อยากทราบว่ามีใครที่เคยถูกหวยหรือลอตเตอรี่จากสิ่งลี้ลับบ้างคะ ขอแบบที่เขามาบอกเลขแบบตรงๆเลยนะคะ ไม่ต้องตีความ และถูกแบบตรงๆไม่ต้องกลับหน้ากลับหลังหรือบวกลบเลขเพิ่มอะไรนะคะ ขอแบบตรงๆเต็งๆเลยค่ะ มาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ อยากรู้ว่าคนอื่นๆมีประสบการณ์แปลกๆอะไรแบบนี้ไหม สำหรับเราเคยหนึ่งแค่หนึ่งครั้งในชีวิตค่ะ เพราะปกติเป็นคนไม่ซื้อ ไม่เล่น ไม่เสี่ยงโชคใดๆ ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีนะคะ แต่รู้ตัวว่าเป็นคนไม่มีโชคทางด้านนี้ ตอนเด็กๆจับฉลากก็ได้แต่รางวัลเล็กสุดตลอด ลูกอมสามเม็ดห้าเม็ดได้แค่นั้นอะค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้วค่ะ จำได้ว่าวันนั้นเราหลับฝันว่าตัวเองยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านตัวเอง เห็นเงาดำๆแวบๆสองเงาที่เคลื่อนที่อยู่รอบตัวเราด้วยความเร็วมากจนมองไม่ทันว่าเป็นอะไร เราจึงเอื้อมมือข้างหนึ่งออกไปจับก็จับได้เป็นเด็กกุมารทองหนึ่งคน แต่ยังมีอีกเงาที่เคลื่อนที่อยู่จึงเอื้อมอีกมือหนึ่งออกไปก็จับได้เด็กกุมารทองอีกคน เด็กสองคนนี้หน้าตาเป็นตุ๊กตากุมารทองเลยค่ะ หน้าตาน่ารักมาก แต่กลับพูดได้และขยับได้เหมือนคนจริง และตัวขนาดเด็กประมาณ 7-8 ขวบ ในฝันหลังจากเราจับเด็กทั้งสองคนได้เราก็มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แบบตั้งใจจำเสื้อผ้าเครื่องประดับของพวกเขาทั้งสองคนอย่างจริงจังมาก
เรา : มาวิ่งเล่นอะไรกันในบ้านนี้เนี่ย เดี๋ยวก็ชนข้าวของเสียหายหมดหรอก
กุมาร 1 : อย่าดุกันเลย นี่พวกเรามาดีนะ มาให้โชค
เรา : โชคอะไรหรอ
กุมาร 1 : ห้าหนึ่ง
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็หายไป แล้วไม่นานเราก็ตื่น เราตื่นมาด้วยความแปลกใจเพราะปกติความฝันมักจะวุ่นวายสับสน หรือไม่ก็เลือนรางเสียจนตื่นมาแล้วจดจำรายละเอียดอะไรไม่ได้เลย หรือจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ความฝันครั้งนี้เรากลับจำได้ทุกรายละเอียด ที่สำคัญเราตั้งใจจำเสื้อผ้าเครื่องประทับของเด็กทั้งสองนี่อย่างมาก ราวกับว่ามันต้องมีวาระแอบแฝงอะไรสักอย่างที่ทำให้เราต้องสังเกตและจดจำรายละเอียดของเด็กทั้งสองให้ได้ขนาดนั้น ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเฉลยนะคะว่าทำไม
อย่างที่บอกว่าเราไม่มีประสบการณ์ด้านการซื้อเลขอะไรพวกนี้เลย เลยไปถามคุณแม่ค่ะว่าถ้าฝันแบบนี้ควรซื้อไหม ควรซื้อเลขแบบไหนดี ต้องเผื่อไหม แบบบวกหนึ่งลบหนึ่ง กลับหน้ากลับหลังอะไรแบบนี้ คุณแม่ยังไม่ทันตอบเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ชายนั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเรื่องที่เราเล่าให้คุณแม่ฟังทั้งหมด แล้วพี่ชายเป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรพวกนี้ ก็เลยบอกว่าถ้ามันแม่นจริงก็ต้องถูกเป๊ะๆตรงๆดิ จะมากลับหน้ากลับหลังอะไร ถ้าอย่างนั้นเขาเรียกว่าบังเอิญถูก คือเราก็ไม่ได้เชื่ออะไรนะคะแต่แค่รู้สึกว่ามันเป็นฝันที่แปลกมากแตกต่างจากฝันปกติเลยมาปรึกษาคุณแม่ คุณแม่ก็บอกว่าก็ลองซื้อดูสิ ก็ซื้อแบบที่พี่ชายบอกไปเลย ถ้าเขาแม่นจริงก็ต้องถูกแบบตรงๆ
ณ ตอนนั้นเป็นช่วงที่มีการขายหวยบนดินอยู่นะคะ เราเลยซื้อหวยด้วยเลข 51 นั่นแหละค่ะ แต่ซื้อทั้งบนและล่าง ซื้อแค่ 20 บาท คือเราไม่คิดว่าจะถูก ไม่อยากเสียตังค์เยอะ แต่ซื้อเผื่อว่าเกิดถูกก็ดี เกิดมาซื้อหวยครั้งนั้นเป็นครั้งแรกเลย พอซื้อมาเสร็จก็ต้องรออีกหลายวันค่ะ กว่าหวยจะออก ก็ตั้งตารอกันไป
ทีนี้กลับมาที่เรื่องเครื่องแต่งตัวของกุมารทั้งสองคนนะคะ ทั้งสองคนไม่สวมเสื้อ สวมสร้อยสังวาล และโจงกระเบน แต่เป็นโจงกระเบนคนละสี ตอนนั้นเราจำได้แม่นนะคะ แต่นี่ผ่านมา 15 ปีแล้วเลยจำไม่ได้แล้วว่าสีอะไร น่าจะสีแดงคนหนึ่ง อีกคนสีส้มหรือสีเขียวนี่แหละค่ะ ตอนนี้จำไม่ได้แล้วจริงๆ
เราก็เลยถามคุณแม่ว่าเลี้ยงกุมารหรือเปล่า คุณแม่บอกว่ามีองค์หนึ่ง ตั้งไหว้อยู่หน้าบ้าน ซึ่งเราก็เดินไปดู ตุ๊กตาที่ตั้งอยู่ไม่ใช่เด็กคนที่เราเห็นเพราะคนนี้เขาใส่เสื้อผ้าครบชุดเป็นชุดสีแดงทอง คือร้านเราเป็นร้านขายตุ๊กตาเซรามิกของจีน พวกเทพเจ้าจีน ฮกลกซิ่ว เจ้าแม่กวนอิม แล้วก็วัตถุมงคลต่างๆ รวมถึงมีตุ๊กตากุมารทองด้วยค่ะ เป็นตุ๊กตาเปล่าๆนะคะยังไม่ปลุกเสกใดๆ มีอยู่สิบกว่ายี่สิบตัว เราก็ไปดูรายละเอียดแต่ละตัว แต่ไม่สักตัวที่เหมือนกับเด็กที่เราเห็น เราก็ยังแปลกใจเลยค่ะ คือถ้าสีตรงชุดก็ไม่ตรง ชุดตรงสีก็ไม่ใช่ ก็เลยรู้ว่าไม่ใช่เด็กๆในบ้านแน่ๆ แต่พวกเขามาจากไหนล่ะ เราก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ แต่เรื่องนี้เราเล่าให้คุณแม่ฟังไปแล้วว่าพวกเด็กๆแต่งตัวยังไง เพราะเราสงสัยตัวเองว่าจะไปสังเกตจดจำขนาดนั้นเพื่อ !!!
ตัดมาที่วันหวยออก ตอนนั้นเรานั่งทำงานอยู่ที่ทำงานแบบไม่เป็นสุขเลยค่ะ บอกตรงๆว่ารอลุ้นมากๆ ก็ครั้งแรกแถมมีคนมาบอกเลขแบบนี้ด้วย สมัยนั้นยังไม่มีเวบตรวจผลได้รวดเร็วเหมือนปัจจุบันนะคะ แต่เราบอกให้คุณแม่ดูผลให้เราค่ะ คุณแม่ก็คงดูผลทางโทรทัศน์ให้ แต่เราไม่ได้โทรถามท่านนะคะ เรากะว่ารอกลับบ้านแล้วค่อยถามทีเดียว ก็ทำงานเสร็จกว่าจะกลับถึงบ้านช่วงเย็น เรารีบปรี่ไปหาคุณแม่ว่า ถูกหรือเปล่า คุณแม่หันหน้ามาตอบแบบนิ่งๆว่า ถูก ถูกตัวบน เราบอกตรงๆว่าตอนนั้นคืออึ้งนะคะ เพราะแสดงว่าเขามีตัวตน เขาตั้งใจมาหาเรา แต่สำหรับเราพวกเขาไม่ได้มาให้โชค แต่มาให้เราเชื่อมากกว่าค่ะ เพราะถ้ามาให้โชคคงต้องบอกมาหกหลักตรงๆแล้วคงไม่มาบอกแค่สองหลักหรอก (เราเคยทราบว่ามีคนเคยถูกเลขตรงๆเต็งๆเพราะมีคนมาบอกเลขทั้งหกหลักมาแล้ว)
อึ้งครั้งแรกสำหรับเราก็ว่าโอกาสความเป็นไปได้ที่จะถูกหวยตามเลขที่เด็กมาบอกก็ว่าน้อยแล้ว แต่อีกสองสามวันถัดมาคุณแม่ได้มาบอกสิ่งที่ทำให้เราอึ้งยิ่งกว่า เพราะในวันที่เราฝันมีลูกค้าคุณแม่ซึ่งเขาสนิทกันกับคุณแม่ เขาทำงานอยู่ตำหนักร่างทรงพระแม่อุมา แล้วเขาก็มีองค์พระพิฆเนศภาคเด็กด้วย เขามาเยี่ยมคุณแม่พร้อมกับพากุมารทองสองคนจากตำหนักพระแม่อุมามาด้วย บอกว่าให้มาช่วยคุณแม่เราขายของจะได้ขายดี แล้วอีกสองสามวันหลังจากที่เราถูกหวยเขาก็มาอีกรอบ คุณแม่เลยถามเขาว่ากุมารทองที่เขาพามาแต่งตัวอย่างไร แต่เรื่องที่เราถูกหวยตอนนั้นคุณแม่ไม่ได้บอกเขานะคะ เขาก็บอกมาซึ่งมันถูกต้องตรงเป๊ะกับที่เราเจอในฝันทุกประการ
สิ่งที่น่าแปลกใจประการแรกคือเราฝันในคืนที่เขาพาเด็กกุมารมาสองคน แต่คุณแม่บอกว่าเขาพากลับไปด้วยนะคะ แบบเขาแค่เรียกให้เด็กมากับเขา พอเขากลับ เด็กๆก็กลับไปกับเขาด้วย แต่ทำไมเราฝันถึงอันนี้ก็สงสัยอยู่
ประการที่สองเราตั้งใจจำเสื้อผ้าของเด็กทั้งสองมากจนทำให้รู้ว่าเด็กสองคนที่เราฝันคือเด็กสองคนที่คนจากตำหนักทรงพามา
ประการสามเขาบอกเลขที่ถูกหวยตรงๆ
ที่เราเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าเขาไม่ได้มาให้โชคแต่เขามาให้เราเชื่อเพราะว่าก่อนหน้านี้ เราฝันเห็นอะไรแปลกๆหลายครั้ง ฝันเห็นผีมาขอส่วนบุญหลายครั้ง ตอนนั้นเราห่างไกลศาสนามากนะคะ สวดมนต์ยังไม่เป็นเลย ถามว่าเชื่อไหมว่ามีสิ่งเหล่านี้ ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ไม่ได้ลบหลู่ เพียงแต่ไม่คิดว่าเราจะสื่อได้ เวลาที่ฝันเราก็ไปทำบุญให้เขานะคะ ทำสังฆทานที่วัดทุกครั้ง ถามว่าเชื่อไหม ไม่แน่ใจ แต่ทำแค่เผื่อไว้ และไม่ใช่แค่ฝันเห็นพวกมาขอส่วนบุญ เรายังเคยเห็นเจ้าที่ หรือเทพที่เราอาจทำให้ท่านไม่พอใจโดยไม่รู้ตัวมาเอาเรื่องถึงสองครั้ง ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ฝันแต่เป็นอาการที่บางคนเรียกว่าผีอำ คือครึ่งหลับครึ่งตื่น เอาไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะคะ
ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เจอมันเรื่องจริงหรือแค่ฝันไปเอง มันไม่มีอะไรพิสูจน์ได้เลยสักนิด เราเลยคิดในใจว่าถ้าอยากให้เราเชื่อก็ต้องมีอะไรที่พิสูจน์ได้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้สิ แล้วจะเชื่อ ซึ่งเหตุการณ์นี้แหละค่ะที่ทำให้เราเชื่อว่าสิ่งที่เราเห็น เราไม่ได้ฝันมั่วๆไปเอง เราถึงเริ่มเชื่อในสิ่งที่เราฝันหลายๆครั้งที่ไม่ใช่ฝันปกติ แต่ถามว่าทำให้เราศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้นไหม ก็ตอบว่าไม่ เพราะเราก็แค่รับรู้ว่ามีสิ่งที่อยู่อีกมิติหนึ่งที่เราสัมผัสได้ ก็เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เราศรัทธามันกลับเป็นเรื่องราวหลังจากนั้นที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับเราอยู่หลายครั้ง เรียกได้ว่าเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยฉุดเราขึ้นมาจากช่วงชีวิตที่จิตใจเราตกต่ำถึงขีดสุด อันนี้ถ้าใครอยากทราบเอาไว้จะมาเล่าให้ฟังทีหลังนะคะ
วันนี้ขอแค่เรื่องถูกเลข ได้โชคจากสิ่งลี้ลับของเพื่อนๆว่ามีใครเคยเจออะไรแบบนี้หรือเปล่าคะ
มีใครเคยถูกหวยหรือลอตเตอรี่จากสิ่งลี้ลับบ้างคะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้วค่ะ จำได้ว่าวันนั้นเราหลับฝันว่าตัวเองยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านตัวเอง เห็นเงาดำๆแวบๆสองเงาที่เคลื่อนที่อยู่รอบตัวเราด้วยความเร็วมากจนมองไม่ทันว่าเป็นอะไร เราจึงเอื้อมมือข้างหนึ่งออกไปจับก็จับได้เป็นเด็กกุมารทองหนึ่งคน แต่ยังมีอีกเงาที่เคลื่อนที่อยู่จึงเอื้อมอีกมือหนึ่งออกไปก็จับได้เด็กกุมารทองอีกคน เด็กสองคนนี้หน้าตาเป็นตุ๊กตากุมารทองเลยค่ะ หน้าตาน่ารักมาก แต่กลับพูดได้และขยับได้เหมือนคนจริง และตัวขนาดเด็กประมาณ 7-8 ขวบ ในฝันหลังจากเราจับเด็กทั้งสองคนได้เราก็มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แบบตั้งใจจำเสื้อผ้าเครื่องประดับของพวกเขาทั้งสองคนอย่างจริงจังมาก
เรา : มาวิ่งเล่นอะไรกันในบ้านนี้เนี่ย เดี๋ยวก็ชนข้าวของเสียหายหมดหรอก
กุมาร 1 : อย่าดุกันเลย นี่พวกเรามาดีนะ มาให้โชค
เรา : โชคอะไรหรอ
กุมาร 1 : ห้าหนึ่ง
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็หายไป แล้วไม่นานเราก็ตื่น เราตื่นมาด้วยความแปลกใจเพราะปกติความฝันมักจะวุ่นวายสับสน หรือไม่ก็เลือนรางเสียจนตื่นมาแล้วจดจำรายละเอียดอะไรไม่ได้เลย หรือจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ความฝันครั้งนี้เรากลับจำได้ทุกรายละเอียด ที่สำคัญเราตั้งใจจำเสื้อผ้าเครื่องประทับของเด็กทั้งสองนี่อย่างมาก ราวกับว่ามันต้องมีวาระแอบแฝงอะไรสักอย่างที่ทำให้เราต้องสังเกตและจดจำรายละเอียดของเด็กทั้งสองให้ได้ขนาดนั้น ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเฉลยนะคะว่าทำไม
อย่างที่บอกว่าเราไม่มีประสบการณ์ด้านการซื้อเลขอะไรพวกนี้เลย เลยไปถามคุณแม่ค่ะว่าถ้าฝันแบบนี้ควรซื้อไหม ควรซื้อเลขแบบไหนดี ต้องเผื่อไหม แบบบวกหนึ่งลบหนึ่ง กลับหน้ากลับหลังอะไรแบบนี้ คุณแม่ยังไม่ทันตอบเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ชายนั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเรื่องที่เราเล่าให้คุณแม่ฟังทั้งหมด แล้วพี่ชายเป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรพวกนี้ ก็เลยบอกว่าถ้ามันแม่นจริงก็ต้องถูกเป๊ะๆตรงๆดิ จะมากลับหน้ากลับหลังอะไร ถ้าอย่างนั้นเขาเรียกว่าบังเอิญถูก คือเราก็ไม่ได้เชื่ออะไรนะคะแต่แค่รู้สึกว่ามันเป็นฝันที่แปลกมากแตกต่างจากฝันปกติเลยมาปรึกษาคุณแม่ คุณแม่ก็บอกว่าก็ลองซื้อดูสิ ก็ซื้อแบบที่พี่ชายบอกไปเลย ถ้าเขาแม่นจริงก็ต้องถูกแบบตรงๆ
ณ ตอนนั้นเป็นช่วงที่มีการขายหวยบนดินอยู่นะคะ เราเลยซื้อหวยด้วยเลข 51 นั่นแหละค่ะ แต่ซื้อทั้งบนและล่าง ซื้อแค่ 20 บาท คือเราไม่คิดว่าจะถูก ไม่อยากเสียตังค์เยอะ แต่ซื้อเผื่อว่าเกิดถูกก็ดี เกิดมาซื้อหวยครั้งนั้นเป็นครั้งแรกเลย พอซื้อมาเสร็จก็ต้องรออีกหลายวันค่ะ กว่าหวยจะออก ก็ตั้งตารอกันไป
ทีนี้กลับมาที่เรื่องเครื่องแต่งตัวของกุมารทั้งสองคนนะคะ ทั้งสองคนไม่สวมเสื้อ สวมสร้อยสังวาล และโจงกระเบน แต่เป็นโจงกระเบนคนละสี ตอนนั้นเราจำได้แม่นนะคะ แต่นี่ผ่านมา 15 ปีแล้วเลยจำไม่ได้แล้วว่าสีอะไร น่าจะสีแดงคนหนึ่ง อีกคนสีส้มหรือสีเขียวนี่แหละค่ะ ตอนนี้จำไม่ได้แล้วจริงๆ
เราก็เลยถามคุณแม่ว่าเลี้ยงกุมารหรือเปล่า คุณแม่บอกว่ามีองค์หนึ่ง ตั้งไหว้อยู่หน้าบ้าน ซึ่งเราก็เดินไปดู ตุ๊กตาที่ตั้งอยู่ไม่ใช่เด็กคนที่เราเห็นเพราะคนนี้เขาใส่เสื้อผ้าครบชุดเป็นชุดสีแดงทอง คือร้านเราเป็นร้านขายตุ๊กตาเซรามิกของจีน พวกเทพเจ้าจีน ฮกลกซิ่ว เจ้าแม่กวนอิม แล้วก็วัตถุมงคลต่างๆ รวมถึงมีตุ๊กตากุมารทองด้วยค่ะ เป็นตุ๊กตาเปล่าๆนะคะยังไม่ปลุกเสกใดๆ มีอยู่สิบกว่ายี่สิบตัว เราก็ไปดูรายละเอียดแต่ละตัว แต่ไม่สักตัวที่เหมือนกับเด็กที่เราเห็น เราก็ยังแปลกใจเลยค่ะ คือถ้าสีตรงชุดก็ไม่ตรง ชุดตรงสีก็ไม่ใช่ ก็เลยรู้ว่าไม่ใช่เด็กๆในบ้านแน่ๆ แต่พวกเขามาจากไหนล่ะ เราก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ แต่เรื่องนี้เราเล่าให้คุณแม่ฟังไปแล้วว่าพวกเด็กๆแต่งตัวยังไง เพราะเราสงสัยตัวเองว่าจะไปสังเกตจดจำขนาดนั้นเพื่อ !!!
ตัดมาที่วันหวยออก ตอนนั้นเรานั่งทำงานอยู่ที่ทำงานแบบไม่เป็นสุขเลยค่ะ บอกตรงๆว่ารอลุ้นมากๆ ก็ครั้งแรกแถมมีคนมาบอกเลขแบบนี้ด้วย สมัยนั้นยังไม่มีเวบตรวจผลได้รวดเร็วเหมือนปัจจุบันนะคะ แต่เราบอกให้คุณแม่ดูผลให้เราค่ะ คุณแม่ก็คงดูผลทางโทรทัศน์ให้ แต่เราไม่ได้โทรถามท่านนะคะ เรากะว่ารอกลับบ้านแล้วค่อยถามทีเดียว ก็ทำงานเสร็จกว่าจะกลับถึงบ้านช่วงเย็น เรารีบปรี่ไปหาคุณแม่ว่า ถูกหรือเปล่า คุณแม่หันหน้ามาตอบแบบนิ่งๆว่า ถูก ถูกตัวบน เราบอกตรงๆว่าตอนนั้นคืออึ้งนะคะ เพราะแสดงว่าเขามีตัวตน เขาตั้งใจมาหาเรา แต่สำหรับเราพวกเขาไม่ได้มาให้โชค แต่มาให้เราเชื่อมากกว่าค่ะ เพราะถ้ามาให้โชคคงต้องบอกมาหกหลักตรงๆแล้วคงไม่มาบอกแค่สองหลักหรอก (เราเคยทราบว่ามีคนเคยถูกเลขตรงๆเต็งๆเพราะมีคนมาบอกเลขทั้งหกหลักมาแล้ว)
อึ้งครั้งแรกสำหรับเราก็ว่าโอกาสความเป็นไปได้ที่จะถูกหวยตามเลขที่เด็กมาบอกก็ว่าน้อยแล้ว แต่อีกสองสามวันถัดมาคุณแม่ได้มาบอกสิ่งที่ทำให้เราอึ้งยิ่งกว่า เพราะในวันที่เราฝันมีลูกค้าคุณแม่ซึ่งเขาสนิทกันกับคุณแม่ เขาทำงานอยู่ตำหนักร่างทรงพระแม่อุมา แล้วเขาก็มีองค์พระพิฆเนศภาคเด็กด้วย เขามาเยี่ยมคุณแม่พร้อมกับพากุมารทองสองคนจากตำหนักพระแม่อุมามาด้วย บอกว่าให้มาช่วยคุณแม่เราขายของจะได้ขายดี แล้วอีกสองสามวันหลังจากที่เราถูกหวยเขาก็มาอีกรอบ คุณแม่เลยถามเขาว่ากุมารทองที่เขาพามาแต่งตัวอย่างไร แต่เรื่องที่เราถูกหวยตอนนั้นคุณแม่ไม่ได้บอกเขานะคะ เขาก็บอกมาซึ่งมันถูกต้องตรงเป๊ะกับที่เราเจอในฝันทุกประการ
สิ่งที่น่าแปลกใจประการแรกคือเราฝันในคืนที่เขาพาเด็กกุมารมาสองคน แต่คุณแม่บอกว่าเขาพากลับไปด้วยนะคะ แบบเขาแค่เรียกให้เด็กมากับเขา พอเขากลับ เด็กๆก็กลับไปกับเขาด้วย แต่ทำไมเราฝันถึงอันนี้ก็สงสัยอยู่
ประการที่สองเราตั้งใจจำเสื้อผ้าของเด็กทั้งสองมากจนทำให้รู้ว่าเด็กสองคนที่เราฝันคือเด็กสองคนที่คนจากตำหนักทรงพามา
ประการสามเขาบอกเลขที่ถูกหวยตรงๆ
ที่เราเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าเขาไม่ได้มาให้โชคแต่เขามาให้เราเชื่อเพราะว่าก่อนหน้านี้ เราฝันเห็นอะไรแปลกๆหลายครั้ง ฝันเห็นผีมาขอส่วนบุญหลายครั้ง ตอนนั้นเราห่างไกลศาสนามากนะคะ สวดมนต์ยังไม่เป็นเลย ถามว่าเชื่อไหมว่ามีสิ่งเหล่านี้ ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ไม่ได้ลบหลู่ เพียงแต่ไม่คิดว่าเราจะสื่อได้ เวลาที่ฝันเราก็ไปทำบุญให้เขานะคะ ทำสังฆทานที่วัดทุกครั้ง ถามว่าเชื่อไหม ไม่แน่ใจ แต่ทำแค่เผื่อไว้ และไม่ใช่แค่ฝันเห็นพวกมาขอส่วนบุญ เรายังเคยเห็นเจ้าที่ หรือเทพที่เราอาจทำให้ท่านไม่พอใจโดยไม่รู้ตัวมาเอาเรื่องถึงสองครั้ง ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ฝันแต่เป็นอาการที่บางคนเรียกว่าผีอำ คือครึ่งหลับครึ่งตื่น เอาไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะคะ
ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เจอมันเรื่องจริงหรือแค่ฝันไปเอง มันไม่มีอะไรพิสูจน์ได้เลยสักนิด เราเลยคิดในใจว่าถ้าอยากให้เราเชื่อก็ต้องมีอะไรที่พิสูจน์ได้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้สิ แล้วจะเชื่อ ซึ่งเหตุการณ์นี้แหละค่ะที่ทำให้เราเชื่อว่าสิ่งที่เราเห็น เราไม่ได้ฝันมั่วๆไปเอง เราถึงเริ่มเชื่อในสิ่งที่เราฝันหลายๆครั้งที่ไม่ใช่ฝันปกติ แต่ถามว่าทำให้เราศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้นไหม ก็ตอบว่าไม่ เพราะเราก็แค่รับรู้ว่ามีสิ่งที่อยู่อีกมิติหนึ่งที่เราสัมผัสได้ ก็เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เราศรัทธามันกลับเป็นเรื่องราวหลังจากนั้นที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับเราอยู่หลายครั้ง เรียกได้ว่าเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยฉุดเราขึ้นมาจากช่วงชีวิตที่จิตใจเราตกต่ำถึงขีดสุด อันนี้ถ้าใครอยากทราบเอาไว้จะมาเล่าให้ฟังทีหลังนะคะ
วันนี้ขอแค่เรื่องถูกเลข ได้โชคจากสิ่งลี้ลับของเพื่อนๆว่ามีใครเคยเจออะไรแบบนี้หรือเปล่าคะ