บัลลังก์หงส์
มิสโจว & จ๋อม
<< ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- >>
เรามักจะเห็นบทบาทของใบเฟิร์น ทั้งหนังและละครกับบทเด็กนักเรียน บทนักศึกษา ความรักแบบใสๆ บทแอบชอบ มาจนชินตา และติดภาพแบบนี้ของใบเฟิร์นกันไปแล้ว ซึ่งก็เป็นสิ่งดีที่น้องทำให้ใครหลายๆคนหลงรักไปกับการแสดงในลุคส์แบบนั้นได้ แต่ปัญหาก็คือคนจะมองใบเฟิร์นและติดภาพแบบนั้นอยู่ตลอดเวลาค่ะ
แต่สำหรับละคร "บัลลังก์หงส์" นั่นไม่ใช่ใบเฟิร์นแบบที่ใครๆติดภาพแล้ว เธอสามารถสลัดลุคส์ใสๆ ทลายกำแพงกับบทมิสโจวในละครตอนที่ 3-5 ที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการกำกับและบทละครของพี่ตั้ว ที่สามารถดึงศักยภาพของใบเฟิร์นออกมาได้อย่างแท้จริง ใบเฟิร์นเป็นคนมีทักษะและพรสวรรค์ด้านการแสดงดีแล้ว แต่ด้วยบทที่ได้รับคล้ายกัน จึงไม่ค่อยได้แสดงความสามารถอะไรให้เราได้เห็นอย่างเต็มที่
แต่เรื่องบัลลังก์หงส์บทบาทที่เธอได้รับนั้นโตขึ้นมาก ค่อยๆเปลี่ยนจากไอ้จ๋อมเด็กสาวจอมแก่นสู้ชีวิต (บทนี้แนวถนัดของใบเฟิร์นอยู่แล้ว) มาจนค่อยๆเปลี่ยนแปลง ตัวละครค่อยๆเติบโตขึ้น โดยมีเป้าหมายคือการแก้แค้น ซึ่งใบเฟิร์นสามารถถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครออกมาได้อย่างดี ทั้งตอนเป็นจ๋อมและมาถึงมิสโจว ที่ต่างบุคลิกกันอย่างเห็นได้ชัดกับการตีโจทย์ของใบเฟิร์นได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสีหน้า แววตา น้ำเสียง คำพูด ท่าทาง เป็นคนละคนอย่างชัดเจน เรียกว่าทึ่งและขนลุกกับการแสดงของใบเฟิร์นเป็นอย่างมาก
อย่างฉากพีคสุดในตอนที่ 5 ตอนมิสโจวบุกไปปะทะคุณนายหลี่ซวงและครอบครัวฝ่ายพ่อ
ใบเฟิร์นกับพี่ต่ายไม่มีใครสามารถกลบใครได้เลย ใบเฟิร์นทั้งสีหน้า คำพูด แววตา นั่นส่งให้พี่ต่ายได้อย่างไม่ยอมกันและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน พี่ต่ายก็ส่งอารมณ์ให้ใบเฟิร์น ใบเฟิร์นก็ส่งกลับได้อย่างดี เรียกว่าต้องปรบมือเลยฉากนี้ ดูแล้วขนลุกกับการแสดงของทั้งคู่กับฉากนี้มากๆค่ะ
หลังจากปะทะกับคุณนายหลี่ซวงเสร็จ มิสโจวยังมีการไปปะทะต่อยกที่ 2 กับเสี่ยคฑา ยกที่ 3 กับพ่อตัวเอง ยกที่ 4 กับพระเอก จนกลับไปทะเลาะกับเกาเฟยลูกน้องคนสนิทของพ่อบุญธรรมอีกเป็นยกที่ 5 เรียกว่าใบเฟิร์นทำได้เยี่ยมมาก สามารถเป็นมิสโจวที่ทั้งแข็งกร้าวเและอ่อนแอน่าสงสารในเวลาเดียวกัน เรียกว่า สะกดคนดูได้อยู่หมัดทุกๆฉาก
และฉากกับไมค์และอาวอตอนเป็นมิสโจว ชอบสายตา สีหน้า ท่าทางน้องมาก ดูเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ ดูไม่ออกและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน เป็นคนที่มองไม่ออกว่ารู้สึกยังไง เรียกว่าน้องทำให้คนดูลืมภาพลุคส์ใสๆไปเลย
บทดราม่าเรียกน้ำตา ใบเฟิร์นทำได้ดีมาตลอด มาเรื่องนี้ยิ่งดีขึ้นไปอีก มันมีความรู้สึกหลากหลายของตัวละครตัวนี้ที่ใบเฟิร์นได้เล่น
ซึ่งแต่ละฉากที่ละครออนไป ใบเฟิร์นทำได้ดีมาก เป็นคนที่ร้องไห้ได้น่าสงสารและน่าเอาใจช่วยที่สุด
อย่างฉากร้องไห้โทรหาแม่ คือสงสารจ๋อมมาก ใบเฟิร์นถ่ายทอดความรู้สึกให้รู้เลยว่าฉันเหงา คิดถึงแม่ อยากกลับบ้านไปเจอกับแม่แล้วนะ สุดยอดเลย
ฉากบู๊-ฉากขี่ม้า ในส่วนละครอาจจะเคยเห็นใบเฟิร์นกับฉากบู๊จากนักสู้พันธ์ข้าวเหนียวกันมาบ้าง มาเรื่องนี้ต้องบู๊แบบแข็งแรง ท่าสวย เธอก็ทำได้ และทำได้ดีด้วย เราอาจจะเห็นฉากบู๊ไปไม่เยอะมาก หลังๆในละครน่าจะมีอีก ซึ่งใบเฟิร์นก็ทำได้ดีกับฉากบู๊สำหรับผู้หญิงตัวเล็กแบบนี้
ฉากขี่ม้า สำหรับการขี่ม้าครั้งแรกของใบเฟิร์น ก็ทำออกมาได้ดี เท่ สง่า เรียกว่าเธอทำได้ทุกอย่างจริงๆค่ะ
*********
*** ยังมีอีกหลายฉากที่ดูไปทึ่งไปกับการแสดงของใบเฟิร์น ทำให้หลายๆคนน่าจะลืมภาพลักษณะใสๆของใบเฟิร์นไปได้จริงๆ
*** ใบเฟิร์นมีความตั้งใจ ทุ่มเท และรับผิดชอบหน้าที่นักแสดงนำตามที่ได้รับมอบหมายได้ดีเยี่ยมมาก อยากให้หลายๆคนเปิดใจ และลองเปิดดูบัลลังก์หงส์ในอีกประมาณสิบตอนที่เหลือ แล้วคุณจะต้องตกหลุมรักการแสดงของนักแสดงสาวที่ชื่อ "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" คนนี้อย่างแน่นอนค่ะ
ชื่นชมการแสดงของ "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" กับการสลัดภาพใสๆ กลายเป็นสาวที่เต็มไปด้วยไฟแค้นใน "บัลลังก์หงส์" ได้อย่างน่าทึ่ง
บัลลังก์หงส์
มิสโจว & จ๋อม
เรามักจะเห็นบทบาทของใบเฟิร์น ทั้งหนังและละครกับบทเด็กนักเรียน บทนักศึกษา ความรักแบบใสๆ บทแอบชอบ มาจนชินตา และติดภาพแบบนี้ของใบเฟิร์นกันไปแล้ว ซึ่งก็เป็นสิ่งดีที่น้องทำให้ใครหลายๆคนหลงรักไปกับการแสดงในลุคส์แบบนั้นได้ แต่ปัญหาก็คือคนจะมองใบเฟิร์นและติดภาพแบบนั้นอยู่ตลอดเวลาค่ะ
แต่สำหรับละคร "บัลลังก์หงส์" นั่นไม่ใช่ใบเฟิร์นแบบที่ใครๆติดภาพแล้ว เธอสามารถสลัดลุคส์ใสๆ ทลายกำแพงกับบทมิสโจวในละครตอนที่ 3-5 ที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการกำกับและบทละครของพี่ตั้ว ที่สามารถดึงศักยภาพของใบเฟิร์นออกมาได้อย่างแท้จริง ใบเฟิร์นเป็นคนมีทักษะและพรสวรรค์ด้านการแสดงดีแล้ว แต่ด้วยบทที่ได้รับคล้ายกัน จึงไม่ค่อยได้แสดงความสามารถอะไรให้เราได้เห็นอย่างเต็มที่
แต่เรื่องบัลลังก์หงส์บทบาทที่เธอได้รับนั้นโตขึ้นมาก ค่อยๆเปลี่ยนจากไอ้จ๋อมเด็กสาวจอมแก่นสู้ชีวิต (บทนี้แนวถนัดของใบเฟิร์นอยู่แล้ว) มาจนค่อยๆเปลี่ยนแปลง ตัวละครค่อยๆเติบโตขึ้น โดยมีเป้าหมายคือการแก้แค้น ซึ่งใบเฟิร์นสามารถถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครออกมาได้อย่างดี ทั้งตอนเป็นจ๋อมและมาถึงมิสโจว ที่ต่างบุคลิกกันอย่างเห็นได้ชัดกับการตีโจทย์ของใบเฟิร์นได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสีหน้า แววตา น้ำเสียง คำพูด ท่าทาง เป็นคนละคนอย่างชัดเจน เรียกว่าทึ่งและขนลุกกับการแสดงของใบเฟิร์นเป็นอย่างมาก
อย่างฉากพีคสุดในตอนที่ 5 ตอนมิสโจวบุกไปปะทะคุณนายหลี่ซวงและครอบครัวฝ่ายพ่อ
ใบเฟิร์นกับพี่ต่ายไม่มีใครสามารถกลบใครได้เลย ใบเฟิร์นทั้งสีหน้า คำพูด แววตา นั่นส่งให้พี่ต่ายได้อย่างไม่ยอมกันและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน พี่ต่ายก็ส่งอารมณ์ให้ใบเฟิร์น ใบเฟิร์นก็ส่งกลับได้อย่างดี เรียกว่าต้องปรบมือเลยฉากนี้ ดูแล้วขนลุกกับการแสดงของทั้งคู่กับฉากนี้มากๆค่ะ
หลังจากปะทะกับคุณนายหลี่ซวงเสร็จ มิสโจวยังมีการไปปะทะต่อยกที่ 2 กับเสี่ยคฑา ยกที่ 3 กับพ่อตัวเอง ยกที่ 4 กับพระเอก จนกลับไปทะเลาะกับเกาเฟยลูกน้องคนสนิทของพ่อบุญธรรมอีกเป็นยกที่ 5 เรียกว่าใบเฟิร์นทำได้เยี่ยมมาก สามารถเป็นมิสโจวที่ทั้งแข็งกร้าวเและอ่อนแอน่าสงสารในเวลาเดียวกัน เรียกว่า สะกดคนดูได้อยู่หมัดทุกๆฉาก
และฉากกับไมค์และอาวอตอนเป็นมิสโจว ชอบสายตา สีหน้า ท่าทางน้องมาก ดูเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ ดูไม่ออกและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน เป็นคนที่มองไม่ออกว่ารู้สึกยังไง เรียกว่าน้องทำให้คนดูลืมภาพลุคส์ใสๆไปเลย
บทดราม่าเรียกน้ำตา ใบเฟิร์นทำได้ดีมาตลอด มาเรื่องนี้ยิ่งดีขึ้นไปอีก มันมีความรู้สึกหลากหลายของตัวละครตัวนี้ที่ใบเฟิร์นได้เล่น
ซึ่งแต่ละฉากที่ละครออนไป ใบเฟิร์นทำได้ดีมาก เป็นคนที่ร้องไห้ได้น่าสงสารและน่าเอาใจช่วยที่สุด
อย่างฉากร้องไห้โทรหาแม่ คือสงสารจ๋อมมาก ใบเฟิร์นถ่ายทอดความรู้สึกให้รู้เลยว่าฉันเหงา คิดถึงแม่ อยากกลับบ้านไปเจอกับแม่แล้วนะ สุดยอดเลย
ฉากบู๊-ฉากขี่ม้า ในส่วนละครอาจจะเคยเห็นใบเฟิร์นกับฉากบู๊จากนักสู้พันธ์ข้าวเหนียวกันมาบ้าง มาเรื่องนี้ต้องบู๊แบบแข็งแรง ท่าสวย เธอก็ทำได้ และทำได้ดีด้วย เราอาจจะเห็นฉากบู๊ไปไม่เยอะมาก หลังๆในละครน่าจะมีอีก ซึ่งใบเฟิร์นก็ทำได้ดีกับฉากบู๊สำหรับผู้หญิงตัวเล็กแบบนี้
ฉากขี่ม้า สำหรับการขี่ม้าครั้งแรกของใบเฟิร์น ก็ทำออกมาได้ดี เท่ สง่า เรียกว่าเธอทำได้ทุกอย่างจริงๆค่ะ
*** ยังมีอีกหลายฉากที่ดูไปทึ่งไปกับการแสดงของใบเฟิร์น ทำให้หลายๆคนน่าจะลืมภาพลักษณะใสๆของใบเฟิร์นไปได้จริงๆ
*** ใบเฟิร์นมีความตั้งใจ ทุ่มเท และรับผิดชอบหน้าที่นักแสดงนำตามที่ได้รับมอบหมายได้ดีเยี่ยมมาก อยากให้หลายๆคนเปิดใจ และลองเปิดดูบัลลังก์หงส์ในอีกประมาณสิบตอนที่เหลือ แล้วคุณจะต้องตกหลุมรักการแสดงของนักแสดงสาวที่ชื่อ "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" คนนี้อย่างแน่นอนค่ะ