หลังจากที่เราสับสบกับชีวิตคู่หลังแต่งงานมาซักระยะ ว่าควรจะอยู่ต่อหรือแยกทางกันดี วันก่อนเราได้อ่าน กระทู้จากสมาชิกท่านนึงประหนึ่งว่าเป็นสามีเรามาตั้งกระทู้ซะเอง ขออนุญาต tag ท่าน จขกท. นะคะ
http://pantip.com/topic/35607185
เรื่องของเรามีอยู่ว่า เราเป็นแฟนกับสามีมานาน 12 ปีก่อน ก่อนตัดสินใจแต่งงานกันปีทีแล้ว จนถึงตอนนี้ก็แต่งงานกันครบ 1 ปีพอดี
ช่วงที่เป็นแฟนกัน เค้าให้เกียรติเราตลอดค่ะ ไม่เคยล่วงเกินเราแม้แต่ครั้งเดียว มากสุดคือหอมแก้ม โอบไหล่ และกอดกันเท่านั้น ไม่ว่าจะไปเที่ยวกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศกันแบบ 2 คน ทั้งทีบรรยากาศของหลายประเทศนั้น คู่แต่งงานส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ฮันนีมูนก็ตาม แต่เราก็เที่ยวกันแบบคนรักกัน ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอย่างว่าเลย เราเคยคุยกับเค้าว่า ไม่ว่าจะยังไง เราขอให้มีเรื่องอย่างว่า เกิดขึ้นหลังจากแต่งงานกันแล้วเท่านั้น ซึ่งเค้าก็เข้าใจดี ตอนคบกันเป็นแฟน เหตุการณ์ปกติค่ะ มีทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้างเป็นปกติของคนคบกัน
ดูเผินๆเราทั้งคู่เหมือนจะดูเหมาะสมกันในสายตาคนภายนอก ทั้งหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน และการศึกษา สามีเราจัดได้ว่า profile ดีคนนึงเลยทีเดียว จบต่างประเทศและทำงานหน่วยงานมีชื่อแห่งหนึ่งค่ะ ช่วงก่อนแต่งานประมาณ 2-3 ปี เราเรื่มมีความรู้สึกว่า ทุกอย่างนิ่ง เริ่มกลัวกับอนาคต จากที่แฟนเราเคยคุยเรื่องแต่งงานกันก่อนหน้านี้แบบไม่จริงจัง เรากลับพบว่า เค้าเฉยๆ กับเราเหมือนเป็นเพื่อนกันไปแล้ว จากที่เราเห็นเค้าเฉย เราก็เฉยชากับเค้าบ้าง เริ่มทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้น จากเมื่อก่อนเราเกรงใจ พูดจาดี ให้กำลังใจเค้าเสมอๆ กลายเป็นหลังๆ เรามีแต่ความไม่เชื่อใจ ขัดใจไปทุกเรื่อง ไม่พอใจเราก็ว่าเค้าตรงๆ แรงๆ แต่เราไม่เคยใช้คำหยาบคายกับเค้าเลยนะคะ เรารู้สึกมาตลอดว่า เค้าไม่ได้รักเราแล้ว ที่คบๆ กันอยู่คือ ต่างคนต่างไม่มีใคร และเสียดายเวลาที่คบกันมาเท่านั้นเอง (ส่วนเค้ากลับบอกว่า ยังรักเราอยู่) ความคิดนี้จากแรกๆ เหมือนไม่มีอะไรรุนแรง แต่มันสะสมและฝังในใจเราตลอดมา บางครั้งเราอัดอั้นตันใจ หาทางระบายออกไม่ได้ กลับมาบ้านโยนขว้างสิ่งของจนแตกก็มีค่ะ เราเคยคุยกับเค้าเรื่องความสัมพันธ์และหลายๆ อย่างที่ไม่ตรงกัน เค้าก็บอกว่าเค้าจะเปลี่ยน แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จนในที่สุด ความเชื่อใจของเรามันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ทั้งๆ ที่เราเองก็ยังลังเลอยู่ว่าไปรอดหรือไม่รอด สุดท้ายเราก็ตัดสินใจแต่งงานกับเค้าค่ะ ด้วยความหวังว่า ทุกอย่างมันจะดีขึ้นถ้าได้มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
แต่เปล่าเลย สิ่งที่เราคิด เราคาดหวังมันกลับทำให้เรารู้สึกแย่ หดหู่มากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกได้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าและอารมณ์รุนแรงขึ้นเมื่อไม่พอใจกับการกระทำของสามี เวลาไม่พอใจ เราเคยกระแทกประตูแรงๆ ใส่เค้า ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ดี แต่เราก็ยังทำ หวังจะให้เค้ารับรู้ว่า เราสุดทนแค่ไหน
ตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงานกัน จนครบวันนี้ 1 ปี เรายังไม่เคยมีอะไรกับสามีเลยค่ะ แปลกไม๊คะ แต่นี่คือเรื่องจริงค่ะ ทุกคืนสามีจะแค่ หอมแก้มและก็นอนจับมือเรา....แค่นั้นเองจริงๆ เราเคยถามเค้าแอบอ้อมๆ ว่า เค้าไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ เค้าตอบว่า การได้กอด ได้จับมือเราก่อนนอน เค้าก็พอใจและมีความสุขแล้ว
.... แต่สำหรับเรา มันไม่ใช่ค่ะ เรากลับรู้สึกว่า เค้าไม่รักเราแล้ว เค้าไม่ห่วงเราเลย ทั้งที่เค้าก็บอกรักเราทุกครั้ง (เวลาที่เราถาม) แต่เราจับต้องความรักเค้าไม่ได้ มาพักหลังๆ เค้าหาว่า เราเรียกร้องความรักจากเค้ามากเกินไป ทั้งที่เค้าทำดีกับเราทุกอย่าง ไม่เคยคิดนอกใจเราแม้แต่ครั้งเดียว การที่เค้าเลือกแต่งงานกับเรา คือเค้ามั่นใจในตัวเรา แต่เราไม่เคยมั่นใจในตัวเค้าเลย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเค้าก็บอกว่า เค้าเหนื่อย วันนั้นเราทะเลาะกับเค้าหนักค่ะ และยืดเยื้อกันมาเข้าวันที่ 3 แล้ว บอกตรงๆ มันทำลายสุขภาพจิตของเราและเค้ามากๆ เลย เราเคยพูดอ้อมๆ กับสามีว่า อายุเราก็ไม่ได้น้อยแล้ว เราอยากมีลูก เค้าเคยคิดเรื่องลูก เรื่องครอบครัวบ้างไม๊ เค้าตอบกลับเรามาว่า คิดสิ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม... แค่นี้ค่ะ เค้าให้คำอธิบายเราได้เท่านี้ พอเราถามอีกเค้าก็หาว่า เค้าไปกดดันเค้า คาดคั้นจากเค้า สารพัดอย่าง อ้อ เค้าเคยบอกเราด้วยว่า เค้าไม่ได้เป็นเกย์นะคะ ประเด็นนี้เคยคุยกันแล้ว
ตอนนี้ สับสนมากเลยค่ะ ร้องไห้มาก็หลายรอบ ไปทำงานก็มีอาการน้ำตาตกใน ไม่มีสมาธิในการทำงาน อยากหย่า อยากยุติความสัมพันธ์แค่นี้ อยากไปเจอคนใหม่ ที่พร้อมจะสร้างครอบครัวไปกับเรา แต่เราไม่รู้จะปรึกษาใครดี กับเพื่อนๆ ก็ไม่อยากให้มารับรู้ปัญหาในครอบครัว ตอนนี้ เราหันกลับมามองตัวเอง หรือจะเป็นอย่างที่สามีว่าจริงๆ ว่าเราเรียกร้องความรักจากเค้ามากเกินไป
ความไม่ลงตัวของชีวิตคู่ เมื่อสามีบอกว่าเราเรียกร้องความรักจากเค้ามากเกินไป
เรื่องของเรามีอยู่ว่า เราเป็นแฟนกับสามีมานาน 12 ปีก่อน ก่อนตัดสินใจแต่งงานกันปีทีแล้ว จนถึงตอนนี้ก็แต่งงานกันครบ 1 ปีพอดี
ช่วงที่เป็นแฟนกัน เค้าให้เกียรติเราตลอดค่ะ ไม่เคยล่วงเกินเราแม้แต่ครั้งเดียว มากสุดคือหอมแก้ม โอบไหล่ และกอดกันเท่านั้น ไม่ว่าจะไปเที่ยวกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศกันแบบ 2 คน ทั้งทีบรรยากาศของหลายประเทศนั้น คู่แต่งงานส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ฮันนีมูนก็ตาม แต่เราก็เที่ยวกันแบบคนรักกัน ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอย่างว่าเลย เราเคยคุยกับเค้าว่า ไม่ว่าจะยังไง เราขอให้มีเรื่องอย่างว่า เกิดขึ้นหลังจากแต่งงานกันแล้วเท่านั้น ซึ่งเค้าก็เข้าใจดี ตอนคบกันเป็นแฟน เหตุการณ์ปกติค่ะ มีทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้างเป็นปกติของคนคบกัน
ดูเผินๆเราทั้งคู่เหมือนจะดูเหมาะสมกันในสายตาคนภายนอก ทั้งหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน และการศึกษา สามีเราจัดได้ว่า profile ดีคนนึงเลยทีเดียว จบต่างประเทศและทำงานหน่วยงานมีชื่อแห่งหนึ่งค่ะ ช่วงก่อนแต่งานประมาณ 2-3 ปี เราเรื่มมีความรู้สึกว่า ทุกอย่างนิ่ง เริ่มกลัวกับอนาคต จากที่แฟนเราเคยคุยเรื่องแต่งงานกันก่อนหน้านี้แบบไม่จริงจัง เรากลับพบว่า เค้าเฉยๆ กับเราเหมือนเป็นเพื่อนกันไปแล้ว จากที่เราเห็นเค้าเฉย เราก็เฉยชากับเค้าบ้าง เริ่มทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้น จากเมื่อก่อนเราเกรงใจ พูดจาดี ให้กำลังใจเค้าเสมอๆ กลายเป็นหลังๆ เรามีแต่ความไม่เชื่อใจ ขัดใจไปทุกเรื่อง ไม่พอใจเราก็ว่าเค้าตรงๆ แรงๆ แต่เราไม่เคยใช้คำหยาบคายกับเค้าเลยนะคะ เรารู้สึกมาตลอดว่า เค้าไม่ได้รักเราแล้ว ที่คบๆ กันอยู่คือ ต่างคนต่างไม่มีใคร และเสียดายเวลาที่คบกันมาเท่านั้นเอง (ส่วนเค้ากลับบอกว่า ยังรักเราอยู่) ความคิดนี้จากแรกๆ เหมือนไม่มีอะไรรุนแรง แต่มันสะสมและฝังในใจเราตลอดมา บางครั้งเราอัดอั้นตันใจ หาทางระบายออกไม่ได้ กลับมาบ้านโยนขว้างสิ่งของจนแตกก็มีค่ะ เราเคยคุยกับเค้าเรื่องความสัมพันธ์และหลายๆ อย่างที่ไม่ตรงกัน เค้าก็บอกว่าเค้าจะเปลี่ยน แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จนในที่สุด ความเชื่อใจของเรามันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ทั้งๆ ที่เราเองก็ยังลังเลอยู่ว่าไปรอดหรือไม่รอด สุดท้ายเราก็ตัดสินใจแต่งงานกับเค้าค่ะ ด้วยความหวังว่า ทุกอย่างมันจะดีขึ้นถ้าได้มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
แต่เปล่าเลย สิ่งที่เราคิด เราคาดหวังมันกลับทำให้เรารู้สึกแย่ หดหู่มากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกได้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าและอารมณ์รุนแรงขึ้นเมื่อไม่พอใจกับการกระทำของสามี เวลาไม่พอใจ เราเคยกระแทกประตูแรงๆ ใส่เค้า ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ดี แต่เราก็ยังทำ หวังจะให้เค้ารับรู้ว่า เราสุดทนแค่ไหน
ตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงานกัน จนครบวันนี้ 1 ปี เรายังไม่เคยมีอะไรกับสามีเลยค่ะ แปลกไม๊คะ แต่นี่คือเรื่องจริงค่ะ ทุกคืนสามีจะแค่ หอมแก้มและก็นอนจับมือเรา....แค่นั้นเองจริงๆ เราเคยถามเค้าแอบอ้อมๆ ว่า เค้าไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ เค้าตอบว่า การได้กอด ได้จับมือเราก่อนนอน เค้าก็พอใจและมีความสุขแล้ว
.... แต่สำหรับเรา มันไม่ใช่ค่ะ เรากลับรู้สึกว่า เค้าไม่รักเราแล้ว เค้าไม่ห่วงเราเลย ทั้งที่เค้าก็บอกรักเราทุกครั้ง (เวลาที่เราถาม) แต่เราจับต้องความรักเค้าไม่ได้ มาพักหลังๆ เค้าหาว่า เราเรียกร้องความรักจากเค้ามากเกินไป ทั้งที่เค้าทำดีกับเราทุกอย่าง ไม่เคยคิดนอกใจเราแม้แต่ครั้งเดียว การที่เค้าเลือกแต่งงานกับเรา คือเค้ามั่นใจในตัวเรา แต่เราไม่เคยมั่นใจในตัวเค้าเลย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเค้าก็บอกว่า เค้าเหนื่อย วันนั้นเราทะเลาะกับเค้าหนักค่ะ และยืดเยื้อกันมาเข้าวันที่ 3 แล้ว บอกตรงๆ มันทำลายสุขภาพจิตของเราและเค้ามากๆ เลย เราเคยพูดอ้อมๆ กับสามีว่า อายุเราก็ไม่ได้น้อยแล้ว เราอยากมีลูก เค้าเคยคิดเรื่องลูก เรื่องครอบครัวบ้างไม๊ เค้าตอบกลับเรามาว่า คิดสิ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม... แค่นี้ค่ะ เค้าให้คำอธิบายเราได้เท่านี้ พอเราถามอีกเค้าก็หาว่า เค้าไปกดดันเค้า คาดคั้นจากเค้า สารพัดอย่าง อ้อ เค้าเคยบอกเราด้วยว่า เค้าไม่ได้เป็นเกย์นะคะ ประเด็นนี้เคยคุยกันแล้ว
ตอนนี้ สับสนมากเลยค่ะ ร้องไห้มาก็หลายรอบ ไปทำงานก็มีอาการน้ำตาตกใน ไม่มีสมาธิในการทำงาน อยากหย่า อยากยุติความสัมพันธ์แค่นี้ อยากไปเจอคนใหม่ ที่พร้อมจะสร้างครอบครัวไปกับเรา แต่เราไม่รู้จะปรึกษาใครดี กับเพื่อนๆ ก็ไม่อยากให้มารับรู้ปัญหาในครอบครัว ตอนนี้ เราหันกลับมามองตัวเอง หรือจะเป็นอย่างที่สามีว่าจริงๆ ว่าเราเรียกร้องความรักจากเค้ามากเกินไป