นครศรีธรรมราช ชวนเที่ยวงาน ประเพณีบุญสารทเดือนสิบ

ทำบุญเหอ ทำบุญวันสารท
ยกหฺมฺรับดับถาด ไปร้องไปฮา
พองลาหนมแห้ง ตุ้งแตงตุ๊กตา
ไปร้องไปฮา สวดเสดเวทนาเปรต...เหอ
งานประเพณีบุญสารทเดือนสิบเมืองนคร เป็นงานที่มีความสำคัญต่อชาวเมืองนครศรีธรรมราช เป็นการสะท้อนให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นถึงความเป็นผู้มีศิลปวัฒนธรรมประเพณี ที่ยิ่งใหญ่เป็นเอกลักษณ์ที่ควรค่าแห่งความภาคภูมิใจของชาวเมืองนคร ตั้งแต่ครั้งอดีตกาลตราบเท่าปัจจุบันเมื่อมีใครกล่าวถึงเมืองนครศรีธรรมราชแล้วก็จะนึกถึง "งานเดือนสิบ" เป็นอันดับแรกๆ ทั้งนี้ตามความเชื่อทางพุทธศาสนาเชื่อว่าในปลายเดือนสิบ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งผู้ที่ล่วงลับไม่มีญาติ มีบาปมากตกอยู่ในนรกที่เรียกว่า "เปรต" จะได้รับการปล่อยตัวขึ้นมา พบญาติพี่น้องและลูกหลานบนเมืองมนุษย์ ในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบ (เดือนทางจันทรคติ) และจะต้องกลับนรกดังเดิมในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือนเดียวกัน ดังนั้น ในโอกาสที่ญาติมาเยียนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จะเตรียมการต้อนรับโดยการหาอาหารและสิ่งต่างๆ ตามประเพณีไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว และขนมส่วนหนึ่งก็นำไป "ตั้งเปรต" พิธีกรรมดังกล่าวเรียกว่าการ "ยกหฺมฺรับ" โดยถือเอาวันแรม ๑๓ ค่ำ เดือนสิบเป็นวันจ่าย และวันแรม ๑๔ ค่ำเป็นวัน "ยกหฺมฺรับ" วันจ่ายจึงเป็นวันที่มีการซื้อขายของทำบุญกันมากเป็นพิเศษ วันแรม ๑๕ ค่ำเป็นการฉลองหฺมฺรับและการบังสุกุล
พิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง
๑. การยกหฺมฺรับ (สำรับ)
พิธีสารทจะเริ่มขึ้นโดยการนำหฺมฺรับที่จัดเตรียมไว้ในวันแรม ๑๓ ค่ำ ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดในวันแรม ๑๔ ค่ำ เรียกว่า วันยกหฺมฺรับการทำบุญที่วัดในวันนี้นอกจากจะยกหฺมฺรับไปที่วัดแล้วจะนำภัตตาหารไปถวายพระด้วย ส่วนการเลือกวัดที่จะไปทำบุญและยกหฺมฺรับไปนั้นก็จะเป็นวัดใกล้บ้าน หรือวัดที่เคยเผาบรรพบุรุษ หรืออาจจะเป็นวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยม เช่น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดศูนย์กลางและเป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองนคร
๒. การตั้งเปรต
เมื่อยกหฺมฺรับและถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว ก็จะมีการ "ตั้งเปรต" การตั้งเปรต แต่เดิมกระทำโดยการนำขนมส่วนหนึ่งไปวางไว้ในที่ต่างๆ ตรงทางเข้าวัด ริมกำแพงวัด หรือตามโคนต้นไม้เพื่อแผ่ส่วนกุศลแด่ผู้ล่วงลับที่ไม่มีญาติ หรือญาติไม่ได้มาร่วมทำบุญให้ การตั้งเปรตในระยะหลังได้มีการสร้างร้านสูงพอสมควร เรียกว่า "หลาเปรต" หรือศาลาเปรต นำขนมไปวางไว้บนร้านนั้น เพื่อแผ่นส่วนบุญส่วนกุศลไปยังผู้ล่วงลับไปแล้วต่อจากนั้นเป็นช่วงที่เรียกว่า "ชิงเปรต" กล่าวคือเมื่อเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ก็เก็บสายสิญจน์ ทั้งคนเฒ่า คนแก่ หนุ่มสาว และเด็กๆ ก็จะกรูกันเข้าไปแย่งขนมที่ตั้งเปรตกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่าของที่เหลือจากการเซ่นไหว้บรรพชน ถ้าใครได้กินจะได้กุศลแรงเป็นสิริมงคลคลแก่ตนและครอบครัวยิ่ง
๓. การฉลองหฺมฺรับและการบังสุกุล
การฉลองหฺมฺรับและการบังสุกุลกระทำกันในวันแรม ๑๕ ค่ำ ซึ่งเป็นวันสารทในวันนี้มีการทำบุญเพื่อเป็นการฉลองหฺมฺรับ เรียกว่า "วันฉลองหฺมฺรับ" นอกจากนี้มีการทำบุญเลี้ยงพระและการบังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการส่งบรรพบุรุษและญาติพี่น้องกลับไป การทำบุญอุทิศส่วนกุศล ในวันนี้นับเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เพราะหากมิได้จัดหฺมฺรับหรือทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดในวันนี้ บรรพบุรุษและญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้วจะอดอยากทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส ลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็นคนอกตัญญู
ขนม ๕ อย่างเป็นหัวใจอันสำคัญของหฺมฺรับ คือ
๑ ขนมลา เป็นสัญลักษณ์ ใช้แทนเสื้อผ้าแพรพรรณ
๒. ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์ แทนแพ สำหรับบุรพชน ใช้ล่วงข้ามห้วงมหรรณพตามคติทางพุทธศาสนา
๓. ขนมกง (ขนมไข่ปลา) เป็นสัญลักษณ์ แทนเครื่องประดับ
๔. ขนมดีซำ เป็นสัญลัษกณ์ แทนเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย
๕ ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์ แทนสะบ้า สำหรับบุรพชนจะได้ใช้เป็นลูกสะบ้าในการเล่นต้อนสงกรานต์
การจัด หฺมฺรับ ทำเป็นสำรับใหญ่ อาจใช้กระบุงขนาดใหญ่หรือกระจาด ช่วยกันจัดหฺมฺรับ โดยมีสิ่งของอย่างอื่นเสริมด้วยเช่น กล้วย อ้อย ข้าวโพด ตะไคร้ ข้าวสาร หอม กระเทียม น้ำมัน ไม้ขีดไฟ เข็ม ด้วย ธูปเทียน หมาก พลู ยาเส้น และขนมสำคัญ 5 อย่างจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ประดับตกแต่งให้สวยงาม รุ่งขึ้นวันแรม ๑๔ ค่ำ จึงยกไปวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยมศรัทธาจัดทำตามประเพณี เรียกว่า "วันหฺมฺรับใหญ่" หรือวันทำบุญใหญ่ เมื่อถึงวันแรม ๑๕ ค่ำเดือนสิบ อันเป็นวันครบกำหนดจะต้องกลับไปยังยมโลก ลูกหลานก็จะทำบุญ ส่งตา-ยาย กันอีกครั้ง
งานประเพณีบุญสารทเดือนสิบเป็นงานประเพณีวิถีเมืองนคร ที่เชื่อในเรื่องบาปคุณโทษ เป็นงานประเพณีที่แสดงถึงความกตัญญูที่เกี่ยวพันกับความเชื่อทางพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสู่เย้าของลูกหลาน จึงจัดให้มีกิจกรรมสนุกสนานมากมาย อาทิ แห่หฺมรับ ยกหฺมฺรับ ตั้งเปรตชิงเปรต
ในปีนี้ งานประเพณีบุญสารเดือนสิบ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๕ กันยายน – ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ๘๔ (ทุ่งท่าลาด) อ.เมือง นครศรีธรรมราช และขบวนแห่หฺมฺรับ ในวันศุกร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ จากสนามหน้าเมือง ไปยัง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมทำบุญใหญ่ในวันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ พร้อมการประกวดหฺมฺรับ และชิงหฺมฺรับทองคำพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน หนังตะลุง โนรา การตั้งเปรตและประกวดหุ่นเปรต ห้ามพลาด...งานประเพณีที่เก่าแก่ของเมืองนคร
ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย Thai PR
http://www.thaipr.net/travel/725301

25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2559 ชวนลูกหลานกลับบ้าน เดือนสิบ
ทำบุญรับ-ส่ง ตา ยาย ร่วมแห่หมรับ ในวันที 30 กันยายน 2559
#จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมจัดงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบและงานกาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2559
ณ สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
(7 ก.ย.59) เวลา 13.30 น. ที่อาคาร ททท.สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางชนันธร ธนานราสิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบและงานกาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2559
นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การจัดงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2466 สำหรับปี 2559 นี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 93 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2559 รวม 10 วัน 10 คืน ณ สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กิจกรรมหลักในงานประกอบด้วย เช่น พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 พระราชานุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช การประชันหนังตะลุงภาคใต้ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดหมฺรับและขบวนแห่หมฺรับ ชิงหมฺรับทองคำ พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดถวายหมฺรับแบบโบราณ การตั้งเปรต ชิงเปรตและประกวดหุ่นเปรต การประกวดแข่งขันเพลงบอก โนรา และกลอนสด การพัฒนาทักษะและประกวดผลงานด้านศิลปะของนักเรียน การประกวดวรรณกรรมไทย เพลงร้องเรือเด็ก การขับกลอนหนังตะลุง การจัดเวทีชุมชน การประกวดแข่งขันสาธิตหัตถกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดกิจกรรมวิถีชีวิตพอเพียงของทุกอำเภอ และหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัด การประกวดพืชผลทางการเกษตร ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง การประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช การแสดงของนักเรียนนักศึกษา การแข่งขันกีฬาสามล้อพ่วงท้าย เซปัคตะกร้อ และตะกร้อลอดห่วง เป็นต้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในส่วนของกิจกรรมการกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีการออกร้านกาชาดภายในงานเช่นเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ บนเวที แต่ไม่มีมัจฉากาชาด แต่จะจัดพิมพ์สลากกาชาดการกุศล รางวัลพิเศษมี 1 รางวัล เป็นรถเก๋งโตโยต้า ยาริส รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล เป็นรถกระบะตอนครึ่งโตโยต้ารีโว่ และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
รายละเอียดทั้งหมด
https://www.facebook.com/NakhonSiThailand/photos/a.498435840174133.119983.498433440174373/1364755420208833/?type=3&theater
https://www.facebook.com/prnakhonsithammarat/posts/886365374840134
นครศรีธรรมราช ชวนเที่ยวงาน ประเพณีบุญสารทเดือนสิบ ปี 2559 เริ่ม 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2559
ทำบุญเหอ ทำบุญวันสารท
ยกหฺมฺรับดับถาด ไปร้องไปฮา
พองลาหนมแห้ง ตุ้งแตงตุ๊กตา
ไปร้องไปฮา สวดเสดเวทนาเปรต...เหอ
งานประเพณีบุญสารทเดือนสิบเมืองนคร เป็นงานที่มีความสำคัญต่อชาวเมืองนครศรีธรรมราช เป็นการสะท้อนให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นถึงความเป็นผู้มีศิลปวัฒนธรรมประเพณี ที่ยิ่งใหญ่เป็นเอกลักษณ์ที่ควรค่าแห่งความภาคภูมิใจของชาวเมืองนคร ตั้งแต่ครั้งอดีตกาลตราบเท่าปัจจุบันเมื่อมีใครกล่าวถึงเมืองนครศรีธรรมราชแล้วก็จะนึกถึง "งานเดือนสิบ" เป็นอันดับแรกๆ ทั้งนี้ตามความเชื่อทางพุทธศาสนาเชื่อว่าในปลายเดือนสิบ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งผู้ที่ล่วงลับไม่มีญาติ มีบาปมากตกอยู่ในนรกที่เรียกว่า "เปรต" จะได้รับการปล่อยตัวขึ้นมา พบญาติพี่น้องและลูกหลานบนเมืองมนุษย์ ในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบ (เดือนทางจันทรคติ) และจะต้องกลับนรกดังเดิมในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือนเดียวกัน ดังนั้น ในโอกาสที่ญาติมาเยียนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จะเตรียมการต้อนรับโดยการหาอาหารและสิ่งต่างๆ ตามประเพณีไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว และขนมส่วนหนึ่งก็นำไป "ตั้งเปรต" พิธีกรรมดังกล่าวเรียกว่าการ "ยกหฺมฺรับ" โดยถือเอาวันแรม ๑๓ ค่ำ เดือนสิบเป็นวันจ่าย และวันแรม ๑๔ ค่ำเป็นวัน "ยกหฺมฺรับ" วันจ่ายจึงเป็นวันที่มีการซื้อขายของทำบุญกันมากเป็นพิเศษ วันแรม ๑๕ ค่ำเป็นการฉลองหฺมฺรับและการบังสุกุล
พิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง
๑. การยกหฺมฺรับ (สำรับ)
พิธีสารทจะเริ่มขึ้นโดยการนำหฺมฺรับที่จัดเตรียมไว้ในวันแรม ๑๓ ค่ำ ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดในวันแรม ๑๔ ค่ำ เรียกว่า วันยกหฺมฺรับการทำบุญที่วัดในวันนี้นอกจากจะยกหฺมฺรับไปที่วัดแล้วจะนำภัตตาหารไปถวายพระด้วย ส่วนการเลือกวัดที่จะไปทำบุญและยกหฺมฺรับไปนั้นก็จะเป็นวัดใกล้บ้าน หรือวัดที่เคยเผาบรรพบุรุษ หรืออาจจะเป็นวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยม เช่น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดศูนย์กลางและเป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองนคร
๒. การตั้งเปรต
เมื่อยกหฺมฺรับและถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว ก็จะมีการ "ตั้งเปรต" การตั้งเปรต แต่เดิมกระทำโดยการนำขนมส่วนหนึ่งไปวางไว้ในที่ต่างๆ ตรงทางเข้าวัด ริมกำแพงวัด หรือตามโคนต้นไม้เพื่อแผ่ส่วนกุศลแด่ผู้ล่วงลับที่ไม่มีญาติ หรือญาติไม่ได้มาร่วมทำบุญให้ การตั้งเปรตในระยะหลังได้มีการสร้างร้านสูงพอสมควร เรียกว่า "หลาเปรต" หรือศาลาเปรต นำขนมไปวางไว้บนร้านนั้น เพื่อแผ่นส่วนบุญส่วนกุศลไปยังผู้ล่วงลับไปแล้วต่อจากนั้นเป็นช่วงที่เรียกว่า "ชิงเปรต" กล่าวคือเมื่อเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ก็เก็บสายสิญจน์ ทั้งคนเฒ่า คนแก่ หนุ่มสาว และเด็กๆ ก็จะกรูกันเข้าไปแย่งขนมที่ตั้งเปรตกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่าของที่เหลือจากการเซ่นไหว้บรรพชน ถ้าใครได้กินจะได้กุศลแรงเป็นสิริมงคลคลแก่ตนและครอบครัวยิ่ง
๓. การฉลองหฺมฺรับและการบังสุกุล
การฉลองหฺมฺรับและการบังสุกุลกระทำกันในวันแรม ๑๕ ค่ำ ซึ่งเป็นวันสารทในวันนี้มีการทำบุญเพื่อเป็นการฉลองหฺมฺรับ เรียกว่า "วันฉลองหฺมฺรับ" นอกจากนี้มีการทำบุญเลี้ยงพระและการบังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการส่งบรรพบุรุษและญาติพี่น้องกลับไป การทำบุญอุทิศส่วนกุศล ในวันนี้นับเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เพราะหากมิได้จัดหฺมฺรับหรือทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดในวันนี้ บรรพบุรุษและญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้วจะอดอยากทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส ลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็นคนอกตัญญู
ขนม ๕ อย่างเป็นหัวใจอันสำคัญของหฺมฺรับ คือ
๑ ขนมลา เป็นสัญลักษณ์ ใช้แทนเสื้อผ้าแพรพรรณ
๒. ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์ แทนแพ สำหรับบุรพชน ใช้ล่วงข้ามห้วงมหรรณพตามคติทางพุทธศาสนา
๓. ขนมกง (ขนมไข่ปลา) เป็นสัญลักษณ์ แทนเครื่องประดับ
๔. ขนมดีซำ เป็นสัญลัษกณ์ แทนเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย
๕ ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์ แทนสะบ้า สำหรับบุรพชนจะได้ใช้เป็นลูกสะบ้าในการเล่นต้อนสงกรานต์
การจัด หฺมฺรับ ทำเป็นสำรับใหญ่ อาจใช้กระบุงขนาดใหญ่หรือกระจาด ช่วยกันจัดหฺมฺรับ โดยมีสิ่งของอย่างอื่นเสริมด้วยเช่น กล้วย อ้อย ข้าวโพด ตะไคร้ ข้าวสาร หอม กระเทียม น้ำมัน ไม้ขีดไฟ เข็ม ด้วย ธูปเทียน หมาก พลู ยาเส้น และขนมสำคัญ 5 อย่างจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ประดับตกแต่งให้สวยงาม รุ่งขึ้นวันแรม ๑๔ ค่ำ จึงยกไปวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยมศรัทธาจัดทำตามประเพณี เรียกว่า "วันหฺมฺรับใหญ่" หรือวันทำบุญใหญ่ เมื่อถึงวันแรม ๑๕ ค่ำเดือนสิบ อันเป็นวันครบกำหนดจะต้องกลับไปยังยมโลก ลูกหลานก็จะทำบุญ ส่งตา-ยาย กันอีกครั้ง
งานประเพณีบุญสารทเดือนสิบเป็นงานประเพณีวิถีเมืองนคร ที่เชื่อในเรื่องบาปคุณโทษ เป็นงานประเพณีที่แสดงถึงความกตัญญูที่เกี่ยวพันกับความเชื่อทางพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสู่เย้าของลูกหลาน จึงจัดให้มีกิจกรรมสนุกสนานมากมาย อาทิ แห่หฺมรับ ยกหฺมฺรับ ตั้งเปรตชิงเปรต
ในปีนี้ งานประเพณีบุญสารเดือนสิบ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๕ กันยายน – ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ๘๔ (ทุ่งท่าลาด) อ.เมือง นครศรีธรรมราช และขบวนแห่หฺมฺรับ ในวันศุกร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ จากสนามหน้าเมือง ไปยัง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมทำบุญใหญ่ในวันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ พร้อมการประกวดหฺมฺรับ และชิงหฺมฺรับทองคำพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน หนังตะลุง โนรา การตั้งเปรตและประกวดหุ่นเปรต ห้ามพลาด...งานประเพณีที่เก่าแก่ของเมืองนคร
ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย Thai PR http://www.thaipr.net/travel/725301
25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2559 ชวนลูกหลานกลับบ้าน เดือนสิบ
ทำบุญรับ-ส่ง ตา ยาย ร่วมแห่หมรับ ในวันที 30 กันยายน 2559
#จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมจัดงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบและงานกาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2559
ณ สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
(7 ก.ย.59) เวลา 13.30 น. ที่อาคาร ททท.สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางชนันธร ธนานราสิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบและงานกาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2559
นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การจัดงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2466 สำหรับปี 2559 นี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 93 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2559 รวม 10 วัน 10 คืน ณ สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กิจกรรมหลักในงานประกอบด้วย เช่น พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 พระราชานุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช การประชันหนังตะลุงภาคใต้ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดหมฺรับและขบวนแห่หมฺรับ ชิงหมฺรับทองคำ พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดถวายหมฺรับแบบโบราณ การตั้งเปรต ชิงเปรตและประกวดหุ่นเปรต การประกวดแข่งขันเพลงบอก โนรา และกลอนสด การพัฒนาทักษะและประกวดผลงานด้านศิลปะของนักเรียน การประกวดวรรณกรรมไทย เพลงร้องเรือเด็ก การขับกลอนหนังตะลุง การจัดเวทีชุมชน การประกวดแข่งขันสาธิตหัตถกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดกิจกรรมวิถีชีวิตพอเพียงของทุกอำเภอ และหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัด การประกวดพืชผลทางการเกษตร ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง การประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช การแสดงของนักเรียนนักศึกษา การแข่งขันกีฬาสามล้อพ่วงท้าย เซปัคตะกร้อ และตะกร้อลอดห่วง เป็นต้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในส่วนของกิจกรรมการกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีการออกร้านกาชาดภายในงานเช่นเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ บนเวที แต่ไม่มีมัจฉากาชาด แต่จะจัดพิมพ์สลากกาชาดการกุศล รางวัลพิเศษมี 1 รางวัล เป็นรถเก๋งโตโยต้า ยาริส รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล เป็นรถกระบะตอนครึ่งโตโยต้ารีโว่ และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
รายละเอียดทั้งหมด https://www.facebook.com/NakhonSiThailand/photos/a.498435840174133.119983.498433440174373/1364755420208833/?type=3&theater
https://www.facebook.com/prnakhonsithammarat/posts/886365374840134