แชร์ประสบการณ์ทำวีซ่า usa ครั้งแรก

กระทู้สนทนา
ประสบการณ์ทำวีซ่าอเมริการ วันที่ 7 กันยายน 2559 (เช้าวันพฤหัสบดี)
สิ่งที่ได้ทำประการแรกคือ นึกถึงเวป pantip ว่ามีใครทำวีซ่ามาแล้วบ้าง เกิดปัญหาอะไรบ้าง ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ คือมีความเป๊ะทุกกระบวนการ ผมได้อ่านหัวข้อ “แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริการะบบใหม่” โดยคุณ molprom ผมต้องขอบคุณมากๆ อีกครั้งครับ (ซึ่งโพสไว้ตั้งแต่ 23 มีนาคม 2557)
สิ่งที่ขอกล่าวเพิ่มเติมคือ
-ค่าลงทะเบียนที่ไปจ่ายที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คือเข้าไปธนาคารบอกแค่มาจ่ายธรรมเนียมวีซ่า แล้วยื่นแบบฟอร์มใบชำระเงินให้ธนาคาร จนท. ก็เข้าใจ โดยค่าใช้จ่ายเปลี่ยนเป็น 5600 บาท (แพงได้อีก)
-รูปถ่ายคือ ต้องขนาด 2x2 นิ้วนะครับ ให้ร้านถ่ายรูปทำเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
-ผมใส่ชุดตามคำแนะนำของคุณเลยเพื่อไปขอทำวีซ่าที่สถานทูน คือ เสื้อเชิ้ต กางเกงดำยาว เข็มขัด รองเท้าหุ้มส้น – ชุดทำงานปกติ 555
-สถานทูตแผนกทำวีซ่าอยู่ฝั่งเดียวกับโรงแรม all season (เกือบเผลอข้ามฝั่งถนนไป) ดีที่เห็นคนต่อคิว
-คำแนะนำด้านล่างของบัตรนัดคิวเขียนคำแนะนำสิ่งที่ไม่สามารถนำเข้าไปในสถานทูตได้ สิ่งที่ผมทำคือ เอาถุงกระดาษของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใส่กระเป๋าตังค์, โทรศัพท์ 1 เครื่อง, แฟ้มเอกสาร, และปากกา 1 ด้าม
-ผมมาถึงถนนวิทยุ 6.00 น. (คือนัดคิวช่วงแรก 7.00 น. อยากเสร็จแล้วไม่ร้อน) ใน review เค้าบอกให้มาล่วงหน้าก่อนครึ่งชั่วโมง ก็ทำตามเด๊ะ เลยเดินมาเข้า 7-eleven ที่ตึกข้างๆ (สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.) สั่งกาแฟแล้วนั่งที่ lounge ของ 7-eleven และแอบเข้าห้องน้ำในตัวตึกด้วย ดีมากๆ พอ 6.30 น. ก็ออกเดินทาง คือเดินไม่เกินร้อยก้าวก็ถึงครับ
-ถึงด้านหน้ามีคนต่อคิวหน้าสถานทูตประมาณ 15 คนได้ ก็จะมียามเดินมาบอกว่าย้ำว่า ห้ามเอาอะไรเข้าบ้าง พอใกล้ประตูก็มีคนอ้วนๆ ขอตรวจ DS-160 และใบนัด แล้วก็ถามว่านัดไว้กี่โมง ก็ตอบไปว่า 7 โมงครับ แล้วเค้าก็หาชื่อ แล้วไฮไลท์ติกชื่อ แล้วก็ขอดู passport เราอีกครั้ง จากนั้นก็ยื่นบัตรผ่านประตูให้เรา
-ถึงหน้าปากประตู (คือเดินมา 10 ก้าว เจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรผ่านประตูคืน – เอ่อะ ในใจก็คิดว่าจะแจกมาถือทำไมเนี่ยแค่ 10 ก้าว – คงเป็นประโยชน์ตอนยุ่งๆ ม้างครับ) จากนั้นก็เดินเข้าประตู จนท ขอบัตรประชาชนพร้อมมือถือ แล้วให้เราปิดเครื่องมือถือ เค้ายึดไปใส่ในข่องๆ ฝากของ พร้อมให้กำไลข้อมือที่ติดแท็กเลข locker มา และสิ่งที่ผมมีตอนนี้คือ ถุงกระดาษและของด้านใบ เค้าก็ให้ใส่กระบะเล็กๆ ไปสแกนด์ เราก็เดินผ่านประตูสแกนด์ ยืนหมุนให้ยามตรวจ 1 รอบ แล้วก็เข้าไปในส่วนทำวีซ่าได้ซักที
-เดินเลี้ยวซ้ายตามทาง ด้านขวามือมีกาแฟดอยตุงให้ซื้อได้ (แต่กินมาล่ะ ขอบาย) ด้านซ้ายมีที่นั่งคอย เดินต่อไปแบบงงๆ ว่าไปไหนต่อ แล้วเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ด้านซ้ายก็ประกาศว่า คิว 7 โมง ให้มาที่เคาเตอร์ เลยเดินเข้าไป (ยังไม่ได้หย่อนก้น) เค้าก็ขอ DS-160 และ passport และรูปถ่าย 1 รูป เค้าใส่ซองพลาสติกใสๆ ให้เรา แล้วเดินตามช่อง
-ป้ายบอกให้จดรหัส EMS ของแต่ละคนที่ได้มาจาก counter ด้วย (จะได้ tracing ได้ตาม code ครับ)
-แล้วเดินต่อไปเลี้ยวซ้ายเข้าห้องสัมภาษณ์จริงๆ ในห้องก็มีที่กั้นๆ ให้เดินเป็นแถว แล้วเข้าช่องสัมภาษณ์ที่เป็นกระจกตามคิวแถว มีทั้งหมด 3 ด่าน คือ ด่านแรก จนท. (คนไทย) ผมได้ช่อง 13 คือจะหน้าบึ้งไปไหน เค้าก็ถามว่าจะไปทำอะไรคะ ก็ตอบว่าไปประชุมวิชาการและไปเที่ยว เค้าก็เปรยๆ ว่า ทำไมกรอกมาไม่ครบเว้นหลายช่อง ก็ยิ้มให้ (ในใจคิดว่าก็มีปัญญากรอกเท่านี้) เค้าก็ขอหนังสือเชิญประชุม แล้วให้สแกนด์นิ้ว มือซ้ายสี่นิ้ว มือขวาสี่นิ้ว แล้วครั้งสุดท้ายคือนิ้วโป้งพร้อมกัน 2 ข้าง แล้วก็เดินต่อไปในห้องเดียวกันตามทางเดิน
-ช่อง 10 เป็น จนท (ฝรั่งชาย – พูดไทยได้ชัดพอสมควร) เค้าให้เราเอา barcode/ชื่อ คือทั้งซองพลาสติกนั่นแหล่ะครับ ทาบกับกระจก ให้เค้าเห็น แล้วเค้าก็อ่านชื่อเรา เราก็ตอบว่า ใช่ครับๆ แล้วเดินต่อไป (ในใจก็คิดว่า แค่นี้นี่น่ะ)
-ด่านสุดท้าย เป็น จนท (ฝรั่งหญิง – พูดไทยได้ชัดพอสมควร) ยิ้มแย้มกว่า จนท. ไทยมาก (โดยภาพรวมแล้ว นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ pantip มีความเป๊ะมาก จนท. ยังรักษามาตรฐานเดิม คือ จนท.ไทย หน้าบึ้งกริยาคงเดิม 5555 แต่เจ้าหน้าที่ฝรั่งยิ้มแย้มเหมือนที่ review กล่าวไว้ ขอ shabu pantip อีกครั้ง) คำถามที่ได้รับมา (ก็ตอบๆ ด้วยภาษาไทยเนี่ยแหล่ะ อุตส่าห์เตรียมประโยคภาษาอังกฤษมา ไม่ได้ใช้เลย) ได้แก่ คุณจะไปที่ไหน ไปทำอะไรคะ ไปกี่วันคะ ไปกี่คนคะ คุณเคยไปประเทศไหนมาแล้วบ้างคะ (อันนี้ตอบไปว่า ญี่ปุ่น แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์) เค้าก็ขอดู visa เก่า ซึ่งใน passport เก่าที่มีคือ มีแค่ visa ของญี่ปุ่น แล้วก็บอกเค้าว่าเล่มก่อนๆ หาไม่เจอแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ แล้วเค้าก้อพิมพ์ๆ อะไรไม่รู้ คือ พิมพ์มากกว่าที่ตอบไปอีก สุดท้ายจบประโยคว่า คุณจะได้วีซ่าประมาณหนึ่งสัปดาห์ค่ะ เราก็บอกขอบคุณครับแล้วเดินออกมา เดินออกมาตรงทางออก เอาที่ห้อยมือคืนเค้า เราก็ได้มือถือพร้อมบัตรประชาชนกลับมา เดินออกมาดูเวลาคือ 7.25 น. (สรุปคือ ยืนต่อแถวครึ่งชั่วโมง ขั้นตอนสัมภาษณ์สัก 10 นาที แต่มันก็ยืนรอคิวอีกประมาณ 15 นาทีครับ) – ห้างยังไม่เปิด ก็นั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านครับ – นอนต่อ
เพิ่มเติม
-ได้ยินคนข้างหลัง พูดว่า จะไปประชุมโรคตับ ผมไปทุกปี น่าจะเป็นหมอ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ (ไทย) ก็ถามว่ามีรูปถ่ายอื่นมั๊ย เพราะรูปที่ให้มาน่าจะเกิน  6 เดือน คือถ่ายตั้งแต่ 2014 เค้าก็ตอบว่าไม่มี เจ้าหน้าที่จึงบอก ให้ไปถ่ายรูปด้านหลัง ราคา 150 บาท ใช้เวลาแป๊บเดียว แล้วชายคนนั้นก็เดินออกไปจากแถว (แสดงว่าสถานทูต มีที่ถ่ายรูปด้วยแฮ่ะ?)
-เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอดู statement เลย (อุตส่าห์เตรียมมา และทำท่ายื่นละ)
-ผมพิมพ์ DS-160 ใช้เวลานานมาก และมันจะตัดระบบให้ log-in ทุก 20 นาที (มีความเพลีย) ผมนัดคิวล่วงหน้าประมาณ 3 wk ครับ เลือกวันที่ผมว่าง และยังมีคิว 7.00 น. เหลืออยู่
-เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามชื่อโรงแรม ชื่อสายการบินอะไรเลย หรือเอกสารการทำงานก็ไม่ได้ขอดู เลยถามเค้าว่าต้องการรึป่าว อีกมือก็เตรียมยื่น จนท.ก็โบกมือยิ้มๆ ว่าไม่ต้องค่ะ
-สรุปไปทำวีซ่าวันพฤหัสตอนเช้า ได้ซองวีซ่าที่ตู้สำนักงานเช้าวันจันทร์ amazing มาก 4 วันเสร็จ (ได้วีซ่าท่องเที่ยว
B1/B2 สมใจ - 10 ปี)
ขอบคุณ pantip
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่