สวัสดีดีค่ะ ต้องขอบอกก่อนนะคะว่าเราเป็นสาวประเภท2 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเวลาไปไหนทั้งที่เรียน ที่ทำงานจะไม่มีใครทราบเรยว่าเราเป็นสาว2ค่ะ อาจด้วยกิริยา น้ำเสียง และหน้าตาที่ไม่เหมือนผู้ชายตั้งแต่เด็ก
ประเด็นที่เราอยากปรึกษาและอยากได้คำแนะนำเรื่องผู้ชายที่เค้ามาคนนึงค่ะ จะขอเล่าเรยนะคะ นี่เป็นการเขียนครั้งแรกอาจจะยาวไปซักหน่อยนะ
คือ เรารู้จักคนๆนึงค่ะ ซึ่งเค้าเรียนทำอาหารที่เดียวกับเรา แต่เค้าจบก่อนเรา1ปีก่อนที่เราจะเข้ามาเรียนค่ะ แต่ที่เรารู้จักเค้า เพราะเค้าเป็นเชฟที่ออกรายการทีวี และสอนทำอาหารทั้งทางเน็ตหรือรายการต่างๆค่ะ คือแอดเฟสไปตามประสาอยากติดตามผลงาน อารมเหมือนติดตามดาราคนหนึ่งค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเพราะตั้งแต่แรกเราก็เข้าใจว่าเค้าแต่งงานแล้ว ติดตามมาประมาน2ปีได้ค่ะ เค้าโพสเค้าลงรูปเราก็ไลค์ปกติ ... ด้วยที่ว่าเคยศึกษาที่สถาบันทำอาหารเดียวกันเรยทำให้นานๆครั้งเค้าจะทักมาคุย แต่4-5เดือนจะทักมาทีค่ะแต่ก็ถามเรื่องปกติ เช่นอาหารที่เราทำว่าคืออะไร มีกดไลค์รูปบ้าง คอมเม้นรูปบ้าง ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรเรยค่ะเพราะเหมือนคนรู้จักทั่วไป แต่มามีเหตุคือ เมื่อปีก่อนเราป่วยเป็นโรคที่คล้ายกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงค่ะ ทำให้ไม่สามารถเดินได้ก็เลยออกจากงานมาอยู่บ้านเฉยๆ คือ ช่วงเวลานั้นเรารู้สึกแย่มากๆเพราะจากคนปกติทั่วไปกลายมาเป็นคนที่เหมือนจะพิการ เพ้อมากค่ะช่วง2-3เดือนแรก และบางครั้งพี่คนนี้ก็มาให้กำลังใจ มาคุยไถ่ถามว่าเป็นอะไร แต่ด้วยที่เราคิดว่าเป็นแค่คนที่รู้จักกันเฉยๆก็เรยคุยปกติ แต่ไม่บ่อย ก็ยัง2-3เดือนทักมาที แต่พอมาเดือนสองเดือนนี้ เค้าเริ่มกดไลค์เราเกือบทุกรูป คอมเม้นบ่อยขึ้น แรกๆเราก็ไม่คิดอะไรเพราะมันคงเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากวันแม่ที่ผ่านมาเราโพสเชิงว่าเราชอบชีวิตโสด ไม่อยากมีแฟน อยู่คนเดียวสบายใจน่าจะอะไรแบบนี้ แล้วเค้าก็มาตอบค่ะว่าขออยู่ชมรมคนโสดด้วยคน ซึ่งเราก็งงค่ะ เราคิดว่าเค้าแต่งงานแล้ว ก็เลยถามไป เค้าว่าเค้าเลิกกับแฟนได้7เดือนแล้ว .. แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่คิดอะไรเหมือนเดิมค่ะเพราะก็คนรู้จักกันก็คงจะแค่เม้นเฉยๆ แต่เค้าก็มีทักมีชวนไปไหน มีคุยมากขึ้น แต่ด้วยที่เราไปไหนไม่ได้จึงปฏิเสดตลอดค่ะ เค้าก็ชอบบ่นว่าเล่นตัวบ้างอะไรบ้าง แล้วมามีจุดที่เราว่าเริ่มแปลกๆคือ หลังจากวันนั้น เราเข้าโรงบาลค่ะไข้ขึ้นสูง คือพี่เค้าเป็นคนที่ทำงานในวงการบันเทิงเป็นเชฟที่ออกรายการโทรทัศทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังค่ะ ซึ่งบางวันทำให้เลิกงานดึกมากบางวันก็ใกล้เช้า คืนนั้นประมาณ5ทุ่มเค้าทักมาถามว่าเป็นอะไรมากมั้ย เราก็บอกแค่เป็นไข้นั้นนี่ไปค่ะ คุยได้ซักพักเค้าก็บอกว่าจะนอนแล้วละแต่อยากทักมาคุยก่อนนอน << ซึ่งเราเริ่มเอ๊ะใจเพราะเค้าไม่เคยพิมพ์อะไรแบบนี้ ระวังอยู่รพ.เราก็โพสรูปไปตามปกติค่ะ เค้าก็มาเม้นทุกรูป พอช่วงพักงานเค้าก็ทักมาหาถามว่าออกจากรพ.วันไหนเค้าจะไปเยี่ยม ซึ่งเรากำลังจะออกค่ะเพราะแค่เป็นไข้ธรรมดา เค้าว่าเสียดายเพราะวันนั้นติดอยู่กองถ่ายไปไม่ได้ แต่ลักษณะที่เค้าคุยเริ่มเปลี่ยนไป คือเหมือนจะมีแซวบ้างหยอดบ้าง
หลังจากนั้น คือเราต้องไปรพ.เกือบทุกวันเสาร์อยู่เรื่อยๆอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าต้องไปเช็คสภาพร่างกาย เค้าทักมาถามว่าจะพบหมออีกทีวันไหน เราก็บอกไปว่าวันเสาร์ เค้าก็บอกว่าจะมาเยี่ยมนะ พี่เห็นเราชอบทำขนมทำขนมมาให้พี่ชิมบ้างสิ เราก็ตกลงไป ระหว่างนั้นเค้าก็ทักมาบ่อยขึ้น จนได้เจอกันที่รพ.ค่ะ ก็ไม่ได้ทำอะไรเราก็เจอกันคุยกันปกติซึ่งเราคิดว่าเราคงได้เจอกันแค่นี้แล้วคงไม่ได้เจอกันแล้ว แต่เค้ากลับทักหาเยอะขึ้น มีเวลาว่างก็ทักมา เลิกงานเลิกสอนก็ทักมา แล้วก็ขอเบอร์ค่ะ เค้าก็มีโทรหาบ่อยขึ้น เลิกงานขึ้นรถไปไหนมาไหนก็โทรหาตลอด เล่าเหตุการณ์ของแต่ละวันให้ฟัง ให้เราโทรปลุกทุกเช้า และจุดงงอีกอย่างคือ เค้าไม่ชอบเค้าวัด แต่อยู่ๆก็เข้าวัดแล้วส่งรูปมาให้เราแล้วบอกว่าขอพรให้เราหายเร็วๆ คือเราดีใจนะเอาจริงๆ แล้วก็ไปดูหนังกันซึ่งเราเดินลำบากเค้าก็ช่วยเราทุกอย่างไม่อายใคร เค้าโพสรูปคู่รูปเราลงบนเฟสแล้วบอกเชิงว่ามีความสุข แล้วเราก็คุยกันทุกวันคุยตลอด แล้วก็นัดพบกันทานข้าวกันถึงแม้เราจะเดินไม่ค่อยได้เค้าก็จะคอยช่วยคอยดูแลทุกอย่าง คือทำทุกอย่างจริงๆค่ะ เวลาไปได้ด้วยเค้าก็จะโพสรูปคู่กับเราทุกครั้ง คือเรารู้สึกดีมาก มีอะไร เค้าไปไหนเค้าก็บอกค่ะ แล้วจะมีมุกจีบสาวมาหยอดทุกวันๆยหยอดเรื่อยๆแล้วเราดีใจมาก ..
จนเราชอบเค้าจริงๆ แต่ด้วยที่เราเป็นสาว2เราก็ไม่อยากปิดบังเค้า เราจึงตัดสินใจบอกเค้าค่ะว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงนะก่อนที่มันจะไปไกลกว่านี้ คือถ้าเค้ารับได้ก็คือดีแต่ถ้ารับไม่ได้ทุกอย่างจะไปจบ ไม่ถลำลึกไปกว่านี้ ซึ่งตอนที่คุยกันคืนนั้น เราก็บอกเค้าตรงๆว่าเราไม่ใช่ผู้หญิง .. ตอนแรกเรากลัวเค้าจะรับไม่ได้ แต่เค้าตอบกลับมาว่าเค้ารู้อยู่แล้ว เพื่อนเค้าเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนทำอาหารที่เราเรียนเค้าบอกมาว่าเธอเป็นผู้ชาย แต่พี่มีความสุขที่ได้คุยด้วย พี่สบายใจที่ได้คุยกับเธอ เค้าไม่รังเกียจ ยังอยากพาไปกินข้าวไปเที่ยวด้วยเหมือนเดิม .. ตอนนั้นเราเหมือนจะดีใจค่ะ ว่าเค้ารับได้ .... คุยกันจนเกือบเช้าแล้วก็นอน ซึ่งเค้าก็ยังให้โทรปลุกเหมือนเดิม สมมุดว่าวันที่เราสรภาพไปคือคืนวันพุทธ เช้าวันพฤหัสเราก็โทรไปปลุกตามปกติ แต่หลังจากคืนที่เราบอกความจริงไปเรารู้สึกได้ว่าเค้าเปลี่ยนไป คือ ส่งข้อความไปออนนะคะแต่ไม่อ่าน ใช้เวลาในการอ่านแล้วตอนนานขึ้น แต่เค้าก็ยังโทรมาอยู่นะคะ ไปไหนก็ยังส่งรูปตัวเองมาให้ดูว่าอยู่นี้ทำนี่อยู่ แต่คืนวันพฤหัส เค้าโพสรูปคู่เราในigว่า น้องสาวที่รักมากที่สุด ขอให้หายไว้ๆนะจะได้ไปเที่ยวกัน ซึ่งเราก็แอบงงนิดหน่อย .. มาวันศุกร์ก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ คือทักไปออนแต่ไม่อ่าน นานมากกว่าจะอ่านแล้วตอบ แต่ค่ำๆก็ยังโทรมาปกติ แต่แค่ออนแล้วไม่อ่านบางทีออนแล้วก็ออฟไปแต่ไม่อ่านข้อความเรา ซึ่งเราเริ่มคิดมากแล้ว
วันเสาร์ก็เป็นเหมือนเดิม แต่คืนนั้นเค้าต้องไปงานวันเกิดเพื่อนเหมือนงานเลี้ยงรุ่นด้วยค่ะ ก็ยังมีคุยบ้าง โทรมาบ้าง แล้วก็ส่งรูปตัวเองและรูปงานกับเพื่อนอยู่ปกติ แต่แค่ออนแล้วตอบช้า << ซึ่งไปๆมาๆอารมเหมือนคุยกับคนอื่นอ่ะค่ะ แต่ที่ไม่มีเรยตลอด3วันคือคำหยอดหวานๆค่ะ คำจีบ อันนี้ไม่มีเรย
พอมาวันอาทิตย์ ทีนี้เค้าหายไปเรยค่ะ ไม่ทักไม่โทร แต่กดไลค์รูปเรา แต่ไม่ทักเรย ไม่โทรเรยแต่ออนเฟสเกือบทั้งวัน แล้วเค้าก็โพสรูปในigคู่กับลูกเพื่อนว่าอยากมีลูกอยากมีครอบครัว ... และอีกรูปคือรูปหมู่เพื่อนเค้าก็โพสว่าเพื่อนๆเค้าแต่งงานมีลูกกันหมดแล้วบางคนมีลูกสองแล้ว ..... พอเราเจอแบบนี้ก็เรยคิดว่าเค้าคงปฎิเสษเราแล้วแบบนี้ถูกมั้ยค่ะ เงียบไปทั้งวันเราก็ลายถามเค้าไปตอน1ทุ่มว่าจะให้โทรปลุกมั้ย 10นาทีมั้งค่ะ เค้าตอบว่าโทร แล้วเค้าก็บอกว่าแพ้เหล้านอนทั้งวันเรย ซึ่งเอาจริงๆถึงมึนนอนทั้งวัน แต่ก็เห็นออนเฟสลงรูปในigได้ แต่ไม่ทักเราเรยตั้งแต่ตื่นจนดึก ก็แสดงว่าไม่อยากคุยแล้วเราคิดถูกใช่มั้ยค่ะ
คือเราไม่เข้าใจอย่างนึง ถ้าเค้ารับเราไม่ได้ทำไมเค้าถึงพูดว่ารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นแบบนี้ทั้งที่ก่อนเราจะบอกเค้าทำดีเค้าแคร์เค้าห่วงเราทุกอย่างแค่หลังจากบอกไปก็เหมือนจะเปลี่ยนไปเรย ตอนนั้นเค้าพูดแค่รักษาน้ำใจเรารึป่าวค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เราควรถามเค้าไปตรงๆมั้ยว่าตกลงคุณคิดกับเราเป็นแค่พี่น้องไปแล้วใช่มั้ย อะไรแบบนั้นน่ะคะ
ขอคำแนะนำด้วยค่ะแบบนี้แสดงว่าเค้าไม่อยากคุยกับเราแล้วใช่มั้ยค่ะ
ประเด็นที่เราอยากปรึกษาและอยากได้คำแนะนำเรื่องผู้ชายที่เค้ามาคนนึงค่ะ จะขอเล่าเรยนะคะ นี่เป็นการเขียนครั้งแรกอาจจะยาวไปซักหน่อยนะ
คือ เรารู้จักคนๆนึงค่ะ ซึ่งเค้าเรียนทำอาหารที่เดียวกับเรา แต่เค้าจบก่อนเรา1ปีก่อนที่เราจะเข้ามาเรียนค่ะ แต่ที่เรารู้จักเค้า เพราะเค้าเป็นเชฟที่ออกรายการทีวี และสอนทำอาหารทั้งทางเน็ตหรือรายการต่างๆค่ะ คือแอดเฟสไปตามประสาอยากติดตามผลงาน อารมเหมือนติดตามดาราคนหนึ่งค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเพราะตั้งแต่แรกเราก็เข้าใจว่าเค้าแต่งงานแล้ว ติดตามมาประมาน2ปีได้ค่ะ เค้าโพสเค้าลงรูปเราก็ไลค์ปกติ ... ด้วยที่ว่าเคยศึกษาที่สถาบันทำอาหารเดียวกันเรยทำให้นานๆครั้งเค้าจะทักมาคุย แต่4-5เดือนจะทักมาทีค่ะแต่ก็ถามเรื่องปกติ เช่นอาหารที่เราทำว่าคืออะไร มีกดไลค์รูปบ้าง คอมเม้นรูปบ้าง ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรเรยค่ะเพราะเหมือนคนรู้จักทั่วไป แต่มามีเหตุคือ เมื่อปีก่อนเราป่วยเป็นโรคที่คล้ายกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงค่ะ ทำให้ไม่สามารถเดินได้ก็เลยออกจากงานมาอยู่บ้านเฉยๆ คือ ช่วงเวลานั้นเรารู้สึกแย่มากๆเพราะจากคนปกติทั่วไปกลายมาเป็นคนที่เหมือนจะพิการ เพ้อมากค่ะช่วง2-3เดือนแรก และบางครั้งพี่คนนี้ก็มาให้กำลังใจ มาคุยไถ่ถามว่าเป็นอะไร แต่ด้วยที่เราคิดว่าเป็นแค่คนที่รู้จักกันเฉยๆก็เรยคุยปกติ แต่ไม่บ่อย ก็ยัง2-3เดือนทักมาที แต่พอมาเดือนสองเดือนนี้ เค้าเริ่มกดไลค์เราเกือบทุกรูป คอมเม้นบ่อยขึ้น แรกๆเราก็ไม่คิดอะไรเพราะมันคงเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากวันแม่ที่ผ่านมาเราโพสเชิงว่าเราชอบชีวิตโสด ไม่อยากมีแฟน อยู่คนเดียวสบายใจน่าจะอะไรแบบนี้ แล้วเค้าก็มาตอบค่ะว่าขออยู่ชมรมคนโสดด้วยคน ซึ่งเราก็งงค่ะ เราคิดว่าเค้าแต่งงานแล้ว ก็เลยถามไป เค้าว่าเค้าเลิกกับแฟนได้7เดือนแล้ว .. แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่คิดอะไรเหมือนเดิมค่ะเพราะก็คนรู้จักกันก็คงจะแค่เม้นเฉยๆ แต่เค้าก็มีทักมีชวนไปไหน มีคุยมากขึ้น แต่ด้วยที่เราไปไหนไม่ได้จึงปฏิเสดตลอดค่ะ เค้าก็ชอบบ่นว่าเล่นตัวบ้างอะไรบ้าง แล้วมามีจุดที่เราว่าเริ่มแปลกๆคือ หลังจากวันนั้น เราเข้าโรงบาลค่ะไข้ขึ้นสูง คือพี่เค้าเป็นคนที่ทำงานในวงการบันเทิงเป็นเชฟที่ออกรายการโทรทัศทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังค่ะ ซึ่งบางวันทำให้เลิกงานดึกมากบางวันก็ใกล้เช้า คืนนั้นประมาณ5ทุ่มเค้าทักมาถามว่าเป็นอะไรมากมั้ย เราก็บอกแค่เป็นไข้นั้นนี่ไปค่ะ คุยได้ซักพักเค้าก็บอกว่าจะนอนแล้วละแต่อยากทักมาคุยก่อนนอน << ซึ่งเราเริ่มเอ๊ะใจเพราะเค้าไม่เคยพิมพ์อะไรแบบนี้ ระวังอยู่รพ.เราก็โพสรูปไปตามปกติค่ะ เค้าก็มาเม้นทุกรูป พอช่วงพักงานเค้าก็ทักมาหาถามว่าออกจากรพ.วันไหนเค้าจะไปเยี่ยม ซึ่งเรากำลังจะออกค่ะเพราะแค่เป็นไข้ธรรมดา เค้าว่าเสียดายเพราะวันนั้นติดอยู่กองถ่ายไปไม่ได้ แต่ลักษณะที่เค้าคุยเริ่มเปลี่ยนไป คือเหมือนจะมีแซวบ้างหยอดบ้าง
หลังจากนั้น คือเราต้องไปรพ.เกือบทุกวันเสาร์อยู่เรื่อยๆอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าต้องไปเช็คสภาพร่างกาย เค้าทักมาถามว่าจะพบหมออีกทีวันไหน เราก็บอกไปว่าวันเสาร์ เค้าก็บอกว่าจะมาเยี่ยมนะ พี่เห็นเราชอบทำขนมทำขนมมาให้พี่ชิมบ้างสิ เราก็ตกลงไป ระหว่างนั้นเค้าก็ทักมาบ่อยขึ้น จนได้เจอกันที่รพ.ค่ะ ก็ไม่ได้ทำอะไรเราก็เจอกันคุยกันปกติซึ่งเราคิดว่าเราคงได้เจอกันแค่นี้แล้วคงไม่ได้เจอกันแล้ว แต่เค้ากลับทักหาเยอะขึ้น มีเวลาว่างก็ทักมา เลิกงานเลิกสอนก็ทักมา แล้วก็ขอเบอร์ค่ะ เค้าก็มีโทรหาบ่อยขึ้น เลิกงานขึ้นรถไปไหนมาไหนก็โทรหาตลอด เล่าเหตุการณ์ของแต่ละวันให้ฟัง ให้เราโทรปลุกทุกเช้า และจุดงงอีกอย่างคือ เค้าไม่ชอบเค้าวัด แต่อยู่ๆก็เข้าวัดแล้วส่งรูปมาให้เราแล้วบอกว่าขอพรให้เราหายเร็วๆ คือเราดีใจนะเอาจริงๆ แล้วก็ไปดูหนังกันซึ่งเราเดินลำบากเค้าก็ช่วยเราทุกอย่างไม่อายใคร เค้าโพสรูปคู่รูปเราลงบนเฟสแล้วบอกเชิงว่ามีความสุข แล้วเราก็คุยกันทุกวันคุยตลอด แล้วก็นัดพบกันทานข้าวกันถึงแม้เราจะเดินไม่ค่อยได้เค้าก็จะคอยช่วยคอยดูแลทุกอย่าง คือทำทุกอย่างจริงๆค่ะ เวลาไปได้ด้วยเค้าก็จะโพสรูปคู่กับเราทุกครั้ง คือเรารู้สึกดีมาก มีอะไร เค้าไปไหนเค้าก็บอกค่ะ แล้วจะมีมุกจีบสาวมาหยอดทุกวันๆยหยอดเรื่อยๆแล้วเราดีใจมาก ..
จนเราชอบเค้าจริงๆ แต่ด้วยที่เราเป็นสาว2เราก็ไม่อยากปิดบังเค้า เราจึงตัดสินใจบอกเค้าค่ะว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงนะก่อนที่มันจะไปไกลกว่านี้ คือถ้าเค้ารับได้ก็คือดีแต่ถ้ารับไม่ได้ทุกอย่างจะไปจบ ไม่ถลำลึกไปกว่านี้ ซึ่งตอนที่คุยกันคืนนั้น เราก็บอกเค้าตรงๆว่าเราไม่ใช่ผู้หญิง .. ตอนแรกเรากลัวเค้าจะรับไม่ได้ แต่เค้าตอบกลับมาว่าเค้ารู้อยู่แล้ว เพื่อนเค้าเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนทำอาหารที่เราเรียนเค้าบอกมาว่าเธอเป็นผู้ชาย แต่พี่มีความสุขที่ได้คุยด้วย พี่สบายใจที่ได้คุยกับเธอ เค้าไม่รังเกียจ ยังอยากพาไปกินข้าวไปเที่ยวด้วยเหมือนเดิม .. ตอนนั้นเราเหมือนจะดีใจค่ะ ว่าเค้ารับได้ .... คุยกันจนเกือบเช้าแล้วก็นอน ซึ่งเค้าก็ยังให้โทรปลุกเหมือนเดิม สมมุดว่าวันที่เราสรภาพไปคือคืนวันพุทธ เช้าวันพฤหัสเราก็โทรไปปลุกตามปกติ แต่หลังจากคืนที่เราบอกความจริงไปเรารู้สึกได้ว่าเค้าเปลี่ยนไป คือ ส่งข้อความไปออนนะคะแต่ไม่อ่าน ใช้เวลาในการอ่านแล้วตอนนานขึ้น แต่เค้าก็ยังโทรมาอยู่นะคะ ไปไหนก็ยังส่งรูปตัวเองมาให้ดูว่าอยู่นี้ทำนี่อยู่ แต่คืนวันพฤหัส เค้าโพสรูปคู่เราในigว่า น้องสาวที่รักมากที่สุด ขอให้หายไว้ๆนะจะได้ไปเที่ยวกัน ซึ่งเราก็แอบงงนิดหน่อย .. มาวันศุกร์ก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ คือทักไปออนแต่ไม่อ่าน นานมากกว่าจะอ่านแล้วตอบ แต่ค่ำๆก็ยังโทรมาปกติ แต่แค่ออนแล้วไม่อ่านบางทีออนแล้วก็ออฟไปแต่ไม่อ่านข้อความเรา ซึ่งเราเริ่มคิดมากแล้ว
วันเสาร์ก็เป็นเหมือนเดิม แต่คืนนั้นเค้าต้องไปงานวันเกิดเพื่อนเหมือนงานเลี้ยงรุ่นด้วยค่ะ ก็ยังมีคุยบ้าง โทรมาบ้าง แล้วก็ส่งรูปตัวเองและรูปงานกับเพื่อนอยู่ปกติ แต่แค่ออนแล้วตอบช้า << ซึ่งไปๆมาๆอารมเหมือนคุยกับคนอื่นอ่ะค่ะ แต่ที่ไม่มีเรยตลอด3วันคือคำหยอดหวานๆค่ะ คำจีบ อันนี้ไม่มีเรย
พอมาวันอาทิตย์ ทีนี้เค้าหายไปเรยค่ะ ไม่ทักไม่โทร แต่กดไลค์รูปเรา แต่ไม่ทักเรย ไม่โทรเรยแต่ออนเฟสเกือบทั้งวัน แล้วเค้าก็โพสรูปในigคู่กับลูกเพื่อนว่าอยากมีลูกอยากมีครอบครัว ... และอีกรูปคือรูปหมู่เพื่อนเค้าก็โพสว่าเพื่อนๆเค้าแต่งงานมีลูกกันหมดแล้วบางคนมีลูกสองแล้ว ..... พอเราเจอแบบนี้ก็เรยคิดว่าเค้าคงปฎิเสษเราแล้วแบบนี้ถูกมั้ยค่ะ เงียบไปทั้งวันเราก็ลายถามเค้าไปตอน1ทุ่มว่าจะให้โทรปลุกมั้ย 10นาทีมั้งค่ะ เค้าตอบว่าโทร แล้วเค้าก็บอกว่าแพ้เหล้านอนทั้งวันเรย ซึ่งเอาจริงๆถึงมึนนอนทั้งวัน แต่ก็เห็นออนเฟสลงรูปในigได้ แต่ไม่ทักเราเรยตั้งแต่ตื่นจนดึก ก็แสดงว่าไม่อยากคุยแล้วเราคิดถูกใช่มั้ยค่ะ
คือเราไม่เข้าใจอย่างนึง ถ้าเค้ารับเราไม่ได้ทำไมเค้าถึงพูดว่ารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นแบบนี้ทั้งที่ก่อนเราจะบอกเค้าทำดีเค้าแคร์เค้าห่วงเราทุกอย่างแค่หลังจากบอกไปก็เหมือนจะเปลี่ยนไปเรย ตอนนั้นเค้าพูดแค่รักษาน้ำใจเรารึป่าวค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เราควรถามเค้าไปตรงๆมั้ยว่าตกลงคุณคิดกับเราเป็นแค่พี่น้องไปแล้วใช่มั้ย อะไรแบบนั้นน่ะคะ