เมื่อวานวันที่ 11 กันยายน 2559 ผมได้ไปทำธุระที่ กทม ทั้งวันกะว่าเมื่อเสร็จธุระแล้ว ผมจะแวะไปเยี่ยมชมสโมสรที่ผมรักและติดตามเชียร์มาตลอด ครั้งนี้มีโอกาสแล้ว ผมจึงไม่ยอมพลาด เพราะนานๆ มากๆ ที่ผมจะมีโอกาสได้มาเมืองหลวง เพราะในใจผมก็อยากจะมาสโมสรเมืองทอง อยากจะไปถ่ายรูปกับสนาม SCG สเตเดียมมากๆ ถึงมากที่สุดอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นคนต่างจังหวัดด้วย โอกาสที่จะมาเชียร์ที่สนามนั้นแทบไม่มีเลย และผมก็เคยเห็นเพื่อนๆใน Facebook ผม เวลาเขาไปที่สนามทีมที่เขาเชียร์ ก็ยังได้ไปถ่ายรูปในสนามมาอวดอยู่ผมบ่อยๆ ผมก็เลยอยากมาถ่ายรูปในสนามสโมสรที่ผมรักบ้างเหมือนกัน เพื่อเป็นที่ระลึกเก็บไว้ดูว่า นี่ไงล่ะ
"สโมสรที่รักและติดตามเชียร์ วันนี้ได้มาแล้วและได้ไปถ่ายรูปในสนามด้วย" คนบ้านนอกอย่างผมได้มาแล้ว อิอิ ว่าแล้วก็ไม่พลาดที่จะไปให้ได้ ใจผมมุ่งไปที่เมืองทองอย่างเดียวหลังจากเสร็จธุระ โดยให้พี่ซึ่งเป็นแฟนของน้องที่ผมรู้จักเป็นคนพาไป สมมติว่าชื่อพี่ A แล้วกันนะครับ
เมื่อไปถึงสโมสร เราจอดรถที่ข้างช็อปสโมสรที่ขายเสื้อ ขายผ้าพันคอ เราก็เดินอ้อมไปเข้าห้องน้ำก่อนที่ข่างสนามหญ้าเทียม (มีเด็กๆซ้อมฟุตบอลกันเยอะมาก เสียงเจี้ยวจ้าวกันสนุกสนานทีเดียว) และผมรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ไม่มีโปรแกรมการแข่งขันที่นี่ เพราะเมืองทองต้องไปเยือนสุโขทัย ที่นั่นจึงดูไม่พลุกพล่านผู้คนมาก ผมไม่เคยมาเลยไม่รู้ว่าจะไปติดต่ออะไรยังไงที่ไหนครับ ก็เลยถามพี่คนหนึ่งยืนยืดแข้งยืดขา ออกกำลังกายอยู่ข้างสนามหญ้าเทียม ถามว่าเขาให้เข้าชมสนามหรือเปล่า เขาก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน และชี้ให้ผมไปถามที่ห้องกระจกข้างๆสนามหญ้าเทียมดู ประตูเปิดอยู่และมีคนถือลูกบอลเดินเข้าไปเก็บนั่นดูนะครับ ผมก็เดินไปถาม
เปิดประตูเข้าไปพบพี่ผู้ขายคนหนึ่งนั่งเอนตัวนอนใส่หูฟังเหมือนฟังเพลงในโทรศัพท์ และผู้หญิงอีกประมาณ 2-3 คน กำลังทำงานเอกสารอยู่ ผมจึงถามพี่ผู้ชายคนใส่หูฟังว่า "ขอโทษครับ ผมอยากเข้าไปชมข้างสนามได้หรือเปล่าครับ" เขาก็ถอดหูฟังข้างนึงออกแล้วตอบว่า
เข้าไม่ได้ครับ ไม่ให้เข้า จะให้เข้าเฉพาะวันที่มีแข่งขันเท่านั้น ผมก็ เอ่อ .. โอเคครับ แล้วเดินออกมา พี่ A ก็ถามว่าเขาให้เข้ามั้ย ผมบอกไปตามที่เขาบอกไม่ให้เข้า แล้วพี่ A ก็บอกว่า ลองไปขอเขาใหม่ดู เรามาจากต่างจังหวัดและเป็นแฟนบอลทีมนี้ อยากเข้าไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เข้าไปถ่ายรูปแป้บนึงก็ได้ ลองไปขอใหม่ดูสิ อ่ะ ผมก็เข้าไปอีกครั้งหนึ่งแล้วบอกเหมือนที่พี่ A บอกตามนั้น ครั้งนี้เขาทำหน้าเหมือนรำคาญแล้วลุกตัวจากที่เหมือนเอนนอนบนเก้าอี้ฟังเพลงในหูฟัง เปลี่ยนท่ามาหันหน้าเข้าคอมจะท่าทำงาน แล้วบอกผมว่าไม่ให้เข้าเหมือนเดิม ทำหน้าเซ็งๆเหมือนผมไปรบกวนเขาฟังเพลงหรืออย่างไรไม่ทราบ ขอโทษด้วยแล้วกันนะครับ
ผมเดินออกมาแล้วไปที่ช็อปขายของที่ระลึกแทน กะว่าวันนี้จะช็อปเสื้อ ผ้าพันคอ และสินค้าที่ระลึกอีกหลายอย่างเลย ไหนๆก็ไม่ได้เข้าสนามแล้ว พอเดินเข้าช็อปจะมีป้ากับลุงคน 2 คนอยู่ในช็อป ผมเดินดูของไปเรื่อยๆ เห็นมีเสื้อทีมปี 2016 แต่ไม่มีไซต์ที่ผมใส่ได้ เหลือแต่ XL ไซต์อื่นขายหมด ของยังไม่เข้า ผมไปเห็นเสื้อตัวหนึ่งสีขาว เลอะเทอะมาก มีคราบเหลืองๆ ดำๆ ติดอยู่ตามเสื้อและติดอยู่ที่ขอบคอเสื้อ คือสกปรกมากครับ ผมเลยถามป้า ป้าบอกว่านั่นเสื้อเอาไว้ใส่ลอง ....เอ่มม เลอะขนาดนี้ ผมไม่กล้าลองอ่ะ สกปกรกเหมือนผ้าเช็ดพื้นมากครับ เลยถือโอกาสถามป้าว่าเขาให้เข้าสนามไหม
ป้าบอกว่า ให้ไปถามที่ออฟฟิศฝั่งนู้น (ฝั่งที่ผมถามมาเมื่อกี้แหล่ะ)
ผมบอกว่าไปถามมาแล้วแต่เขาไม่ให้เข้าครับ
ป้าก็บอกว่า "เขาไม่ให้เข้าก็คือไม่ให้เข้าสิ จะอะไรมากมาย เราอยู่ฝั่งนี้ในช็อปไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝั่งนู้น ถ้าเขาให้เข้า เขาก็จะให้เข้าเอง เราไม่เกี่ยวกับเขา" อยากเข้าก็รอมาวันแข่ง จะได้เข้าได้
ผมบอกว่า คือผมมาจากต่างจังหวัดไกลมากด้วย ไม่มีโอกาสแบบนั้นหรอกครับ วันนี้มาธุระ เลยถือโอกาสมาครับ อยากไปถ่ายรูปในสนามมาก แต่ไม่เป็นไร ซื้อของดีกว่า คือในใจ คิดว่าอะไรฟะ บอกดีๆก็ได้ ตั้งแต่ผู้ชายในออฟฟิศข้างสนามหญ้าเทียมแล้ว มาเจอมนุษย์ป้าอีก ผมก็ถามดีๆ น้ำเสียงธรรมดา ออกแนวเกรงใจด้วยซ้ำ หรือเห็นผมทำท่าทางเหมือนเกรงใจและเห็นว่ามาจากต่างจังหวัดเหรอ เลยข่มขึ้นเสียงเอา แถมพูดจาไม่มีหางเสียงใส่ลูกค้าเนี่ย ไม่มีลงท้าย ครับ/ค่ะ เลยนะ เจ้าหน้าที่สนามเนี่ย หรือไม่ง้อลูกค้าคนเดียวที่มาจากต่างจังหวัดอย่างผม ผมโกรธนะตอนนั้น แต่เก็บอารมณ์โกรธไว้ มีวุฒิภาวะพอ การแต่งกายผมก็สุภาพนะครับ กางเกงสแล็ค เสื้อเชิ๊ต รองเท้าหนังแท้ ไม่ใช่ชุดเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยอะไรนะ ทำไมถึงมีกิริยาแบบนั้นกับผมไม่ทราบครับ ผมเหยียบขี้หมาเดินเข้าช็อปคุณเหรอ แบบนี้เสียอารมณ์ เสียความรู้สึกมาก
เดินหนีป้ามาเลือกผ้าพันคอแทน ที่แขวนๆอยู่ที่ราวเหล็ก พอเลือกที่ถูกใจได้ ก็ถือเดินมาจะจ่ายเงิน มนุษย์ลุงเดินมาดึงผ้าพันคอออกจากมือผม แล้วเดินไปหยิบกล่องกลมๆ ที่ผมไม่ได้สังเกตุแต่แรก แค่เห็นแว้บๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร ลุงเอาผ้าพันคอจากมือผม ไม่พูดไม่จา ไม่บอกอะไรเลย หยิบกล่องมา แล้วบอกป้ามาคิดเงิน ผมก็ เอ่มม...อะไรอ่ะ บอกผมได้ไหมครับ บริการผมด้วยได้ไหม ว่า นี่เป็นผ้าพันคอไว้โชว์ไว้ให้เลือก อยู่ๆเดินมาดึงออกจากมือผมเฉยเลย มารยาทมีมั้ยครับ เสื้อเซ่อ หมวกเหมิก กูไม่เอาแล้ว เอาผ้าพันคอผืนเดียวนี่แหล่ะ จ่ายเงินแล้วยืนดูรายชื่อนักเตะข้างเคาน์เตอร์แป้บนึงและเดินออกมาเลยครับ เสียความรู้สึก เสียใจ เสียทุกอย่าง ที่จริงว่าจะไม่เอาอะไรแล้ว แต่ไหนๆก็มาแล้ว อีกอย่างผมเชียร์นักเตะ ผมรักนักเตะเมืองทอง รักแฟนบอลเมืองทองทุกคน แต่กับสิ่งที่ผมเจอวันนี้ ไม่รู้จะว่ายังไงนะ นานมากที่ผมจะได้มา กทม และได้มาสนามแห่งนี้อีก ความจริงผมอยากเข้าไปชมการแข่งขันจริงๆมาก อยากเห็นบรรยากาศในสนามมาก เพราะเคยชมแต่ในทีวี ยังไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนั้นเลยจริงๆ มาแล้วไม่ได้เข้าไม่ว่าครับ อาจจะเป็นกฎของที่นี่ ไม่ได้ติดใจครับ และผมไม่ได้เสียความรู้สึกเท่ากับที่ผมได้คุย ได้สัมผัสเจ้าหน้าที่ของที่นี่เลยจริงๆ ฝากถึงสโมสร SCG เมืองทองยูไนเต็ด ด้วย
นี่คือผ้าพันคือที่ผมซื้อมาครับ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ยังรักยังเชียร์เหมือนเดิมครับ อนาคตผมยังจะเสียเงินอุดหนุนสินค้าคุณอีกเยอะครับ แต่ถ้าอนาคตผมเจอแบบนี้อีกก็ไม่แน่ครับ อาจจะเซย์กู๊ดบายก็ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่ A แซวผมเลยนะ ว่าย้ายมาทีมพี่ดีกว่า เจอแบบนี้ยังเชียร์อยู่อีกเหรอ 555
เสียความรู้สึกกับสโมส SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผมรักและเชียร์มาตลอด
เมื่อไปถึงสโมสร เราจอดรถที่ข้างช็อปสโมสรที่ขายเสื้อ ขายผ้าพันคอ เราก็เดินอ้อมไปเข้าห้องน้ำก่อนที่ข่างสนามหญ้าเทียม (มีเด็กๆซ้อมฟุตบอลกันเยอะมาก เสียงเจี้ยวจ้าวกันสนุกสนานทีเดียว) และผมรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ไม่มีโปรแกรมการแข่งขันที่นี่ เพราะเมืองทองต้องไปเยือนสุโขทัย ที่นั่นจึงดูไม่พลุกพล่านผู้คนมาก ผมไม่เคยมาเลยไม่รู้ว่าจะไปติดต่ออะไรยังไงที่ไหนครับ ก็เลยถามพี่คนหนึ่งยืนยืดแข้งยืดขา ออกกำลังกายอยู่ข้างสนามหญ้าเทียม ถามว่าเขาให้เข้าชมสนามหรือเปล่า เขาก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน และชี้ให้ผมไปถามที่ห้องกระจกข้างๆสนามหญ้าเทียมดู ประตูเปิดอยู่และมีคนถือลูกบอลเดินเข้าไปเก็บนั่นดูนะครับ ผมก็เดินไปถาม
เปิดประตูเข้าไปพบพี่ผู้ขายคนหนึ่งนั่งเอนตัวนอนใส่หูฟังเหมือนฟังเพลงในโทรศัพท์ และผู้หญิงอีกประมาณ 2-3 คน กำลังทำงานเอกสารอยู่ ผมจึงถามพี่ผู้ชายคนใส่หูฟังว่า "ขอโทษครับ ผมอยากเข้าไปชมข้างสนามได้หรือเปล่าครับ" เขาก็ถอดหูฟังข้างนึงออกแล้วตอบว่า เข้าไม่ได้ครับ ไม่ให้เข้า จะให้เข้าเฉพาะวันที่มีแข่งขันเท่านั้น ผมก็ เอ่อ .. โอเคครับ แล้วเดินออกมา พี่ A ก็ถามว่าเขาให้เข้ามั้ย ผมบอกไปตามที่เขาบอกไม่ให้เข้า แล้วพี่ A ก็บอกว่า ลองไปขอเขาใหม่ดู เรามาจากต่างจังหวัดและเป็นแฟนบอลทีมนี้ อยากเข้าไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เข้าไปถ่ายรูปแป้บนึงก็ได้ ลองไปขอใหม่ดูสิ อ่ะ ผมก็เข้าไปอีกครั้งหนึ่งแล้วบอกเหมือนที่พี่ A บอกตามนั้น ครั้งนี้เขาทำหน้าเหมือนรำคาญแล้วลุกตัวจากที่เหมือนเอนนอนบนเก้าอี้ฟังเพลงในหูฟัง เปลี่ยนท่ามาหันหน้าเข้าคอมจะท่าทำงาน แล้วบอกผมว่าไม่ให้เข้าเหมือนเดิม ทำหน้าเซ็งๆเหมือนผมไปรบกวนเขาฟังเพลงหรืออย่างไรไม่ทราบ ขอโทษด้วยแล้วกันนะครับ
ผมเดินออกมาแล้วไปที่ช็อปขายของที่ระลึกแทน กะว่าวันนี้จะช็อปเสื้อ ผ้าพันคอ และสินค้าที่ระลึกอีกหลายอย่างเลย ไหนๆก็ไม่ได้เข้าสนามแล้ว พอเดินเข้าช็อปจะมีป้ากับลุงคน 2 คนอยู่ในช็อป ผมเดินดูของไปเรื่อยๆ เห็นมีเสื้อทีมปี 2016 แต่ไม่มีไซต์ที่ผมใส่ได้ เหลือแต่ XL ไซต์อื่นขายหมด ของยังไม่เข้า ผมไปเห็นเสื้อตัวหนึ่งสีขาว เลอะเทอะมาก มีคราบเหลืองๆ ดำๆ ติดอยู่ตามเสื้อและติดอยู่ที่ขอบคอเสื้อ คือสกปรกมากครับ ผมเลยถามป้า ป้าบอกว่านั่นเสื้อเอาไว้ใส่ลอง ....เอ่มม เลอะขนาดนี้ ผมไม่กล้าลองอ่ะ สกปกรกเหมือนผ้าเช็ดพื้นมากครับ เลยถือโอกาสถามป้าว่าเขาให้เข้าสนามไหม
ป้าบอกว่า ให้ไปถามที่ออฟฟิศฝั่งนู้น (ฝั่งที่ผมถามมาเมื่อกี้แหล่ะ)
ผมบอกว่าไปถามมาแล้วแต่เขาไม่ให้เข้าครับ
ป้าก็บอกว่า "เขาไม่ให้เข้าก็คือไม่ให้เข้าสิ จะอะไรมากมาย เราอยู่ฝั่งนี้ในช็อปไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝั่งนู้น ถ้าเขาให้เข้า เขาก็จะให้เข้าเอง เราไม่เกี่ยวกับเขา" อยากเข้าก็รอมาวันแข่ง จะได้เข้าได้
ผมบอกว่า คือผมมาจากต่างจังหวัดไกลมากด้วย ไม่มีโอกาสแบบนั้นหรอกครับ วันนี้มาธุระ เลยถือโอกาสมาครับ อยากไปถ่ายรูปในสนามมาก แต่ไม่เป็นไร ซื้อของดีกว่า คือในใจ คิดว่าอะไรฟะ บอกดีๆก็ได้ ตั้งแต่ผู้ชายในออฟฟิศข้างสนามหญ้าเทียมแล้ว มาเจอมนุษย์ป้าอีก ผมก็ถามดีๆ น้ำเสียงธรรมดา ออกแนวเกรงใจด้วยซ้ำ หรือเห็นผมทำท่าทางเหมือนเกรงใจและเห็นว่ามาจากต่างจังหวัดเหรอ เลยข่มขึ้นเสียงเอา แถมพูดจาไม่มีหางเสียงใส่ลูกค้าเนี่ย ไม่มีลงท้าย ครับ/ค่ะ เลยนะ เจ้าหน้าที่สนามเนี่ย หรือไม่ง้อลูกค้าคนเดียวที่มาจากต่างจังหวัดอย่างผม ผมโกรธนะตอนนั้น แต่เก็บอารมณ์โกรธไว้ มีวุฒิภาวะพอ การแต่งกายผมก็สุภาพนะครับ กางเกงสแล็ค เสื้อเชิ๊ต รองเท้าหนังแท้ ไม่ใช่ชุดเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยอะไรนะ ทำไมถึงมีกิริยาแบบนั้นกับผมไม่ทราบครับ ผมเหยียบขี้หมาเดินเข้าช็อปคุณเหรอ แบบนี้เสียอารมณ์ เสียความรู้สึกมาก
เดินหนีป้ามาเลือกผ้าพันคอแทน ที่แขวนๆอยู่ที่ราวเหล็ก พอเลือกที่ถูกใจได้ ก็ถือเดินมาจะจ่ายเงิน มนุษย์ลุงเดินมาดึงผ้าพันคอออกจากมือผม แล้วเดินไปหยิบกล่องกลมๆ ที่ผมไม่ได้สังเกตุแต่แรก แค่เห็นแว้บๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร ลุงเอาผ้าพันคอจากมือผม ไม่พูดไม่จา ไม่บอกอะไรเลย หยิบกล่องมา แล้วบอกป้ามาคิดเงิน ผมก็ เอ่มม...อะไรอ่ะ บอกผมได้ไหมครับ บริการผมด้วยได้ไหม ว่า นี่เป็นผ้าพันคอไว้โชว์ไว้ให้เลือก อยู่ๆเดินมาดึงออกจากมือผมเฉยเลย มารยาทมีมั้ยครับ เสื้อเซ่อ หมวกเหมิก กูไม่เอาแล้ว เอาผ้าพันคอผืนเดียวนี่แหล่ะ จ่ายเงินแล้วยืนดูรายชื่อนักเตะข้างเคาน์เตอร์แป้บนึงและเดินออกมาเลยครับ เสียความรู้สึก เสียใจ เสียทุกอย่าง ที่จริงว่าจะไม่เอาอะไรแล้ว แต่ไหนๆก็มาแล้ว อีกอย่างผมเชียร์นักเตะ ผมรักนักเตะเมืองทอง รักแฟนบอลเมืองทองทุกคน แต่กับสิ่งที่ผมเจอวันนี้ ไม่รู้จะว่ายังไงนะ นานมากที่ผมจะได้มา กทม และได้มาสนามแห่งนี้อีก ความจริงผมอยากเข้าไปชมการแข่งขันจริงๆมาก อยากเห็นบรรยากาศในสนามมาก เพราะเคยชมแต่ในทีวี ยังไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนั้นเลยจริงๆ มาแล้วไม่ได้เข้าไม่ว่าครับ อาจจะเป็นกฎของที่นี่ ไม่ได้ติดใจครับ และผมไม่ได้เสียความรู้สึกเท่ากับที่ผมได้คุย ได้สัมผัสเจ้าหน้าที่ของที่นี่เลยจริงๆ ฝากถึงสโมสร SCG เมืองทองยูไนเต็ด ด้วย
นี่คือผ้าพันคือที่ผมซื้อมาครับ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ยังรักยังเชียร์เหมือนเดิมครับ อนาคตผมยังจะเสียเงินอุดหนุนสินค้าคุณอีกเยอะครับ แต่ถ้าอนาคตผมเจอแบบนี้อีกก็ไม่แน่ครับ อาจจะเซย์กู๊ดบายก็ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้