สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
พลิกปูมข่าวคดีเขาแพง! ก่อนศาลพิพากษาจำคุก 'แทน เทือกสุบรรณ'3 ปี พร้อมพวก
"..นายสามารถ เรืองศรี หนึ่งในหุ้นส่วน หจก. เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นนายหน้าจัดหา รวบรวมที่ดินให้นักธุรกิจซึ่งเข้าไปลงทุนในพื้นที่ ซึ่งนายสามารถยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์และได้นำที่ดินส่วนหนึ่งได้มาขายต่อให้นักการเมือง และเครือญาติรวมถึงแปลงที่มีชื่อนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณถือครอง.."

กลายเป็นข่าวดัง ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนทันที!
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2559 ศาลอาญา ได้พิพากษาลงโทษจำคุก นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล คนละ 3 ปี และให้ลงโทษจำคุก นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร และนายสามารถ เรืองศรี คนละ 5 ปี ในคดีการบุกรุกที่ดินของรัฐ และป่าในพื้นที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี (คดีเขาแพง) ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่บนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ
ขณะที่ ในคำพิพากษา ระบุว่า "ป่าไม้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรที่ประชาชนจะต้องร่วมกันหวงแหนบำรุงรักษาให้อุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน มิใช่เป็นของส่วนตัวแก่ผู้ใด การกระทำของจำเลยทั้งสี่มีผล กระทบต่อการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของ ดิน น้ำ อากาศ และป่าไม้ ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อันเป็นต้นเหตุของความแห้งแล้ง และภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก สภาพความผิดจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ และให้จำเลยทั้งสี่ คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสี่ ออกจากที่ดินและป่าไม้ บริเวณที่เกิดเหตุ"
(อ่านประกอบ : ศาลอาญา พิพากษาจำคุก 'แทน เทือกสุบรรณ' 3 ปี พร้อมพวก-คดีเขาแพง)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบแฟ้มคดีข่าว 'เปิดโปงขบวนการฮุบที่ดินเขาแพง' ที่จัดทำโดย กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เพื่อส่งเข้าประกวดรางวัลข่าวอิศรา อมันตกุล เมื่อปี 2553 มีการระบุที่มาที่ไปของข่าวชิ้นนี้ ดังนี้
ผู้สื่อข่าวได้เริ่มพบควมผิดปกติของขบวนการดังกล่าวจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายค้าที่เตรียมจะยื่นถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณรองรายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นการถือครองที่ดินซึ่งได้มาโดยมิชอบในลักษณะนอมินี
ขณะที่จากการติดตามตรวจสอบและรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งลงพื้นที่เขาแพง ต.แม่น้ำ และต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบกระบวนการรุกพื้นที่ป่า ที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักการเมือง ข้าราชการที่เกี่ยวข้องดังนี้
พฤติการณ์ของนักการเมืองได้บุกรุกทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ โดยการบุกรุกเขากระทำการออกโฉนดอันเป็นเอกสารสิทธิ์และเตรียมจัดสรรที่ดินขาย โดยจงใจปกปิดและแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จในขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีนี้มีข้อพิรุธเกี่ยวกับการปกปิดที่ดินให้อยู่ในการครอบครองของบุคคลอื่นในลักษณะตัวแทนถือครองกรรมสิทธิ์โดยทางอ้อมหรือ นอมินีเกี่ยวกับที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
โดยจากการติดตามตรวจสอบและสัมภาษณ์นายสามารถ เรืองศรี หนึ่งในหุ้นส่วน หจก. เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นนายหน้าจัดหา รวบรวมที่ดินให้นักธุรกิจซึ่งเข้าไปลงทุนในพื้นที่ ซึ่งนายสามารถยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์และได้นำที่ดินส่วนหนึ่งได้มาขายต่อให้นักการเมือง และเครือญาติรวมถึงแปลงที่มีชื่อนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณถือครอง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้นำเอกสารหลักฐานรายการซื้อที่ดินชาวบ้าน จากทายาทนักธุรกิจที่มอบเอกสารการบริจาคที่ดินกว่า 4 พันไร่คืนให้แก่รัฐออกมาเปิดเผย โดยเกือบทั้งหมดเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่นายสามารถ เรืองศรี รวบรวมมาให้ ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ยืนยันว่ามีการบุกรุกที่ดินรัฐจริง
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบว่า มีการทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดิน ที่เชื่อว่านายสุเทพ ได้ให้ลูกชายคือ นายแทน เทือกสุบรรณ เป็นตัวแทน ซึ้อและถือครอง ที่ดินแทนตงเองคือ โฉนดเลขที่ 28109 ระวาง 4928 ll 0256 เลขที่ดิน 39 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 62 ไร่ 1 งาน 97 ตารางวา
บทสรุปคดีนี้ ได้ระบุถึงการกระทำผิด เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินของรัฐ และป่าไม้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2584 ด้วยการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ จากการถือครองที่ดินบริเวณเขาแพง หมู่ที่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎธานี ของนายแทน เทือกสุบรรณ รวมทั้งการตรวจสอบการถือครองที่ดินในบริเวณภูเขาลูกเดียวกัน ที่มีพื้นที่ติดต่อกันของ หจก.เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น ในบริเวณหมู่ที่ 5 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน
ประเด็นสำคัญที่พบคือการตรวจสอบความผิดของนักการเมือง ที่ผลสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกี่ยวกับการครอบครองที่ดินบนเกาะสมุยอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการกระทำผิดรัฐธรรมนูญและประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเฉพาะประเด็นปัญหาที่พบระหว่างการตรวจสอบกรณีที่ดินเขาแพงคือ
กรณีการได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นที่ดินสาธารณะ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขา สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกินกว่า 200 เมตร และมีความลาดชันเกิน 35 องศา
ข้อสงสัยในการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ ที่ไม่มีการครอบครองและทำประโยชน์จริง ส่วนที่ทำประโยชน์จริงเป็นส่วนน้อยซึ่งเกิดจากการบุกรุกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ปัญหาการใช้เอกสาร ส.ค.1 และน.ส.3ก. เป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดิน ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และไม่ดำเนินการตามขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินโดยชอบ
กระบวนการออกเอกสาร ส.ค. 1 และขอออกเป็น น.ส.3ก. มีเนื้อที่เพิ่มเป็นเท่าตัว แม้แต่ น.ส.3ก. เมื่อออกเป็นโฉนด ก็ยังมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เป็นการเปลี่ยนแปลงเนื้อที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
ขณะที่ นายแทน ก็ยืนยันความบริสุทธิ์ และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบคดีมาโดยตลอด
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ หจก.เรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น นั้น ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2539 ทุน 5 แสนบาท ตั้งอยู่เลขที่ 247/6 หมู่ที่ 3 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ปรากฎชื่อ นาย พงษ์ชัย ฟ้าทวีพร และ นาย สามารถ เรืองศรี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
อย่างไรก็ตาม หจก.แห่งนี้ ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2550 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2550
นำส่งงบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2549 แจ้งว่า ไม่มีรายได้ แต่มีรายจ่ายรวม 3,120 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,120 บาท
ทั้งหมด คือ ข้อมูลในแฟ้มคดีข่าว เขาแพง! ก่อนศาลอาญาพิพากษาจำคุก 'แทน เทือกสุบรรณ'3 ปี พร้อมพวก ในวันที่ 21 ก.ย.2559 ที่ผ่านมา แบบสดๆ ร้อนๆ
"..นายสามารถ เรืองศรี หนึ่งในหุ้นส่วน หจก. เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นนายหน้าจัดหา รวบรวมที่ดินให้นักธุรกิจซึ่งเข้าไปลงทุนในพื้นที่ ซึ่งนายสามารถยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์และได้นำที่ดินส่วนหนึ่งได้มาขายต่อให้นักการเมือง และเครือญาติรวมถึงแปลงที่มีชื่อนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณถือครอง.."

กลายเป็นข่าวดัง ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนทันที!
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2559 ศาลอาญา ได้พิพากษาลงโทษจำคุก นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล คนละ 3 ปี และให้ลงโทษจำคุก นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร และนายสามารถ เรืองศรี คนละ 5 ปี ในคดีการบุกรุกที่ดินของรัฐ และป่าในพื้นที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี (คดีเขาแพง) ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่บนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ
ขณะที่ ในคำพิพากษา ระบุว่า "ป่าไม้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรที่ประชาชนจะต้องร่วมกันหวงแหนบำรุงรักษาให้อุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน มิใช่เป็นของส่วนตัวแก่ผู้ใด การกระทำของจำเลยทั้งสี่มีผล กระทบต่อการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของ ดิน น้ำ อากาศ และป่าไม้ ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อันเป็นต้นเหตุของความแห้งแล้ง และภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก สภาพความผิดจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ และให้จำเลยทั้งสี่ คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสี่ ออกจากที่ดินและป่าไม้ บริเวณที่เกิดเหตุ"
(อ่านประกอบ : ศาลอาญา พิพากษาจำคุก 'แทน เทือกสุบรรณ' 3 ปี พร้อมพวก-คดีเขาแพง)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบแฟ้มคดีข่าว 'เปิดโปงขบวนการฮุบที่ดินเขาแพง' ที่จัดทำโดย กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เพื่อส่งเข้าประกวดรางวัลข่าวอิศรา อมันตกุล เมื่อปี 2553 มีการระบุที่มาที่ไปของข่าวชิ้นนี้ ดังนี้
ผู้สื่อข่าวได้เริ่มพบควมผิดปกติของขบวนการดังกล่าวจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายค้าที่เตรียมจะยื่นถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณรองรายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นการถือครองที่ดินซึ่งได้มาโดยมิชอบในลักษณะนอมินี
ขณะที่จากการติดตามตรวจสอบและรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งลงพื้นที่เขาแพง ต.แม่น้ำ และต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบกระบวนการรุกพื้นที่ป่า ที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักการเมือง ข้าราชการที่เกี่ยวข้องดังนี้
พฤติการณ์ของนักการเมืองได้บุกรุกทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ โดยการบุกรุกเขากระทำการออกโฉนดอันเป็นเอกสารสิทธิ์และเตรียมจัดสรรที่ดินขาย โดยจงใจปกปิดและแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จในขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีนี้มีข้อพิรุธเกี่ยวกับการปกปิดที่ดินให้อยู่ในการครอบครองของบุคคลอื่นในลักษณะตัวแทนถือครองกรรมสิทธิ์โดยทางอ้อมหรือ นอมินีเกี่ยวกับที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
โดยจากการติดตามตรวจสอบและสัมภาษณ์นายสามารถ เรืองศรี หนึ่งในหุ้นส่วน หจก. เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นนายหน้าจัดหา รวบรวมที่ดินให้นักธุรกิจซึ่งเข้าไปลงทุนในพื้นที่ ซึ่งนายสามารถยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์และได้นำที่ดินส่วนหนึ่งได้มาขายต่อให้นักการเมือง และเครือญาติรวมถึงแปลงที่มีชื่อนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณถือครอง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้นำเอกสารหลักฐานรายการซื้อที่ดินชาวบ้าน จากทายาทนักธุรกิจที่มอบเอกสารการบริจาคที่ดินกว่า 4 พันไร่คืนให้แก่รัฐออกมาเปิดเผย โดยเกือบทั้งหมดเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่นายสามารถ เรืองศรี รวบรวมมาให้ ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ยืนยันว่ามีการบุกรุกที่ดินรัฐจริง
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบว่า มีการทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดิน ที่เชื่อว่านายสุเทพ ได้ให้ลูกชายคือ นายแทน เทือกสุบรรณ เป็นตัวแทน ซึ้อและถือครอง ที่ดินแทนตงเองคือ โฉนดเลขที่ 28109 ระวาง 4928 ll 0256 เลขที่ดิน 39 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 62 ไร่ 1 งาน 97 ตารางวา
บทสรุปคดีนี้ ได้ระบุถึงการกระทำผิด เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินของรัฐ และป่าไม้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2584 ด้วยการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ จากการถือครองที่ดินบริเวณเขาแพง หมู่ที่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎธานี ของนายแทน เทือกสุบรรณ รวมทั้งการตรวจสอบการถือครองที่ดินในบริเวณภูเขาลูกเดียวกัน ที่มีพื้นที่ติดต่อกันของ หจก.เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น ในบริเวณหมู่ที่ 5 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน
ประเด็นสำคัญที่พบคือการตรวจสอบความผิดของนักการเมือง ที่ผลสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกี่ยวกับการครอบครองที่ดินบนเกาะสมุยอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการกระทำผิดรัฐธรรมนูญและประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเฉพาะประเด็นปัญหาที่พบระหว่างการตรวจสอบกรณีที่ดินเขาแพงคือ
กรณีการได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นที่ดินสาธารณะ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขา สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกินกว่า 200 เมตร และมีความลาดชันเกิน 35 องศา
ข้อสงสัยในการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ ที่ไม่มีการครอบครองและทำประโยชน์จริง ส่วนที่ทำประโยชน์จริงเป็นส่วนน้อยซึ่งเกิดจากการบุกรุกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ปัญหาการใช้เอกสาร ส.ค.1 และน.ส.3ก. เป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดิน ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และไม่ดำเนินการตามขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินโดยชอบ
กระบวนการออกเอกสาร ส.ค. 1 และขอออกเป็น น.ส.3ก. มีเนื้อที่เพิ่มเป็นเท่าตัว แม้แต่ น.ส.3ก. เมื่อออกเป็นโฉนด ก็ยังมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เป็นการเปลี่ยนแปลงเนื้อที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
ขณะที่ นายแทน ก็ยืนยันความบริสุทธิ์ และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบคดีมาโดยตลอด
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ หจก.เรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น นั้น ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2539 ทุน 5 แสนบาท ตั้งอยู่เลขที่ 247/6 หมู่ที่ 3 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ปรากฎชื่อ นาย พงษ์ชัย ฟ้าทวีพร และ นาย สามารถ เรืองศรี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
อย่างไรก็ตาม หจก.แห่งนี้ ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2550 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2550
นำส่งงบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2549 แจ้งว่า ไม่มีรายได้ แต่มีรายจ่ายรวม 3,120 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,120 บาท
ทั้งหมด คือ ข้อมูลในแฟ้มคดีข่าว เขาแพง! ก่อนศาลอาญาพิพากษาจำคุก 'แทน เทือกสุบรรณ'3 ปี พร้อมพวก ในวันที่ 21 ก.ย.2559 ที่ผ่านมา แบบสดๆ ร้อนๆ
แสดงความคิดเห็น
✿ ศาลอาญา พิพากษาจำคุก "แทน เทือกสุบรรณ" 3 ปี พร้อมพวก - คดีเขาแพง..."ทวน" กะ "แป๊ะ" ได้เฮ แล้วคราวนี้
✿ ศาลอาญา พิพากษาจำคุก "แทน เทือกสุบรรณ" 3 ปี พร้อมพวก - คดีเขาแพง..
-----------
ศาลอาญา พิพากษาจำคุก "แทน เทือกสุบรรณ" 3 ปี พร้อมพวก - คดีเขาแพง! หลังต่อสู้กันมายาวนานกว่า 5 ปี ระบุทำลายป่าสมบัติล้ำค่าของชาติ เป็นความผิดร้ายแรง ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2559 ศาลอาญา ได้พิพากษาลงโทษจำคุก "นายแทน เทือกสุบรรณ" บุตรชาย "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) และ นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล คนละ 3 ปี และให้ลงโทษจำคุก นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร และนายสามารถ เรืองศรี คนละ 5 ปี ในคดีการบุกรุกที่ดินของรัฐ และป่าในพื้นที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่บนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ
โดยคดีนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในยุค นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีดีเอสไอ และคณะกรรมการคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ สอบสวนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 รายดังกล่าว ในข้อหา “ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่นสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่บนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ ดังนี้
1. น.ส.3 ก.เลขที่ 3301, 3302 และ 3285 หมู่ที่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ส่วนที่ออกโดยมิชอบ 31-2-97 ไร่ โดยในส่วนนี้ได้ดำเนินคดีกับนายพงษ์ชัย และนายสามารถ และ 2.โฉนดที่ดินเลขที่ 28109 เฉพาะส่วนที่เกินจากที่ดินตาม น.ส.3 ก.เลขที่ 3301, 3302 และ 3285 มีการรวมแปลงเป็นโฉนดเลขที่ 28109 เป็นเนื้อที่ 14 ไร่ หมู่ที่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ต่อมามีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และมีความเห็นสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งอัยการคดีพิเศษพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย กระทำความผิดตาม พรบ.ป่าไม่จริง จึงมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลอาญา และมีการต่อสู้คดีมาเป็นระยะเวลากว่า5ปี จนกระทั่งศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 21 ก.ย.2559 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในคำพิพากษาระบุว่า ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรที่ประชาชนจะต้องร่วมกันหวงแหนบำรุงรักษาให้อุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน มิใช่เป็นของส่วนตัวแก่ผู้ใด การกระทำของจำเลยทั้งสี่มีผล กระทบต่อการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของ ดิน น้ำ อากาศ และป่าไม้ ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อันเป็นต้นเหตุของความแห้งแล้ง และภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก
สภาพความผิดจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ และให้จำเลยทั้งสี่ คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสี่ ออกจากที่ดินและป่าไม้ บริเวณที่เกิดเหตุ
ในที่สุดเขาก็ไม่อาจบิดเบือนช่วยเหลือได้ เพราะหากละเว้นเพราะเห็นแก่ "ลุงกำนัน" คนเดียว
คนอื่นที่โดนคดีไปแล้วก็คงจะโวยวายหรือฟ้องร้องเอาแน่ โทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
แต่บอกเป็นความผิดร้ายแรง โทษแค่ 3 ปี มันออกจะน้อยไปหน่อยนะ หรือว่าไง "ลุงกำนัน"
ยังมีคดีของน้องๆ อีกหลายคนนี่
ป.ล. กด + สักนิด หากคิดว่ามีประโยชน์