คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 41
เอาความเจริญยุคไหน ถ้าช่วง 2513 - 20 ช่วงนั้นพระโขนงเริ่มเจริญ จุดใหญ่ที่ทำให้คนเยอะคือการเปิดบ้านจัดสรร ที่กำเนิดมาครั้งแรกๆในเมืองไทย โซนนั้นเครือเปรมฤทัย หรือ เปรมอะไรนี่แหละกุมตลาด ถนนบางนา - ตราดยังยังไม่เกิด ไปบางแสน-พัทยาวิ่งเข้าสมุทรปราการ สุขุมวิทเส้นเก่า อย่างเดียว ความเจริญจึงแน่นที่เอกมัย เพราะมีท้องฟ้าจำลองมาเปิด และ บขส.สายตะวันออกเพื่อการเดินทาง โรงเรียนก็มีโรงเรียนปทุมคงคามาตั้งใหม่เป็นสายสามัญระดับบิ๊ก 9 แห่งขณะนั้น ยังมีโรงเรียนอีกหลายโรงเรียนเช่น โรงเรียนวัดธาตุทอง โรงเรียนพระโขนงวิทยา เอกชนก็มีโรงเรียนศรีวิกรณ์ ให้ชุมชนเลือกเรียน แต่ความเจริญก็เฉพาะแนวถนนใหญ่ ไม่ลึกเข้าไปด้านในๆ อย่างซอยอ่อนนุช ผมเข้าไปบ่อย เพราะเพื่อนมันนามสกุลอ่อนนุช ที่ดินในซอยนั้นตระกูลมันครองลึกเข้าไปเป็นกิโล บางทีก็โดดเรียนไปนั่งเล่นบ้านเพื่อน จะเข้าซอยมีแต่ 2 แถวเล็ก ถนนพอสวนกันได้ ถึงบ้านเพื่อนด้านใน มีแต่น้ำ หนองน้ำ บ้านยกสูงหนีน้ำทุกหลัง แถวนั้นเมื่อก่อนติดเขตทุ่งบางกะปั อำเภอบางกะปิ แถวโชคชัยสะเต๊คเฮ้าส์ก็อยู่เขตบางกะปิ แต่ไม่รู้มันกินไปถึงพระโขนงด้านไหน หลุดจากตัวพระโขนงไปจนถึงใกล้ตัวเมืองสมุทรปราการ ซอยที่คนมากๆเช่น สุขุมวิท 101 หรือ แบริ่งในปัจุบัน ใครผ่านช่วงนั้นก็ส่ายหัวว่าทำไมมันไปมาลำบากจัง รถเมล์ก็มีแต่สาย 45 กับ 2 แถวใหญ่ และรถ บขส.
มาถึงความเจริญ จากเพลินจิต มา ถึงเอกมัยสมัยก่อนจัดว่าเป็นย่านฝรั่ง หรือคนต่างชาคิมาเที่ยว ส่วนใหญ่ก็เป็น จี ไอ ที่พักรบจากสมรภูมิเวียตนามมาพักผ่อน หรือเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงมาเช่าอยู่ พ้นเอกมัยไปก็เป็นโซนไทยแลนด์อยู่ตามอัธยาศัย แต่ที่ไม่เสื่อมมนต์ขลังคือตลาดพระโขนง มีของกินอร่อยจริงๆ อย่างที่ข้างบนว่าไว้ กวยเตี๋ยวหลอด และอาหารอื่นเยอะ ด้วยความที่บ้านจัดสรรเพิ่ม คนมาก พวกentertain ยังไม่มากเพื่อรองรับคน ย่านอื่นแถวสะพานควายมีโรงหนังชั้น 2(ฉายควบ 2 เรื่อง) มงคลราม่า พหลโยธินราม่า ไว้จับคนดูหนังระดับกลาง ทางศรีย่านก็มีโรงหนังศรีย่าน ฝากฝั่งธน วงเวียนใหญ่ก็มีโรงหนังสุริยา ส่วนพระโขนงมีแค่พระโขนงราม่า โรงเดียว กลุ่มทุนเลยจัดสร้างโรงหนังพระโขนงเธียร์เตอร์ ซึ่งใหญ่แทบจะอันดับหนึ่งใน เอเซียเลย แต่ฉายหนังควบ แบบโรงชั้น 2 แตกต่างโดยฉายเป็นรอบ ไม่เหมือนโรงชั้น 2 อื่นๆที่เข้าดูเวลาไหนก็ได้ ไปยืนรอเก้าอี้ว่างคนที่ดูเสร็จ แล้วเสียบแทน โรงมันอลังการจริง ใหญ่มาก เป็นกึ่ง 2 ชั้น เก้าอี้บุนวมแบบโรงชั้นหนึ่ง ผ้าหุ้มเบาะเป็นลายปักดิ้นทองสุด หะรู หะรา คนแน่นทุกรอบเพราะ จัดแต่หนังที่ติดชาร์ตฮิต 2 เรื่องควบที่หลุดจากโรงชั้นหนึ่งแถวสยาม จนถึงจุดวายวอด เมื่อเครื่องVideo ระบบVHF เข้ามาเมืองไทย ร้านเช่าม้วนวิดิโอมีเกือบทุกแหล่งชุมชน เช่าราคาก็ถูก 20-30 บาท ดูได้ 3-5 วัน โรงหนังพระโขนงเธียร์เตอร์จึงล่ม เหลือเป็นตำนานให้เล่ากัน
ทุกวันนี้เวลาผ่านไปพระโขนง เจริญจนหาร้านเก่าที่เคยไปกินดื่มไม่เจอ ดินแดนแม่นาคยังมีความน่าหลงไหลไม่เสื่อมคลายครับ
มาถึงความเจริญ จากเพลินจิต มา ถึงเอกมัยสมัยก่อนจัดว่าเป็นย่านฝรั่ง หรือคนต่างชาคิมาเที่ยว ส่วนใหญ่ก็เป็น จี ไอ ที่พักรบจากสมรภูมิเวียตนามมาพักผ่อน หรือเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงมาเช่าอยู่ พ้นเอกมัยไปก็เป็นโซนไทยแลนด์อยู่ตามอัธยาศัย แต่ที่ไม่เสื่อมมนต์ขลังคือตลาดพระโขนง มีของกินอร่อยจริงๆ อย่างที่ข้างบนว่าไว้ กวยเตี๋ยวหลอด และอาหารอื่นเยอะ ด้วยความที่บ้านจัดสรรเพิ่ม คนมาก พวกentertain ยังไม่มากเพื่อรองรับคน ย่านอื่นแถวสะพานควายมีโรงหนังชั้น 2(ฉายควบ 2 เรื่อง) มงคลราม่า พหลโยธินราม่า ไว้จับคนดูหนังระดับกลาง ทางศรีย่านก็มีโรงหนังศรีย่าน ฝากฝั่งธน วงเวียนใหญ่ก็มีโรงหนังสุริยา ส่วนพระโขนงมีแค่พระโขนงราม่า โรงเดียว กลุ่มทุนเลยจัดสร้างโรงหนังพระโขนงเธียร์เตอร์ ซึ่งใหญ่แทบจะอันดับหนึ่งใน เอเซียเลย แต่ฉายหนังควบ แบบโรงชั้น 2 แตกต่างโดยฉายเป็นรอบ ไม่เหมือนโรงชั้น 2 อื่นๆที่เข้าดูเวลาไหนก็ได้ ไปยืนรอเก้าอี้ว่างคนที่ดูเสร็จ แล้วเสียบแทน โรงมันอลังการจริง ใหญ่มาก เป็นกึ่ง 2 ชั้น เก้าอี้บุนวมแบบโรงชั้นหนึ่ง ผ้าหุ้มเบาะเป็นลายปักดิ้นทองสุด หะรู หะรา คนแน่นทุกรอบเพราะ จัดแต่หนังที่ติดชาร์ตฮิต 2 เรื่องควบที่หลุดจากโรงชั้นหนึ่งแถวสยาม จนถึงจุดวายวอด เมื่อเครื่องVideo ระบบVHF เข้ามาเมืองไทย ร้านเช่าม้วนวิดิโอมีเกือบทุกแหล่งชุมชน เช่าราคาก็ถูก 20-30 บาท ดูได้ 3-5 วัน โรงหนังพระโขนงเธียร์เตอร์จึงล่ม เหลือเป็นตำนานให้เล่ากัน
ทุกวันนี้เวลาผ่านไปพระโขนง เจริญจนหาร้านเก่าที่เคยไปกินดื่มไม่เจอ ดินแดนแม่นาคยังมีความน่าหลงไหลไม่เสื่อมคลายครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 56
จากความทรงจำวัยเด็กที่วิ่งเล่นอยู่รอบๆ โรงหนังพระโขนงรามา
จำได้ว่าเมื่อก่อนเป็นโรงหนังชั้นหนึ่ง ยังไม่ได้ฉายควบ
ราคาตั๋วสมัยนั้น ที่นั่งชั้นล่าง 3 บาท ชั้นบน 5 บาท ต่อมาขึ้นเป็น 5, 7 บาทครับ
วันดีคืนดีก็จะเห็นดาราดังๆ อย่างคุณชนะ ศรีอุบล มาจอดรถเสียอยู่ที่หน้าโรงหนัง
เด็กๆ อย่างเราก็ไปยืนมุงดูแกเปิดกระโปรงซ่อมรถ หน้าเครียดหน้ามัน
บางวันก็คุณประจวบ ฤกษ์ยามดี และท่านอื่นๆ อีกจำไม่ค่อยได้ละ
ด้านหลังโรงหนังจะเป็นโรงเขียนคัทเอาท์ สำหรับติดบนตึกด้านนอกโรง ขนาดใหญ่ยักษ์
ชอบไปยืนดูพี่ๆ น้าๆ เขาวาดรูป บางทีก็แอบเข้าไปดูที่ห้องฉายหนังด้านบน
รอบๆ โรงหนังจะเป็นร้านค้าเครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า เครื่องใช้ไฟฟ้า
ร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย (ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ้าดังตอนผมเด็กๆ รุ่นแม่ขายคนก็กินเยอะอยู่แล้วนะครับ
เห็นว่าตอนหลังรุ่นลูกสาวแกขายไปเต้นขยับแข้ง ขยับขาไป จนโด่งดังขึ้นไปอีก)
ตอนกลางคืนคึกคักสุดๆ ครับ หน้าโรงหนังมีร้านไก่ย่าง จีระพันธ์ กับเพียรพันธ์ อยู่ติดกัน คนนี่แน่นร้านทุกวัน
เดินเล่นแถวนั้นแล้วโดนเบียดไหลไปกับฝูงคนนี่เรื่องปกติเลยครับ
ด้านหลังโรงหนังจะเป็นทางเดินเชื่อมไปตลาดพระโขนง
มีโรงงิ้วอยู่ในศาลเจ้า ข้างในศาลเจ้ามีกล่องตุ๊กตาจีนซ่อนกลไกขยับเขยื้อนได้
เล่าเรื่องพระถังซัมจั๋งเรียงรายอยู่รอบๆ ผมชอบไปยืนดูหุ่นตัวเล็กๆ เหล่านั้นแทบทุกวันครับ
แต่ที่ไม่ชอบคือควันธูป เพราะคนมาไหว้เจ้ากันมาก ก็จุดธูปกันมาก เด็กอย่างผมไม่ชอบเอาเสียเลย
ใต้ถุนโรงงิ้วนี่ สวรรค์ของเด็กๆ แถวนั้นเลยครับ อุดมไปด้วยร้านค้า
สายไหมแบบกดปุ่มเสี่ยงดวงว่าจะได้กี่อัน ตังเมเป่าลมเป็นรูปปลา รูปเป็ด
และสัตว์ต่างๆ หรือจะเอาแบบปั้น ตัด ดึง ให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ รูปลิงตกเบ็ด
รูปห่านคอยาว รูปงู สารพัดจะบอกอาแปะแกให้ช่วยทำให้ กระเพาะปลา
ก๋วยเตี๋ยวหลอดโรยกระเทียมเจียว หัวไชโป๊วเยอะๆ ราดด้วยซีอิ๊วดำหวาน
และสารพัดอาหารราคาเด็กๆ ใส่กระทงใบตองแห้ง
กิน เล่นเสร็จก็ชะโงกหัวไปดูพี่ๆ นักแสดงงิ้วแต่งหน้า แต่งตัวพร้อมแสดงกัน
ตามเสียงประโคม ปี่กลอง ฉาบ ตื่นตาตื่นใจที่สุดแล้ว
ข้ามฝั่งไปตรงที่เป็นห้างเอดิสัน จำได้ว่าตอนแรกเป็นทุ่งนาเวิ้งว้างอยู่สักช่วงเวลานึง
(ตอนนั้นยังเด็กมากจริงๆ ความจำค่อนข้างเลือนลาง) แล้วก็มีการถมสร้างเป็นตึกรามใหญ่โต
หลายปีให้หลังจึงมีห้างเอดิสันขายเครื่องไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนั้น
ฝั่งถนนด้านที่จะไปกล้วยน้ำไท มีโรงหนังพระโขนงเธียร์เตอร์ อันใหญ่โตเกิดขึ้นมา
จำได้ว่าแกงค์เด็กอย่างเราวิ่งขึ้นไปเล่นข้างบนห้างที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์
มองไปด้านหลังยังเป็นบึงน้ำกว้างใหญ่ น่ากลัวชะมัด
(ภายหลังมีห้างอาเซียนเกิดขึ้น ผมย้ายไปอยู่ที่อื่นอายุอานามเข้าวัยรุ่น มีโอกาสกลับมาเดินเล่น
ที่ห้างแห่งนี้อยู่ครั้งสองครั้ง จำได้ว่าก็เป็นแค่ห้างชานเมืองเล็กๆ ธรรมดาๆ แต่คนเดินเบียดกันแน่นเชียวละ)
อีกด้านหนึ่งคือด้านสะพานข้ามคลองพระโขนงก็คึกคักไม่แพ้กัน
เพราะเป็นทางเข้าตลาดพระโขนง และสมัยนั้นการสัญจรทางเรือหางยาว
ก็ยังเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมอยู่มาก
(บ้านริมคลองนี่อยู่กันไม่ค่อยสงบหรอกครับ เรือหางวิ่งผ่านทั้งวัน (เราจะเรียกกันสั้นๆ ว่าเรือหาง)
ผ่านมาทีกระจกบ้านนี่สั่นรัวๆ แสบแก้วหู เพราะเสียงเครื่องเรือดังมาก
อ้อ! สมัยก่อนคลองพระโขนงมีเรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล่นผ่านเพื่อดูวิถีชีวิตริมคลอง
วันละหลายเที่ยวนะครับ น้ำยังใสสะอาด ยกยอจับปลาหน้าบ้านได้ทีละมากๆ ไม่เน่าเหม็นอย่างในปัจจุบัน
เด็กริมคลองอย่างผมมีหน้าที่โบกมือทักทาย กระโดดน้ำโชว์นักท่องเที่ยวด้วยนะเออ เอาเซ่!!)
ท่าเรืออยู่ตรงด้านนี้แหละครับ บริวณใต้สะพานมีร้านรวงต่างๆ เข้าไปเปิดกันคึกคัก
ลอดใต้สะพานไปจะเจอโรงหนังเฉลิมรัตน์ เป็นโรงหนังขนาดใหญ่เช่นกัน
แต่ไม่คึกคักเท่า พระโขนงรามา ต่อมาโรงหนังนี้เปลี่ยนกิจการเป็นโรงน้ำชา
แล้วหลังจากนั้นก็ย้ายบ้านออกจากย่านพระโขนง ไปอยู่ที่อื่น แต่ก็มีโอกาสนั่งรถเมล์ผ่านอยู่บ่อยครั้ง เห็นความเจริญ คึกคัก จนถึงยุคเสื่อมโทรมจากโรงหนังชั้นหนึ่ง เป็นโรงฉายควบ และฉายหนังโป๊ตามกาลเวลา...
จำได้ว่าเมื่อก่อนเป็นโรงหนังชั้นหนึ่ง ยังไม่ได้ฉายควบ
ราคาตั๋วสมัยนั้น ที่นั่งชั้นล่าง 3 บาท ชั้นบน 5 บาท ต่อมาขึ้นเป็น 5, 7 บาทครับ
วันดีคืนดีก็จะเห็นดาราดังๆ อย่างคุณชนะ ศรีอุบล มาจอดรถเสียอยู่ที่หน้าโรงหนัง
เด็กๆ อย่างเราก็ไปยืนมุงดูแกเปิดกระโปรงซ่อมรถ หน้าเครียดหน้ามัน
บางวันก็คุณประจวบ ฤกษ์ยามดี และท่านอื่นๆ อีกจำไม่ค่อยได้ละ
ด้านหลังโรงหนังจะเป็นโรงเขียนคัทเอาท์ สำหรับติดบนตึกด้านนอกโรง ขนาดใหญ่ยักษ์
ชอบไปยืนดูพี่ๆ น้าๆ เขาวาดรูป บางทีก็แอบเข้าไปดูที่ห้องฉายหนังด้านบน
รอบๆ โรงหนังจะเป็นร้านค้าเครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า เครื่องใช้ไฟฟ้า
ร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย (ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ้าดังตอนผมเด็กๆ รุ่นแม่ขายคนก็กินเยอะอยู่แล้วนะครับ
เห็นว่าตอนหลังรุ่นลูกสาวแกขายไปเต้นขยับแข้ง ขยับขาไป จนโด่งดังขึ้นไปอีก)
ตอนกลางคืนคึกคักสุดๆ ครับ หน้าโรงหนังมีร้านไก่ย่าง จีระพันธ์ กับเพียรพันธ์ อยู่ติดกัน คนนี่แน่นร้านทุกวัน
เดินเล่นแถวนั้นแล้วโดนเบียดไหลไปกับฝูงคนนี่เรื่องปกติเลยครับ
ด้านหลังโรงหนังจะเป็นทางเดินเชื่อมไปตลาดพระโขนง
มีโรงงิ้วอยู่ในศาลเจ้า ข้างในศาลเจ้ามีกล่องตุ๊กตาจีนซ่อนกลไกขยับเขยื้อนได้
เล่าเรื่องพระถังซัมจั๋งเรียงรายอยู่รอบๆ ผมชอบไปยืนดูหุ่นตัวเล็กๆ เหล่านั้นแทบทุกวันครับ
แต่ที่ไม่ชอบคือควันธูป เพราะคนมาไหว้เจ้ากันมาก ก็จุดธูปกันมาก เด็กอย่างผมไม่ชอบเอาเสียเลย
ใต้ถุนโรงงิ้วนี่ สวรรค์ของเด็กๆ แถวนั้นเลยครับ อุดมไปด้วยร้านค้า
สายไหมแบบกดปุ่มเสี่ยงดวงว่าจะได้กี่อัน ตังเมเป่าลมเป็นรูปปลา รูปเป็ด
และสัตว์ต่างๆ หรือจะเอาแบบปั้น ตัด ดึง ให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ รูปลิงตกเบ็ด
รูปห่านคอยาว รูปงู สารพัดจะบอกอาแปะแกให้ช่วยทำให้ กระเพาะปลา
ก๋วยเตี๋ยวหลอดโรยกระเทียมเจียว หัวไชโป๊วเยอะๆ ราดด้วยซีอิ๊วดำหวาน
และสารพัดอาหารราคาเด็กๆ ใส่กระทงใบตองแห้ง
กิน เล่นเสร็จก็ชะโงกหัวไปดูพี่ๆ นักแสดงงิ้วแต่งหน้า แต่งตัวพร้อมแสดงกัน
ตามเสียงประโคม ปี่กลอง ฉาบ ตื่นตาตื่นใจที่สุดแล้ว
ข้ามฝั่งไปตรงที่เป็นห้างเอดิสัน จำได้ว่าตอนแรกเป็นทุ่งนาเวิ้งว้างอยู่สักช่วงเวลานึง
(ตอนนั้นยังเด็กมากจริงๆ ความจำค่อนข้างเลือนลาง) แล้วก็มีการถมสร้างเป็นตึกรามใหญ่โต
หลายปีให้หลังจึงมีห้างเอดิสันขายเครื่องไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนั้น
ฝั่งถนนด้านที่จะไปกล้วยน้ำไท มีโรงหนังพระโขนงเธียร์เตอร์ อันใหญ่โตเกิดขึ้นมา
จำได้ว่าแกงค์เด็กอย่างเราวิ่งขึ้นไปเล่นข้างบนห้างที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์
มองไปด้านหลังยังเป็นบึงน้ำกว้างใหญ่ น่ากลัวชะมัด
(ภายหลังมีห้างอาเซียนเกิดขึ้น ผมย้ายไปอยู่ที่อื่นอายุอานามเข้าวัยรุ่น มีโอกาสกลับมาเดินเล่น
ที่ห้างแห่งนี้อยู่ครั้งสองครั้ง จำได้ว่าก็เป็นแค่ห้างชานเมืองเล็กๆ ธรรมดาๆ แต่คนเดินเบียดกันแน่นเชียวละ)
อีกด้านหนึ่งคือด้านสะพานข้ามคลองพระโขนงก็คึกคักไม่แพ้กัน
เพราะเป็นทางเข้าตลาดพระโขนง และสมัยนั้นการสัญจรทางเรือหางยาว
ก็ยังเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมอยู่มาก
(บ้านริมคลองนี่อยู่กันไม่ค่อยสงบหรอกครับ เรือหางวิ่งผ่านทั้งวัน (เราจะเรียกกันสั้นๆ ว่าเรือหาง)
ผ่านมาทีกระจกบ้านนี่สั่นรัวๆ แสบแก้วหู เพราะเสียงเครื่องเรือดังมาก
อ้อ! สมัยก่อนคลองพระโขนงมีเรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล่นผ่านเพื่อดูวิถีชีวิตริมคลอง
วันละหลายเที่ยวนะครับ น้ำยังใสสะอาด ยกยอจับปลาหน้าบ้านได้ทีละมากๆ ไม่เน่าเหม็นอย่างในปัจจุบัน
เด็กริมคลองอย่างผมมีหน้าที่โบกมือทักทาย กระโดดน้ำโชว์นักท่องเที่ยวด้วยนะเออ เอาเซ่!!)
ท่าเรืออยู่ตรงด้านนี้แหละครับ บริวณใต้สะพานมีร้านรวงต่างๆ เข้าไปเปิดกันคึกคัก
ลอดใต้สะพานไปจะเจอโรงหนังเฉลิมรัตน์ เป็นโรงหนังขนาดใหญ่เช่นกัน
แต่ไม่คึกคักเท่า พระโขนงรามา ต่อมาโรงหนังนี้เปลี่ยนกิจการเป็นโรงน้ำชา
แล้วหลังจากนั้นก็ย้ายบ้านออกจากย่านพระโขนง ไปอยู่ที่อื่น แต่ก็มีโอกาสนั่งรถเมล์ผ่านอยู่บ่อยครั้ง เห็นความเจริญ คึกคัก จนถึงยุคเสื่อมโทรมจากโรงหนังชั้นหนึ่ง เป็นโรงฉายควบ และฉายหนังโป๊ตามกาลเวลา...
ความคิดเห็นที่ 12
ปี 2525
พระโขนง มีโรงหนัง หลายโรง
พระโขนงรามา พระโขนงเธียร์เตอร
ลอนดอน เจ้าพระยา เอเซีย ... ฮอลิเดย์
เหมือนจะมีอะไรอีกสัก 2 โรงนะ...
ห้างสรรพสินค้า : ไทยไดมารู อาเชี่ยน เวลโก เอดิสัน ตรงมุมถนนพระราม 4 อีกห้างนึงจำชื่อไม่ได้
ลานเสก็ต แบบล้อ : ใต้โรงหนังเอเซีย ข้างห้างเวลโก
สะพานลอย 2 แห่งที่อยู่ไม่ห่างกันแถวนั้น ถ้าขึ้นรไปสะพานลอย คนจะแน่นมาก จนคุณไหลไปตามการเดินของคนเหน้าดิน
หน้าโรงหนังพระโขนงรามา มีร้านข้าวหมกไก่ อร่อยมาก
ลงจากสะพานข้ามคลอง ที่มาจากอ่อนนุช ร้านรับตัดเสื้อผ่า อุปกรณ์กีฬา โรงพิมพ์ แน่นไปจนถึงแยกพระราม 4 กล้วยน้ำไท
อีกฝั่งนึง เป็น ตลาดสด ร้านนาฬิกา
บนฟุตบาท แผงขายสินค้าเยอะมาก แผงชนแผง ทั้งผลไม้ ของกิน เสื้อผ้า
ทางแยกไปคลองตัน ก็ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ทีวี ตู้เย็น ตลอดแนว
สองทุ่ม คนยังเดินกันแน่น ร้านของกิน อาหารตามสั่ง เรียงรายตลอดทางเท้า ทุกด้านทุกแนว
พระโขนง มีโรงหนัง หลายโรง
พระโขนงรามา พระโขนงเธียร์เตอร
ลอนดอน เจ้าพระยา เอเซีย ... ฮอลิเดย์
เหมือนจะมีอะไรอีกสัก 2 โรงนะ...
ห้างสรรพสินค้า : ไทยไดมารู อาเชี่ยน เวลโก เอดิสัน ตรงมุมถนนพระราม 4 อีกห้างนึงจำชื่อไม่ได้
ลานเสก็ต แบบล้อ : ใต้โรงหนังเอเซีย ข้างห้างเวลโก
สะพานลอย 2 แห่งที่อยู่ไม่ห่างกันแถวนั้น ถ้าขึ้นรไปสะพานลอย คนจะแน่นมาก จนคุณไหลไปตามการเดินของคนเหน้าดิน
หน้าโรงหนังพระโขนงรามา มีร้านข้าวหมกไก่ อร่อยมาก
ลงจากสะพานข้ามคลอง ที่มาจากอ่อนนุช ร้านรับตัดเสื้อผ่า อุปกรณ์กีฬา โรงพิมพ์ แน่นไปจนถึงแยกพระราม 4 กล้วยน้ำไท
อีกฝั่งนึง เป็น ตลาดสด ร้านนาฬิกา
บนฟุตบาท แผงขายสินค้าเยอะมาก แผงชนแผง ทั้งผลไม้ ของกิน เสื้อผ้า
ทางแยกไปคลองตัน ก็ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ทีวี ตู้เย็น ตลอดแนว
สองทุ่ม คนยังเดินกันแน่น ร้านของกิน อาหารตามสั่ง เรียงรายตลอดทางเท้า ทุกด้านทุกแนว
แสดงความคิดเห็น
ย่านพระโขนงนี่เคยเจริญรุ่งเรืองมากๆมาก่อนหรอครับ?
มีโรงหนัง 3-4 โรง ร้านค้าฮิปๆ ที่ทันสมัยรวมกันอยู่แถวนั้น มีบรรดาห้างที่คนนิยมเดินทางไปชอปปิ้ง
ตอนนี้ผ่านย่านนั้นอยู่บ่อยๆ พออ่านเจอก็เซอไพรซ์อยู่ แต่นึกภาพตอนนั้นไม่ออก
ใครเกิดทันยุคทองของพระโขนงช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยครับว่ามันเป็นประมาณไหน..