คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
BEM ในรอบ 2-3 ปีนี้ยังทยอยเก็บได้เรื่อยๆ ครับ
จะซื้อๆ ขายๆ ก็ได้
.
กำหนดโซนซื้อ และโซนขายเอาไว้
ถ้าเข้าโซนซื้อ ต้องใจแข็งซื้อ แต่พอถึงโซนขายต้องตัดใจขายให้ได้
.
ผมกำหนดโซนซื้อ-ขาย เอาจาก PE ถ้า PE สูงมากเกินไปก็ต้องแบ่งขายตามสัดส่วน
แต่ถ้า PE ต่ำ แบบหุ้นเติบโต ก็ต้องกล้าซื้อในขณะที่ทุกอย่างดูไม่ดีครับ
.
.
ปีนี้ปันผลสองรอบรวม 0.12 บาทต่อหุ้น ถ้ามีซัก 500,000 หุ้นก็จะได้เงินปันผลราว 6 หมื่นบาท
แต่ปีนี้มีแต่กำไรของทางด่วนมาปันผล หากรถไฟฟ้าใต้ดินเริ่มกำไร ...
ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มจากส่วนต่อขยายทั้งสายสีเขียว และสายสีม่วง
อาจมีปันผลเพิ่มก็เป็นไปได้
.
ถ้าปันผลเพิ่มเป็น 0.20 บาทต่อหุ้นมีห้าแสนหุ้น = ปันผลปีละ 100,000 บาทแล้ว
ส่วนหุ้นจะขึ้น หรือลงก็ลดความเสี่ยงด้วยการกำหนดจุดซื้อขายตามข้างบน
.
ถ้าคุณ จขกท.เห็นภาพว่าอนาคตรถไฟฟ้าจะมีคนใช้บริการต่อวันหลายล้านเที่ยว
หรือปีละเกิน 1 หมื่นล้านเที่ยว และเติบโตตามการขยายออกของเมือง (เมืองชั้นในเริ่มเต็ม)
ก็ทยอยเก็บไปเรื่อยๆ ถือยาวๆ
.
ปัจจัยที่น่ากังวลคือค่าสัปทาน และการลงทุนที่จะมีมากขึ้นในอนาคต
ซึ่งอาจมีเครื่องมือทางการเงินเป็นการออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต
.
เป็นการลงทุนที่ดูช้าในวันนี้ แต่เมื่อมันเริ่มเกิด EOS จากจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้น
หุ้นก็จะขึ้นไปเอง ยังไม่นับโฆษณาในสถานี และพื้นที่เช่าอีกนะครับ
.
ลองพิจารณาดูครับ ด้วยความปรารถนาดี
จะซื้อๆ ขายๆ ก็ได้
.
กำหนดโซนซื้อ และโซนขายเอาไว้
ถ้าเข้าโซนซื้อ ต้องใจแข็งซื้อ แต่พอถึงโซนขายต้องตัดใจขายให้ได้
.
ผมกำหนดโซนซื้อ-ขาย เอาจาก PE ถ้า PE สูงมากเกินไปก็ต้องแบ่งขายตามสัดส่วน
แต่ถ้า PE ต่ำ แบบหุ้นเติบโต ก็ต้องกล้าซื้อในขณะที่ทุกอย่างดูไม่ดีครับ
.
.
ปีนี้ปันผลสองรอบรวม 0.12 บาทต่อหุ้น ถ้ามีซัก 500,000 หุ้นก็จะได้เงินปันผลราว 6 หมื่นบาท
แต่ปีนี้มีแต่กำไรของทางด่วนมาปันผล หากรถไฟฟ้าใต้ดินเริ่มกำไร ...
ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มจากส่วนต่อขยายทั้งสายสีเขียว และสายสีม่วง
อาจมีปันผลเพิ่มก็เป็นไปได้
.
ถ้าปันผลเพิ่มเป็น 0.20 บาทต่อหุ้นมีห้าแสนหุ้น = ปันผลปีละ 100,000 บาทแล้ว
ส่วนหุ้นจะขึ้น หรือลงก็ลดความเสี่ยงด้วยการกำหนดจุดซื้อขายตามข้างบน
.
ถ้าคุณ จขกท.เห็นภาพว่าอนาคตรถไฟฟ้าจะมีคนใช้บริการต่อวันหลายล้านเที่ยว
หรือปีละเกิน 1 หมื่นล้านเที่ยว และเติบโตตามการขยายออกของเมือง (เมืองชั้นในเริ่มเต็ม)
ก็ทยอยเก็บไปเรื่อยๆ ถือยาวๆ
.
ปัจจัยที่น่ากังวลคือค่าสัปทาน และการลงทุนที่จะมีมากขึ้นในอนาคต
ซึ่งอาจมีเครื่องมือทางการเงินเป็นการออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต
.
เป็นการลงทุนที่ดูช้าในวันนี้ แต่เมื่อมันเริ่มเกิด EOS จากจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้น
หุ้นก็จะขึ้นไปเอง ยังไม่นับโฆษณาในสถานี และพื้นที่เช่าอีกนะครับ
.
ลองพิจารณาดูครับ ด้วยความปรารถนาดี

แสดงความคิดเห็น
เวลานี้ ควรเข้า Bem ที่เท่าไหร่คะ