ฟ้าแลบยาวที่สุดในโลกเกือบ 200 ไมล์

.

.
© Gene Blevins / Reuters
.
.

นับว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
ระดับประวัติศาสตร์โลกไม่ลืมเลยทีเดียว
นักวิทยาศาสตร์ World Meteorological Organization
ได้รับรองฟ้าแลบที่มีขนาดความยาวที่สุดในโลกที่ยาว 321.1 กิโลเมตร (199.5 ไมล์)
ฟ้าแลบในวันที่ 20 มิถุนายน 2007
บนท้องฟ้ารัฐ Oklahoma สหรัฐอเมริกา
.
.

.
© Tom Rourke/IFLScience
.
.

ส่วนแสงฟ้าแลบที่ นานที่สุด
เป็นของภาคพื้นยุโรปนานกว่า 7.74 วินาที
ในวันที่ 30 สิงหาคม 2012
ที่ Provence-Alpes-Côte d'Azur
ตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส
ค่าเฉลี่ยของฟ้าแลบจะนานราว 0.2 วินาที
ตามรายงานของ Weather Channel

สถิติดังกล่าวได้รับการยืนยันจาก
WMO’s weather and climate extremes committee
และตีพิมพ์เผยแพร่ในเดือนนี้ที่
Bulletin of the American Meteorological Society 

Randall Cerveny Chief Rapporteur
of Climate and Weather Extremes
ให้สัมภาษณ์กับ USA Today ว่า
การเจอเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้

“เรื่องที่สำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัย
ในการสังเกตการณ์ฟ้าแลบ
คือ ฟ้าแลบสามารถเดินทางได้กว้างไกล
จากพายุเมฆฝนที่ก่อตัวขึ้นมา
สำหรับคำแนะนำที่ดีที่สุดของผู้เชี่ยวชาญคือ
เมื่อฝนฟ้าคำราม ให้อยู่แต่ในบ้าน "

ในสหรัฐอเมริกา มีคนตาย
เพราะฟ้าผ่าในช่วงปี 2006 จำนวน 35 ราย
แต่ในปี 2007 น่าจะเป็นเลวร้ายที่สุด
เพราะมียอดคนตายรวม 45 ราย
.
.



เรียบเรียง/ที่มา

http://bit.ly/2d3CyCp
http://wxch.nl/2cfSHP2
http://bit.ly/2dawp67
.
.

.

.
.


เรื่องเล่าไร้สาระ

ฟ้าแลบ หรือ Phar Lap
คือชื่อม้าแข่งที่โด่งดังที่สุดในออสเตรเลีย
ตามตำนานเล่าว่า เจ้าของมาเที่ยวเมืองไทย
แล้วเห็นแสงฟ้าแลบ เลยถามคนไทย
เรียกฟ้าแลบว่าอะไร
แล้วนำไปตั้งชื่อม้าแข่งตัวโปรด

อีกตำนานหนึ่งคือ ในสมัยรัชกาลที่ 6  ขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต(เปล่ง ไตรปิ่น)
เป็นการ์ตูนนิสต์คนแรกของไทยสมัยรัชกาลที่ 6
ท่านเป็นบุตรของนายสอน กับ นางเภา
ท่านเคยดั้นด้นไปเรียนวิชาจิตรกรรมที่อังกฤษ
แล้วเดินทางไปนอร์เวย์ เดนมาร์ก อิตาลี
สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
รวมระยะเวลาอยู่ต่างประเทศกว่า 20 ปี
ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ
ท่านน่าจะมีรู้จักกับ Harry Telford
แล้วจึงตั้งชื่อม้าฟ้าแลบตัวนี้ให้

ต่อมาท่านได้เดินทางกลับเมืองไทย
พร้อมกับคณะซื้อม้าของ
พระยาคทาทรธรนินทร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์)

จ. ไตรปิ่น เป็นบุตรชายของท่าน
เป็นนักเขียนนวนิยายเรื่อง ลูกคนยาก
ที่มีคนรู้ประวัติท่านน้อยมาก
แม้ว่าท่านเป็นนักเขียนรุ่นเดียวกับ
ป.อินทปาลิต (สามเกลอ พล นิกร กิมหงวน)

ม้าแข่งตัวนี้วิ่งชนะเลิศรางวัลหลายรายการมาก
มีความเร็วเปรียบประดุจสายฟ้าแลบ/เร็วมาก
ฟ้าแลบแต่เดิมเป็นม้าไร้ชื่อเสียง
แบบม้าบ้านนอก นอกสายตาคนดู
แต่ต่อมาเป็นม้าขวัญใจมหาชนชาวออสเตรเลียช่วงทุกข์ยากจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
หลายคนต่างได้เงินจากการพนันที่ม้าวิ่งเข้าวิน
Win แบบแบเบอร์ (ชนะขาด) แทบทุกครั้ง
การแทงม้าโดยทั่วไปจะมี 2 แบบคือ

การแทงวิน คือ ให้ทายว่าม้าเบอร์ไหน
วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 อัตราจ่ายมากที่สุด

การแทงเพลส คือ ให้ทายว่าม้าเบอร์ไหน
เข้าวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 2 3
อัตราจ่ายลดหลั่นลงมา

แต่ฟ้าแลบตายอย่างปริศนาก่อนวันแข่งขัน
มีแต่ข่าววงในว่ามันถูกวางยาตาย
เพราะเจ้ามือวงการพนันม้าแข่ง
ได้เสียไปมากแล้วกับม้าแข่งตัวนี้
บางข่าวว่ามันติดเชื้อในกระแสเลือด
เพราะอาหารเป็นพิษจึงตาย

มีการผ่าตัดหัวใจของฟ้าแลบเก็บไว้ศึกษา
พบว่าหัวใจของมันหนัก 6.2 กก
แต่หัวใจของม้าโดยทั่วไปหนักแค่ 4 กก
การที่มีหัวใจโตกว่าม้าตัวอื่นทำให้มันสูบฉีดโลหิตได้ครั้งละปริมาณมากกว่าม้าตัวอื่น
ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณออกซิเจน
ที่ม้าแข่งได้รับในการวิ่งแข่งขัน
ทำให้วิ่งได้เป็นระยะทางไกล ๆ ได้โดยไม่เหนื่อย
แต่ทั้งนี้ไม่สัมพันธ์กับอัตราความเร็วของการวิ่ง
หรือการเป็นโรคหัวใจโตหรือโป่งพองแต่อย่างใด

ฟ้าแลบมีลำตัวสีแดงเหมือนกับ
หนังสือกำลังภายในพวกม้าโลหิต/อาชาพันลี้
ในเรื่องสามก๊กมีม้าประเภทม้าพันลี้ม้า
หรือม้าหมื่นลี้ เช่น ม้าชื่อ เซ็กเทา
ที่แต่เดิมเป็นม้าศึกคู่ใจของ ลิโป้
บุรุษผู้ทรยศต่อทุกคนเพื่อผลประโยชน์
ลิโป้ถูกโจโฉ(เฉ่าเฉ่า) สั่งให้ตัดหัว
เพราะเล่าปี่(หลิวเป้ย) เสี้ยมเรื่อง
ไม่ดีในอดีตของลิโป้ ที่ทรยศพ่อบุญธรรม

ต่อมาหลังจากที่กวนอู(กวนหยู่)
พลัดพรากจากเล่าปี่มารับใช้โจโฉไม่นานนัก
โจโฉได้มอบม้าเซ็กเทาให้กวนอูประจำกาย

กวนอูพ่ายแพ้กลยุทธ์ลกซุนตอนที่รบกับลิบอง
จึงถูกจับตัวมัดส่งให้กับซุนกวน
เพื่อเกลี้ยกล่อมให้สวามิภักดิ์ แต่ไม่ได้ผล
ซุนกวนจึงสั่งตัดหัวพร้อมลูกชายที่ชื่อว่า กวนเป๋ง
ส่วนม้าเซ็กเทามักจะเล่ากันว่า
มันตรอมใจตายหลังจากนั้นไม่นานนัก
.
.

อีกตำนานหนึ่ง

Phar Lap คือ ฟ้าแลบ ในภาษาไทย/จ้วง
มีชายหนุ่มคนที่ชื่อว่า Aubrey Ping
นักศึกษาแพทย์ที่ University of Sydney
ชอบดูการแข่งม้าใน Randwick
กับชอบพูดคุยเล่นกับนักขี่ม้าและครูฝึกสอน
พ่อของ Ping เป็นคนจ้วง Zhuang
ที่อพยพมาอยู่ที่ออสเตรเลีย
ในศตวรรษที่ 19 จากตอนใต้ของจีน
Aubrey เรียนรู้ภาษาจ้วงบางคำจากพ่อ
และใช้ความหมายคำว่า ฟ้าแลบ
การใช้ ph แทน f ทำให้คำนี้มี 7 ตัวอักษร
จึงต้องแยกออกมาเป็น 2 คำคือ Phar Lap
เรื่องนี้จำเป็นมากสำหรับ Harry Telford
ต้องมีชื่อม้าในการแข่งขัน Melbourne Cups

ชาวจ้วง จะอยู่กันมากที่แถวกวางสี
มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
ท่านเคยเขียนไว้นานแล้วว่า
ตอนเจอคนจ้วงท่านบอกว่า
คุณพูดภาษาไทย
แต่คนจ้วงกลับตอบว่า
มีxซิ พูดภาษากู

จ้วง บางท่านสันนิษฐานว่า
น่าจะเป็นคำดั้งเดิมของคนไท
ที่มีความหมายว่า หลวง ในปัจจุบัน
เพราะเป็นดินแดนที่ตาม
ตำนานลาว ไทอาหม ไทใหญ่
มักเขียนว่า ได้อพยพโยกย้ายลงมา
ตามลำน้ำ/ไปเหนือน้ำ
แยกย้ายกันออกไปตาม
แม่น้ำโขงกับแม่น้ำสาละวิน
ที่ดูเหมือนงูใหญ่/พญานาค 2 ตัว
ไหลจากที่เดียวกัน(เทือกเขาหิมาลัย)
แล้วแยกกันไหลลงสู่คนละฝั่งทะเล/มหาสมุทร

คนไทย ไท ไต ได กะได จ้วง
อยู่กันกระจัดกระจายมากในเอเซีย
ตั้งแต่จีน ลาว พม่า เวียตนาม อินเดีย มาเลย์
ประมาณการกันว่ากลุ่มคนพูดตระกูลภาษาไท
มีมากกว่า 200 ล้านคนนับรวมประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติมชนชาติไทมีมากใน
Facebook  จำนงค์ ทองภิรมย์ 
.

ข้อมูลเพิ่มเติม (ไทย)

https://bit.ly/2DbhfMa

https://goo.gl/ImdSbQ

.
.

หมายเหตุ

มีหนังสือ ไดเวียดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวจัมปา
เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรจัมปา/จาม
ที่เคยยิ่งใหญ่ในเวียตนามมาก่อน
เป็นหนังสือที่นักประวัติศาสตร์เขมรระดับกูรู
ที่ศึกษาและเขียนไว้เป็นภาษาเขมร
มีการนำมาแปล/เรียบเรียงเพิ่มเติมโดย
ปแฏงมหาบุญเรือน คัชมาย์ 
ท่านได้ส่งไฟล์มาให้กำลังสืบค้นข้อมูล
เท่าที่พอจะหาได้โดยได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้

ได น่าจะเป็นคนไท ที่อยู่กันมากแถวเดียนเบียนฟู
สมรภูมิแรกรบที่คนไทร่วมกับคนเวียด
ไล่ฆ่าพวกจัมปา ไม่น่าจะได ที่จีนคือ ไท่ (ใหญ่)
เลยเรียกรวมกันว่า ไดเวียด ในหนังสือฉบับนี้

ในเขตเดียนเบียนฟูนี้
พวกเวียตนามจำต้องผ่านเขตพื้นที่
พวกคนไทดำ ทำไร่นาอยู่ตามแถบเทือกเขา
พวกไทขาว ทำมาหากินใกล้แม่น้ำ
(ดำ ขาว เรียกตามสีเสื้อผ้าที่คนไทนิยมใส่)
จำได้ในหนังสือ อีกหนึ่งฟางฝัน
ของ จิรนันทร์ พิตรปรีชา
เธอเขียนไว้ว่า เจอเด็กไทดำ
เด็กเห็นจิรนันท์ กับสหายเสกสรรค์ ยิงเก้งได้
เด็กบอกว่า ฟานดีกิน (ฟาน ภาษาใต้คือ เก้ง)

ส่วนเวียด คือ พวกเวียตนาม
เวียตมินห์ อั้งน้ำ อันหนำ แกว เย่ว์
ตามตำนานมักระบุว่าคือ
พวกกบฏชอบโพกผ้าแดง/สีแดง
ถูกกองทัพจีนปราบปราม
และขับไล่เลยหลบหนีมาทางตอนใต้แถวนี้
แล้วมาร่วมมือกับคนไท
จัดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกจำปา จัมปา จามปา
เพื่อยึดครองดินแดน/ขับไล่ศัตรูออกไปให้หมด
คนนับถือศาสนาอื่นที่แปลกแยกกับพวกตน
จนอาณาจักรจัมปาที่เคยอยู่ที่นั่นล่มสลายลงไป

เดียนเบียนฟูยังเป็นที่มั่นเชิงสัญลักษณ์
ป้อมปราการสุดท้าย/แตกไม่ได้ แพ่ไม่ได้
ของกองทัพอาณานิคมฝรั่งเศส
ที่ชาวเวียตนามมีชัยชนะเด็ดขาด
เหนือเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส

กองทัพปลดแอกเวียตนามภายใต้
การนำทัพของโฮจิมินห์กับโงเวียนเกี๊ยบ
ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วยกำลังคนเป็นหลัก
ยานพาหนะหลักคือจักรยาน/เกวียน/คนแบกขน
ลำเลียงหลบเลี่ยงตามเส้นทางป่าเขา
โดยปืนใหญ่จะแยกออกเป็นชิ้น ๆ
แล้วนำมาประกอบขึ้นมาใหม่
แล้วนัดหมายวันทำสงครามเผด็จศึก
ก่อนที่จะบรรจุกระสุนปืนใหญ่ตั้งบนภูเขาสูงกว่า
ยิงถล่มใส่ฐานทัพเดียนเบียนฟูของ
กองทัพกดขี่ชาติอาณานิคมที่ตั้งอยู่
จนพ่ายแพ้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
จนยอมจำนนแบบไร้ศักดิ์ศรี
ยุทธการที่เดียนเบียนฟู
เป็นสงครามเชิงสัญลักษณ์ครั้งสุดท้าย
ในการกอบกู้เอกราชของชาวเวียตนาม 
.
.

หลังจากที่อาณาจักรจัมปา/จามล่มสลายลงแล้ว
พวกชนชาติจามจึงต้องบ้านแตกสาแหรกขาด
ต้องอพยพหนีตายจากบ้านเกิดเมืองนอน
มีบางส่วนตกค้างอยู่แถวเขมร/ชายขอบเวียตนาม
เรียกว่าพวกกัมปงจาม/กัมปงจัมปา(พูดนายู)
บางส่วนหนีตายมาสยาม
ทำงานเป็นกองอาสาจามที่สยาม
ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ทำหน้าที่เป็นทหารรับจ้างกับนักเดินเรือ
และมีบางส่วนอพยพมาภายหลัง
ตั้งหลักแหล่งที่บ้านครัว กรุงเทพฯ
คนไทยเชื้อสายจัมปา คือ
ผู้ที่เผยแพร่การทอผ้าไหมให้กับ จิม ทอมป์สัน

จิม ทอมป์สัน หายสาบสูญไปในมาเลย์
เป็นข่าวใหญ่โตมากในอดีต
มีการพยายามค้นหากันครั้งใหญ่
ยังมีบ้านพักหลังสุดท้ายที่แคเมอรัล มาเลย์
ที่จิม ทอมป์สันไปพักอยู่ก่อนหายตัวไป

บางตำนานว่า แกเป็น CIA
ต้องทำข่าวว่าหายสาบสูญเพื่อหนีการตามฆ่า
หรือถูกฝ่ายศัตรูอุ้มตัวไปเพื่อรีดหาความลับ
ต่าง ๆ ที่แกเคยไปทำเรื่องมาก่อน

บางตำนานว่า
แกถูกงูเหลือมยักษ์ในมาเลย์คาบไปกิน

บางตำนานว่า แกถูกสาวเงาะป่าจับไปทำสามี
ด้วยการใช้ยาเสน่ห์ทำให้หลงใหลโงหัวไม่ขึ้น
เพราะพวกเงาะป่าจะมีสมุนไพรพืชชนิดเดียว
ที่โดดเด่นมากคือ เคี้ยวกินเพียงอย่างเดียว
ไม่ต้องผสมหลายตัว/ต้มแบบยาหม้อของไทย/จีน
เช่น ตุงกั๊ดอาลี(มาเลย์) เป็น
ไวอากร้าของพวกเงาะป่า/เซมังซาไก
รากไม้แก้ปวดฟัน รากไม้คุมกำเนิด
มีขายแถวจุดชมวิวเขาพับผ้า จังหวัดตรัง

จิม ทอมป์สัน ถูกสายลับเกาหลีเหนือ
ลักพาตัวไป เพื่อไปพัฒนาสิ่งทอให้ตระกูลคิม
มีในหนังสือของยิว Eran Katz 
ยอดนักจำระดับโลก ได้เขียนไว้ตอนหนึ่ง
ในนิยายเรื่อง 5 Gifts for the Mind : ปัญญาทั้ง 5
.
.

.
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่