เป็นอีกหนึ่งคำครหาที่พูดถึงกันในโซเชียล เรื่องการเคลื่อนไหวและการแสดงอารมณ์ของก็อดซิล่าภาคนี้ ที่บอกว่ามันดูแข็งๆ ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิต สู้ของฮอลลีวู้ดทำก้ไม่ได้ CGกากนี่หว่า บราๆๆ
เอาจริงๆ ถ้าไม่นับเรื่องความเนียนของCG ลำพังแค่การทำMOVEMENTให้ไคจูพริ้วไหว ไม่น่าใช่สิ่งที่เกินความสามารถของญี่ปุ่น ยิ่งเป็นเทคนิกCGแบบ motion capture ด้วยแล้ว จะให้ไคจูออกแอคชั่นกระโดดถีบขาคู่แบบยุคโชวะยังได้เลย
แล้วทำไมชินก็อด ถึงได้แข็งทื่อขนาดนั้น ?
ผกก.อันโนะ ไม่ใช่คนมักง่ายครับ ทุกสิ่งที่เราเห็นในภาพยนตร์มีเหตุผลรองรับเสมอ แต่ติดที่ว่าคนดูอาจไม่เข้าใจเอง เช่นเดียวกับ EVANGELIONของแก
มีการวิเคราะห์ว่า ความแข็งทื่อของก็อตจิในภาคนี้ คือความจงใจให้เป็นครับ
โดยเริ่มต้น ทีมงานได้แรงบันดาลใจรูปลักษณ์ของมันมาจากฉลามโบราณ
Chlamydoselachus anguineus หรือ FRILLED SHARK ซึ่งเป็นLIVING FOSSIL ที่ยังหลงเลืออยู่ในปัจจุบัน และภาพวิดิโอที่นักวิจัยบันทึกการเคลื่อนไหวของมันได้ก่อนมันจะตาย มีลักษณะว่ายน้ำที่ไร้ชีวิตชีวาเช่นกันตามในคลิปนี้ครับ


ผมไม่ได้บอกว่าก็อตจิภาคนี้วิวัฒนาการมาจากฉลามโบราณนะครับ และการเคลื่อนไหวของปลาในคลิปนี้ อาจไม่ใช่รูปแบบปรกติตอนมันยังมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณก็ได้ แต่ทีมงานตั้งใจนำสิ่งที่เห็นจากหลักฐานจริงมาเป็นแรงบันดาลใจกำหนดรูปลักษณ์ของก็อตจิขึ้นมา จะสังเกตได้ว่าตัวอ่อนก้อตจิ 2nd form ที่เห็นในหนัง มีตาที่เบิกโพลง กระพริบตาไม่ได้ เพราะมันเป็นตาแบบปลา รวมถึงการไม่แสดงสีหน้าทางแววตาหรือการขยับปากใดๆเลย ไม่ใช่เพราะทีมงานCGกาก แต่เพราะปลาทะเลลึกก็เป็นแบบนั้น
ประเด็นต่อมา ในแง่ของวิวัฒนาการเริ่มแรกของก็อดซิล่าภาคนี้ เป็นตัวปริศนาที่ไม่ทราบแน่ชัด ( ตัวอ่อนที่โผล่มาในฉากแรก คือร่างขั้นที่สอง ) ทราบเพียงแค่ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่อาศัยอยู่ในทะเล แล้วได้รับผลกระทบจากขยะนิวเคลียร์ ซึ่งในหนังแม้ไม่มีร่างแรกของก็อตจิให้เห็น แต่
มีรูปวาดจากการ์ดBATTLE SPIRITE ซึ่งขอLCจากโตโฮมาทำการ์ดเกมถูกต้อง ก็ได้ลงภาพร่างแรกของก็อตจิไว้เป็นเงาสัตว์ทะเลปริศนาไว้แบบนี้
จะเห็นได้ว่า สิ่งมีชีวิตร่างแรกของก็อดซิล่าภาคนี้ ต่างจากความเข้าใจแบบเดิมๆที่เราเคยรู้จัก ก็อตจิภาคนี้ไม่ใช่สัตว์ประหลาดโบราณ ไม่ใช่ไดโนเสาร์กลายพันธุ์หรืออิกัวน่ากลายพันธุ์ แต่เป็นความลับดำมืดที่มนุษย์ไม่รู้จักแล้วพัฒนาตัวเองเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆโดยดึงเอาลักษณะเด่นของสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกมารวมไว้อยุ่ในตัวมันได้หมด ด้วยคุณสมบัติแบบนี้ เราคงไม่สามารถไปกำหนดกฏเกณฑ์ให้ก็อดซิล่าภาคนี้จะต้องเป็นสัตว์บก หรือ สัตว์เลื้อยคลาน มังกร ไดโนเสาร์อะไรแล้วครับ แต่เป็นมอนสเตอร์จริงๆ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของก็อดซิล่าภาคนี้จึงถูกตีความให้ต่างจากการเคลื่อนไหวของสัตว์มีกระดูกสันหลัง ดีไม่ดีสิ่งที่เห็นอยู่อาจเป็นแค่เปลือกนอก ที่หุ้มร่างที่แท้จริงของก็อดซิล่าไว้ภายในก็ได้ (สุดแล้วแต่จะมโน )
และหากมองในแง่ของนัยยะชื่อก็อดซิล่าภาคนี้ ตามความหมายของSHIN =GOD ด้วยแล้ว การทำให้ก็อดซิล่าภาคนี้ดูแข็งทื่อไร้ความรู้สึกใดๆ คงต้องการสื่อถึงการให้ก็อตจิเป็นสิ่งประหลาดเร้นลับ หรืออะไรก็ตามแต่ที่ถูกเจตจำนงบางอย่าง ส่งมันมาทำลายล้างมนุษย์ครับ อย่างในมุมมองของผม ผมอาจคิดว่า มีปรสิตหรือsomething ไรซักอย่างที่แฝงอยู่ในตัวไคจู หรืออาจแฝงอยู่ในระดับเซลล์อย่างไวรัส ที่ควบคุมก็อตซิล่าอีกชั้นนึงด้วยซ้ำครับ แต่ทั้งนี้ คงไม่มีใครทราบความจริงได้นอกจากผกก.คนเดียว ซึ่งตามสไตล์อันโนะก็ชอบทิ้งประเด็นปริศนาเหล่านี้ไว้ให้คนดูไปคิดเอาเองแบบEVAเช่นกัน
แม้หลายคนจะมองSHIN GODZILLA เป็นหนังการเมือง หนังเชิดชูวัฒนธรรมชาติญี่ปุ่น แต่ในเชิงลึกหนังเรื่องนี้ มีความเป็นไซไฟขนานแท้โดยที่ไม่จำเป็นยัดเยียดพวกสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคหรือจินตการล้ำยุค อย่างยานอวกาศ ปืนเลเซอร์ หรือนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต ไรเทือกนั้น แต่มันมีความเป็นวิทยาศาสตร์ในแง่ของการตีความ ที่ให้คนดูสังเกต ตั้งคำถาม ตั้งสมมติฐานเพื่อหาคำอธิบายให้ปริศนาต่างๆที่มีอยู่ในหนัง ซึ่งนั่นอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ชมทั่วไปในบ้านเรา แต่ผมคิดว่า หนังมันดูสนุกตรงที่มันไม่ใช่ดูจบแล้วจบกัน แต่ยังทิ้งคำถามปลายเปิดให้คนดูต้องมาวิเคราะห์กันต่อถึงสิ่งที่เห็นในหนังนี่ล่ะครับ
วิเคราะห์SHIN GODZILLA เหตุผลที่ก็อตจิดูแข็งทื่อเหมือนตุ๊กตา [มีภาพSPOIL!! ]
เอาจริงๆ ถ้าไม่นับเรื่องความเนียนของCG ลำพังแค่การทำMOVEMENTให้ไคจูพริ้วไหว ไม่น่าใช่สิ่งที่เกินความสามารถของญี่ปุ่น ยิ่งเป็นเทคนิกCGแบบ motion capture ด้วยแล้ว จะให้ไคจูออกแอคชั่นกระโดดถีบขาคู่แบบยุคโชวะยังได้เลย
แล้วทำไมชินก็อด ถึงได้แข็งทื่อขนาดนั้น ?
ผกก.อันโนะ ไม่ใช่คนมักง่ายครับ ทุกสิ่งที่เราเห็นในภาพยนตร์มีเหตุผลรองรับเสมอ แต่ติดที่ว่าคนดูอาจไม่เข้าใจเอง เช่นเดียวกับ EVANGELIONของแก
มีการวิเคราะห์ว่า ความแข็งทื่อของก็อตจิในภาคนี้ คือความจงใจให้เป็นครับ
โดยเริ่มต้น ทีมงานได้แรงบันดาลใจรูปลักษณ์ของมันมาจากฉลามโบราณChlamydoselachus anguineus หรือ FRILLED SHARK ซึ่งเป็นLIVING FOSSIL ที่ยังหลงเลืออยู่ในปัจจุบัน และภาพวิดิโอที่นักวิจัยบันทึกการเคลื่อนไหวของมันได้ก่อนมันจะตาย มีลักษณะว่ายน้ำที่ไร้ชีวิตชีวาเช่นกันตามในคลิปนี้ครับ
ผมไม่ได้บอกว่าก็อตจิภาคนี้วิวัฒนาการมาจากฉลามโบราณนะครับ และการเคลื่อนไหวของปลาในคลิปนี้ อาจไม่ใช่รูปแบบปรกติตอนมันยังมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณก็ได้ แต่ทีมงานตั้งใจนำสิ่งที่เห็นจากหลักฐานจริงมาเป็นแรงบันดาลใจกำหนดรูปลักษณ์ของก็อตจิขึ้นมา จะสังเกตได้ว่าตัวอ่อนก้อตจิ 2nd form ที่เห็นในหนัง มีตาที่เบิกโพลง กระพริบตาไม่ได้ เพราะมันเป็นตาแบบปลา รวมถึงการไม่แสดงสีหน้าทางแววตาหรือการขยับปากใดๆเลย ไม่ใช่เพราะทีมงานCGกาก แต่เพราะปลาทะเลลึกก็เป็นแบบนั้น
ประเด็นต่อมา ในแง่ของวิวัฒนาการเริ่มแรกของก็อดซิล่าภาคนี้ เป็นตัวปริศนาที่ไม่ทราบแน่ชัด ( ตัวอ่อนที่โผล่มาในฉากแรก คือร่างขั้นที่สอง ) ทราบเพียงแค่ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่อาศัยอยู่ในทะเล แล้วได้รับผลกระทบจากขยะนิวเคลียร์ ซึ่งในหนังแม้ไม่มีร่างแรกของก็อตจิให้เห็น แต่
มีรูปวาดจากการ์ดBATTLE SPIRITE ซึ่งขอLCจากโตโฮมาทำการ์ดเกมถูกต้อง ก็ได้ลงภาพร่างแรกของก็อตจิไว้เป็นเงาสัตว์ทะเลปริศนาไว้แบบนี้
จะเห็นได้ว่า สิ่งมีชีวิตร่างแรกของก็อดซิล่าภาคนี้ ต่างจากความเข้าใจแบบเดิมๆที่เราเคยรู้จัก ก็อตจิภาคนี้ไม่ใช่สัตว์ประหลาดโบราณ ไม่ใช่ไดโนเสาร์กลายพันธุ์หรืออิกัวน่ากลายพันธุ์ แต่เป็นความลับดำมืดที่มนุษย์ไม่รู้จักแล้วพัฒนาตัวเองเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆโดยดึงเอาลักษณะเด่นของสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกมารวมไว้อยุ่ในตัวมันได้หมด ด้วยคุณสมบัติแบบนี้ เราคงไม่สามารถไปกำหนดกฏเกณฑ์ให้ก็อดซิล่าภาคนี้จะต้องเป็นสัตว์บก หรือ สัตว์เลื้อยคลาน มังกร ไดโนเสาร์อะไรแล้วครับ แต่เป็นมอนสเตอร์จริงๆ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของก็อดซิล่าภาคนี้จึงถูกตีความให้ต่างจากการเคลื่อนไหวของสัตว์มีกระดูกสันหลัง ดีไม่ดีสิ่งที่เห็นอยู่อาจเป็นแค่เปลือกนอก ที่หุ้มร่างที่แท้จริงของก็อดซิล่าไว้ภายในก็ได้ (สุดแล้วแต่จะมโน )
และหากมองในแง่ของนัยยะชื่อก็อดซิล่าภาคนี้ ตามความหมายของSHIN =GOD ด้วยแล้ว การทำให้ก็อดซิล่าภาคนี้ดูแข็งทื่อไร้ความรู้สึกใดๆ คงต้องการสื่อถึงการให้ก็อตจิเป็นสิ่งประหลาดเร้นลับ หรืออะไรก็ตามแต่ที่ถูกเจตจำนงบางอย่าง ส่งมันมาทำลายล้างมนุษย์ครับ อย่างในมุมมองของผม ผมอาจคิดว่า มีปรสิตหรือsomething ไรซักอย่างที่แฝงอยู่ในตัวไคจู หรืออาจแฝงอยู่ในระดับเซลล์อย่างไวรัส ที่ควบคุมก็อตซิล่าอีกชั้นนึงด้วยซ้ำครับ แต่ทั้งนี้ คงไม่มีใครทราบความจริงได้นอกจากผกก.คนเดียว ซึ่งตามสไตล์อันโนะก็ชอบทิ้งประเด็นปริศนาเหล่านี้ไว้ให้คนดูไปคิดเอาเองแบบEVAเช่นกัน
แม้หลายคนจะมองSHIN GODZILLA เป็นหนังการเมือง หนังเชิดชูวัฒนธรรมชาติญี่ปุ่น แต่ในเชิงลึกหนังเรื่องนี้ มีความเป็นไซไฟขนานแท้โดยที่ไม่จำเป็นยัดเยียดพวกสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคหรือจินตการล้ำยุค อย่างยานอวกาศ ปืนเลเซอร์ หรือนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต ไรเทือกนั้น แต่มันมีความเป็นวิทยาศาสตร์ในแง่ของการตีความ ที่ให้คนดูสังเกต ตั้งคำถาม ตั้งสมมติฐานเพื่อหาคำอธิบายให้ปริศนาต่างๆที่มีอยู่ในหนัง ซึ่งนั่นอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ชมทั่วไปในบ้านเรา แต่ผมคิดว่า หนังมันดูสนุกตรงที่มันไม่ใช่ดูจบแล้วจบกัน แต่ยังทิ้งคำถามปลายเปิดให้คนดูต้องมาวิเคราะห์กันต่อถึงสิ่งที่เห็นในหนังนี่ล่ะครับ