ทริปสติแตก ธาตุไฟเข้าแทรกที่ลาดักห์ อินเดีย

อยากจะเขียนรีวิวฐานข้อมูลก็ง่อยเหลือเกิน เอาเป็นว่าอยากมาเล่าสู่กันฟัง ว่ามันมีความสนุก ความลำบาก ความขำ ความป่วยจากที่สูง จนกลายเป็นทริปสติแตก  

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ (ไม่รู้จะเล่าได้สนุกขนาดไหนนะ) ทริปนี้มีผู้กล้า6คนถ้วนในการเดินทางไปอินเดีย 10 วัน หัวหน้าทัวร์ของพวกเราก็บอกแค่ว่าจะพาไปเล่ห์ (ออกตัวก่อนว่าตำแหน่งหัวหน้าทัวร์คือตำแหน่งที่พวกเรายัดเยียดให้มัน เพื่อเป็นการผลักภาระทั้งหมดให้หัวหน้า) ลูกทัวร์อย่างพี่แค่แบกเป้เดินตามไหวก็บุญแล้ว

ในส่วนของค่าใช้จ่ายทริปนี้หัวหน้าฯว่าไม่เกิน 23,000 บาท เท่านั้น!!! โอ้วววว เที่ยว 10 วัน ถูกมากๆ ค่ะ (ตั๋วโปรฯจองข้ามภพข้ามชาติ ราคาดีมากๆค่ะ) เราเดินทางด้วยสายการบินหางแดงจากดอนเมืองไปลงบังกะลอร์ (ถูกต้องแล้วค่ะ ไม่ผิดนะคะ สงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมไมลงเดลลีเลย ก็ตั๋วมันถูกไงคะ) ถึงบังกะลอร์ 23.00น หัวหน้าฯบอกว่ารอต่อเครื่องไปเดลลี เครื่องออกอีกที 9.10น พวกเราก็ถามว่านอนไหน? นางตอบว่านอนโรงแรมมันเสียเวลา มันเปลือง นอนในสนามบินนี่ล่ะ ง่อววววววววววว นอนไหนดี เก้าอี้ก็ไม่มี ตม.ก็ไล่มาข้างนอก จะเนี่ยๆนอนในทรานสิทก็ไม่ได้ล่ะ เดินป้วนเปี้ยนไปมาหน้าทางเข้าภายในประเทศ ซึ่งกว่าเค้าจะเปิดให้เข้าก็ปาเข้าไป 7โมงเช้าโน่น!! หลังจากที่เดินเวียนไปเข้าห้องน้ำผ่านDayroomหน้าทางเข้าภายในประเทศ เราก็ส่องดูอาหารด้วยความหิว(แลดูอนาถ) เดินเวียนไปถามราคาจนครบ6คน พี่อาบังเจ้าหน้าที่เค้าคงสงสาร บอกจะลดราคาให้จาก7ชม. คิดแค่4ชม. เหลือเป็นเงิน 10,400 รูปี ตกคนละ 800บาทกว่าๆ เอาว่ะ ดีกว่านั่งแท็กซี่ไปหาที่พัก หรือนอนกลิ้งๆกับพื้น แถมมีอาหาร น้ำ กาแฟ ผลไม้ให้กินด้วย จัดเซ่!!! คืนนั้นเราก็นอนอิ่มอุ่นอยู่ในDayroomหน้าทางเข้าภายในประเทศค่ะ ตอนสายๆก็ล้างหน้าแปรงฟันกินอาหารเช้าในนั้นเลย ขนมปังก็เป็นแซนวิชไส้ชีส และบรรดาถั่วต่างๆ ที่ถูกใจสุดก็น่าจะเป็นกาแฟสดที่กดได้ตลอดเวลา

ตอนขึ้นเครื่องไปเดลลีก็ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น พอไปถึงก็มีรถแท็กซี่ที่ติดต่อไปแล้วมารอรับพวกเราไปจ่ายเงินที่ออฟฟิศก่อน พวกเราเหมาแท็กซี่ไปอัคราเพื่อไปนอนที่นั่น 1 คืน พวกเรานอนที่ Zostel hostel ห้องพักไม่ต้องสืบค่ะ เอาแค่ซุกหัวนอน มีน้ำให้อาบพอแล้ว ตื่นเช้าไปเข้าชมความงามของทัชมาฮาล ก็สวยงาม อลังการงานสร้าง ผู้คนมากมาย การตรวจก็เข้มงวดมาก ตอนไปซื้อตั๋วก็อย่าพยายามคุยกับแขกค่ะ เพราะแขกจะเดินตามเราเป็นแมลงวันตอมขี้ ไม่หนี ไม่จากเราไปง่ายๆ เดินชมได้ซักพักใหญ่ก็หมดล่ะ ได้เวลากลับที่พัก อาบน้ำ ทานอาหารเพื่อเตรียมตัวนั่งรถกลับเดลลี (ระยะทางก็ประมาณ 5 ชม.) ให้ลุงคนขับแวะตลาดเหมาส่าหรี่ สาระพัดเสื้อผ้ากันมาอย่างร่าเริง

ใช่ค่ะ พวกเราต้องไปต่อ หลังช้อปปิ้งเดินชมสินค้าเป็นเวลา2ชัวโมงแห่งการตักตวงแล้ว พวกเราก็ต้องกลับไปหาลุงแท็กซี่ให้แกไปส่งที่ท่ารถ เพื่อจองตั๋วเดินเดินทางไปมะนาลี รถนอนไม่มี ที่อาบน้ำไม่มี ซกมกกันมาตั้งแต่เช้า ไปเหงื่อแตกคลุกฝุ่นกันที่ตลาดนัด แถวเดินตะเวณหาตั๋วหารถที่พอจะช่วยให้ชีวิตไม่ลำบากมากก็ได้รถปรับเอนวอล์ลโว่ นั่งรถวนไปตามไหล่เขา ไต่ไปเรื่อยๆ วนไปค่ะ 14 ชม พวกเราโชคดีมากได้นั่งเกือบหลังสุด เพิ่มแรงเหวี่ยง แถมตรงที่เรานั่งเปิดลำโพงหนังแขกดังมาก ดังอยู่ลำโพงเดียวทั้งรถ หูดับไปเลย ในส่วนของเบาะหน้าเรามีสามี-ภรรยาแขก ตัวใหญ่บึ้ม ปรับเบาะแอนนอนแบบสุดโต่ง เรียกได้ว่านอนแบบ Premium Flat Bed เลยทีเดียว เนื่องจากพวกพี่เค้าปรับเอนนอนสุดโต่ง แอร์ตรงหัวเราเลยไปเป่าหน้าพี่เค้า แอบปิดแอร์กูอีก!! อื้อหือ นั่งหลัง รถก็เหวี่ยง จะเอนเบาะก็เกรงใจตีนพี่ๆข้างหลัง ส่วนข้างหน้านั้นก็ไม่ต้องพูดถูก หลับสบายราวกับนอนเตียงที่บ้านเลยจ้า แค่ 14 ชม.เอง ทนได้อยู่แล้วเนอะ

เดวเราไปหาหนทางโหลดรูปก่อนนะ เดวมาใหม่
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่