นอนคิดอยู่เมื่อคืน หลังจากลงเครื่องบินถึงภูเก็ตเมื่อวานนี้ ไม่ได้ตั้งกระทู้ในนี้นานแสนนานเลยมีประสบการณ์การเดินทางมาเล่าให้ฟัง
เริ่มจากอยากไปเที่ยวทะเลภูเก็ต หาโอกาสหาจังหวะลางานก็ไม่ค่อยได้ จึงตัดสินใจจะไปเที่ยวภูเก็ตสักสองวัน เสาร์อาทิตย์ เลยเข้า app หาซื้อตั๋วเครื่องบินคืนวันศุกร์ เจอรอบสายๆ 9โมงกว่าๆ (ระบบแจ้งเหลือ 4 ที่นั่ง รีบกด) และจองโรงแรมแถวป่าตองได้ราคาแสนดีเข้าไปอีก ดี๊ด๊า ดีใจเข้านอน เตรียมบินตอนสายๆวันเสาร์
วันที่ 1 เดินทางด้วยเครื่องบิน ราคาถูกมากไหมไม่รู้เลย เพราะไม่เคยขึ้นเครื่องบินไปภูเก็ต สองคนไปกลับราคาประมาณ 7,000 นิดๆ เรื่องที่อยากจะแชร์มันมีอยู่ว่า พอจะขึ้นเครื่องปุ้บ สายการบินประกาศให้คนที่อยู่แถว 1-5 ขึ้นไปก่อน เรากับแฟนได้นั่งแถว 5 เลยเดินผ่านแถวยาวๆ ขึ้นเครื่องไป ไปถึงปุ้บ อ่าว เรากับแฟนไม่ได้นั่งติดกันแต่เป็นแถวริมทางเดินของคนละฝั่งที่แถวเดียวกัน (ในใจคิดว่า คงเพราะจองตั๋วเมื่อคืน ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะบินชั่วโมงเดียว ระหว่างนั้นก็รอผู้โดยสารคนอื่นนั่งจนเต็มเครื่อง พอเครื่อง take off ขึ้นไปสักพัก สัญญาณรัดเข็มขัดยังไม่ดับ คุณลุงฝรั่งซึ่งค่อนข้างตัวโตมาก นั่งข้างหน้าเราปรับเบาะหงายตึงมาเคาะเข่าเราป้าบ (เราขายาว) เราก็ตกใจปนเจ็บหน่อยๆ เลยต้องนั่งกางเข่าออกแบบท่านั่งผู้ชาย เพราะไม่งั้นนั่งไม่ได้ จะปรับเบาะหงายไปอีกทอดเยอะๆก็เกรงใจคนข้างหลัง ว่าแล้วก็หันไปสบตาแฟน แล้วบอกว่าจะแลกที่นั่งกันถ้าสัญญาณเข็มขัดดับแล้ว แต่ก็แอบคิดว่าแฟนเราก็คงนั่งลำบากแทนเพราะเค้าสูงขายาวกว่าเราอีก...
เรื่องมันคงจะจบแบบ ทนๆนั่งไปสักชั่วโมงก็ถึงภูเก็ต แต่.....พอสัญญาณเข็มขัดดับลง มีน้องแอร์คนหนึ่งใจดีมาก นางเห็นเหตุการณ์ต่างๆ เดินเข้ามาหา พูดเบาๆว่า เดี๋ยวคุณพี่กับแฟนมานั่งข้างหน้านี่ได้นะคะ เราก็ถามว่า อะได้เหรอคะ นางบอกได้สิคะ เราก็อะลุกไปนั่งแถวว่างหน้าสุดตามที่น้องแอร์เชิญ พอเราลุกไปนั่งปุ้บ แล้วหันไปสบตาเรียกแฟนให้เดินตามมาแล้วทำมือไม้ฝากหยิบกระเป๋าให้ด้วยจะหยิบขนมกินในกระเป๋า ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งถัดไปอยู่แถวสอง พี่ผู้ชายดูมีอายุประมาณเกือบ 60 แต่งตัวด้วยเชิ้ต พร้อมเข็มขัดแบรนด์เนม เซตผมดูเหมือนวัยรุ่นสมัยก่อนนิดนึง (ตอนเห็นครั้งแรกนึกถึงพ่อตัวเองแว้บนึงว่าไม่ค่อยแต่งตัวหล่อๆแบบนี้บ้างเล๊ย) ส่วนน้องผู้หญิงดูเด็กกว่าแต่ไม่ใช่วัยรุ่นประมาณน่าจะเกือบ 30 แต่งหน้าจัดๆหน่อย ทั้งสองเค้าทำท่าจะลุกแล้วไม่ลุกแล้ว อยู่แถว A B row 2 มองมาที่เราแบบจ้อง เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร แค่ยิ้มกลับ แต่เค้าไม่ยิ้มตอบทั้งที่กำลังจ้องเราแบบตาถลึงๆ หน่อย เราคิดในใจแว้บนึงว่า เค้ากำลังจะมานั่งหรือเปล่า หรือ กำลังจะลุกเข้าห้องน้ำ...แต่ก็ช่างความคิดนั้นไป สบตาเรียกแฟนต่อ
สักพักแฟนเราเดินตามมานั่ง สรุป เราได้ที่นั่งหน้าสุดเข่าไม่ติดละ เดินไปขอบคุณน้องแอร์คนนั้นตอนเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานั่ง สักพักเราได้แว่วเสียงคุณลุงกับคุณน้อง ผญ คุยกันออกรส แต่ไม่ได้จับใจความ ได้ยินแค่ "เนียนเลยนะ อย่างเนี้ยเค้าเรียกกว่าหน้า...dann" เราไม่ได้คิดว่าเค้าว่าเรานะ ตอนแรกคิดว่าเค้าคงคุยเรื่องอะไรอยู่ก่อนแล้ว อีกอย่างคุณลุงที่มีอายุ ถึงจะแต่งตัววัยรุ่นมาก แต่ด้วยอายุเค้าที่ใช้คำแบบนี้ก็ทำเอาใจหายเหมือนกัน
เครืองบินต่อไปได้ครึ่งชั่วโมงโดยที่เราได้ยินเสียงคุยของสองคนนี้ แบบมีคำไม่สุภาพอยู่ตลอด แต่ไม่ได้จับประเด็นอะไร จนมาถึงคำว่า " คนไทยแ..ม่..ง นิสัยแบบนี้แหละ ซื้อตั๋วมาถูกแต่มาหน้า...ด้..า..น นั่งที่แพง นี่ถ้าเป็นพวกฝรั่งเค้าไม่มีแบบนี้เลยนะ" พี่ ผช หันไปบอกน้อง ผญ น้ำเสียงแบบไม่ค่อยโอ ตอนนั้นนึกในใจแค่ว่า ยังมีคนไทยคิดกับคนไทยแบบนี้อยู่อี๊ก (ยังไม่ได้รู้สึกตัวว่าเค้าด่าใคร) หันไปจะคุยกับแฟนสักหน่อยว่าเธอๆ มีคนไทยดูถูกคนไทยเปรียบเทียบฝรั่งละ นางหลับแล้ว!!! ...นอนเงยหน้าอ้าปากด้วย...



โอย อะไรขนาดนั้นฟะ นอนง่ายจังวุ้ย ^^' (น่ารักก็ตรงนี้แหละ)


พอเครื่องถึงสนามบินภูเก็ตคนหยิบกระเป๋าเตรียมลง เรายังไม่ได้ลุกยืนหันไปปลุกแฟน อยู่ๆมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ๆ ฟาดท้ายทอยเรา...ตกใจมาก หันไปมองที่มาของวัตถุ คุณลุงคนนั่นสะพายเป้แล้วหันหลังมาฟาดโดน!!! ตกใจปนสงสัย คือต้องบอกก่อนว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ตอนคนชุลมุนเอากระเป๋าลงจากเครื่อง เพราะเรานั่งติดทางเดินแถวแรก เลยไม่ได้จะตะบึงตะบอนโกรธ แต่เอะใจว่า ทำไมต้องเป็นลุงคนนี้นะ สักพัก เครื่องเปิดให้ออก คุณลุงหันหลังยืนขวางเรา กั้นให้น้อง ผญ ที่มาด้วยกันนั่งแถวสอง เดินไปก่อน ทำท่าผายมือเหมือนสุภาพบุรุษติงลี่ในหนังจีน แต่ขวางเราไม่ให้ออกมา เราก็เริ่มๆหงิกๆ นิดนึงที่ยืนขวาง พอลงมาได้ปุ้บ สายการบินเอารถ shuttle bus มารอรับ
มันมาชัด 100% เอาตอนนี้ พอเค้าขึ้นรถไปยืนท้าย เราขึ้นมายืหน้าๆหน่อย คนค่อยๆทยอยขึ้นรถมา เค้าออกเสียงด่าแบบออกรส "พวกนี้แม่...ง สัน...เล... ทำเป็นเนียนเดินมานั่งที่แพงๆ แล้วยังจะทำลอยหน้าไม่รู้ตัว โคร..ต เห..ง้า ไม่สั่ง...ไม่สอน" แล้วค้อนเราหนึ่งที แฟนเราเดินสลึมสลือลงเครื่องมาด้วยกัน เราเรียก "นี่เธอ...รู้สึกไหมว่าคุณลุงกับน้องผญ เค้ากร่นด่าใครสักคนไม่หยุดตั้งกะบนเครื่องละ ชั้นว่าสงสัยเค้าจะเข้าใจอะไรเราผิดไปหรือเปล่า" แฟนตอบ "อ่อ เหรอหลับหงะ ไม่มีอะไรหรอก" เลยบอกตะกี้เค้าเอาเป้ฟาดหัวมาทีนึงนะ ปะติดปะต่อเรื่องราวให้ฟัง แฟนบอกอ่าว แล้วเป้ฟาดหัวแล้วขอโทษไหม "เราบอกเปล่านะ" พอลง shuttle bus คนแน่นๆก็พากันกรูกันลง แฟนบอกสงสัยต้องไปคุยกับเค้านะ พอลงมาปุ้บมองซ้ายขวาหาตัวเค้า ... ไม่เจอ... ทุกสิ่งหายไปยังกะฝุ่นหายตลบ เห้อ.....อะไรนี่ เงิบ


เราเดินมาติดต่อรถเช่าที่บู้ทสนามบิน ว่าแล้วแฟนหันมาตำหนิว่าวันหลังให้รีบบอกตั้งแต่เนิ่นๆบนเครื่องนะ...เราหันไปสบตาพร้อมนึกภาพเมื่อ 30 นาทีก่อนที่เห็นมันนอนเงยหน้าหลับอ้าปาก...แต่เสียงตอบออกไปว่า "ก็เธอหลับอะ" -_-"
สรุป ได้เที่ยวภูเก็ต สนุกดี กินหมี่ฮกเกี้ยน บี้หุ้นกระดูกหมู กินโอ้ะเอ๋ว สมใจ



ฝนไม่ตกหนักมาก ปรอยๆกำลังโรม๊านซ์

แต่ดันนึกเรื่องนี้ได้ก่อนนอนแล้วเกิดหงุดหงิด อยากเขียนเล่าประสบการณ์ความเข้าใจผิดของคนที่มีต่อเราบนเครื่องบิน แล้วเราไม่ได้มีโอกาสอธิบายให้เค้าเข้าใจถูก (เพราะความรู้สึกช้า) ติดตรงไม่ชอบที่เค้าใช้วิธีพูดกระทบ เสียดสีด้วยคำหยาบคาย แรงๆ พอหันไปสบตาอยู่หลายหนก็มองไปทางอื่น ทั้งๆที่เค้าก็โตๆ กันหมด ไอ่เราก็ผิดที่ความรู้สึกช้า ไม่คิดว่าใครจะมาคิดเล็กคิดน้อย กับเหตุที่น้องแอร์เชิญเปลี่ยนทีนั่งให้ จากดีกลายเป็นไม่ดีแบบนี้ ยังนึกขอบคุณน้องแอร์ที่พยายามให้ผู้โดยสารได้เดินทางแบบได้รับความสะดวกสบายนะคะ ส่วนคุณลุงและคุณน้อง ผญ คนนั้น ก็ได้แค่หวังว่าอย่าเดินเจอกันในภูเก็ตหรือเจอกันตอนขากลับเลย (คือถ้าเลือกได้ไม่ชอบมีเรื่อง ชอบคุยให้เข้าใจมากกว่า แต่ดูอาการแล้วคงเลยเวลาอธิบาย)
วันที่ 2 ....ตอนนี้ ตื่นมาว่ายน้ำเล่นที่ระเบียงห้อง วิวดี ี่พักงดงามสมใจ เดี๋ยวไปเที่ยวตะเวนกินต่อ กระทู้หน้าไว้ว่าจะมารีวิว อาหารที่ตามรอยพันทิพไปชิมมาล่ะ หุหุ เดี๋ยวหาเวลามาพิมพ์ใหม่ ไปละค่ะ ขอบคุณที่อ่านกันค่ะ บ๊ายบาย
เล่าประสบการณ์ ความเข้าใจผิดของคนไม่รู้จักบนเครื่องบิน (เที่ยวภูเก็ต)
เริ่มจากอยากไปเที่ยวทะเลภูเก็ต หาโอกาสหาจังหวะลางานก็ไม่ค่อยได้ จึงตัดสินใจจะไปเที่ยวภูเก็ตสักสองวัน เสาร์อาทิตย์ เลยเข้า app หาซื้อตั๋วเครื่องบินคืนวันศุกร์ เจอรอบสายๆ 9โมงกว่าๆ (ระบบแจ้งเหลือ 4 ที่นั่ง รีบกด) และจองโรงแรมแถวป่าตองได้ราคาแสนดีเข้าไปอีก ดี๊ด๊า ดีใจเข้านอน เตรียมบินตอนสายๆวันเสาร์
วันที่ 1 เดินทางด้วยเครื่องบิน ราคาถูกมากไหมไม่รู้เลย เพราะไม่เคยขึ้นเครื่องบินไปภูเก็ต สองคนไปกลับราคาประมาณ 7,000 นิดๆ เรื่องที่อยากจะแชร์มันมีอยู่ว่า พอจะขึ้นเครื่องปุ้บ สายการบินประกาศให้คนที่อยู่แถว 1-5 ขึ้นไปก่อน เรากับแฟนได้นั่งแถว 5 เลยเดินผ่านแถวยาวๆ ขึ้นเครื่องไป ไปถึงปุ้บ อ่าว เรากับแฟนไม่ได้นั่งติดกันแต่เป็นแถวริมทางเดินของคนละฝั่งที่แถวเดียวกัน (ในใจคิดว่า คงเพราะจองตั๋วเมื่อคืน ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะบินชั่วโมงเดียว ระหว่างนั้นก็รอผู้โดยสารคนอื่นนั่งจนเต็มเครื่อง พอเครื่อง take off ขึ้นไปสักพัก สัญญาณรัดเข็มขัดยังไม่ดับ คุณลุงฝรั่งซึ่งค่อนข้างตัวโตมาก นั่งข้างหน้าเราปรับเบาะหงายตึงมาเคาะเข่าเราป้าบ (เราขายาว) เราก็ตกใจปนเจ็บหน่อยๆ เลยต้องนั่งกางเข่าออกแบบท่านั่งผู้ชาย เพราะไม่งั้นนั่งไม่ได้ จะปรับเบาะหงายไปอีกทอดเยอะๆก็เกรงใจคนข้างหลัง ว่าแล้วก็หันไปสบตาแฟน แล้วบอกว่าจะแลกที่นั่งกันถ้าสัญญาณเข็มขัดดับแล้ว แต่ก็แอบคิดว่าแฟนเราก็คงนั่งลำบากแทนเพราะเค้าสูงขายาวกว่าเราอีก...
เรื่องมันคงจะจบแบบ ทนๆนั่งไปสักชั่วโมงก็ถึงภูเก็ต แต่.....พอสัญญาณเข็มขัดดับลง มีน้องแอร์คนหนึ่งใจดีมาก นางเห็นเหตุการณ์ต่างๆ เดินเข้ามาหา พูดเบาๆว่า เดี๋ยวคุณพี่กับแฟนมานั่งข้างหน้านี่ได้นะคะ เราก็ถามว่า อะได้เหรอคะ นางบอกได้สิคะ เราก็อะลุกไปนั่งแถวว่างหน้าสุดตามที่น้องแอร์เชิญ พอเราลุกไปนั่งปุ้บ แล้วหันไปสบตาเรียกแฟนให้เดินตามมาแล้วทำมือไม้ฝากหยิบกระเป๋าให้ด้วยจะหยิบขนมกินในกระเป๋า ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งถัดไปอยู่แถวสอง พี่ผู้ชายดูมีอายุประมาณเกือบ 60 แต่งตัวด้วยเชิ้ต พร้อมเข็มขัดแบรนด์เนม เซตผมดูเหมือนวัยรุ่นสมัยก่อนนิดนึง (ตอนเห็นครั้งแรกนึกถึงพ่อตัวเองแว้บนึงว่าไม่ค่อยแต่งตัวหล่อๆแบบนี้บ้างเล๊ย) ส่วนน้องผู้หญิงดูเด็กกว่าแต่ไม่ใช่วัยรุ่นประมาณน่าจะเกือบ 30 แต่งหน้าจัดๆหน่อย ทั้งสองเค้าทำท่าจะลุกแล้วไม่ลุกแล้ว อยู่แถว A B row 2 มองมาที่เราแบบจ้อง เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร แค่ยิ้มกลับ แต่เค้าไม่ยิ้มตอบทั้งที่กำลังจ้องเราแบบตาถลึงๆ หน่อย เราคิดในใจแว้บนึงว่า เค้ากำลังจะมานั่งหรือเปล่า หรือ กำลังจะลุกเข้าห้องน้ำ...แต่ก็ช่างความคิดนั้นไป สบตาเรียกแฟนต่อ
สักพักแฟนเราเดินตามมานั่ง สรุป เราได้ที่นั่งหน้าสุดเข่าไม่ติดละ เดินไปขอบคุณน้องแอร์คนนั้นตอนเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานั่ง สักพักเราได้แว่วเสียงคุณลุงกับคุณน้อง ผญ คุยกันออกรส แต่ไม่ได้จับใจความ ได้ยินแค่ "เนียนเลยนะ อย่างเนี้ยเค้าเรียกกว่าหน้า...dann" เราไม่ได้คิดว่าเค้าว่าเรานะ ตอนแรกคิดว่าเค้าคงคุยเรื่องอะไรอยู่ก่อนแล้ว อีกอย่างคุณลุงที่มีอายุ ถึงจะแต่งตัววัยรุ่นมาก แต่ด้วยอายุเค้าที่ใช้คำแบบนี้ก็ทำเอาใจหายเหมือนกัน
เครืองบินต่อไปได้ครึ่งชั่วโมงโดยที่เราได้ยินเสียงคุยของสองคนนี้ แบบมีคำไม่สุภาพอยู่ตลอด แต่ไม่ได้จับประเด็นอะไร จนมาถึงคำว่า " คนไทยแ..ม่..ง นิสัยแบบนี้แหละ ซื้อตั๋วมาถูกแต่มาหน้า...ด้..า..น นั่งที่แพง นี่ถ้าเป็นพวกฝรั่งเค้าไม่มีแบบนี้เลยนะ" พี่ ผช หันไปบอกน้อง ผญ น้ำเสียงแบบไม่ค่อยโอ ตอนนั้นนึกในใจแค่ว่า ยังมีคนไทยคิดกับคนไทยแบบนี้อยู่อี๊ก (ยังไม่ได้รู้สึกตัวว่าเค้าด่าใคร) หันไปจะคุยกับแฟนสักหน่อยว่าเธอๆ มีคนไทยดูถูกคนไทยเปรียบเทียบฝรั่งละ นางหลับแล้ว!!! ...นอนเงยหน้าอ้าปากด้วย...
พอเครื่องถึงสนามบินภูเก็ตคนหยิบกระเป๋าเตรียมลง เรายังไม่ได้ลุกยืนหันไปปลุกแฟน อยู่ๆมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ๆ ฟาดท้ายทอยเรา...ตกใจมาก หันไปมองที่มาของวัตถุ คุณลุงคนนั่นสะพายเป้แล้วหันหลังมาฟาดโดน!!! ตกใจปนสงสัย คือต้องบอกก่อนว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ตอนคนชุลมุนเอากระเป๋าลงจากเครื่อง เพราะเรานั่งติดทางเดินแถวแรก เลยไม่ได้จะตะบึงตะบอนโกรธ แต่เอะใจว่า ทำไมต้องเป็นลุงคนนี้นะ สักพัก เครื่องเปิดให้ออก คุณลุงหันหลังยืนขวางเรา กั้นให้น้อง ผญ ที่มาด้วยกันนั่งแถวสอง เดินไปก่อน ทำท่าผายมือเหมือนสุภาพบุรุษติงลี่ในหนังจีน แต่ขวางเราไม่ให้ออกมา เราก็เริ่มๆหงิกๆ นิดนึงที่ยืนขวาง พอลงมาได้ปุ้บ สายการบินเอารถ shuttle bus มารอรับ
มันมาชัด 100% เอาตอนนี้ พอเค้าขึ้นรถไปยืนท้าย เราขึ้นมายืหน้าๆหน่อย คนค่อยๆทยอยขึ้นรถมา เค้าออกเสียงด่าแบบออกรส "พวกนี้แม่...ง สัน...เล... ทำเป็นเนียนเดินมานั่งที่แพงๆ แล้วยังจะทำลอยหน้าไม่รู้ตัว โคร..ต เห..ง้า ไม่สั่ง...ไม่สอน" แล้วค้อนเราหนึ่งที แฟนเราเดินสลึมสลือลงเครื่องมาด้วยกัน เราเรียก "นี่เธอ...รู้สึกไหมว่าคุณลุงกับน้องผญ เค้ากร่นด่าใครสักคนไม่หยุดตั้งกะบนเครื่องละ ชั้นว่าสงสัยเค้าจะเข้าใจอะไรเราผิดไปหรือเปล่า" แฟนตอบ "อ่อ เหรอหลับหงะ ไม่มีอะไรหรอก" เลยบอกตะกี้เค้าเอาเป้ฟาดหัวมาทีนึงนะ ปะติดปะต่อเรื่องราวให้ฟัง แฟนบอกอ่าว แล้วเป้ฟาดหัวแล้วขอโทษไหม "เราบอกเปล่านะ" พอลง shuttle bus คนแน่นๆก็พากันกรูกันลง แฟนบอกสงสัยต้องไปคุยกับเค้านะ พอลงมาปุ้บมองซ้ายขวาหาตัวเค้า ... ไม่เจอ... ทุกสิ่งหายไปยังกะฝุ่นหายตลบ เห้อ.....อะไรนี่ เงิบ
เราเดินมาติดต่อรถเช่าที่บู้ทสนามบิน ว่าแล้วแฟนหันมาตำหนิว่าวันหลังให้รีบบอกตั้งแต่เนิ่นๆบนเครื่องนะ...เราหันไปสบตาพร้อมนึกภาพเมื่อ 30 นาทีก่อนที่เห็นมันนอนเงยหน้าหลับอ้าปาก...แต่เสียงตอบออกไปว่า "ก็เธอหลับอะ" -_-"
สรุป ได้เที่ยวภูเก็ต สนุกดี กินหมี่ฮกเกี้ยน บี้หุ้นกระดูกหมู กินโอ้ะเอ๋ว สมใจ
วันที่ 2 ....ตอนนี้ ตื่นมาว่ายน้ำเล่นที่ระเบียงห้อง วิวดี ี่พักงดงามสมใจ เดี๋ยวไปเที่ยวตะเวนกินต่อ กระทู้หน้าไว้ว่าจะมารีวิว อาหารที่ตามรอยพันทิพไปชิมมาล่ะ หุหุ เดี๋ยวหาเวลามาพิมพ์ใหม่ ไปละค่ะ ขอบคุณที่อ่านกันค่ะ บ๊ายบาย