สวัสดีค่ะทุกคน
ช่วงนี้เราเห็นหลายๆกระทู้สอบถามเรื่องการมาทำงานในอังกฤษกันเยอะ เราเลยทำการ์ตูนง่ายๆมาให้ทุกคนอ่านกันค่ะ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจระบบการหางานที่นี่ได้ง่ายขึ้นนะคะ
แนะนำตัวคร่าวๆกันก่อนนิดนึง เรามาเรียนต่อโทที่อังกฤษเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พอเรียนจบปุ๊บ เราก็ทำ Post study work visa ซึ่งเป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คนต่างชาติที่เรียนจบโทจากที่นี่ ทำงานได้ 2 ปีค่ะ (ตอนนี้เค้ายกเลิกวีซ่าประเภทนี้ไปแล้วค่ะ) แล้วเราก็เริ่มทำงานที่แรก หลังจากนั้นทางบริษัทก็ต่อวีซ่ามาให้เรื่อยๆ เราได้วีซ่าทำงานต่อมาอีกเกือบ 5 ปี แล้วเพิ่งเปลี่ยนมาเป็นวีซ่าคู่สมรสเมื่อเร็วๆนี้เองค่ะ
เอาล่ะ กลับมาเรื่องหางานต่อ เราว่าหลักๆการหางานที่นี่มีประมาณ 6 ข้อค่ะ (จริงๆมันรายละเอียดยิบย่อยเยอะมากกกก แต่เราว่านี่คือ 6 ข้อหลักๆนะคะ) ถ้าผิดตรงไหน ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ และรบกวนท้วงติงมาได้เลยนะคะ ยินดีแก้ไขค่า
ป.ล. อันนี้มาจากประสบการณ์ตรงของเรานะคะ เราเองไม่เคยใช้เอเจนซี่และก็ไม่ได้ทำธุรกิจด้านแรงงาน, รับทำวีซ่า หรือ จัดหางานพวกนี้เลย ดังนั้น ถ้ามีผิดพลาดยังไง ขออภัยนะคะ
1. หางานที่ชอบและใช่
เริ่มแรกเลย เขียน CV ค่ะ เราทำอะไรมา ถนัดอะไรมา เรียนที่ไหน ได้รางวัลอะไร ทำอาสาสมัครอะไรบ้าง เขียนไปให้หมด อย่าลืมเช็คแกรมม่าให้ละเอียดด้วยนะคะ จัดหน้าให้สวยๆ เก๋ๆ แล้วเตรียมเข้าเว็บหางานได้เลยค่ะ
เว็บหางานที่นี่มีหลายเว็บมากกก แต่อันที่ดังๆจะหนีไม่พ้น 3-4 อันข้างล่างนี้ค่ะ ที่สำคัญสุดคือ เว็บพวกนี้ เราไม่เสียตังค์นะจ๊ะ ถ้าใครบอกให้จ่ายเงินก่อนอ้างนู่นอ้างนี้ หนีเลยค่ะ อย่าไปหลงกลเชียว
- www.reed.co.uk เว็บใหญ่อลังการ ยอดนิยมของที่นี่ ข้อดีคืองานเยอะ แต่คู่แข่งก็เยอะไปด้วย แต่อย่ากลัวค่ะ มั่นใจเข้าไว้
- www.totaljobs.com ดีพอกัน งานเยอะ หลากหลายค่ะ
- www.indeed.co.uk ไม่ต่างกันเลย นี่ก็ดี โอ๊ย เลือกไม่ถูก เลยเอามาฝากหมดเลยค่ะ
- www.gumtree.com เว็บเล็กๆกลางๆ ข้อดีคือคู่แข่งน้อยกว่าเว็บข้างบนเยอะพอควร (เราได้งานครั้งแรกก็จากที่นี่แหละ) ข้อเสียคืองานน้อยกว่า และมีสแกมเมอร์แฝงตัวมาด้วย ระวังด้วยนะคะ
2. Sponsorship License
พอหางานที่เราชอบได้ปุ๊บ คราวนี้เราต้องเช็คค่ะว่าบริษัทนั้น เค้ามี Sponsorship License รึเปล่า (License อันนี้จะออกไว้ให้บริษัท สามารถจ้างแรงงานต่างชาติได้นั่นเองค่ะ) ตรงนี้ปกติแล้วในเว็บเค้าจะบอกว่า เค้าต้องการคนที่มีวีซ่าทำงานเท่านั้น ต่างชาติสมัครไม่ได้ หรือถ้าเค้าทำได้ เค้าจะเขียนบอกเลยค่ะว่ายินดีรับทำสปอนเซอร์ให้ ตรงนี้เราขอเสริมว่า ถ้าเราหย่อนใบสมัครไปแล้ว เค้าติดต่อมาจะขอสัมภาษณ์ ให้เราบอกเค้าไปตรงๆแต่แรกเลยค่ะว่าเราต้องการ sponsorship ด้วยนะ เพื่อเค้าจะได้เข้าใจ และไม่เสียเวลาทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
ถ้าบริษัทไม่มี sponsorship license เค้าสามารถสมัครกับทางรัฐได้ค่ะ แต่จะมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลาพอสมควรค่ะ
3. เช็คเงินเดือนค่ะ
หลักๆคือเงินเดือนที่เค้าเสนอมา จะต้อง
- มากกว่า £20,800 ต่อปี
- มากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ ของงานที่เราจะสมัครค่ะ
เช็คเงินเดือนขั้นต่ำของแต่ละตำแหน่งได้ที่
https://www.gov.uk/government/uploads/system/uploads/attachment_data/file/423732/codes_of_practice_april_2015.pdf นะคะ
4. เช็คว่าตำแหน่งงานที่เราสมัครนั้น เทียบเท่าหรือสูงกว่า NQF level 6
อีกข้อนึงที่เราต้องเช็คคือ ตำแหน่งงานที่เราสมัครนั้น เทียบเท่าหรือสูงกว่า NQF level 6 ค่ะ อธิบายนิดนึงว่า NQF คือ National Qualification Framework ค่ะ เอาง่ายๆเลยคือระดับความสามารถ + วุฒิของแต่ละตำแหน่งค่ะ ยิ่งเลเวลสูง งานจะยิ่งซับซ้อนหรือต้องใช้ความสามารถมาก เป็นต้นค่ะ อ่านรายละเอียดของแต่ละระดับในเว็บข้างล่างได้เลยค่ะ เค้าอธิบายง่ายและดีมากกกก
https://www.nidirect.gov.uk/articles/qualifications-what-different-levels-mean
5. Resident labour market test
ถ้าเราผ่านหมดทั้ง 4 ข้อข้างบน รวมทั้งได้เรียกสัมภาษณ์ และบริษัทชอบเรา อยากได้เรามาทำงาน เราต้องแน่ใจด้วยค่ะว่าเค้าทำ Resident labour market test สำหรับตำแหน่งนี้เรียบร้อย
Resident labour market test คือการประกาศหางานผ่านช่องทางที่ทางรัฐกำหนดค่ะ ทางบริษัทต้องลงประกาศหางานอันนี้ติดต่อกัน 28 วัน (หรือทำใน 2 ขั้นตอน แต่อันนี้เราขอข้ามนะคะ เพราะบริษัทจะเป็นคนทำค่ะ) พอครบกำหนดวันแล้ว ถ้าเค้าหาคนที่เหมาะสมกว่าเราไม่ได้ เค้าก็สามารถเสนองานให้เราได้เลยค่ะ
6. พอผ่านหมดทุกข้อแล้ว มันจะมีรายละเอียดยิบย่อยอีกพอสมควร เช่น เงินฝากในบัญชีของเราต้องมีไม่น้อยกว่าเท่านั้นเท่านี้, เราต้องจ่ายค่าประกันพยาบาล (NHS Surcharge) และอื่นๆค่ะ แต่รายละเอียดตรงนี้ส่วนใหญ่ HR จะช่วยชี้แนะให้เราได้ค่ะ
นี่ล่ะค่ะ 6 ข้อหลักๆที่เราว่า แต่อย่างที่บอกแต่แรกนะคะว่ารายละเอียดข้างในจะมีอีกเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าผ่านข้อหลักๆไปได้ เราว่าน่ามีลุ้นค่ะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่สนใจหางานในอังกฤษนะคะ สู้ๆค่ะ
[comic] ขั้นตอนการหางานทำในอังกฤษฉบับการ์ตูน (แบบเข้าใจง้ายง่าย)
สวัสดีค่ะทุกคน
แนะนำตัวคร่าวๆกันก่อนนิดนึง เรามาเรียนต่อโทที่อังกฤษเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พอเรียนจบปุ๊บ เราก็ทำ Post study work visa ซึ่งเป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คนต่างชาติที่เรียนจบโทจากที่นี่ ทำงานได้ 2 ปีค่ะ (ตอนนี้เค้ายกเลิกวีซ่าประเภทนี้ไปแล้วค่ะ) แล้วเราก็เริ่มทำงานที่แรก หลังจากนั้นทางบริษัทก็ต่อวีซ่ามาให้เรื่อยๆ เราได้วีซ่าทำงานต่อมาอีกเกือบ 5 ปี แล้วเพิ่งเปลี่ยนมาเป็นวีซ่าคู่สมรสเมื่อเร็วๆนี้เองค่ะ
เอาล่ะ กลับมาเรื่องหางานต่อ เราว่าหลักๆการหางานที่นี่มีประมาณ 6 ข้อค่ะ (จริงๆมันรายละเอียดยิบย่อยเยอะมากกกก แต่เราว่านี่คือ 6 ข้อหลักๆนะคะ) ถ้าผิดตรงไหน ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ และรบกวนท้วงติงมาได้เลยนะคะ ยินดีแก้ไขค่า
ป.ล. อันนี้มาจากประสบการณ์ตรงของเรานะคะ เราเองไม่เคยใช้เอเจนซี่และก็ไม่ได้ทำธุรกิจด้านแรงงาน, รับทำวีซ่า หรือ จัดหางานพวกนี้เลย ดังนั้น ถ้ามีผิดพลาดยังไง ขออภัยนะคะ
1. หางานที่ชอบและใช่
เริ่มแรกเลย เขียน CV ค่ะ เราทำอะไรมา ถนัดอะไรมา เรียนที่ไหน ได้รางวัลอะไร ทำอาสาสมัครอะไรบ้าง เขียนไปให้หมด อย่าลืมเช็คแกรมม่าให้ละเอียดด้วยนะคะ จัดหน้าให้สวยๆ เก๋ๆ แล้วเตรียมเข้าเว็บหางานได้เลยค่ะ
เว็บหางานที่นี่มีหลายเว็บมากกก แต่อันที่ดังๆจะหนีไม่พ้น 3-4 อันข้างล่างนี้ค่ะ ที่สำคัญสุดคือ เว็บพวกนี้ เราไม่เสียตังค์นะจ๊ะ ถ้าใครบอกให้จ่ายเงินก่อนอ้างนู่นอ้างนี้ หนีเลยค่ะ อย่าไปหลงกลเชียว
- www.reed.co.uk เว็บใหญ่อลังการ ยอดนิยมของที่นี่ ข้อดีคืองานเยอะ แต่คู่แข่งก็เยอะไปด้วย แต่อย่ากลัวค่ะ มั่นใจเข้าไว้
- www.totaljobs.com ดีพอกัน งานเยอะ หลากหลายค่ะ
- www.indeed.co.uk ไม่ต่างกันเลย นี่ก็ดี โอ๊ย เลือกไม่ถูก เลยเอามาฝากหมดเลยค่ะ
- www.gumtree.com เว็บเล็กๆกลางๆ ข้อดีคือคู่แข่งน้อยกว่าเว็บข้างบนเยอะพอควร (เราได้งานครั้งแรกก็จากที่นี่แหละ) ข้อเสียคืองานน้อยกว่า และมีสแกมเมอร์แฝงตัวมาด้วย ระวังด้วยนะคะ
2. Sponsorship License
พอหางานที่เราชอบได้ปุ๊บ คราวนี้เราต้องเช็คค่ะว่าบริษัทนั้น เค้ามี Sponsorship License รึเปล่า (License อันนี้จะออกไว้ให้บริษัท สามารถจ้างแรงงานต่างชาติได้นั่นเองค่ะ) ตรงนี้ปกติแล้วในเว็บเค้าจะบอกว่า เค้าต้องการคนที่มีวีซ่าทำงานเท่านั้น ต่างชาติสมัครไม่ได้ หรือถ้าเค้าทำได้ เค้าจะเขียนบอกเลยค่ะว่ายินดีรับทำสปอนเซอร์ให้ ตรงนี้เราขอเสริมว่า ถ้าเราหย่อนใบสมัครไปแล้ว เค้าติดต่อมาจะขอสัมภาษณ์ ให้เราบอกเค้าไปตรงๆแต่แรกเลยค่ะว่าเราต้องการ sponsorship ด้วยนะ เพื่อเค้าจะได้เข้าใจ และไม่เสียเวลาทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
ถ้าบริษัทไม่มี sponsorship license เค้าสามารถสมัครกับทางรัฐได้ค่ะ แต่จะมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลาพอสมควรค่ะ
3. เช็คเงินเดือนค่ะ
หลักๆคือเงินเดือนที่เค้าเสนอมา จะต้อง
- มากกว่า £20,800 ต่อปี
- มากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ ของงานที่เราจะสมัครค่ะ
เช็คเงินเดือนขั้นต่ำของแต่ละตำแหน่งได้ที่ https://www.gov.uk/government/uploads/system/uploads/attachment_data/file/423732/codes_of_practice_april_2015.pdf นะคะ
4. เช็คว่าตำแหน่งงานที่เราสมัครนั้น เทียบเท่าหรือสูงกว่า NQF level 6
อีกข้อนึงที่เราต้องเช็คคือ ตำแหน่งงานที่เราสมัครนั้น เทียบเท่าหรือสูงกว่า NQF level 6 ค่ะ อธิบายนิดนึงว่า NQF คือ National Qualification Framework ค่ะ เอาง่ายๆเลยคือระดับความสามารถ + วุฒิของแต่ละตำแหน่งค่ะ ยิ่งเลเวลสูง งานจะยิ่งซับซ้อนหรือต้องใช้ความสามารถมาก เป็นต้นค่ะ อ่านรายละเอียดของแต่ละระดับในเว็บข้างล่างได้เลยค่ะ เค้าอธิบายง่ายและดีมากกกก
https://www.nidirect.gov.uk/articles/qualifications-what-different-levels-mean
5. Resident labour market test
ถ้าเราผ่านหมดทั้ง 4 ข้อข้างบน รวมทั้งได้เรียกสัมภาษณ์ และบริษัทชอบเรา อยากได้เรามาทำงาน เราต้องแน่ใจด้วยค่ะว่าเค้าทำ Resident labour market test สำหรับตำแหน่งนี้เรียบร้อย
Resident labour market test คือการประกาศหางานผ่านช่องทางที่ทางรัฐกำหนดค่ะ ทางบริษัทต้องลงประกาศหางานอันนี้ติดต่อกัน 28 วัน (หรือทำใน 2 ขั้นตอน แต่อันนี้เราขอข้ามนะคะ เพราะบริษัทจะเป็นคนทำค่ะ) พอครบกำหนดวันแล้ว ถ้าเค้าหาคนที่เหมาะสมกว่าเราไม่ได้ เค้าก็สามารถเสนองานให้เราได้เลยค่ะ
6. พอผ่านหมดทุกข้อแล้ว มันจะมีรายละเอียดยิบย่อยอีกพอสมควร เช่น เงินฝากในบัญชีของเราต้องมีไม่น้อยกว่าเท่านั้นเท่านี้, เราต้องจ่ายค่าประกันพยาบาล (NHS Surcharge) และอื่นๆค่ะ แต่รายละเอียดตรงนี้ส่วนใหญ่ HR จะช่วยชี้แนะให้เราได้ค่ะ
นี่ล่ะค่ะ 6 ข้อหลักๆที่เราว่า แต่อย่างที่บอกแต่แรกนะคะว่ารายละเอียดข้างในจะมีอีกเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าผ่านข้อหลักๆไปได้ เราว่าน่ามีลุ้นค่ะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่สนใจหางานในอังกฤษนะคะ สู้ๆค่ะ