ย้อนรำลึก "หลางหยาป่าง" ครบรอบ 1 ปี / เล่าเรื่องเหมยฉางซู



เรื่องที่สองอยู่ คห.6 จ้า
เค้กเค้กเค้กเค้กเค้กเค้กเค้กเค้กเค้กเค้กเค้ก

19 กันยาเมื่อปีที่แล้ว เหมยฉางซูปรากฏสู่หน้าจอโทรทัศน์เป็นครั้งแรก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ท่วงท่าที่งดงามของบุรุษเหมย แววตาที่ลุ่มลึกยากหยั่งถึง สะท้อนจิตใจที่มุ่งมั่นและสติปัญญาอันเฉียบแหลม
เหมยฉางซูจากเราไปแล้วกว่า 300 วัน แม้เขาจะไม่กลับมาอีกเลย
แต่เชื่อว่าพวกเราทุกคน ไม่มีทางลืม ชายหนุ่มที่เดินทางมายังเมืองจินหลิงในวันนี้ เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลและกองทัพชื่อเยี่ยน
บุรุษที่โฉมหน้าเปลี่ยนไป ไม่หลงเหลือเค้าโครงเดิมที่เขาปรารถนาจะกลับไป






เหมยฉางซูเป็นเพียงเปลือกเปราะบาง?



เชื่อว่าคนที่ได้ดูหลางหยาป่าง  จะคุ้นกับภาพนี้  จริงๆ แล้วภาพของเพลงประกอบตอนต้นเรื่อง  
คือดักแด้ที่กลายเป็นผีเสื้อ  เปรียบเสมือนชีวิตของเหมยฉางซู
เมื่อดักแด้กลายเป็นผีเสื้อที่งดงาม  เฉิดฉายอยู่บนโลก  
ความงดงามของผีเสื้อเปรียบกับสติปัญญาล้ำเลิศที่ทำให้เหมยฉางซูโดดเด่นกว่าที่ปรึกษาคนใดใด
หากเพียงแต่ผีเสื้อก็เป็นสัตว์เปราะบาง วงจรชีวิตสั้น  เหมือนดั่งร่างของเขาที่ไม่อาจทนหนาว  ต้องการคนคอยคุ้มครองตลอดเวลา
จริงๆ เป็นภาพประกอบเพลงละครที่อาร์ตและสื่อความหมายดีมากๆ ค่ะ  สะท้อนชีวิตของเหมยฉางซูก่อนเข้าเมืองจินหลิงได้เป็นอย่างดี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เหมยฉางซู เดิมก็คือหลินซูห์

จริงๆแล้ว เหมยฉางซูเหมือนแค่เปลือกเปราะบางที่ห่อหุ้มหัวใจทรนงของจอมทัพน้อยคนหนึ่งไว้
เป็นเหมือนพันธนาการที่รัดขึงแขนขาของเขามิอาจให้โลดแล่นดั่งใจฝันได้เหมือนเมื่อก่อน
ร่างกายที่แข็งแรงดุจลูกไฟน้อย ตนเองภาคภูมิที่มีสติปัญญาและพลกำลังปกป้องชาติและครอบครัว
แต่จู่ๆ วันหนึ่งก็เหมือนฟ้าทลายลงมา เขาที่ครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่ ณ ผาเหมยหลิ่ง
ถูกยื้อชีวิตอย่างเต็มกำลังโดยประมุขหอหลางหยาและประมุขน้อยลิ่นเฉิน



แท้จริงเขาสามารถมีร่างกายที่แข็งแรงได้ หากไม่มีภารกิจใดต้องทำ
เขาสามารถใช้ชีวิตสงบสุขได้ในหอหลางหยา มีลิ่นเฉินเป็นสหาย ข้างกายมีหลีกังและเจินผิงคอยรับใช้
แต่ด้วยหัวใจที่แรงกล้าอย่างหนุ่มนักรบ เขาเลือกที่จะสู้สุดกำลัง โดยเลือกเส้นทางที่น่าขันทั้งน้ำตา
ลอกหนังขูดกระดูก  บดกระดูกแล้วใช้เวลาปีกว่าเพื่อให้กระดูกประสานใหม่  
หากแต่วิธีนี้ก็เหมือนชุบชีวิต  ไม่อาจมีร่างกายแข็งแรงและอายุเท่าคนปกติได้
ยอมเป็นคนใหม่ในร่างที่อ่อนแอเจียนตาย น้ำเสียงใหม่ ใบหน้าใหม่ ร่างกายไร้ร่องรอยของหลินซูห์คนเดิม




การเปลี่ยนหลินซูห์ที่ภาคภูมิเป็นเหมยฉางซู สำหรับเขามันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่ากรีดเลือดกรีดเนื้อ
เพราะนั่นคือการถอดเกียรติยศของตนเองลง ยอมลดตัวลงเพื่อมีชีวิตรอดกลับไปทำภารกิจสุดท้ายของชีวิต
ด้วยเหตุนี้ ตลอด 1 ปีที่ต้องนอนนิ่งอยู่บนเตียง มีลิ่นเฉินคอยเช็ดทำความสะอาดให้
บางที มันทรมานเสียยิ่งกว่าการรักษาร่างกาย แม้ลิ่นเฉินไม่รังเกียจ แม้ลิ่นเฉินจะเป็นสหาย
แต่เขาไม่เคยคิดฝันว่าตนเองจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ที่เคยคิด อย่างมากก็แค่ตาย แค่สิ้นชีวิต  ไม่ใช่ตายทั้งเป็นแบบนี้






“เมื่อข้ารอดมาได้  ก็จะไม่ใช้ชิวตให้สูญเปล่า”

คำพูดนี้หมายรวมถึง 2 ครั้ง  
ครั้งแรกคือที่เหมยหลิ่ง ทัพชื่อเยี่ยนถูกสลาย พี่น้องรวมรบตายสิ้น แต่เขากลับรอดชีวิต  
อีกครั้งคือช่วงการรักษาตัว 1 ปีที่ยากลำบาก เฉียดตายครั้งแล้วครั้งเล่า  
กว่าตนเองจะเริ่มพูดได้อีกครั้ง กว่าตนเองจะขยับนิ้วได้อีกครั้ง เขานับวันรอแล้วรอเล่า  
เฝ้าคอยให้ตัวเองมีพัฒนาการอย่างทรมาน  
จุดนี้เองที่แฟนคลับหูเกอเชื่อว่า มีเพียงหูเกอเท่านั้นที่เข้าใจจิตใจของเหมยฉางซู  
เมื่อ 2006 - 2007 ช่วงที่เขากำลังรักษา ใบหน้าซีกขวาที่บวมเป่งเป็นเท่าตัวของตัวเอง
ใบหน้าที่บิดเบี้ยว เลือดและเนื้อหนังผสมปนเป เขาต้องทนมองตัวเองในกระจกวันแล้ววันเล่า  
รอคอย เฝ้ามอง ไม่มั่นใจว่าอนาคตของตนเองจะเป็นอย่างไร  หูเกอในตอนนั้นไม่ต่างกับ 1 ปีของเหมยฉางซูแม้แต่น้อย



เมื่อชีวิตถูกเก็บขึ้นมาได้  เขาไม่ใช่หลินซูห์อีกแล้ว  และเขาก็ไม่ใช่ตัวของเขาคนเดียวอีกต่อไป  
เขาเป็นเพียงปณิธาน  ปณิธานเพื่อบรรลุภารกิจหนึ่งเท่านั้น  
เขาไม่ใช่เหมยฉางซู  เพราะเหมยฉางซูเป็นเพียงชื่อเรียกเปลือกนอกของเขา  
เป็นชื่อที่ใช้เพราะสะดวกต่อการทำภารกิจนี้เท่านั้น   แต่แล้วก็ไม่ใช่ว่าพอฟื้นตัวเขาก็สามารถกลับไปได้ทันที  
แผนการที่สมบูรณ์ของเขากลับต้องให้เขารอคอยอีกกว่า 12 ปี  
วันเวลา 12 ปีที่อยู่ในคราบคนแปลกหน้า ชื่อแปลกหน้า ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจ  
แท้จริงความทุกข์ที่ไม่อาจพูดความจริงได้ของเหมยฉางซูบีบคั้นเสียยิ่งกว่าจอมแสบหมิงไถ  
หมิงไถถือว่าโชคดีมากที่มีพี่ชายของเขาเป็นผู้บังคับบัญชา  มีพี่สาวปกป้อง  มีครอบครัวหลงเหลือ  
แต่เหมยฉางซูมีเพียงลิ่นเฉินและอดีตทหารผู้รอดชีวิตไม่กี่สิบคน  
ในบรรดาผู้คนเหล่านี้  ที่สามารถพึ่งเป็นที่พักทางใจได้....ไม่มีแม้เพียงคนเดียว  แม้เพียงลิ่นเฉิน


“ข้ารู้เพียงเหมยฉางซู ไม่รู้จักหลินซูห์”



ลิ่นเฉินไม่สนใจว่าอดีตของเขาเป็นเช่นใด  เขารู้แต่ว่าเขามีเพื่อนคนนี้  เพื่อนที่หาได้ยากเพราะมีสติปัญญาและกระบวนการความคิดใกล้เคียงกัน  
ลิ่นเฉินเป็นเพื่อนเหมยฉางซู  แต่ไม่คิดจะเป็นเพื่อนหลินซูห์   หากแต่เหมยฉางซูไม่ได้ต้องการเพื่อน  
หลินซูห์ที่หลับใหลในร่างของเขาต่างหากที่ต้องการ
12 ปีผ่านไป ทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้งชื่อเสียงเรียงนาม เกียรติยศและอำนาจ  
เขาพร้อมแล้วที่จะกลับไปลบล้างมลทินให้ตระกูลและกองทัพ  12 ปี เวลานานแสนนาน
แต่ไม่อาจชะล้างความเข้มข้นของปณิธานในหัวใจของเขาไปได้  ก้าวทุกก้าวที่เขาย่างตลอด 12 ปี  ก็เพื่อก้าวนี้ที่จะย่างสู่จินหลิง  



เรารู้ดีว่าหลังจากเหมยฉางซูเข้าเมืองจินหลิง  เรื่องราวเป็นเช่นใด  
จนเมื่อภารกิจของเขาเสร็จสิ้น  ลิ่นเฉินที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังจึงเริ่มเกิดความกังวล

“เหมยฉางซูพยายามมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้  ก็เพื่อลบล้างมลทิน  
วันนี้ภารกิจของเขาเสร็จสิ้นแล้ว  เหมยฉางซูก็ไม่มีความจำเป็นต้องพยายามมีชีวิตอีกต่อไป”

เขาไม่อาจกลับไปเป็นหลินซูห์  หากแต่อยู่ในนามเหมยฉางซูก็ทุกข์ใจ  
นั่นคือเหตุผลที่ลิ่นเฉินกลัว  กลัวว่าเหมยฉางซูจะไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีก  
เพราะในความคิดแบบหลินซูห์  เขาควรจะตายไปพร้อมพวกพ้องตั้งแต่ 12 ปีที่แล้วที่ผาเหมยหลิ่ง

แต่แล้วทุกสิ่งก็เหมือนจะดีขึ้น  เหมยฉางซูไม่มีทีท่าว่าจะละทิ้งลมหายใจของตนเอง  ลิ่นเฉินวาดฝันวันเวลาที่ท่องยุทธภพอย่างสำราญ  
เหมยฉางซูคิดเพียงตนเองตอนนี้ต้องตอบแทนลิ่นเฉิน  การตอบแทนที่ดีที่สุดก็คือใช้ชีวิตที่เหลือเพียงน้อยนิดอย่างมีความสุขร่วมกับเขา



เดิมทีก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน  สงครามการเมืองในเมืองจินหลิงลดทอนลมหายใจของเขาไปไม่น้อยจนเหลือไม่ถึง 1 ปี  
แต่เขาก็รู้ว่าฝีมือการแพทย์ของลิ่นเฉินสามารถยื้อชีวิตให้เขาได้นานกว่านั้น  เขายอม  เพราะลิ่นเฉินต้องการให้เป็นเช่นนั้น  
มิใช่เพราะว่าเขากระตือรือร้นอยากมีชีวิต  เขาแค่อยากทำอะไรที่ไม่ขัดใจเพื่อนรักของตนเองบ้างก็เท่านั้น



เรารู้ว่าเรื่องมันไม่ได้จบสวยเช่นนั้น  
ด้วยเหตุสงคราม  เหมยฉางซูจากเราไป  
วันที่เขาจากไป เขาไม่ใช่เหมยฉางซู  แต่เป็นหลินซูห์  
ลิ่นเฉินได้ทำความรู้จักหลินซูห์ในช่วงสุดท้ายของชีวิตเพื่อนรัก  
ในหัวของเขาคิดเพียงแต่ว่า เขารักเพื่อนที่ไม่รักชีวิต เขาทำใจไม่อยากชอบหลินซูห์ที่พรากชีวิตเพื่อนรักเขา  
เหมยฉางซูเคยบอกว่า ลิ่นเฉินจะชอบหลินซูห์หากได้รู้จักเขา  
ลิ่นเฉินอยากปฏิเสธเสียงแข็ง  แต่ก็ไม่กล้า  เพราะมันคือความเอาแต่ใจครั้งสุดท้ายของเหมยฉางซู




ธงทัพต้าเหลียงสะบัดพริ้ว  เสียงกลองกระหื่มก้องทั่วพื้นสงคราม  

หลินซูห์กลับสู่สนามรบอีกครั้ง  เขาปลิดชีพเหมยฉางซูด้วยมือของตนเอง  





*****************************************************************************

บทความนี้เป็นความเห็นที่วิเคราะห์ของ จขกท เห็นด้วยหรือต่างไป  มาร่วมแชร์ความเห็นกันเน้อ ~~

อมยิ้ม36อมยิ้ม36อมยิ้ม36อมยิ้ม36

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่