เริ่มจากที่หรั่งได้ซื้อสะสมหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญจากเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ ทั้งการทำราคา ทั้งวอลุ่ม ผมว่านั่นเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
หากดูจากกราฟ SET อาจจะยังไม่สวยเท่าไรเพราะลงมาแรงก่อนหน้า จึงทำให้หลายคนมองว่าอาจจะยังมีย่อลงอีกครั้ง ก็แล้วแต่ความคิดส่วนบุคคล
แต่สิ่งหนึ่งจากตารางข้างต้นที่ผมเคยบอกว่าหรั่งจะทยอยสูบของจากกองและปอบ ก็เป็นจริงตามคาด หลังจากหรั่งได้ของจากเม่าไปจนเกือบหมดแล้วก่อนหน้า และจุดสำคัญอยากให้มองดูยอดซื้อของหรั่งจากตารางข้างต้นครับ เน้นว่าถ้ายอดซื้อในปี 59 ของหรั่ง หากขึ้นมาสูงกว่ายอดขายทั้งปี 58 ของหรั่งเมื่อไหร่ นั่นอาจบ่งบอกเป็นนัยได้ว่า SET ณ แถวนี้ยังมีแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง ถ้าตราบใดที่หรั่งยังไม่มียอดขายหนักๆ การจะมองว่า SET จะลงไปที่ 1200 คงจะเป็นเรื่องยาก เพราะถ้าหรั่งไม่ขาย กอง+ปอป ก็เสียของในมือไปมากโขก่อนหน้าจนต้องมาตามไล่ซื้อคืน ส่วนย่อยก็กำเงินสดอยู่นอกตลาดกว่า 80-90%
ผมอยากให้ลองมองความเป็นจริงตรงหน้าตอนนี้ มันเหมือนกับ บริษัท ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ 70-80% อยากให้บริษัทที่ตนถือหุ้นนั่นทำอะไรก็ย่อมสั่งได้ทุกอย่าง โดยที่ผู้ถือหุ้นรายเล็กกว่าไม่สามารถขัดขืนได้ แต่ถ้าหากผู้ถือหุ้นใหญ่ทิ้งหุ้นเมื่อไหร่ รายย่อยก็อย่าไปฝืน เพราะไม่งั้นมันก็จะวนเป็นลูปเดิมๆไม่จบสิ้น ย่อยก็ไปรับที่ดอยตามระเบียบ
ผมว่า SET ณ ตอนนี้ได้ถูกฝรั่งยึดครองไปแล้วกว่า 70 %
เริ่มจากที่หรั่งได้ซื้อสะสมหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญจากเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ ทั้งการทำราคา ทั้งวอลุ่ม ผมว่านั่นเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
หากดูจากกราฟ SET อาจจะยังไม่สวยเท่าไรเพราะลงมาแรงก่อนหน้า จึงทำให้หลายคนมองว่าอาจจะยังมีย่อลงอีกครั้ง ก็แล้วแต่ความคิดส่วนบุคคล
แต่สิ่งหนึ่งจากตารางข้างต้นที่ผมเคยบอกว่าหรั่งจะทยอยสูบของจากกองและปอบ ก็เป็นจริงตามคาด หลังจากหรั่งได้ของจากเม่าไปจนเกือบหมดแล้วก่อนหน้า และจุดสำคัญอยากให้มองดูยอดซื้อของหรั่งจากตารางข้างต้นครับ เน้นว่าถ้ายอดซื้อในปี 59 ของหรั่ง หากขึ้นมาสูงกว่ายอดขายทั้งปี 58 ของหรั่งเมื่อไหร่ นั่นอาจบ่งบอกเป็นนัยได้ว่า SET ณ แถวนี้ยังมีแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง ถ้าตราบใดที่หรั่งยังไม่มียอดขายหนักๆ การจะมองว่า SET จะลงไปที่ 1200 คงจะเป็นเรื่องยาก เพราะถ้าหรั่งไม่ขาย กอง+ปอป ก็เสียของในมือไปมากโขก่อนหน้าจนต้องมาตามไล่ซื้อคืน ส่วนย่อยก็กำเงินสดอยู่นอกตลาดกว่า 80-90%
ผมอยากให้ลองมองความเป็นจริงตรงหน้าตอนนี้ มันเหมือนกับ บริษัท ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ 70-80% อยากให้บริษัทที่ตนถือหุ้นนั่นทำอะไรก็ย่อมสั่งได้ทุกอย่าง โดยที่ผู้ถือหุ้นรายเล็กกว่าไม่สามารถขัดขืนได้ แต่ถ้าหากผู้ถือหุ้นใหญ่ทิ้งหุ้นเมื่อไหร่ รายย่อยก็อย่าไปฝืน เพราะไม่งั้นมันก็จะวนเป็นลูปเดิมๆไม่จบสิ้น ย่อยก็ไปรับที่ดอยตามระเบียบ