สวัสดีคร้าบเพื่อนๆ

หลายคนคงคุ้นชื่อนี้ Sawara มันก็คือสถานที่ถ่ายทำหลัง ฟัต จัง โต๊ะ
ผมว่าหนังเขาถ่ายทำออกมาไม่ดีสักเท่าไร แต่สถานที่จริง น่าสนใจมากครับ ^_^

เริ่มต้นเลย ทำไมต้อง Sawara?
คือผมและเพื่อนได้ Bonus จากที่ทำงาน เป็นตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก (Hostel) เป็นเวลา 6วัน5คืน
ตอนนี้ผมก็คิดนะ ไปญี่ปุ่นทั้งที นอนที่เดิม 5คืน จะสนุกมั้ยเนี่ย ก็เลยวางแผนออกเที่ยวนอกเมืองโตเกียว ในลักษณะ One Day Trip

เนื่องจากช่วงที่ผมไป (24-29 July) มีงานไทยเที่ยวไทย จัดที่ศูนย์ประชุมพอดี ผมมีโอกาสได้ไปเดิน ครั้งนั้นตัวแทนจากญี่ปุ่นมาเยอะมาก สะดุดตากับแผ่นผับ เมืองชิบะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้ครับ

เมืองชิบะ เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันออกของโตเกียว ถ้านั่งรถไฟออกมาก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว
(ถ้านึกภาพไม่ออกก็คือที่ตั้งของสนามบินนาริตะ แถวๆนั้นแหละครับ)

สถานที่ ที่เราจะไปกันนั้นถัดจากชิบะ และถัดจากนาริตะไปอีกครับ เพราะฉะนั้นใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2ชั่วโมงแน่นอน(ถ้าเริ่มตอนออกจากโตเกียว)

เกริ่นมาจนน่าเบื่อกันแล้ว มาเริ่มกันเลย!

ก่อนจะเดินทางสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมก็คือ..
1.แผนที่รถไฟ + อินเตอร์เน็ต อันนี้สำคัญมากควรซื้อไปน้าา
2.ทำความรู้จักเว็บ http://www.hyperdia.com/en ให้สนิทสนมกันซะดีๆ เพราะเราต้องออกนอกเมืองไกล เว็บนี้ช่วยได้มาก
3.ทำความคุ้นเคยกับการใช้รถไฟในญี่ปุ่นซะก่อน (แนะนำว่าอย่าไปที่นี่วันแรก ต่อรถไฟเป็นค่อยไปน้า เพราะถ้าหลง มีคนให้ถามน้อยมากก)


วันนี้ผมแนะนำทุกคนตื่นเช้าทำยังไงก็ได้ ออกจากที่พักไม่เกิน 7:00น. จะดีที่สุด (แนะนำว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นตื่นเช้าทุกวันจะดีที่สุด)
เริ่มต้นง่ายๆ

เชคเส้นทางจากเว็บ http://www.hyperdia.com/en เลือกเส้นทางที่จะไป (แนะนำว่าเลือกเส้นทางที่ต่อสถานีน้อยสุด จะสบายใจกว่าเยอะเลย)







ช่องน้ำเงิน คือต้นทางที่เราอยู่
ช่องดำ คือปลายทาง
ช่องแดง คือวันเวลาที่เราจะไป

Route 1 คือ เปลี่ยนสายถึง 3รอบ
Route 2 คือ เปลี่ยนสาย 2รอบ

หลังจากเลือกเส้นทางได้ก็ไปกันเลย



ผมออกมาจากที่พักแถว Asakusa เนื่องจากผมใช้ Metro pass เลยเลือกที่จะนั่ง Metro ไปสุดสายก่อนค่อยเปลี่ยนสถานีไป JR
พอออกมานอกเมือง ผลปรากฎว่า...



ป้ายต่างๆ โดยเฉพาะป้ายบอกราคาตรงสนามบิน ไม่มีภาษาอังกฤษเลยย

ถ้าใครสับสนไม่กล้ากดเอง แนะนำเดินเข้าไปห้อง Ticket ขอซื้อได้เลยนะครับ แค่บอกสถานีปลายทาง เราก็จะได้บัตรโดยสารออกมาเลย



ก่อนเดินทางให้เราสังเกตุป้าย อิเล็กโทนิค ด้านบนจะมีขึ้นข้อความว่าสายที่จอดอยู่ไปไหน ถ้าไม่มั่นใจ ถาม จนท. ประจำเลยครับ ถึงแม้เขาจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เขาก็พยายามช่วยเราเต็มที่
ปกติแล้วรถไฟออกนอกเมือง จะมีแค่ 1-2 รอบต่อชั่วโมง ไม่เหมือนในเมืองนะครับที่มีทุกวัน 3-5นาที พอได้บัตรแล้วก็รอเวลารถไฟมา (บางกรณีก็มีรถไฟจอดรออยู่แล้วเพราะเป็นต้นสถานี เราก็ขึ้นไปรอบนรถไฟได้เลย)







วิวระหว่างทางนอกเมือง บรรยากาศสองข้างทางดีสุดๆ


นั่งยาวออกจาก ชิบะ - นาริตะ - ซาวาระ ยิ่งออกมาไกล ก็ยิ่งเห็นธรรมชาติมากขึ้น บนรถไฟคนน้อยมาก(อาจเป็นเพราะนั่งสวนกับคนญี่ปุ่นที่เข้าไปทำงาน)



มีเด็กญี่ปุ่น กับ คุณยาย น่ารักๆ ดูท่าทางเป็นมิตรสุดๆ

ถึงแว้วว สถานีซาวาระ เวลาประมาณ 9โมงกว่าๆ





ภาพในสถานีซาวาระ เล็กๆ สัมผัสถึงอากาศดีๆ และบรรยากาศบ้านเมืองที่เป็นญี่ปุ่นๆจริงๆ เลยครับ





แผนที่เมืองซาวาระ มีในสถานีและหน้าสถานี

เมื่อเราเดินออกมาหน้าสถานี ก็จะเห็น Taxi จอดรถบริการลูกค้าอยู่ ถ้าใครมีเงินจริงๆนั่งได้นะครับเพราะต้องเดินเกือบกิโลฯ แต่ถ้างบจำกัด เดินเถอะ ประหยัดไปหลายร้อยบาทแน่ๆ



วิธีเดินเท้าผมแนะนำง่ายสุด คือเดินเรียบทางรถไฟไปเลยครับ คือออกจากสถานีมา เลี้ยวขวา เดินเรียบไปเรื่อยๆ 600เมตรก็จะเจอคลอง ที่ตั้งของ "เมืองเก่าซาวาระ" (วงสีแดงในแผนที่จ้า) ที่แนะนำแบบนี้เพราะว่าพวกผม "หลงทาง" โผล่ไปวัดแห่งนึง แต่ก็ได้ภาพสวยๆกลับมาน้าา



หลังจากหลงทางก็ถามคุณลุงในภาพนี่แหละว่าเดินไปทางไหน ตอนนั้นฝนก็ตกปลอยๆ ลุงก็สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ สุดท้าย "ลุงเดินมาส่ง"
น่ารักมากๆ





เมืองเก่า Sawara เป็นเมืองเก่าสมัย Edo บ้านเรือนเก่าๆที่อนุรักษ์ไว้ให้ชมก็จะอยู่ริมคลอง ยาวประมาณ 800เมตร สองฝั่งคลองก็จะเป็นที่ตั้งของบ้านเก่าๆ
มีบ้านหลังนึงที่เราสามารถเข้าไปชมได้















ที่ Sawara อาจจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากนัก ระหว่างเดินเที่ยวผมเจอนักท่องเที่ยวเพียงแค่ 30-50คน เท่านั้น และส่วนมากเป็นคนญี่ปุ่น ที่มาพักผ่อน ชมบรรยากาศเมืองเก่าๆ กรุ๊ปทัวร์ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีวี่แววของทัวร์เลยครับ แต่อาจจะมีบ้างคงไม่ใช่ช่วงเช้าๆแบบนี้ เพราะ ร้านขายของที่ระลึก ขายของฝาก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านค่อนข้างใหญ่









ระหว่างเดินถ่ายรูปอยู่ คุณลุงชาวญี่ปุ่นเดินเข้ามาหาผม

คุณลุง : "Speak English?"
ผม : Yes.
คุณลุง : Where are you from?
ผม : Thailand.
คุณลุง : taiwan?
ผม : No no. Bangkok Thailand (นึกในใจทำไมบอกไทยแลนด์ทีไร ฟังเป็นไต้หวันทุกที)

หลังจากนั้นเราก็สนทนากันยาวมาก
สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจก็คือ
อย่างแรก คนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ปกติไม่ค่อยจะทักทายนักท่องเที่ยวนักหรอก
อย่างที่สอง ขณะที่พูดกับผม คุณลุงพูดเสียง "ดังมากกก" ดังแบบได้ยินกันในระยะ 100เมตรกันเลยทีเดียว ผมเดาว่าการพูดภาษาอังกฤษได้ในญี่ปุ่นเปนอะไรที่น่าภูมิใจมากๆ เขาเลยไม่อายที่จะพูดเสียงดังฟังชัด ได้ยินกันทั่วเลย


ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับคุณลุงที่ให้ข้อมูลสักหน่อย

หลังจากคุยกับคุณลุงเราก็จับใจความได้ว่า
"Sawara เนี่ย เป็นหนึ่งในเมืองเก่า สมัย Edo เลยนะ ที่นี่นับว่าเป็นเมืองนึงที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองในสมัย Edo ไว้อยู่
คุณเห็นบ้านตรงนั้นไหม (บ้านที่เปิดให้เข้าชม) ที่นั่นเป็นบ้านของคนวาดแผนที่ญี่ปุ่นในสมัยนั้นนะ สมัยนั้นไม่มี ดาวเทียม ไม่มี GPRS ใช้การเดิน ล่องเรือ ขี่ม้า เท่านั้นนะ แต่เขาสามารถวาดแผนที่ของญี่ปุ่นได้ทั้งประเทศเลย"

เรายืนฟังก็ทึ่งนะ แอบดีใจ ถ้าเราไม่เจอคุณลุง คงไม่มีใครมาบอกเล่าประวัติของสถานที่นี้ให้ฟัง เราคงถ่ายรูปเสร็จๆ แล้วก็กลับไป

หลังจากสนทนาได้สักพัก คุณลุงบอกว่า
"จากนี้ไปคุณจะไปไหนต่อละ (เราตอบว่ากลับโตเกียว) ไหนๆ คุณก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมคุณไม่ไปที่ Katori Shrine ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ยิ่งใหญ่มากเลยนะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"That Shrine will give a lot POWER for you"


ต่อในคอมเม้นจ้าาาา

ปัจจุบันสิงอยู่ที่
https://www.facebook.com/tourteen/  ฝากกด like ด้วยน้าาา