หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] [Sheep's Butler] "Shinsei Sushi" Omakase Course รสเลิศ คุณภาพเยี่ยม ใส่ใจในทุกรายละเอียด ราคาน่าคบ ในซอยอารีย์
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
ร้านอาหาร
วันนี้เราจะมากินซูชิแบบ Omakase Course กันอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนานที่ร้าน Shinsei Sushi ในซอยอารีย์ ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นในการนำเสนอซูชิแบบ Omakase Course และ Sushi Roll ที่มีให้เลือกสิบกว่าเมนูด้วยกัน ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู โดนเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ และที่นั่งตรงเค้าเตอร์อีกประมาณ 5 ที่
Omakase คืออะไร หลายคนก็คงจะเคยได้ยิน หรือเคยได้ลองกินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งก็คือการกินซูชิแบบเป็นคอร์สในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ โดยเชฟจะเป็นคนเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน และค่อยๆปั้นซูชิให้เรากินแบบคำต่อคำ ซึ่งนอกจากเราจะได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติของซูชิที่เชฟเลือกให้แล้ว การนั่งดูเชฟค่อยๆปั้นซูชิให้เรานั้นก็เพลินไม่แพ้กัน
ก่อนอื่นเรามาดูราคาของ Omakase Course ที่เราจะกินในวันนี้ก่อน โดยทางร้านจะมีให้เลือก 3 ราคาด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ 1,500 บาท ถึง 3,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่ารักมากสำหรับ Omakase Course (ส่วนมากที่เคยจะ 3,000 บาทขึ้นไป) และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ จ่ายเงินสดลดอีก 10% แถมไม่มี Service charge ด้วยยย!!!! ซึ่งคอร์ส Omakase จะมีวันอังคารถึงวันอาทิตย์ แบ่งเป็น 3 รอบ ได้แก่ 12.15 pm - 14.00 pm/ 18.00 pm - 19.30 pm/ 19.30 pm - 21.00 pm ที่สำคัญต้องโทรจองก่อนนะครับ เพราะแต่ละรอบรับลูกค้าได้แค่ 5-6 ท่านเท่านั้น
ขอสั่งของกินเล่นมาชิมก่อน ครีบปลากระเบนย่าง (120 บาท) รสชาติหวานๆเค็มๆ เคี้ยวหนึบๆกรอบนิดๆ เพลินดี
บนเขียงของเชฟมี หัววาซาบิสด เกลือหิมาลัย มะนาวญี่ปุ่น (zudachi) และส้มยูสุ (Yuzu) วางอยู่
วันนี้ขอลองเป็น Omakase Course เล็กสุด ราคา 1,500 บาท มี 12 Courses ประกอบไปด้วย ของกินเล่น/ ซาชิมิ/ ซูชิ 7 คำ/ ไข่หวาน/ ซุป/ ของหวาน
ของกินเล่นเมนูแรกเป็น ปลามาได (Madai) หั่นเป็นเส้นๆ คลุกเคล้ากับซอสสาหร่ายคอมบุ (Kombu) โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอน (Ikura) คลุกน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล (Truffle) ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีรสชาติของไข่ปลาแซลมอนและซอสสาหร่ายคอมบุ ถือว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากเลย เป็นเมนูเปิดคอร์สที่ประทับใจมาก
ต่อด้วยซาชิมิ เป็นหอยงวงช้าง (Mirugai) เสริฟคู่กับซอสมิโสะยูสุ ตัวหอยสดมาก รสหวานอ่อนๆ เคี้ยวกรุบๆ กินคู่กับซอสรสชาติเค็มๆหวานๆ หอมกลิ่นมิโซะและส้มยูสุ อร่อยอีกแล้ว
ก่อนจะเริ่มปั้นซูชิ เชฟจะเอาจานสีดำพร้อมกับขิงดองมาวางให้ แล้วหันไปฝนวาซาบิจากหัววาซาบิสดๆกันเลย วาซาบิสดจะไม่ฉุนขึ้นจมูกเหมือนตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป จะมีรสหวานนิดๆและกลิ่นหอมๆ
อันนี้เชฟในลองชิมข้าวดูก่อน สำหรับใน Omakase Course จะใช้น้ำส้มสายชูสีน้ำตาลที่มีรสออกเปรี้ยวๆเค็มๆ ไม่หวานเหมือนข้าวที่ใช้ในซูชิปกติ ที่สำคัญข้าวของที่นี่ให้ความสำคัญของอุณหภูมิของข้าวตอนเสริฟด้วย การกินซูชิที่ข้าวยังอุ่นๆอยู่ช่วยเสริมรสชาติได้ดีมาก!!!!!
ซูชิคำแรกเป็น ปลาชิมาอาจิ (Shima-Aji) ปลาสดเนื้อแน่นดี เชฟจะใส่วาซาบิและทาโชยุมาให้แล้ว เรามีหน้าที่แค่หยิบเข้าปากสบายๆ รสชาติโชยุและวาซาบิกำลังดีเลย ไม่เค็มเกินไปทำให้ยังได้รสของเนื้อปลาอยู่ครบถ้วน
คำที่สองเป็น หอยเชลล์ยักษ์ (Hotate) คำนี้เชฟบีบมะนาวญี่ปุ่น โรยเกลือหิมาลัยและขูดผิวเปลือกส้มยูสุ ลงไปบนเนื้อหอย หอยสดมากๆ เนื้อหวานมาก รสของเกลือกับมะนาวญี่ปุ่นก็เข้ากันดี กลิ่นหอมของเปลือกส้มกินแล้วสดชื่นดี
ต่อด้วย ปลาทูน่าส่วนเนื้อแดง (Akami) ที่แช่ไว้ในน้ำซอสโชยุผสมสาเกและเหล้าหวาน ซอสรสชาติดีมากไม่เค็มอย่างที่คิด รสชาติของเนื้อปลา น้ำซอสและข้าว เข้ากันได้ดีจริงๆ
โฉมหน้าของเชฟอาทิตย์ เชฟใหญ่ประจำร้าน ผู้รับหน้าที่ดูแล Omakase Course แต่เพียงผู้เดียว เชฟน่ารักมาก จะคอยบอกข้อมูลของซูชิแต่ละคำก่อนกินด้วย ตอนนี้เชฟกำลังลอกหนังปลาซันมะ ที่เป็นปลาประจำฤดูกาลนี้ ระหว่างนั่งดูระวังน้ำลายไหลนะจ้ะ
มาแล้ว ปลาซันมะ (Sanma) ปกติผมเคยทานแต่แบบย่าง พึ่งจะได้ลองแบบดิบๆก็คราวนี้แหละ เนื้อปลานุ่มมากเลยยยย คำนี้เชฟใส่วาซาบิดองไว้ด้านบนช่วยเสริมรสชาติปลาให้โดดเด่นขึ้นไปอีก
มาถึงเมนูที่หลายคนโปรดปราน เนื้อปลาโอโทโร่ (Otoro) เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่า ที่มีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อน เห็นแล้วละลาย หยิบเข้าปากก็ละลาย เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำมากกกก
ถัดมาเป็นการรวมตัวของ 3 สุดยอดของอร่อยขั้นเทพ ทั้งโอโทโร่ ไข่หอยเม่น (Uni) และ ไข่ปลาแซลมอน ซึ่งยังคงหอมกลิ่นทรัฟเฟิลที่ได้จากไข่ปลาแซลมอนเหมือนจานแรก กลิ่นของทรัฟเฟิลเข้ากันได้ดีกับสัมผัสครีมๆของไข่หอยเม่นและความมันของโอโทโร่ ครีมๆมันๆหอมๆ อร่อยครับ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แล้วก็มาถึงซูชิคำสุดท้าย ปลาไหลทะเล (Anago) ซึ่งทางร้านนำมาห่อใบไผ่แล้วลนไฟก่อนเพื่อลดกลิ่นคาว ซอสที่นำมาทาบนเนื้อปลาเป็นซอสสูตรพิเศษที่บ่มมานานถึง 2 ปี จนได้รสชาติที่เข้มข้น ตบท้ายด้วยการขูดผิวส้มยูสุลงไปด้านบน คำนี้เนื้อปลานุ่มมากกกกก ไม่มีกลิ่นคาวเลยจริงๆด้วย
และที่พลาดไม่ได้ก่อนจะไปซุปก็คือไข่หวานนั่นเอง แต่ไข่หวานของที่นี่จะออกเป็นแนว Sponge Cake ฟูๆนุ่มๆ หอมกลิ่นกุ้ง รสออกหวานนิดๆเค็มหน่อยๆ
ซุปเป็นซุปใสรสกลมกล่อง ใส่เนื้อปลามาไดนุ่มๆ
ปิดท้ายคอร์สด้วยของหวาน โมจิหยดน้ำ (Mizu Shingen Mochi) เห็นหลายทีแล้ว ได้ลองชิมจริงๆก็คราวนี้แหละ เรียกว่าโมจิแต่จริงๆแล้วมันคือวุ้นที่มีรสสัมผัสเบามากๆ ทานคู่กับน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายแดงและผงถั่วเหลืองญี่ปุ่น เบาๆ หอมๆ หวานๆ อร่อยไปอีกแบบ
ยังไม่หมดแค่นี้ เนื่องจากได้ข่าวว่าร้านนี้เค้ามีดีที่ปลาหมึก เลยสั่งซูชิปลาหมึกกล้วย (Ika) (35 บาท) มาลองอีกคำ ดูความละเอียดของการบั้งนั่นสิ!!! ปลาหมึกนุ่มมากกกกกก อร่อยสมคำร่ำลือ
ลองซูชิโรลที่เป็นอีกเมนูเด่นของร้าน โดยโรลของที่นี่แต่ละหน้าจะมี 2 ขนาด คือ 8 คำ และ 4 คำ วันนี้เราลองเป็น Salmon Cheese Roll (380 บาท/ 190 บาท) โรลที่มีใส้ตรงกลางเป็น ฟัวกราส์ ครีมชีส และอโวคาโด ด้านนอกห่อด้วยปลาแซลมอน ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติจัดจ้านดี
จบมื้อไปแบบฟินสุดๆ Omakase ราคาไม่แรง แต่คุณภาพปลาดีมาก แต่ละคำปราณีตมากๆ ต้องยกความดีความชอบให้เชฟอาทิตย์ เชฟคนไทยฝีมือไม่แพ้เชฟญี่ปุ่นเลย ไว้มีโอกาสจะกลับมากินเองอีกครั้ง ก่อนจากกันไปวันนี้ขอฝากเมนู Lunch set ราคาย่อมเยาไว้ด้วยนะคร้าบบบบ
Address: 71/2-3 Soi Pahonyotin 7 (Ari) Samsanenai Phayathai, 10400 Bangkok, Thailand
Open: Mon-Fri: 11:30 am - 3:00 pm and 5:30 pm - 10:00 pm
Sat-Sun: 11:30 am - 10:00 pm
Tel: 02 619 7271
ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่
https://www.facebook.com/sheepsbutler
ชื่อสินค้า:
Shinsei Sushi @ ซอยอารีย์
คะแนน:
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
หมูผัดพริกขิง
หมูผัดพริกขิง วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568 รายการอาหารวันนี้ หมูผัดพริกขิงเป็นเมนูอาหารไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและรสชาติจัดจ้าน เนื้อหมูให้โปรตีนช่วยเสร
สมาชิกหมายเลข 2148931
== Seinikoten @Ari Yaki Niku And Sushi Buffet ==
บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น + ปิ้งย่าง ที่อยากแนะนำ ร้านนี้ เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้าน ในซอยอารีย์ ที่มีที่จอดรถ ของตัวเอง ร้านอยู่ในซอยข้าง อาคารยศวดี เข้าไปหมุดกูเกิ้ล เข้าไปสุดซอย แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าร้าน มีลา
-=Jfk=-
หมึกมหึมา Architeuthis (อาร์คีทิวธีส) อย่านึกว่าเทพเจ้านะ
วันไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ โซนบางใหญ่ ก็เลยทดสอบเส้นทางใหม่สาย 81 สักหน่อย และจะไปลองเมนูแปลกๆดูบ้าง จากบางใหญ่ ไปร้านนี้ ถือว่าสะดวกทีเดียว วิ่งแป๊ปเดียวก็ถึง แต่ขับไปก็ลุ้นไป จะโดนใบสั่งไหมนะ ตั้งป้าย
กังหันฟ้าขาว
ดินเนอร์สุดหรู เหมาะจะพาคนรักมาเดท รับรองไม่ผิดหวัง
Ricci Italian Restaurant ร้านดินเนอร์สุดหรูในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มื้อที่เหมาะจะพาหวานใจมาเดท ด้วยวัตถุดิบที่ร้านคัดเลือกมาแบบสดใหม่คุณภาพดี ฝีมือเชฟที่ปรุงอาหารทุกจานอย่างพิถีพิถัน รับรองได้ว่า จะ
มิกิชวนกิน
🗾 🍷👱♀️😊🤗💑ปลาทอดเกลือ พริกไทย 小だい (Kodai) กับซอสน้ำพริกเผา 😸❤️
ชวนมากินปลากันค่ะ ซื้อปลาสดมา ที่ร้านผ่าท้องควักไส้ทิ้งออกเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลจาก AI小だい (Kodai) คือ "ปลานวน" หรือ "ปลามาได (Madai) ที่ยังไม่โตเต็มวัย" (ปลาแดงญี่ปุ่น) โดยคำว่า &quo
teddy bear in the box
ฮิตติดกระแส ร้านดังที่ดารามาทานเยอะมาก พร้อมคำพิเศษที่ต้องสั่งมาลิ้มลอง
Han Roll BKK ฮิตติดกระแส ที่ใครๆก็ต้องมาลอง วัตถุดิบพรีเมียมเกรดเดียวกับโอมากาเสะ เพราะเค้าเครือเดียวกับ Hangetsu Omakase ร้านดังที่ดารามาทานเยอะมาก รอบนี้เราจัดมาเป็นคอร์สใหญ่ไฟกระพริบ 7 roll 1950++
มิกิชวนกิน
Siam Bistro อาหารไทยต้นตำหรับ รสแซ่บ จัดจ้าน 🍴
วันนี้พู่มากินอาหารไทยตำหรับร่วมสมัยที่ Siam Bistro กับเมนูอาหารไทยที่หาทานยากและยังมีอาหารอีสานรสแซ่บกว่า 50 เมนู ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ ปรุงรสจัดจ้าน จัดเต็มด้วยสมุนไพร มาเสิร์ฟแบบจุใจจัดเต็ม เ
พาผู้เที่ยว-Paapooteaw
บอสพาชิม :HIMESHI @ GALA Bangkok เมื่อข้าว...ไม่เป็นแค่ข้าว
GALA bangkok เปิดขายมื้อกลางวันกับHimeshi ที่เป็นคอร์สข้าวอบของโปรดของผม บอสจึงไม่พลาดที่จะมาชิม สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Gala Bangkok เป็นร้าน Fine Dining) ที่มีคอนเซ็ปต์ คือ "Theatrical Dining Ex
EatLikeTheBOSS
BufFeast Review :"ย่างหิน" ร้านเกาหลีและเนื้อย่างบนก้อนหินสีดำ @ถนนพระราม 4 หน้าจุฬา ซอย 9
ปกติแล้วร้านแนวปิ้งย่างมักจะย่างกันบนตะแกรงไม่ก็ถาดเหล็ก แต่มีอยู่ร้านหนึ่งมาแหวก นั่นก็คือ "ย่างหิน" ซึ่งก็ตามชื่อร้าน คือใช้หินร้อนๆในการย่างเหล่าเนื้อให้ดังฉ่าฉู่ก่อนยัดเข้าปาก ผมกับแฟนเ
TheHeatBufFeast
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 166
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] [Sheep's Butler] "Shinsei Sushi" Omakase Course รสเลิศ คุณภาพเยี่ยม ใส่ใจในทุกรายละเอียด ราคาน่าคบ ในซอยอารีย์
วันนี้เราจะมากินซูชิแบบ Omakase Course กันอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนานที่ร้าน Shinsei Sushi ในซอยอารีย์ ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นในการนำเสนอซูชิแบบ Omakase Course และ Sushi Roll ที่มีให้เลือกสิบกว่าเมนูด้วยกัน ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู โดนเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ และที่นั่งตรงเค้าเตอร์อีกประมาณ 5 ที่
Omakase คืออะไร หลายคนก็คงจะเคยได้ยิน หรือเคยได้ลองกินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งก็คือการกินซูชิแบบเป็นคอร์สในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ โดยเชฟจะเป็นคนเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน และค่อยๆปั้นซูชิให้เรากินแบบคำต่อคำ ซึ่งนอกจากเราจะได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติของซูชิที่เชฟเลือกให้แล้ว การนั่งดูเชฟค่อยๆปั้นซูชิให้เรานั้นก็เพลินไม่แพ้กัน
ก่อนอื่นเรามาดูราคาของ Omakase Course ที่เราจะกินในวันนี้ก่อน โดยทางร้านจะมีให้เลือก 3 ราคาด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ 1,500 บาท ถึง 3,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่ารักมากสำหรับ Omakase Course (ส่วนมากที่เคยจะ 3,000 บาทขึ้นไป) และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ จ่ายเงินสดลดอีก 10% แถมไม่มี Service charge ด้วยยย!!!! ซึ่งคอร์ส Omakase จะมีวันอังคารถึงวันอาทิตย์ แบ่งเป็น 3 รอบ ได้แก่ 12.15 pm - 14.00 pm/ 18.00 pm - 19.30 pm/ 19.30 pm - 21.00 pm ที่สำคัญต้องโทรจองก่อนนะครับ เพราะแต่ละรอบรับลูกค้าได้แค่ 5-6 ท่านเท่านั้น
ขอสั่งของกินเล่นมาชิมก่อน ครีบปลากระเบนย่าง (120 บาท) รสชาติหวานๆเค็มๆ เคี้ยวหนึบๆกรอบนิดๆ เพลินดี
บนเขียงของเชฟมี หัววาซาบิสด เกลือหิมาลัย มะนาวญี่ปุ่น (zudachi) และส้มยูสุ (Yuzu) วางอยู่
วันนี้ขอลองเป็น Omakase Course เล็กสุด ราคา 1,500 บาท มี 12 Courses ประกอบไปด้วย ของกินเล่น/ ซาชิมิ/ ซูชิ 7 คำ/ ไข่หวาน/ ซุป/ ของหวาน
ของกินเล่นเมนูแรกเป็น ปลามาได (Madai) หั่นเป็นเส้นๆ คลุกเคล้ากับซอสสาหร่ายคอมบุ (Kombu) โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอน (Ikura) คลุกน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล (Truffle) ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีรสชาติของไข่ปลาแซลมอนและซอสสาหร่ายคอมบุ ถือว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากเลย เป็นเมนูเปิดคอร์สที่ประทับใจมาก
ต่อด้วยซาชิมิ เป็นหอยงวงช้าง (Mirugai) เสริฟคู่กับซอสมิโสะยูสุ ตัวหอยสดมาก รสหวานอ่อนๆ เคี้ยวกรุบๆ กินคู่กับซอสรสชาติเค็มๆหวานๆ หอมกลิ่นมิโซะและส้มยูสุ อร่อยอีกแล้ว
ก่อนจะเริ่มปั้นซูชิ เชฟจะเอาจานสีดำพร้อมกับขิงดองมาวางให้ แล้วหันไปฝนวาซาบิจากหัววาซาบิสดๆกันเลย วาซาบิสดจะไม่ฉุนขึ้นจมูกเหมือนตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป จะมีรสหวานนิดๆและกลิ่นหอมๆ
อันนี้เชฟในลองชิมข้าวดูก่อน สำหรับใน Omakase Course จะใช้น้ำส้มสายชูสีน้ำตาลที่มีรสออกเปรี้ยวๆเค็มๆ ไม่หวานเหมือนข้าวที่ใช้ในซูชิปกติ ที่สำคัญข้าวของที่นี่ให้ความสำคัญของอุณหภูมิของข้าวตอนเสริฟด้วย การกินซูชิที่ข้าวยังอุ่นๆอยู่ช่วยเสริมรสชาติได้ดีมาก!!!!!
ซูชิคำแรกเป็น ปลาชิมาอาจิ (Shima-Aji) ปลาสดเนื้อแน่นดี เชฟจะใส่วาซาบิและทาโชยุมาให้แล้ว เรามีหน้าที่แค่หยิบเข้าปากสบายๆ รสชาติโชยุและวาซาบิกำลังดีเลย ไม่เค็มเกินไปทำให้ยังได้รสของเนื้อปลาอยู่ครบถ้วน
คำที่สองเป็น หอยเชลล์ยักษ์ (Hotate) คำนี้เชฟบีบมะนาวญี่ปุ่น โรยเกลือหิมาลัยและขูดผิวเปลือกส้มยูสุ ลงไปบนเนื้อหอย หอยสดมากๆ เนื้อหวานมาก รสของเกลือกับมะนาวญี่ปุ่นก็เข้ากันดี กลิ่นหอมของเปลือกส้มกินแล้วสดชื่นดี
ต่อด้วย ปลาทูน่าส่วนเนื้อแดง (Akami) ที่แช่ไว้ในน้ำซอสโชยุผสมสาเกและเหล้าหวาน ซอสรสชาติดีมากไม่เค็มอย่างที่คิด รสชาติของเนื้อปลา น้ำซอสและข้าว เข้ากันได้ดีจริงๆ
โฉมหน้าของเชฟอาทิตย์ เชฟใหญ่ประจำร้าน ผู้รับหน้าที่ดูแล Omakase Course แต่เพียงผู้เดียว เชฟน่ารักมาก จะคอยบอกข้อมูลของซูชิแต่ละคำก่อนกินด้วย ตอนนี้เชฟกำลังลอกหนังปลาซันมะ ที่เป็นปลาประจำฤดูกาลนี้ ระหว่างนั่งดูระวังน้ำลายไหลนะจ้ะ
มาแล้ว ปลาซันมะ (Sanma) ปกติผมเคยทานแต่แบบย่าง พึ่งจะได้ลองแบบดิบๆก็คราวนี้แหละ เนื้อปลานุ่มมากเลยยยย คำนี้เชฟใส่วาซาบิดองไว้ด้านบนช่วยเสริมรสชาติปลาให้โดดเด่นขึ้นไปอีก
มาถึงเมนูที่หลายคนโปรดปราน เนื้อปลาโอโทโร่ (Otoro) เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่า ที่มีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อน เห็นแล้วละลาย หยิบเข้าปากก็ละลาย เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำมากกกก
ถัดมาเป็นการรวมตัวของ 3 สุดยอดของอร่อยขั้นเทพ ทั้งโอโทโร่ ไข่หอยเม่น (Uni) และ ไข่ปลาแซลมอน ซึ่งยังคงหอมกลิ่นทรัฟเฟิลที่ได้จากไข่ปลาแซลมอนเหมือนจานแรก กลิ่นของทรัฟเฟิลเข้ากันได้ดีกับสัมผัสครีมๆของไข่หอยเม่นและความมันของโอโทโร่ ครีมๆมันๆหอมๆ อร่อยครับ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แล้วก็มาถึงซูชิคำสุดท้าย ปลาไหลทะเล (Anago) ซึ่งทางร้านนำมาห่อใบไผ่แล้วลนไฟก่อนเพื่อลดกลิ่นคาว ซอสที่นำมาทาบนเนื้อปลาเป็นซอสสูตรพิเศษที่บ่มมานานถึง 2 ปี จนได้รสชาติที่เข้มข้น ตบท้ายด้วยการขูดผิวส้มยูสุลงไปด้านบน คำนี้เนื้อปลานุ่มมากกกกก ไม่มีกลิ่นคาวเลยจริงๆด้วย
และที่พลาดไม่ได้ก่อนจะไปซุปก็คือไข่หวานนั่นเอง แต่ไข่หวานของที่นี่จะออกเป็นแนว Sponge Cake ฟูๆนุ่มๆ หอมกลิ่นกุ้ง รสออกหวานนิดๆเค็มหน่อยๆ
ซุปเป็นซุปใสรสกลมกล่อง ใส่เนื้อปลามาไดนุ่มๆ
ปิดท้ายคอร์สด้วยของหวาน โมจิหยดน้ำ (Mizu Shingen Mochi) เห็นหลายทีแล้ว ได้ลองชิมจริงๆก็คราวนี้แหละ เรียกว่าโมจิแต่จริงๆแล้วมันคือวุ้นที่มีรสสัมผัสเบามากๆ ทานคู่กับน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายแดงและผงถั่วเหลืองญี่ปุ่น เบาๆ หอมๆ หวานๆ อร่อยไปอีกแบบ
ยังไม่หมดแค่นี้ เนื่องจากได้ข่าวว่าร้านนี้เค้ามีดีที่ปลาหมึก เลยสั่งซูชิปลาหมึกกล้วย (Ika) (35 บาท) มาลองอีกคำ ดูความละเอียดของการบั้งนั่นสิ!!! ปลาหมึกนุ่มมากกกกกก อร่อยสมคำร่ำลือ
ลองซูชิโรลที่เป็นอีกเมนูเด่นของร้าน โดยโรลของที่นี่แต่ละหน้าจะมี 2 ขนาด คือ 8 คำ และ 4 คำ วันนี้เราลองเป็น Salmon Cheese Roll (380 บาท/ 190 บาท) โรลที่มีใส้ตรงกลางเป็น ฟัวกราส์ ครีมชีส และอโวคาโด ด้านนอกห่อด้วยปลาแซลมอน ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติจัดจ้านดี
จบมื้อไปแบบฟินสุดๆ Omakase ราคาไม่แรง แต่คุณภาพปลาดีมาก แต่ละคำปราณีตมากๆ ต้องยกความดีความชอบให้เชฟอาทิตย์ เชฟคนไทยฝีมือไม่แพ้เชฟญี่ปุ่นเลย ไว้มีโอกาสจะกลับมากินเองอีกครั้ง ก่อนจากกันไปวันนี้ขอฝากเมนู Lunch set ราคาย่อมเยาไว้ด้วยนะคร้าบบบบ
Address: 71/2-3 Soi Pahonyotin 7 (Ari) Samsanenai Phayathai, 10400 Bangkok, Thailand
Open: Mon-Fri: 11:30 am - 3:00 pm and 5:30 pm - 10:00 pm
Sat-Sun: 11:30 am - 10:00 pm
Tel: 02 619 7271
ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/sheepsbutler