อีกสักที กับ หนี้ครัวเรือน ... /sao..เหลือ..noi

หนี้ครัวเรือนยังกระฉูด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปี..เหะหะ พาที ...ซูม ..ไทยรัฐออนไลน์

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
โดย ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์
ออกมาแถลงผลการสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2559 พบว่า
หนี้สินโดยเฉลี่ยต่อครัวเรือนของคนไทยพุ่งกระฉูดขึ้นมาอีก

จากกลุ่มตัวอย่าง 1,221 ราย ที่ทำการสำรวจระหว่าง 1-12 ก.ย. 2559
ที่ผ่านไป ปรากฏว่า ครัวเรือนถึง 85 เปอร์เซ็นต์ มีหนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่เฉลี่ย
298,006 บาท หรือปัดเศษให้ดูง่ายๆก็คือ 300,000 บาทต่อครัวเรือน
นับเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 9 ปี ตั้งแต่มีการสำรวจเมื่อปี 2551 เป็นต้นมา

สำหรับอัตราเพิ่มนั้นปรากฏว่า การสำรวจปีนี้เพิ่มจากปีที่แล้ว 20.2 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มสูงสุดใน 8 ปี นับแต่มีการสำรวจ และยังเป็นการเพิ่ม
ในอัตราเลข 2 หลัก ติดต่อกัน 4 ปีซ้อนๆ ตั้งแต่ปี 2556

ในส่วนของสาเหตุของการเป็นหนี้เพิ่มขึ้นนั้น ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
ม.หอการค้าไทย สรุปว่า ประมาณ 19 เปอร์เซ็นต์ มาจากการซื้อสินทรัพย์ถาวร
เพิ่มขึ้น เช่น บ้าน รถยนต์ ฯลฯ จากการผ่อนสินค้าเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ และจากการ
ที่ค่าครองชีพปรับสูงขึ้นประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์

ในขณะที่กลุ่มรับจ้างการเกษตร หรือเกษตรกรมีรายได้ลดลงจาก
ปัญหาภัยแล้ง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำให้มีปัญหาด้านหนี้สินเพิ่มขึ้น

ดร.ธนวรรธน์ ฝากข้อสังเกตไว้ในตอนท้ายว่า แม้ยอดหนี้ครัวเรือนจะสูงขึ้น
แต่ก็ยังไม่น่าวิตก เพราะส่วนใหญ่เพิ่มจากการซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์
และกู้เพื่อการลงทุน แม้จะสูงถึง 83-84 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แต่ก็มีหลักทรัพย์
ค้ำประกัน

อาจมีปัญหาบ้างในส่วนหนี้สินของภาคเกษตร แต่รัฐบาลก็รับรู้และติดตาม
ใกล้ชิด และพยายามหามาตรการช่วยเหลือเป็นระยะๆดังนั้นในภาพรวม
สถานการณ์หนี้ครัวเรือนปีนี้ แม้จะเพิ่มสูง แต่ก็ยังไม่น่าห่วง

นอกจากนี้ การสำรวจครั้งนี้ยังมีภาพที่ดีเกิดขึ้นภาพหนึ่งคือ
หนี้นอกระบบลดลงอย่างชัดเจนมากจากร้อยละ 51.3 ในปี 58
มาอยู่ที่ร้อยละ 37.7 ในปี 59 หรือลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุด
ในรอบ 8 ปี

ผมก็ขออนุญาตคัดลอกผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
มาเผยแพร่อีกครั้ง พร้อมกับขอขอบคุณที่ได้ดำเนินการสำรวจมาอย่าง
ต่อเนื่อง ทำให้เห็นภาพความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน

แม้จะใช้ตัวอย่างในการสำรวจไม่มากนัก เพียงแค่ 1,221 รายเท่านั้น
แต่ถ้าหากการเลือกตัวอย่างเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมก็จะสามารถ
ใช้เป็นตัวแทนของทั้งประเทศได้อย่างใกล้เคียงความเป็นจริง

ผมขออนุโลมว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เลือกตัวอย่าง
มาอย่างดีแล้ว เพราะทำมาถึง 9 ปี ดังนั้น ผลการสำรวจจึงน่า
จะใช้บ่งบอกความเป็นจริงในประเทศไทยได้พอสมควร

เมื่อสะท้อนความเป็นจริงได้เช่นนี้ เราก็ควรเชื่อท่านอาจารย์ละครับว่า
สถานการณ์หนี้สินต่อครัวเรือนครั้งนี้ยังไม่น่ากังวลนัก

แต่เผอิญว่าผมเคยเป็นคนที่มีหนี้สินมาก่อน
และพบว่าช่วงเวลาที่มีหนี้สินนั้นมันเจ็บปวดจริงๆ

อีกทั้งผมก็เคยใช้ชีวิตสัมผัสกับพี่น้องเกษตรกรในชนบทมา
ร่วม 20 ปี ได้เห็นความทุกข์ความยากจากการมีหนี้สิน เพราะรายได้
ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายของชาวนา ชาวไร่ แล้วก็รู้สึกเวทนาอย่างที่สุด

ดังนั้น แม้สถานการณ์อาจยังไม่น่ากังวลจริงดังที่
ท่าน ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทยแถลงไว้
แต่ผมก็ยังอยากจะฝากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับไปสานเรื่องต่อ

พยายามศึกษาวิเคราะห์เจาะในรายละเอียด ถึงเหตุแนวปัญหา
โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรชาวนา ชาวไร่ ที่ตัวเลขอีกทางหนึ่ง
ระบุย่อว่า มีหนี้สินเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน

แม้รัฐบาลจะดูแลอยู่แล้วในกลุ่มนี้ แต่ก็จะต้องดูแลต่อไป
เพื่อหาทางแก้ไขให้ตรงจุดอย่างที่สุด

ขอให้รัฐบาลนึกอยู่เสมอว่า ขึ้นชื่อว่าปัญหาหนี้สินแล้วเป็นปัญหา
ที่จะต้องกังวล และให้ความเอาใจใส่อยู่ตลอด โดยเฉพาะหนี้สิน
ของเกษตรกรและชาวน


อย่าลืมคำกล่าวที่ว่า ทุกข์ของเกษตรกรหรือทุกข์ของชาวนา คือ
ทุกข์ของแผ่นดินนั้น ยังเป็นความจริงอยู่เสมอครับ สำหรับประเทศไทยของเรา.


“ซูม”

โหวตข่าวนี้

ชอบ 100.0%    ไม่ชอบ 0.0%  สนุก 0.0%   ประหลาดใจ 0.0%   เสียใจ 0.0%  ให้กำลังใจ  0.0%

เนื้อหาจากผู้สนับสนุน

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่