ไปเมืองไหนคะ
ผม - ชิคาโกครับ
ฝรั่ง - ทำไมต้อง ชิคาโก ด้วยคะ (คำถามนี้เจ้าหน้าที่จะดูว่าเราเตรียมตัวมาจริงหรือเปล่า มีหลายคนบอกหนะครับ เพราะบางคนตอบไม่ได้..)
ผม - พอดีชอบเมืองที่มีหิมะตกครับ ช่วงที่ไปก็หน้าหนาวพอดี และเมืองนี้เดินทางสะดวกครับ
ฝรั่ง - พิม ต๊อกแต๊กๆๆๆๆ
ฝรั่ง - ไปนานเท่าไรคะ
ผม - 6 เดือนครับ
ฝรั่ง - เรียนเสร็จแล้วทำอะไรต่อคะ
ผม - กลับมาทำงานที่ไทยครับ
ฝรั่ง - ใครเป็นสปอนเซอร์ค่ะ
ผม - คุณแม่ครับ
ฝรั่ง - หยิบใบเกรดแล้วพูดภาษาอังกฤษใส่ oh your grade is not really good พร้อมทำหน้าแบบฟิลรู้สึกผิด
.. (ภาษาอาจผิดๆถูกบ้างนะครับขออภัยตอบตามที่พอสื่อสารได้ ฮ่าๆ)
ผม - Yes my grade is not really good because mean(ค่าเฉลี่ยใช้ถูกมั้งครับ55) is very high that why my grade is not good but i try a lot and improve all the time
ฝรั่ง - oh good
ฝรั่ง - Did you study english in University ? it good ?
ผม - ชี้ในใบเกรดครับ Eng 2 , Eng 3 , Eng4 (B,C+,C+)
ฝรั่ง - oh ok !
ฝรั่ง - why don't you take English couse in your University ?
ผม - เอ่อ sorry again please ตอนนั้นฟังไม่ทัน
ฝรั่ง - why don't you take English couse in your University ?
ผม - because i'm just graduated and i can't study anymore (มั่วแหลก)
ฝรั่ง - ok (ยิ้มๆ)
ฝรั่ง what kind of job do you want to do after come back to Thailand?
ผม - I want to work at CP company . This company is about Food product (อันนี้ก็พูดผิดพูดถูกครับ)
ฝรั่ง - ok ค่ะ (ยิ้มนิดๆ)
ฝรั่ง -what does your mother do ?
ผม - she has owns's business about Bakery เอ่อ she made Cookie cake and a lot of dessert
ฝรั่ง - ok how did you know this school ?
ผม - I search on google (หัวเราะนิดๆ)
ฝรั่ง - ยิ้ม
ฝรั่ง - How did you learn English ? because you english is good (อ้าวดีหรอวะเนี่ย555)
ผม - I love listening english song on youtube and watch Tv show on youtube
ฝรั่ง - oh wow
ฝรั่ง - พิมต๊อกแต๊กๆ
ฝรั่ง - พูดอะไรจำไม่ได้ แล้วพูดว่า Congrats and .... will send in 1 weeks (ผ่านแล้วมั้ง)
ผม- Thank you ครับ ขอบคุณครับ
ฝรั่ง - ค่า พร้อมยิ้มให้
เสร็จแล้วก็เดินออกมาแบบ งง ว่า เห้ย ผ่านแล้ว 555555
สรุปนะครับ เวลาสัมภาษณ์ให้มองตาเขาตลอดนะครับ ตอบแบบมั่นใจ อย่าคิดนานมาก ถ้าอันไหนฟังไม่ออกก็ถามเขาอีกครั้ง
หรือถ้าพูดไม่ได้เลยก็บอกเขาไปตรงๆครับ เขาก็จะถามภาษาไทย
อ่อแล้วก็แต่งตัวให้โอเคหน่อยนะครับ เพราะบุคลิกดี ก็น่าจะมีผลนะครับ ทำไม่นานเลยครับเข้าไป ประมาณ 9 โมง นิดๆ เสร็จประมาณ 9.40 ครับ
... ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ไม่รู้ว่าพิมพ์งงหรือเปล่า ยังไงผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะครับ ถ้ามีคำถามที่พอตอบได้ก็ยินดีตอบครับ
ขอบคุณครับ