เพิ่มเติมค่ะ
เรื่องทั้งหมดแก้ไขเรียบร้อยและจบลงด้วยดีจากความร่วมมือของทางเชฟโรเลตประเทศไทย และศูนย์เชฟโรเลตบางจากนะคะ
ขอบคุณมากๆที่รับเรื่องแล้วไม่นิ่งเฉย บริการอย่างดีมาก แตกต่างกับทางศูนย์แรกราวฟ้ากับเหว
ขณะนี้น้องแคปของเรากลับมาใช้งานได้ตามปกติ เสียงที่เคยดังออกมาก็แก้หายแล้วด้วยการเปลี่ยนอะไหล่
ระยะเวลาที่เอาเข้าศูนย์บางจาก วิเคราะห์อาการ จนเจอสาเหตุ รวมกับเวลาซ่อม เพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้นค่ะ
ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ทำให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรแย่ไปทุกอย่าง ถ้าไปเจอคนที่เขาพร้อมจะช่วยเหลือ แต่แค่ต้องไปให้ถูกที่
แนะนำนะคะ ถ้าเชฟใครมีปัญหาอะไร ลองเข้าไปให้ศูนย์เชฟบางจากดูให้ค่ะ ไม่เสียเวลาฟรี แน่นอน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเนื้อหากระทู้นี้จะเป็นอารมณ์เพื่อนมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนฟัง รายละเอียด วันที่ หรืออะไรต่างๆอาจจะไม่ได้เป๊ะมาก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้
เริ่มเลยนะคะขออนุญาติแทนตัวเองว่าเรา
เราได้ซื้อเชฟโรเลตรุ่นแคปติวามาเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน จากคำแนะนำของญาติที่บอกว่าสมรรถนะดี ใช้งานได้ดี แล้วคือตอนนั้นคนรอบข้างใช้แคปติว่าเยอะมากค่ะทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวถังแข็งแรง วิ่งดี เราก็โอเค ซื้อค่ะ ตัดสินใจไปซื้อที่โชว์รูม เชฟโรเลต รุ่งเจริญ เทพารักษ์ เพราะว่าใกล้บ้าน จากนั้นมา เราก็ใช้รถเป็นปกติแบบคนในเมืองทั่วไป คือขับไปทำงานในเมือง มีออกต่างจังหวัดบ้างเล็กน้อย ตอนนี้ระยะเวลารถ 3 ปี แต่วิ่งไปแค่ 50,000 กิโลเมตรเท่านั้น สังเกตุได้ว่าน้อยกว่าที่ศุนย์เคลมไว้คือ 3 ปี 100,000 กิโล
ระหว่างที่ใช้รถมาก็มีปัญหาจุกจิกเยอะแยะมากมายเกี่ยวกับระบบของรถ อย่างเช่น กระจกหลังไม่ทำงาน กดไม่ลง บางทีพอกดลงก็เอาไม่ขึ้น อ่ะไม่เป็นไรไปเคลม, ที่ปัดน้ำฝนหลังไม่ทำงาน โอเคเล็กน้อย ไปเคลม, ตัวล๊อกที่เก็บของตรงกลางรถพัง ทำให้เปิดไม่ออก เคสนี้เริ่มโมโหละ ทำไมมันช่างจุกจิกอะไรอย่างนี้ แล้วคือตอนนั้นชีวิตเดือดร้อนมาก เพราะเอกสารสำคัญที่ต้องไปทำธุระในวันนั้นอยู่ในช่องเก็บของนี้ อ่ะ ไม่เป็นไร สุดวิสัยเนอะ ให้อภัย
แต่พอเข้าปีที่สาม รถเราเริ่มมีเสียงเหมือนคนเป็นหอบ เวลาที่เหยียบคันเร่ง เสียงจะดังประมาณ ฮืดดดดดดดดดดดดดดด เหมือนกำลังจะเปลี่ยนเกียร์ แต่เปลี่ยนไม่สุด เข้าใจมั้ยคะ แล้วรถจะอืดมาก พอเรารู้สึกได้ว่าเป็น เราก็เอาไปเข้าศูนย์ทันทีค่ะ ช่วงเดือนน่าจะประมาณ มกราคม 2016 เอาเข้าไปให้ทางหัวหน้าช่างที่คนในศูนย์เรียกว่า “ป๋า” ดู เราก็ทิ้งรถไว้ พอตอนเย็นทางศูนย์ก็โทรมาบอกว่ามารับรถได้เลย หาอาการไม่เจอ เราก็เข้าไปพูดคุยกับป๋า ว่าทำไมหาไม่เจอ เสียงมันชัดมาก คำตอบคือ ใช้ไปก่อน เป็นหนักค่อยมา ตอนนี้ฟังไม่ค่อยรู้ ไม่อยากรื้อมั่ว เราก็ อ่าว แบบนี้ก็ได้หรอ มันปลอดภัยหรอ ป๋าก็ยืนยันว่าปลอดภัย อ่ะโอเค เอากลับมา
ครั้งที่ 2 หลังจากนั้น ประมาณ เดือนมีนา เราเริ่มรู้สึกว่า เสียงมันดังออกมานอกรถแล้วนะ คือดังอยู่ตรงประมาณฝั่งคนขับ แถวๆล้อขวาหน้า น้าเราได้ยินเขาก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเขาก็เป็นช่างซ่อมรถพอมีความรู้เรื่องรถบ้าง แต่เขาอยากให้เราเอาไปเข้าศูนย์มากกว่า อาการที่น้าสันนิษฐานคือ ลูกรอก สายพานหน้าเครื่อง น่าจะมีปัญหา เราก็เลยเอาไปเข้าศูนย์อีกครั้ง บอกอาการชัดเจน และตอนเย็นป๋าก็ให้มารับรถเหมือนเดิม บอกใช้ไปก่อน เสียงยังไม่ชัด ไม่อยากรื้อมั่วกลัวไม่เจอแล้วลูกค้าเสียเงินฟรี เห้ยยย อีกแล้วหรอออ แต่ป๋าก็ยืนยันว่าไม่อันตราย ให้กลับมาใช้ก่อน คือบอกก่อนว่าป๋าเนี่ย นางจะสุภาพเรียบร้อยพูดเสียงนอบน้อมกับลูกค้ามาก คือเราด่าไม่ลงจริงๆ ก็ อ่ะ หัวหน้าช่างบอกว่าไม่เป็นไรก็เชื่อเนอะ เพราะเราก็ไม่ได้มีความรู้ ก็เอากลับมาใช้
ครั้งที่ 3 อาการหนักกว่าเดิม คือเอารถไปต่างจังหวัดแล้วให้พี่ที่ทำงานขับให้ นางบอกว่าเห้ย รถแกผิดปกตินะ ทำไมมันอืดขนาดนี้ เสียงก็ดัง พี่ว่าไปเช็คเถอะ คือเข้าใจมั้ยคะว่าอาการมันเริ่มชัดจนขนาดคนที่ไม่เคยใช้รถเรายังสัมผัสได้ เราก็เข้าศูนย์อีก คราวนี้ป๋าแกมีแบค อ้างว่าเรียกผู้จัดการศูนย์มาฟังแล้ว เอาเข้าระบบคอมแล้ว ก็ยังหาไม่เจอ แล้วบอกเราว่าอาการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความเสื่อมของรถ ที่เป็นไปตามกาลเวลา.... หรอ !!!! รถ เกือบสองล้าน พังภายในสามปีอ่ะนะ เขาก็ยืนยันคำเดิมว่าใช้ไปเถอะ พังจริงๆค่อยมา แล้วคือช่วงนั้นเราจะต้องเอารถไปเขาใหญ่ แล้วเราไม่มั่นใจสมรรถนะรถเราเลย จังหวะจะแซงมันแซงไม่ขึ้น เราก็บอกเขาว่า ไม่ได้อ่ะครั้งนี้ ต้องแก้ให้ เพราะเราจะไปเขาใหญ่ ป๋าบอกว่า ขับได้เชื่อผม มันไม่เป็นอะไรแน่นอน คือเราท้อใจมาก แต่ก็เออ มันจำเป็นต้องใช้รถอ่ะ ก็จำใจเอากลับมา
ครั้งสุดท้าย คือเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2016
คือเข้าใจคำว่าไม่อยากแตะรถมั้ยคะ มันเสียงดัง มันอืด จนไม่อยากใช้แล้ว คราวนี้ก็เอาไปเข้าศูนย์อีกครั้งและบอกกับคนที่รับรถว่าคราวนี้ไม่ไหวแล้วนะ ซ่อมให้ได้นะ (ลืมบอกว่าก่อนหน้านั้น เอาไปให้ช่างที่รู้จักกันดูมา เขาก็ฟังเสียงโดยการเอาเหล็กอะไรไม่รู้ ส่องไปที่ล้อ ละก็ในเครื่อง ช่างคนนี้บอกว่าน่าจะเป็นสายพาน ลูกรอก และโซ่หน้าเครื่อง ตามที่น้าเราบอก) เราก็บอกอาการเลยว่าให้เช็คลูกรอก สายพาน โซ่ ฝาครอบเครื่องเลย น่าจะมาจากตรงนั้น คราวนี้ไม่หายเราไม่ยอมแล้ว
ก็ทิ้งรถไว้ ประมาณ 3-4 วัน ทางคนรับรถ ชื่อ บ บอกว่า ลูกค้าครับ เจอแล้วครับ อาการคือคอมเพรสเซอร์แอร์พัง มันตันหมดแล้ว ถ้าใช้ไปอีกสักพักมันจะน๊อคแล้วครับ เราก็เห้ยใช่หรอ แอร์ยังเย็นอยู่เลย เขาบอกใช่ครับ เนี่ยพอปิดแอร์ เสียงก็หายไป พอเปิดเสียงที่ลูกค้าแจ้งก็ดัง (ซึ่งไม่จริง) แสดงว่ามาจากแอร์แน่ๆครับ ค่าเปลียนประมาณ 40,000 บาทรวมค่าช่าง เราก็ถามว่ามันยังอยู่ในประกันไม่ใช่หรอ คำตอบคือ หมดประกันไปเมื่อเดือนที่แล้วครับ เห้ยยยยย
คราวนี้เรา เข้าใจถ่องแท้เลยค่ะ ว่าที่ยื้อ ๆ มาตลอดนี่คือจะรอให้หมดประกัน เพื่อที่จะให้เราเสียเงินซ่อมเอง เราก็ไม่ยอมสิ เราก็พูดเลยว่าเราเอารถเข้าให้คุณดูตั้งแต่ต้นปี คุณหาไม่เจอมา สามรอบ นี่รอบที่สี่หมดประกันแล้วเพิ่งมาหาเจอหรอ เราไม่ยอมนะ ละเราก็ให้แม่เราโทรไปเคลียร์ เพราะตอนนั้นเราโมโหละ กลัวตัวเองจะพูดจาไม่ดี แม่เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน บอกว่าจะไม่จ่ายสักบาทเลย ทำแบบนี้ได้ยังไง ป๋าบอกว่าเดี๋ยวจะคุยกับทาง ผจก ให้ ว่าขอเป็นเคสกรณีพิเศษ เพราะเพิ่งหมดประกันมาไม่นาน
ก็เข้าไปเคลียกัน พอไปถึงศูนย์ ป๋า,น้อง บ, ผจก บอกว่า อ่อ คอมแอร์ไม่พังละ น่าจะเป็นตัวอื่น ขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ จะแจ้งไป
ละระหว่างนั้นทางศูนย์ไม่ค่อยติดต่อมาเลย ทางเราต้องติดต่อไปเองตลอด ติดต่อไปที ก็พังที่นึง ติดต่อไปอีกทีก็บอกพังอีกที่นึง คือสรุปแล้วเขาบอกว่า เนี่ยลองเปลี่ยนคอมแอร์แล้วก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนตัวเก่ากลับมา (ทั้งๆที่ตอนแรกบอกตัวเก่าพังมาก ถ้าใช้ไปเครื่องจะน๊อคแล้ว), อีกอาทิตย์นึงบอก เปลี่ยนสายพานแล้วก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนตัวเก่ากลับมา, โซ่ก็ไม่ได้เป็นอะไร งั้นเปลี่ยนฝาครอบเครื่องไปให้ละกัน
คือสรุปก็ยังหาไม่เจอว่าเป็นอะไรค่ะ แม่เราก็คุยกับทาง ผจก ว่า แบบนี้ไม่ได้นะ จะให้ทำยังไง หาไม่เจออยู่ได้ แล้วลูกค้าต้องทำยังไง
คำตอบ จาก ผจก คือ ทนใช้ไปครับ หรือถ้าลูกค้าไม่โอเค อยากไปตั้งกระทู้ในพันทิพ ก็แล้วแต่ลูกค้าสะดวกเลยครับ
อ่ะโหวววว แม่เราขึ้นเลยค่ะ คือเอารถมาทิ้งไว้เกือบเดือน อาการก็ยังหาไม่เจอ แล้วยังมีหน้ามาท้าทายลูกค้าอีก คือตกลงตอนนี้เราจะทำอะไรได้บ้างคะ อยากได้คำแนะนำจากเพื่อนๆทางนี้ด้วย ตอนนี้นี่กลุ้มใจ จนไม่อยากจะใช้รถแล้ว คือเคสนี้ เราต้องเปลี่ยนรถใหม่เลยหรอ แค่ภายในสามปีอ่ะนะ อยากให้ทางศูนย์หรือทางเชฟโรเลต ประเทศไทย ออกมารับผิดชอบอะไรหน่อยได้มั้ยคะ เดือดร้อนแบบมากกกกกกกกก
ต้องไม่มีรถใช้มาเกือบเดือน แต่พอเอาออกมา ก็ยังไม่หายอีก ไม่กล้าใช้อีก
นี่จบกรณีของเราไปนะคะ พอตอนนี้หันมามองคนรอบตัวที่ใช้แคปติว่า ทุกคนมีปัญหาทั้งนั้นเลย จำญาติเราที่เป็นคนแนะนำให้ซื้อตอนต้นได้มั้ยคะ ปัจจุบันแคปติว่านางโดนเปลี่ยนเกียร์ไป แสนกว่าบาทแล้วค่ะ อยู่ดีๆ เกียร์ก็พัง บูตเกียร์แตก เกียร์รูดอะไรก็ไม่รู้
ส่วนพี่อีกคน ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ เปิดแอร์เสร็จ แอร์จะไม่เย็นค่ะ ต้องก้มลงเอามือทุบๆ ตรงแถวๆที่วางขาฝั่งคนนั่ง แถวๆเก๊ะเก็บของอ่ะค่ะ แอร์ถึงจะเย็น 555 แต่ประเด็นคือรถนางเพิ่ง ปีเดียว และช่างก็หาอาการไม่เจอเช่นกัน
ทุกคนยืนยันว่าตัวถังดีจริงค่ะ แต่นอกนั้นห่วยหมด ทั้งระบบ ทั้งศูนย์บริการ ทั้งพนักงาน
ถ้าจะซื้อรถใหม่แนะนำว่าอย่าเป็นเชฟโรเลต แคปติวาเลยค่ะ
อย่าไปซื้อเลย Chevrolet Captiva หรือถ้าอยากลองจริงๆก็อย่าไปซื้อที่ เชฟโรเลตรุ่งเจริญเทพารักษ์
เรื่องทั้งหมดแก้ไขเรียบร้อยและจบลงด้วยดีจากความร่วมมือของทางเชฟโรเลตประเทศไทย และศูนย์เชฟโรเลตบางจากนะคะ
ขอบคุณมากๆที่รับเรื่องแล้วไม่นิ่งเฉย บริการอย่างดีมาก แตกต่างกับทางศูนย์แรกราวฟ้ากับเหว
ขณะนี้น้องแคปของเรากลับมาใช้งานได้ตามปกติ เสียงที่เคยดังออกมาก็แก้หายแล้วด้วยการเปลี่ยนอะไหล่
ระยะเวลาที่เอาเข้าศูนย์บางจาก วิเคราะห์อาการ จนเจอสาเหตุ รวมกับเวลาซ่อม เพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้นค่ะ
ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ทำให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรแย่ไปทุกอย่าง ถ้าไปเจอคนที่เขาพร้อมจะช่วยเหลือ แต่แค่ต้องไปให้ถูกที่
แนะนำนะคะ ถ้าเชฟใครมีปัญหาอะไร ลองเข้าไปให้ศูนย์เชฟบางจากดูให้ค่ะ ไม่เสียเวลาฟรี แน่นอน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเนื้อหากระทู้นี้จะเป็นอารมณ์เพื่อนมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนฟัง รายละเอียด วันที่ หรืออะไรต่างๆอาจจะไม่ได้เป๊ะมาก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้
เริ่มเลยนะคะขออนุญาติแทนตัวเองว่าเรา
เราได้ซื้อเชฟโรเลตรุ่นแคปติวามาเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน จากคำแนะนำของญาติที่บอกว่าสมรรถนะดี ใช้งานได้ดี แล้วคือตอนนั้นคนรอบข้างใช้แคปติว่าเยอะมากค่ะทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวถังแข็งแรง วิ่งดี เราก็โอเค ซื้อค่ะ ตัดสินใจไปซื้อที่โชว์รูม เชฟโรเลต รุ่งเจริญ เทพารักษ์ เพราะว่าใกล้บ้าน จากนั้นมา เราก็ใช้รถเป็นปกติแบบคนในเมืองทั่วไป คือขับไปทำงานในเมือง มีออกต่างจังหวัดบ้างเล็กน้อย ตอนนี้ระยะเวลารถ 3 ปี แต่วิ่งไปแค่ 50,000 กิโลเมตรเท่านั้น สังเกตุได้ว่าน้อยกว่าที่ศุนย์เคลมไว้คือ 3 ปี 100,000 กิโล
ระหว่างที่ใช้รถมาก็มีปัญหาจุกจิกเยอะแยะมากมายเกี่ยวกับระบบของรถ อย่างเช่น กระจกหลังไม่ทำงาน กดไม่ลง บางทีพอกดลงก็เอาไม่ขึ้น อ่ะไม่เป็นไรไปเคลม, ที่ปัดน้ำฝนหลังไม่ทำงาน โอเคเล็กน้อย ไปเคลม, ตัวล๊อกที่เก็บของตรงกลางรถพัง ทำให้เปิดไม่ออก เคสนี้เริ่มโมโหละ ทำไมมันช่างจุกจิกอะไรอย่างนี้ แล้วคือตอนนั้นชีวิตเดือดร้อนมาก เพราะเอกสารสำคัญที่ต้องไปทำธุระในวันนั้นอยู่ในช่องเก็บของนี้ อ่ะ ไม่เป็นไร สุดวิสัยเนอะ ให้อภัย
แต่พอเข้าปีที่สาม รถเราเริ่มมีเสียงเหมือนคนเป็นหอบ เวลาที่เหยียบคันเร่ง เสียงจะดังประมาณ ฮืดดดดดดดดดดดดดดด เหมือนกำลังจะเปลี่ยนเกียร์ แต่เปลี่ยนไม่สุด เข้าใจมั้ยคะ แล้วรถจะอืดมาก พอเรารู้สึกได้ว่าเป็น เราก็เอาไปเข้าศูนย์ทันทีค่ะ ช่วงเดือนน่าจะประมาณ มกราคม 2016 เอาเข้าไปให้ทางหัวหน้าช่างที่คนในศูนย์เรียกว่า “ป๋า” ดู เราก็ทิ้งรถไว้ พอตอนเย็นทางศูนย์ก็โทรมาบอกว่ามารับรถได้เลย หาอาการไม่เจอ เราก็เข้าไปพูดคุยกับป๋า ว่าทำไมหาไม่เจอ เสียงมันชัดมาก คำตอบคือ ใช้ไปก่อน เป็นหนักค่อยมา ตอนนี้ฟังไม่ค่อยรู้ ไม่อยากรื้อมั่ว เราก็ อ่าว แบบนี้ก็ได้หรอ มันปลอดภัยหรอ ป๋าก็ยืนยันว่าปลอดภัย อ่ะโอเค เอากลับมา
ครั้งที่ 2 หลังจากนั้น ประมาณ เดือนมีนา เราเริ่มรู้สึกว่า เสียงมันดังออกมานอกรถแล้วนะ คือดังอยู่ตรงประมาณฝั่งคนขับ แถวๆล้อขวาหน้า น้าเราได้ยินเขาก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเขาก็เป็นช่างซ่อมรถพอมีความรู้เรื่องรถบ้าง แต่เขาอยากให้เราเอาไปเข้าศูนย์มากกว่า อาการที่น้าสันนิษฐานคือ ลูกรอก สายพานหน้าเครื่อง น่าจะมีปัญหา เราก็เลยเอาไปเข้าศูนย์อีกครั้ง บอกอาการชัดเจน และตอนเย็นป๋าก็ให้มารับรถเหมือนเดิม บอกใช้ไปก่อน เสียงยังไม่ชัด ไม่อยากรื้อมั่วกลัวไม่เจอแล้วลูกค้าเสียเงินฟรี เห้ยยย อีกแล้วหรอออ แต่ป๋าก็ยืนยันว่าไม่อันตราย ให้กลับมาใช้ก่อน คือบอกก่อนว่าป๋าเนี่ย นางจะสุภาพเรียบร้อยพูดเสียงนอบน้อมกับลูกค้ามาก คือเราด่าไม่ลงจริงๆ ก็ อ่ะ หัวหน้าช่างบอกว่าไม่เป็นไรก็เชื่อเนอะ เพราะเราก็ไม่ได้มีความรู้ ก็เอากลับมาใช้
ครั้งที่ 3 อาการหนักกว่าเดิม คือเอารถไปต่างจังหวัดแล้วให้พี่ที่ทำงานขับให้ นางบอกว่าเห้ย รถแกผิดปกตินะ ทำไมมันอืดขนาดนี้ เสียงก็ดัง พี่ว่าไปเช็คเถอะ คือเข้าใจมั้ยคะว่าอาการมันเริ่มชัดจนขนาดคนที่ไม่เคยใช้รถเรายังสัมผัสได้ เราก็เข้าศูนย์อีก คราวนี้ป๋าแกมีแบค อ้างว่าเรียกผู้จัดการศูนย์มาฟังแล้ว เอาเข้าระบบคอมแล้ว ก็ยังหาไม่เจอ แล้วบอกเราว่าอาการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความเสื่อมของรถ ที่เป็นไปตามกาลเวลา.... หรอ !!!! รถ เกือบสองล้าน พังภายในสามปีอ่ะนะ เขาก็ยืนยันคำเดิมว่าใช้ไปเถอะ พังจริงๆค่อยมา แล้วคือช่วงนั้นเราจะต้องเอารถไปเขาใหญ่ แล้วเราไม่มั่นใจสมรรถนะรถเราเลย จังหวะจะแซงมันแซงไม่ขึ้น เราก็บอกเขาว่า ไม่ได้อ่ะครั้งนี้ ต้องแก้ให้ เพราะเราจะไปเขาใหญ่ ป๋าบอกว่า ขับได้เชื่อผม มันไม่เป็นอะไรแน่นอน คือเราท้อใจมาก แต่ก็เออ มันจำเป็นต้องใช้รถอ่ะ ก็จำใจเอากลับมา
ครั้งสุดท้าย คือเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2016
คือเข้าใจคำว่าไม่อยากแตะรถมั้ยคะ มันเสียงดัง มันอืด จนไม่อยากใช้แล้ว คราวนี้ก็เอาไปเข้าศูนย์อีกครั้งและบอกกับคนที่รับรถว่าคราวนี้ไม่ไหวแล้วนะ ซ่อมให้ได้นะ (ลืมบอกว่าก่อนหน้านั้น เอาไปให้ช่างที่รู้จักกันดูมา เขาก็ฟังเสียงโดยการเอาเหล็กอะไรไม่รู้ ส่องไปที่ล้อ ละก็ในเครื่อง ช่างคนนี้บอกว่าน่าจะเป็นสายพาน ลูกรอก และโซ่หน้าเครื่อง ตามที่น้าเราบอก) เราก็บอกอาการเลยว่าให้เช็คลูกรอก สายพาน โซ่ ฝาครอบเครื่องเลย น่าจะมาจากตรงนั้น คราวนี้ไม่หายเราไม่ยอมแล้ว
ก็ทิ้งรถไว้ ประมาณ 3-4 วัน ทางคนรับรถ ชื่อ บ บอกว่า ลูกค้าครับ เจอแล้วครับ อาการคือคอมเพรสเซอร์แอร์พัง มันตันหมดแล้ว ถ้าใช้ไปอีกสักพักมันจะน๊อคแล้วครับ เราก็เห้ยใช่หรอ แอร์ยังเย็นอยู่เลย เขาบอกใช่ครับ เนี่ยพอปิดแอร์ เสียงก็หายไป พอเปิดเสียงที่ลูกค้าแจ้งก็ดัง (ซึ่งไม่จริง) แสดงว่ามาจากแอร์แน่ๆครับ ค่าเปลียนประมาณ 40,000 บาทรวมค่าช่าง เราก็ถามว่ามันยังอยู่ในประกันไม่ใช่หรอ คำตอบคือ หมดประกันไปเมื่อเดือนที่แล้วครับ เห้ยยยยย
คราวนี้เรา เข้าใจถ่องแท้เลยค่ะ ว่าที่ยื้อ ๆ มาตลอดนี่คือจะรอให้หมดประกัน เพื่อที่จะให้เราเสียเงินซ่อมเอง เราก็ไม่ยอมสิ เราก็พูดเลยว่าเราเอารถเข้าให้คุณดูตั้งแต่ต้นปี คุณหาไม่เจอมา สามรอบ นี่รอบที่สี่หมดประกันแล้วเพิ่งมาหาเจอหรอ เราไม่ยอมนะ ละเราก็ให้แม่เราโทรไปเคลียร์ เพราะตอนนั้นเราโมโหละ กลัวตัวเองจะพูดจาไม่ดี แม่เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน บอกว่าจะไม่จ่ายสักบาทเลย ทำแบบนี้ได้ยังไง ป๋าบอกว่าเดี๋ยวจะคุยกับทาง ผจก ให้ ว่าขอเป็นเคสกรณีพิเศษ เพราะเพิ่งหมดประกันมาไม่นาน
ก็เข้าไปเคลียกัน พอไปถึงศูนย์ ป๋า,น้อง บ, ผจก บอกว่า อ่อ คอมแอร์ไม่พังละ น่าจะเป็นตัวอื่น ขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ จะแจ้งไป
ละระหว่างนั้นทางศูนย์ไม่ค่อยติดต่อมาเลย ทางเราต้องติดต่อไปเองตลอด ติดต่อไปที ก็พังที่นึง ติดต่อไปอีกทีก็บอกพังอีกที่นึง คือสรุปแล้วเขาบอกว่า เนี่ยลองเปลี่ยนคอมแอร์แล้วก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนตัวเก่ากลับมา (ทั้งๆที่ตอนแรกบอกตัวเก่าพังมาก ถ้าใช้ไปเครื่องจะน๊อคแล้ว), อีกอาทิตย์นึงบอก เปลี่ยนสายพานแล้วก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนตัวเก่ากลับมา, โซ่ก็ไม่ได้เป็นอะไร งั้นเปลี่ยนฝาครอบเครื่องไปให้ละกัน
คือสรุปก็ยังหาไม่เจอว่าเป็นอะไรค่ะ แม่เราก็คุยกับทาง ผจก ว่า แบบนี้ไม่ได้นะ จะให้ทำยังไง หาไม่เจออยู่ได้ แล้วลูกค้าต้องทำยังไง
คำตอบ จาก ผจก คือ ทนใช้ไปครับ หรือถ้าลูกค้าไม่โอเค อยากไปตั้งกระทู้ในพันทิพ ก็แล้วแต่ลูกค้าสะดวกเลยครับ
อ่ะโหวววว แม่เราขึ้นเลยค่ะ คือเอารถมาทิ้งไว้เกือบเดือน อาการก็ยังหาไม่เจอ แล้วยังมีหน้ามาท้าทายลูกค้าอีก คือตกลงตอนนี้เราจะทำอะไรได้บ้างคะ อยากได้คำแนะนำจากเพื่อนๆทางนี้ด้วย ตอนนี้นี่กลุ้มใจ จนไม่อยากจะใช้รถแล้ว คือเคสนี้ เราต้องเปลี่ยนรถใหม่เลยหรอ แค่ภายในสามปีอ่ะนะ อยากให้ทางศูนย์หรือทางเชฟโรเลต ประเทศไทย ออกมารับผิดชอบอะไรหน่อยได้มั้ยคะ เดือดร้อนแบบมากกกกกกกกก
ต้องไม่มีรถใช้มาเกือบเดือน แต่พอเอาออกมา ก็ยังไม่หายอีก ไม่กล้าใช้อีก
นี่จบกรณีของเราไปนะคะ พอตอนนี้หันมามองคนรอบตัวที่ใช้แคปติว่า ทุกคนมีปัญหาทั้งนั้นเลย จำญาติเราที่เป็นคนแนะนำให้ซื้อตอนต้นได้มั้ยคะ ปัจจุบันแคปติว่านางโดนเปลี่ยนเกียร์ไป แสนกว่าบาทแล้วค่ะ อยู่ดีๆ เกียร์ก็พัง บูตเกียร์แตก เกียร์รูดอะไรก็ไม่รู้
ส่วนพี่อีกคน ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ เปิดแอร์เสร็จ แอร์จะไม่เย็นค่ะ ต้องก้มลงเอามือทุบๆ ตรงแถวๆที่วางขาฝั่งคนนั่ง แถวๆเก๊ะเก็บของอ่ะค่ะ แอร์ถึงจะเย็น 555 แต่ประเด็นคือรถนางเพิ่ง ปีเดียว และช่างก็หาอาการไม่เจอเช่นกัน
ทุกคนยืนยันว่าตัวถังดีจริงค่ะ แต่นอกนั้นห่วยหมด ทั้งระบบ ทั้งศูนย์บริการ ทั้งพนักงาน
ถ้าจะซื้อรถใหม่แนะนำว่าอย่าเป็นเชฟโรเลต แคปติวาเลยค่ะ