
น้ำตกหมันแดง อยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ก่อนไปเราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าการจะเข้าไปถึงน้ำตกจะต้องเดินเข้าไปในป่า ซึ่งควรจะมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทางและเราจะต้องทำการติดต่อไว้ก่อนนะคะ แต่..ครั้งนี้เราไม่ได้ติดต่อไว้ค่ะ ก็ถือว่าโชคดีที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ และพอมีเจ้าหน้าที่เหลืออยู่ หลังจาก 9 โมงเช้าเจ้าหน้าที่จะไม่พาเข้าไปนะคะเพราะการเดินต้องใช้เวลานาน ถ้าออกเดินสายจะกลับออกมาค่ำซึ่งอันตราย

ก่อนขึ้นไปจะต้องเตรียมห่อข้าวกลางวันก่อน
ก่อนไปเราตั้งใจจะไปเดินป่า ซึ่งแน่นอนว่าลำบาก แต่...ไม่คิดว่าจะจำบากขนาดเน้!! 55 เนื่องจากคืนก่อนที่เราจะมามีฝนตก (เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงนี้ฝนก็ตกแทบทุกวัน) ทำให้ป่าชื้น ตามต้นไม้มีมอส เฟิร์น เขียวสวยมาก ทุกคนก็เพลินตาเพลินใจ ถ่ายรูปกันสนุกสนาน
ต่อมาเริ่มมีการลอด การข้ามท่อนไม่ และผลจากความชื้นคือ ทากเยอะ!! เราเป็นคนกลัวทากก่อนไปก็พยายามเปิดรูปทากในคอมและลองเอานิ้วไปลองลูปๆเพื่อทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยระดับหนึ่งแล้ว แต่พอเจอเข้าจริงๆสติแตกค่ะ 55
พื้นที่เริ่มชัน 45 องศา สลับกับลาด มากกว่าหรือเท่ากับ 45 องศา มีเชื่อกให้จับเป็นระยะๆ แต่ด้วยพื้นที่ชื้น คนเดินย่ำหลายคนก็กลายเป็นเลน ลื่น แม้จะจับเชื่อก แต่ด้วยอีกมือต้องหิ้วกล้องพร้อมขาตั้งทำให้ลื่นล้มไปหลายตลบ แต่ล้มนานไม่ได้เพราะทากจะกระโดดเกาะ ทำให้เราต้องรีบเด้งตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเหมือนตุ๊กตาล้มลุกไม่มีผิด
เราใช้เวลาในการเดินขึ้น ลง ลัดเลาะตามขอบเหว ผ่านป่ากล้วย ป่าไผ่ ทั้งโคลนทั้งทาก อยู่ 2-3 ชม. ก็มาถึงน้ำตกชั้นที่ 1 ที่อยู่สูงสุด พร้อมขาที่สั่นพับๆๆ พักถ่ายรูปแป๊ปนึ่งก็เดินต่อไปชั้นที่ 2 3 4 ที่อยู่ต่ำลงมา และมาหยุดกินข้างเที่ยงที่ชั้นที่ 5 ที่สวยสุดๆไปเลย ชั้นนี้มีดอกลิ้นมังกรที่จะบานเฉพาะช่วงเดือน สค-กย กินข้าวอิ่มเราก็ลงเอาเท้าจุ่มน้ำ น้ำเย็นมากจนปวดเท้า
ถ่ายรูปจุใจหายเหนื่อยเราก็ออกเดินทางต่อ ไปขั้นที่ 6 7 8 และ 9 แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แล้วก็เดินลัดเลาะไปยังหมู่บ้านชาวเผ่าลั้ว ที่เราจะไปขึ้นรถกลับไปที่อุทยานที่เราเริ่มต้น ตอนนี้แหละบันเทิงมากก ทากที่ว่าเยอะและน่ากลัวตอนเริ่มต้นถือว่าเด็กมากเมื่อเทียบกับตรงนี้เพราะมันเยอะกว่าช่วงแรกมากก และที่สำคัญขนาดใหญ่กว่าเป็น 2-3 เท่าด้วย เยอะขนาดที่เราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ามันกระโดดทักทายอยู่เหยงๆ ยืดตัวมาส่ายหัวหย๋อยๆ ตอนเราเดินผ่าน คนแรกและคนที่สองยังพอทนเพราะทากมันยังไม่ทันตั้งตัว ส่วนคนที่เดินเป็นลำดับที่ 3 นี่โดนเต็มๆ ต้องอาศัยสเปรย์ตะไคร้หอมฉีดเพื่อให้ทากหลุด กว่าจะผ่านป่าอันหฤโหดนี้มาได้ ถึงขนาดต้องเจริญสติ กำหนดลมหายใจ แผ่เมตตาให้ทาก อย่าได้สร้างเวรสร้างกรรมต่อกันเลยทีเดียว 55ุ
เรามาขึ้นรถกระบะที่หมู่บ้านเล็กๆ เพื่อกลับไปยังจุดที่เราเริ่มต้นเป็นระยะทาง 27 กม คืนนั้นน้องชายยังฝันว่าทากบุกมาถึงที่พัก 55
ติดตามการท่องเที่ยวของเราได้ที่ :
https://www.facebook.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-657106391107434/
[CR] "น้ำตกหมันแดง" โหด มันส์ ฮา และ สยอง!! แต่สิ่งที่ได้มา ช่างคุ้มค่าจริงๆ
น้ำตกหมันแดง อยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ก่อนไปเราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าการจะเข้าไปถึงน้ำตกจะต้องเดินเข้าไปในป่า ซึ่งควรจะมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทางและเราจะต้องทำการติดต่อไว้ก่อนนะคะ แต่..ครั้งนี้เราไม่ได้ติดต่อไว้ค่ะ ก็ถือว่าโชคดีที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ และพอมีเจ้าหน้าที่เหลืออยู่ หลังจาก 9 โมงเช้าเจ้าหน้าที่จะไม่พาเข้าไปนะคะเพราะการเดินต้องใช้เวลานาน ถ้าออกเดินสายจะกลับออกมาค่ำซึ่งอันตราย
ก่อนขึ้นไปจะต้องเตรียมห่อข้าวกลางวันก่อน
ก่อนไปเราตั้งใจจะไปเดินป่า ซึ่งแน่นอนว่าลำบาก แต่...ไม่คิดว่าจะจำบากขนาดเน้!! 55 เนื่องจากคืนก่อนที่เราจะมามีฝนตก (เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงนี้ฝนก็ตกแทบทุกวัน) ทำให้ป่าชื้น ตามต้นไม้มีมอส เฟิร์น เขียวสวยมาก ทุกคนก็เพลินตาเพลินใจ ถ่ายรูปกันสนุกสนาน
ต่อมาเริ่มมีการลอด การข้ามท่อนไม่ และผลจากความชื้นคือ ทากเยอะ!! เราเป็นคนกลัวทากก่อนไปก็พยายามเปิดรูปทากในคอมและลองเอานิ้วไปลองลูปๆเพื่อทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยระดับหนึ่งแล้ว แต่พอเจอเข้าจริงๆสติแตกค่ะ 55
พื้นที่เริ่มชัน 45 องศา สลับกับลาด มากกว่าหรือเท่ากับ 45 องศา มีเชื่อกให้จับเป็นระยะๆ แต่ด้วยพื้นที่ชื้น คนเดินย่ำหลายคนก็กลายเป็นเลน ลื่น แม้จะจับเชื่อก แต่ด้วยอีกมือต้องหิ้วกล้องพร้อมขาตั้งทำให้ลื่นล้มไปหลายตลบ แต่ล้มนานไม่ได้เพราะทากจะกระโดดเกาะ ทำให้เราต้องรีบเด้งตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเหมือนตุ๊กตาล้มลุกไม่มีผิด
เราใช้เวลาในการเดินขึ้น ลง ลัดเลาะตามขอบเหว ผ่านป่ากล้วย ป่าไผ่ ทั้งโคลนทั้งทาก อยู่ 2-3 ชม. ก็มาถึงน้ำตกชั้นที่ 1 ที่อยู่สูงสุด พร้อมขาที่สั่นพับๆๆ พักถ่ายรูปแป๊ปนึ่งก็เดินต่อไปชั้นที่ 2 3 4 ที่อยู่ต่ำลงมา และมาหยุดกินข้างเที่ยงที่ชั้นที่ 5 ที่สวยสุดๆไปเลย ชั้นนี้มีดอกลิ้นมังกรที่จะบานเฉพาะช่วงเดือน สค-กย กินข้าวอิ่มเราก็ลงเอาเท้าจุ่มน้ำ น้ำเย็นมากจนปวดเท้า
ถ่ายรูปจุใจหายเหนื่อยเราก็ออกเดินทางต่อ ไปขั้นที่ 6 7 8 และ 9 แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แล้วก็เดินลัดเลาะไปยังหมู่บ้านชาวเผ่าลั้ว ที่เราจะไปขึ้นรถกลับไปที่อุทยานที่เราเริ่มต้น ตอนนี้แหละบันเทิงมากก ทากที่ว่าเยอะและน่ากลัวตอนเริ่มต้นถือว่าเด็กมากเมื่อเทียบกับตรงนี้เพราะมันเยอะกว่าช่วงแรกมากก และที่สำคัญขนาดใหญ่กว่าเป็น 2-3 เท่าด้วย เยอะขนาดที่เราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ามันกระโดดทักทายอยู่เหยงๆ ยืดตัวมาส่ายหัวหย๋อยๆ ตอนเราเดินผ่าน คนแรกและคนที่สองยังพอทนเพราะทากมันยังไม่ทันตั้งตัว ส่วนคนที่เดินเป็นลำดับที่ 3 นี่โดนเต็มๆ ต้องอาศัยสเปรย์ตะไคร้หอมฉีดเพื่อให้ทากหลุด กว่าจะผ่านป่าอันหฤโหดนี้มาได้ ถึงขนาดต้องเจริญสติ กำหนดลมหายใจ แผ่เมตตาให้ทาก อย่าได้สร้างเวรสร้างกรรมต่อกันเลยทีเดียว 55ุ
เรามาขึ้นรถกระบะที่หมู่บ้านเล็กๆ เพื่อกลับไปยังจุดที่เราเริ่มต้นเป็นระยะทาง 27 กม คืนนั้นน้องชายยังฝันว่าทากบุกมาถึงที่พัก 55
ติดตามการท่องเที่ยวของเราได้ที่ : https://www.facebook.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-657106391107434/