"People don't take trips, Trips take people"
- Jonh Steinbeck
ตอน 2 เกิ่นเทอ
http://pantip.com/topic/35612657
ตอน 3 ฮาเตี้ยน-กัมโพท
http://pantip.com/topic/35634796
ตอนจบ สีหนุวิลล์-เกาะรง
http://pantip.com/topic/35639165
"ตกลงเจ๊จะไปมะพวกผมจะจองตั๋วแล้ว" นี่ถือว่าเป็นคำชวนมั้ยน๊าาาา ..
ประสบการณ์ในการปั่นสองล้อของเราก็ยาวนานมากกก คือแค่ 4 เดือน
เพิ่งได้จักรยานพับ JJ มาคันนึงเร็วๆนี้ ทริปที่ปั่นไกลที่สุดครั้งเดียวคือ นวมินท์-นครนายก 80 กิโล นอกนั้นปั่นเล่นทุกเช้าแถวบ้านวันละ 7 กิโล
ไงที่อาจหาญ...เพราะคนเดียวคงไม่มีทั้งปัญญาและกำลังใจ จึงต้องอาศัยเพื่อนๆกันที่มีประสบการณ์ในการปั่นจักรยานมาหลายปี คือ พงษ์และซ้ง ส่วน เรา โด่ง และ ปอง ถือเป็นถอดด้ามใหม่
โอกาสและอากาศดีๆ แบบนี้ที่จะไปกับทีมที่รู้ใจ (คริๆ) มีไม่บ่อย
แต่ก็ไม่อยากจะคิดมากจุดประสงค์ของทริปนี้พวกเราอยากลองปั่นนอกประเทศดูบ้างมีหลักเกณฑ์คือ
1. ในสภาพเส้นทางที่ง่ายๆคือไม่ต้องข้ามเขา
2. ไม่เกิน 10 วัน
3. ค่าตั๋วถูก
4. ไม่ต้องขอวีซ่า
ทั้งปิงปองโ่ด่งและป๋าพงศ์ได้เลือกเส้นทางที่เข้าข่าย 4 ข้อบนแล้วเราเลยสรุปได้เส้นทางโฮจิมืนท์ - ศรีหนุวิล - เกาะกง, ตราดเพราะเส้นนี้ยังเป็นเส้นทางใหม่ที่พอมีการปั่น มายังไม่มากแถมเราอยากเห็นทะเลของเขมรที่ว่าสวยนัก
(A) โฮจิมินห์ - (B) Tho ของฉัน - (C) เกิ่นเทอ - (D) Hatien - (E) Xa Xia - (F) Kampot - (G) Srihanoukville - ค้อ Kong (ตราด)
ซึ่งรวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรถ้าเราปั่นวันละ 100 กิโลจะใช้เวลา 10 วัน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า 60-70 กิโลเป็นระยะทางที่เป็นไปได้ที่สุด
วันที่ 1 กรุงเทพ-โฮจิมินท์ สายการบินนกแอร์ ถึงโฮจิมินท์ 9 โมงเช้า
วันที่ 2 โฮจิมินท์-มีโท (My Tho) ระยะทาง 74 กิโลเมตร
วันที่ 3 มีโท (My Tho) - เกิ่นโท (Can Tho) ระยะทาง 88.5 กิโลเมตร
วันที่ 4 เกิ่นโท ปั่นเที่ยวในเกิ่นโท ระยะทาง 20 กิโลเมตร
วันที่ 5 เกิ่นโท - ฮาเตี้ยน (Ha Tien) ระยะทาง 180 กิโลเมตร (เหมานั่งรถตู้)
วันที่ 6 ฮาเตี้ยน- Xa Xia (border) - Kampot ระยะทาง 50.7 กิโลเมตร
วันที่ 7 Kampot-Srihanoukville ระยะทาง 98.8 กิโลเมตร
วันที่ 8 Srihanoukville - Koh Rong ข้ามเรือ
วันที่ 9 เกาะรง-สีหนุวิล-เกาะกงชายแดนกัมพูชา ระยะทาง 130 กิโลเมตร (เหมารถตู้)
เกาะกง-กรุงเทพ ระยะทาง 500 กิโลเมตร (เหมารถตู้)
ขนสิบล้อข้ามแดน
ถูกต้องฮะ .. ห้าคันสิบล้อก่อนไปเราเช็คกับสายการบินนกแอร์ที่เราจองตั๋วว่าต้องใส่กล่องหรือถุงก่อนมั้ยเพราะจากรีวิวก่อน ๆ สายการบินนกแอร์อนุญาตให้เข็นขึ้นได้เลย แต่เรา ไม่แน่ใจเลยให้หนุ่มซ้งช่างจักรยานคนเดียวประจำทริปช่วยกันแพคใส่กล่อง 3 คันคือของซ้งพงศ์และเราส่วนของปองและโด่งเข็นขึ้นเลย
ปอง - แหม่มใช้รถพับ JJ KHS เฟรมพับ 20 นิ้วเฟรมโครโมลี่JJ
พงศ์ - วิตามิน D KHS 700cc เฟรมโคโมลี่วิตามิน D-KHS-700c
โด่ง - 700cc Cenelli cinelli-hobo-700c
ซ้ง - Surly Long Haul 26"
Touring Backpacker
คำถามสำหรับ Backpacker จักรยานท่องเที่ยวแบบมือใหม่ถอดด้ามคือ.. ต้องขนอะไรไปบ้างสำหรับเวลา 7-10 วัน
คำตอบ.. จากมือใหม่ถอดด้ามเช่นกันสิ่งที่ต้องมีคู่จักรยานทัวริ่งคือ
1. กระเป๋าหลัง 2 ข้างแบบกันน้ำใส่เสื่อผ้าที่ควรจะใส่ถุงพลาสติดก่อนเพื่อกันเปียกตอนโดนฝนพร้อมอุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัว
2. กระเป๋าหน้าเอาไว้ใส่ของที่หยิบใช้ได้ง่ายเช่นโทรศัพท์มือถือ - กล้องถ่ายรูป -Power ธนาคาร
3. ลำโพงติดรถหรือหูฟังสำคัญมาก กนะเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับการปั่นระยะทางไกล .. ศรีเตือนคุณแล้ว
4. กล้องถ่ายรูป.. เราพกกล้อง DSLR ไป แต่ปรากฎว่าทริปนี่เป็นทริปที่ถ่ายรูปน้อยที่สุดในสามโลก ... เมมโมรี่การ์ดเมมเดียวยังเหลือกลับมา (โอ้วแม่เจ้า) .. . เพราะการปั่นไปด้วย - จอด - หยิบกล้อง - ถ่าย - เก็บมันใช้เวลาประมาณนึงกับการที่ไปกับกลุ่มหลายคนทำให้ทิ้งระยะกันพอควรวิธีแก้คืออาจต้องยอมทิ้งระยะห่างนาน ๆ ให้เพื่อนไปรอก่อนแล้ว ค่อยตามไปหากไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลาหรือใช้เป็นกล้องคอมแพคเล็ก ๆ หรือโทรศัพท์มาร์ทโฟนนี่แหละ
เสี้อกันฝน (ที่มีคุณภาพ.. ย้ำ) เราไม่ได้เตรียมไปไปซื้อเอาข้างหน้าแบบตัวละ 15 บาทปรากฏว่าไม่เวิร์อย่างมากเพราะขาดง่ายต้านลมไม่ถนัด.. ทริปนี้ซื้อไปสาม ตัว
5. ไฟหน้าแบบติดหน้าจักรยานหรือคาดหัวที่สว่างเพียงพอ
6. เต้นท์หรือถุงนอนเผื่อค่ำไหนนอนนั่น
ขอย้ำว่ากระเป๋าทั้งหมดควรจะกันน้ำ.. ถ้าไม่กันก็หาวิธีกันน้ำให้เค้าซะค่ะ
สนามบินดอนเมือง
เรานัดเจอกันก่อนหกโมงเช้าเผื่อเวลาในการโหลดจักรยาน ..
สี่หนุ่มไปถึงก่อนแล้วพอเราไปถึงเค้าโหลดกันหมดเหลือทิ้งไว้แค่คนของเรา
นกแอร์สู่โฮจิมินท์ให้โหลดนนได้ 30 กกเราซื้อตั๋วไปเที่ยวเดียวไม่มีตั๋วกลับทางเจ้าหน้าที่นกแอร์ที่เช็คเคาน์เตอร์ให้กรอกใบยินยอมในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นที่ไม่สามารถกลับได้จะไม่เกี่ยวข้องกับสาย การบิน
ซ้ง - โด่ง - ป๋าพงศ์ - ปิงปอง
การบรรจุหีบห่อที่อากาศพอร์ตแพคจักรยานของพงศ์แปะรายละเอียดทั้งภาษาอังกฤษและเวียดนาม
เรารอลุ้นว่าถึงสนามบินโฮจิมินท์สภาพจักรยานที่ไม้ได้แพคใส่กล่องทั้งของโด่งและปิงปองจะสภาพเป็นอย่างไร
ถึงโฮจิมินท์รถของปิงปองและ โด่งโหลดมาด้วยสภาพที่เห็นคือของโด่งแฮนด์จับจะเป็นรอยขาดที่หนังหุ้มส่วนบันไดจักรยานพับปิงปองหักไปด้านนึงเราเลยต้องหาร้านจักรยานเปลี่ยนบันไดปิงปองใหม่กันอุบัตเห ตู ... ห่อเถอะค่ะ ... ศรีเตือนคุณแล้ว
วันแรกตีเมืองโฮจิมินท์
การปั่นยาวข้ามประเทศ 10 วันอุปกรณ์ต้องพร้อมสิ่งที่เตรียมมาสำหรับทริปนี้คือ
1. ยางในอะไหล่คันละเส้น
2. ชุดปะยางและเครื่องมือ
3. ที่สูบลมแบบพกพา
วันแรกวันนี้เราหาที่พักที่โฮจิมืนท์ 1 คืนเพื่อเตรียมความพร้อม (ทางร่างกายและจิดใจ 555) .. คือเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์จักรยาน
1. หาซื้อซิมการ์ดที่เวียดนามแพคเกจ 7 วันใช้เนตได้อย่างเดียวราคา 50000 หมื่นดองตกไม่ถึง 100 บาทดีและไวมากกค่ะ.. ศรีเตือนอีกที.. ไม่ต้องโรมมิ่งมานะคะใช้ซิมที่ นี่ถูกและเร็วและเป็น 4G ค่ะ
2. หาร้านจักรยานเปลี่ยนบันไดของรถปิงปองสูบยางรถจักรยาน
วันแรกที่ร้านจักรยานในโฮจิมินท์
เราเติมลมยางที่ร้านจักรยานจนครบทุกคัน ฟิ้วววส์สสสส เสียงลมออกจากรถพับของเรา...เอาสิ..ล่อยางหลังไปล้อแระนี่ยังไม่ได้เริ่มออกสตาร์ทไปไหนเลย และเป็นวันแรกที่มาถึงโฮจิมินท์..
แต่ไม่เป็นไร เรามียางสำรอง ลองให้เจ้าของร้านช่วยดูจะได้ปะยางได้ เราเอารถเข้าไปในร้านก็มีเสียง ฟิ้วส์สสสส ออกจากยางหน้าอีกล้อนึง ตายละหว่า เกิดอะไรขึ้นไม่น่าจะเป็นพร้อมกันทั้งสองล้อ และเราเพิ่งเปลี่ยนเพื่มขนาดยางก่อนมาทั้งยางนอก-ยางใน
ช่างเจ้าของร้านที่โฮจิมินท์ดูอาการปริแตกที่รอยต่อยางใน น่าจะมาจากการเติมลมยางที่มากเกินไป เราเลยต้องเปลี่ยนยางในททั้ง 2 ล้อในวันแรก และถือว่าโชคดีที่มาเป็นที่ร้านจักรยานพอดี
โฮจิมินท์ เมืองจักรยานยนต์ที่สุดในโลก
ไม่รู้ว่ามีใครสำรวจเป็นทางการมั้ย แต่ขอให้ตำแหน่งนี้แก่เมืองลุงโฮค่ะ เยอะมากกถึงมากที่สุด
ตอนแรกเราทั้งเกร็งและเครียดเล็กน้อยเพราะมอเตอร์ไซค์เยอะจนล้นมาขับบนฟุตบาท แต่ในที่สุดใช้วิธีวัดใจและอย่ายึกยัก..ถ้าจะไปก็ไปเลยที่สี่แยก เค้าจะสังเกตเราและชะลอความเร็วไปเป็นจังหวะ..
ในที่สุดพวกเราก็สอบผ่านการปั่นจักรยานในเมืองที่จักรยานยนต์วุ่นวายที่สุดแต่ก็ปลอดภัยที่สุด
ค่ำไหนนอนนั่น
ทริปนี้ไปแบบมีจุดหมายเป็นหลักกิโล (ก้าว) คร่าวๆไม่มีแผนแก้ไขเราวางกันไว้ว่าจะหาที่พักตามเมืองเล็ก ๆ ที่ผ่านใช้การจองที่พักผ่านการเช็คจากที่ปรึกษาการเดินทาง trip advisor หรือ booking.com ก่อนเข้าตัวเมืองและ ใช้วิธี walk-in
ho-chi-minh-dinner-footpath
หอยจิ๋วอ่าหารมื่อค่ำมื้อแรกในโฮจิมินท์เป็นร้านบนฟุตบาทข้างโรงแรมนั่งต้องระวังขาเพราะจะมีครอบครัวคุณหนู 2-3 ตัวออกจากบ้านวิ่งไปวิ่งมาเรียกร้องความสนใจเรา ..
มื้อแรกคืนนี้เราได้ลองทั้งอาหารท้องถิ่นและเบียร์ไซง่อน...เป็นการสตาร์ทแบบเบาๆ แต่มีรสชาด
คืนฝนตกเราเจอคนเวียดนามที่พูดไทยได้.. หนุ่ม ๆ เลยได้ไปเดินถนนคล้ายๆ ข้าวสาร นั่งกินขนมหวานดูสาวๆเวียดนามท่ามกลางฝนพรำ
[CR] 10 วันปั่นสองล้อตีเมืองสามประเทศ 700 กิโลจากโฮจิมินท์-สีหนุวิล-เกาะกง แบบมือใหม่ถอดด้าม
"People don't take trips, Trips take people"
- Jonh Steinbeck
ตอน 2 เกิ่นเทอ http://pantip.com/topic/35612657
ตอน 3 ฮาเตี้ยน-กัมโพท http://pantip.com/topic/35634796
ตอนจบ สีหนุวิลล์-เกาะรง http://pantip.com/topic/35639165
"ตกลงเจ๊จะไปมะพวกผมจะจองตั๋วแล้ว" นี่ถือว่าเป็นคำชวนมั้ยน๊าาาา ..
ประสบการณ์ในการปั่นสองล้อของเราก็ยาวนานมากกก คือแค่ 4 เดือน
เพิ่งได้จักรยานพับ JJ มาคันนึงเร็วๆนี้ ทริปที่ปั่นไกลที่สุดครั้งเดียวคือ นวมินท์-นครนายก 80 กิโล นอกนั้นปั่นเล่นทุกเช้าแถวบ้านวันละ 7 กิโล
ไงที่อาจหาญ...เพราะคนเดียวคงไม่มีทั้งปัญญาและกำลังใจ จึงต้องอาศัยเพื่อนๆกันที่มีประสบการณ์ในการปั่นจักรยานมาหลายปี คือ พงษ์และซ้ง ส่วน เรา โด่ง และ ปอง ถือเป็นถอดด้ามใหม่
โอกาสและอากาศดีๆ แบบนี้ที่จะไปกับทีมที่รู้ใจ (คริๆ) มีไม่บ่อย
แต่ก็ไม่อยากจะคิดมากจุดประสงค์ของทริปนี้พวกเราอยากลองปั่นนอกประเทศดูบ้างมีหลักเกณฑ์คือ
1. ในสภาพเส้นทางที่ง่ายๆคือไม่ต้องข้ามเขา
2. ไม่เกิน 10 วัน
3. ค่าตั๋วถูก
4. ไม่ต้องขอวีซ่า
ทั้งปิงปองโ่ด่งและป๋าพงศ์ได้เลือกเส้นทางที่เข้าข่าย 4 ข้อบนแล้วเราเลยสรุปได้เส้นทางโฮจิมืนท์ - ศรีหนุวิล - เกาะกง, ตราดเพราะเส้นนี้ยังเป็นเส้นทางใหม่ที่พอมีการปั่น มายังไม่มากแถมเราอยากเห็นทะเลของเขมรที่ว่าสวยนัก
(A) โฮจิมินห์ - (B) Tho ของฉัน - (C) เกิ่นเทอ - (D) Hatien - (E) Xa Xia - (F) Kampot - (G) Srihanoukville - ค้อ Kong (ตราด)
ซึ่งรวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรถ้าเราปั่นวันละ 100 กิโลจะใช้เวลา 10 วัน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า 60-70 กิโลเป็นระยะทางที่เป็นไปได้ที่สุด
วันที่ 1 กรุงเทพ-โฮจิมินท์ สายการบินนกแอร์ ถึงโฮจิมินท์ 9 โมงเช้า
วันที่ 2 โฮจิมินท์-มีโท (My Tho) ระยะทาง 74 กิโลเมตร
วันที่ 3 มีโท (My Tho) - เกิ่นโท (Can Tho) ระยะทาง 88.5 กิโลเมตร
วันที่ 4 เกิ่นโท ปั่นเที่ยวในเกิ่นโท ระยะทาง 20 กิโลเมตร
วันที่ 5 เกิ่นโท - ฮาเตี้ยน (Ha Tien) ระยะทาง 180 กิโลเมตร (เหมานั่งรถตู้)
วันที่ 6 ฮาเตี้ยน- Xa Xia (border) - Kampot ระยะทาง 50.7 กิโลเมตร
วันที่ 7 Kampot-Srihanoukville ระยะทาง 98.8 กิโลเมตร
วันที่ 8 Srihanoukville - Koh Rong ข้ามเรือ
วันที่ 9 เกาะรง-สีหนุวิล-เกาะกงชายแดนกัมพูชา ระยะทาง 130 กิโลเมตร (เหมารถตู้)
เกาะกง-กรุงเทพ ระยะทาง 500 กิโลเมตร (เหมารถตู้)
ขนสิบล้อข้ามแดน
ถูกต้องฮะ .. ห้าคันสิบล้อก่อนไปเราเช็คกับสายการบินนกแอร์ที่เราจองตั๋วว่าต้องใส่กล่องหรือถุงก่อนมั้ยเพราะจากรีวิวก่อน ๆ สายการบินนกแอร์อนุญาตให้เข็นขึ้นได้เลย แต่เรา ไม่แน่ใจเลยให้หนุ่มซ้งช่างจักรยานคนเดียวประจำทริปช่วยกันแพคใส่กล่อง 3 คันคือของซ้งพงศ์และเราส่วนของปองและโด่งเข็นขึ้นเลย
ปอง - แหม่มใช้รถพับ JJ KHS เฟรมพับ 20 นิ้วเฟรมโครโมลี่JJ
พงศ์ - วิตามิน D KHS 700cc เฟรมโคโมลี่วิตามิน D-KHS-700c
โด่ง - 700cc Cenelli cinelli-hobo-700c
ซ้ง - Surly Long Haul 26"
Touring Backpacker
คำถามสำหรับ Backpacker จักรยานท่องเที่ยวแบบมือใหม่ถอดด้ามคือ.. ต้องขนอะไรไปบ้างสำหรับเวลา 7-10 วัน
คำตอบ.. จากมือใหม่ถอดด้ามเช่นกันสิ่งที่ต้องมีคู่จักรยานทัวริ่งคือ
1. กระเป๋าหลัง 2 ข้างแบบกันน้ำใส่เสื่อผ้าที่ควรจะใส่ถุงพลาสติดก่อนเพื่อกันเปียกตอนโดนฝนพร้อมอุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัว
2. กระเป๋าหน้าเอาไว้ใส่ของที่หยิบใช้ได้ง่ายเช่นโทรศัพท์มือถือ - กล้องถ่ายรูป -Power ธนาคาร
3. ลำโพงติดรถหรือหูฟังสำคัญมาก กนะเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับการปั่นระยะทางไกล .. ศรีเตือนคุณแล้ว
4. กล้องถ่ายรูป.. เราพกกล้อง DSLR ไป แต่ปรากฎว่าทริปนี่เป็นทริปที่ถ่ายรูปน้อยที่สุดในสามโลก ... เมมโมรี่การ์ดเมมเดียวยังเหลือกลับมา (โอ้วแม่เจ้า) .. . เพราะการปั่นไปด้วย - จอด - หยิบกล้อง - ถ่าย - เก็บมันใช้เวลาประมาณนึงกับการที่ไปกับกลุ่มหลายคนทำให้ทิ้งระยะกันพอควรวิธีแก้คืออาจต้องยอมทิ้งระยะห่างนาน ๆ ให้เพื่อนไปรอก่อนแล้ว ค่อยตามไปหากไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลาหรือใช้เป็นกล้องคอมแพคเล็ก ๆ หรือโทรศัพท์มาร์ทโฟนนี่แหละ
เสี้อกันฝน (ที่มีคุณภาพ.. ย้ำ) เราไม่ได้เตรียมไปไปซื้อเอาข้างหน้าแบบตัวละ 15 บาทปรากฏว่าไม่เวิร์อย่างมากเพราะขาดง่ายต้านลมไม่ถนัด.. ทริปนี้ซื้อไปสาม ตัว
5. ไฟหน้าแบบติดหน้าจักรยานหรือคาดหัวที่สว่างเพียงพอ
6. เต้นท์หรือถุงนอนเผื่อค่ำไหนนอนนั่น
ขอย้ำว่ากระเป๋าทั้งหมดควรจะกันน้ำ.. ถ้าไม่กันก็หาวิธีกันน้ำให้เค้าซะค่ะ
สนามบินดอนเมือง
เรานัดเจอกันก่อนหกโมงเช้าเผื่อเวลาในการโหลดจักรยาน ..
สี่หนุ่มไปถึงก่อนแล้วพอเราไปถึงเค้าโหลดกันหมดเหลือทิ้งไว้แค่คนของเรา
นกแอร์สู่โฮจิมินท์ให้โหลดนนได้ 30 กกเราซื้อตั๋วไปเที่ยวเดียวไม่มีตั๋วกลับทางเจ้าหน้าที่นกแอร์ที่เช็คเคาน์เตอร์ให้กรอกใบยินยอมในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นที่ไม่สามารถกลับได้จะไม่เกี่ยวข้องกับสาย การบิน
ซ้ง - โด่ง - ป๋าพงศ์ - ปิงปอง
การบรรจุหีบห่อที่อากาศพอร์ตแพคจักรยานของพงศ์แปะรายละเอียดทั้งภาษาอังกฤษและเวียดนาม
เรารอลุ้นว่าถึงสนามบินโฮจิมินท์สภาพจักรยานที่ไม้ได้แพคใส่กล่องทั้งของโด่งและปิงปองจะสภาพเป็นอย่างไร
ถึงโฮจิมินท์รถของปิงปองและ โด่งโหลดมาด้วยสภาพที่เห็นคือของโด่งแฮนด์จับจะเป็นรอยขาดที่หนังหุ้มส่วนบันไดจักรยานพับปิงปองหักไปด้านนึงเราเลยต้องหาร้านจักรยานเปลี่ยนบันไดปิงปองใหม่กันอุบัตเห ตู ... ห่อเถอะค่ะ ... ศรีเตือนคุณแล้ว
วันแรกตีเมืองโฮจิมินท์
การปั่นยาวข้ามประเทศ 10 วันอุปกรณ์ต้องพร้อมสิ่งที่เตรียมมาสำหรับทริปนี้คือ
1. ยางในอะไหล่คันละเส้น
2. ชุดปะยางและเครื่องมือ
3. ที่สูบลมแบบพกพา
วันแรกวันนี้เราหาที่พักที่โฮจิมืนท์ 1 คืนเพื่อเตรียมความพร้อม (ทางร่างกายและจิดใจ 555) .. คือเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์จักรยาน
1. หาซื้อซิมการ์ดที่เวียดนามแพคเกจ 7 วันใช้เนตได้อย่างเดียวราคา 50000 หมื่นดองตกไม่ถึง 100 บาทดีและไวมากกค่ะ.. ศรีเตือนอีกที.. ไม่ต้องโรมมิ่งมานะคะใช้ซิมที่ นี่ถูกและเร็วและเป็น 4G ค่ะ
2. หาร้านจักรยานเปลี่ยนบันไดของรถปิงปองสูบยางรถจักรยาน
วันแรกที่ร้านจักรยานในโฮจิมินท์
เราเติมลมยางที่ร้านจักรยานจนครบทุกคัน ฟิ้วววส์สสสส เสียงลมออกจากรถพับของเรา...เอาสิ..ล่อยางหลังไปล้อแระนี่ยังไม่ได้เริ่มออกสตาร์ทไปไหนเลย และเป็นวันแรกที่มาถึงโฮจิมินท์..
แต่ไม่เป็นไร เรามียางสำรอง ลองให้เจ้าของร้านช่วยดูจะได้ปะยางได้ เราเอารถเข้าไปในร้านก็มีเสียง ฟิ้วส์สสสส ออกจากยางหน้าอีกล้อนึง ตายละหว่า เกิดอะไรขึ้นไม่น่าจะเป็นพร้อมกันทั้งสองล้อ และเราเพิ่งเปลี่ยนเพื่มขนาดยางก่อนมาทั้งยางนอก-ยางใน
ช่างเจ้าของร้านที่โฮจิมินท์ดูอาการปริแตกที่รอยต่อยางใน น่าจะมาจากการเติมลมยางที่มากเกินไป เราเลยต้องเปลี่ยนยางในททั้ง 2 ล้อในวันแรก และถือว่าโชคดีที่มาเป็นที่ร้านจักรยานพอดี
โฮจิมินท์ เมืองจักรยานยนต์ที่สุดในโลก
ไม่รู้ว่ามีใครสำรวจเป็นทางการมั้ย แต่ขอให้ตำแหน่งนี้แก่เมืองลุงโฮค่ะ เยอะมากกถึงมากที่สุด
ตอนแรกเราทั้งเกร็งและเครียดเล็กน้อยเพราะมอเตอร์ไซค์เยอะจนล้นมาขับบนฟุตบาท แต่ในที่สุดใช้วิธีวัดใจและอย่ายึกยัก..ถ้าจะไปก็ไปเลยที่สี่แยก เค้าจะสังเกตเราและชะลอความเร็วไปเป็นจังหวะ..
ในที่สุดพวกเราก็สอบผ่านการปั่นจักรยานในเมืองที่จักรยานยนต์วุ่นวายที่สุดแต่ก็ปลอดภัยที่สุด
ค่ำไหนนอนนั่น
ทริปนี้ไปแบบมีจุดหมายเป็นหลักกิโล (ก้าว) คร่าวๆไม่มีแผนแก้ไขเราวางกันไว้ว่าจะหาที่พักตามเมืองเล็ก ๆ ที่ผ่านใช้การจองที่พักผ่านการเช็คจากที่ปรึกษาการเดินทาง trip advisor หรือ booking.com ก่อนเข้าตัวเมืองและ ใช้วิธี walk-in
ho-chi-minh-dinner-footpath
หอยจิ๋วอ่าหารมื่อค่ำมื้อแรกในโฮจิมินท์เป็นร้านบนฟุตบาทข้างโรงแรมนั่งต้องระวังขาเพราะจะมีครอบครัวคุณหนู 2-3 ตัวออกจากบ้านวิ่งไปวิ่งมาเรียกร้องความสนใจเรา ..
มื้อแรกคืนนี้เราได้ลองทั้งอาหารท้องถิ่นและเบียร์ไซง่อน...เป็นการสตาร์ทแบบเบาๆ แต่มีรสชาด
คืนฝนตกเราเจอคนเวียดนามที่พูดไทยได้.. หนุ่ม ๆ เลยได้ไปเดินถนนคล้ายๆ ข้าวสาร นั่งกินขนมหวานดูสาวๆเวียดนามท่ามกลางฝนพรำ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น