เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล
จากการสำรวจจำนวนประชากรสุนัขเมื่อปี 2557 ของสำนักงานปศุสัตว์ทั่วประเทศ พบว่า มีสุนัขในเมืองไทยมากกว่า 8.5 ล้านตัว ในจำนวนนี้เป็นสุนัขจรจัดถึง 700,000 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 370,000.......
http://www.posttoday.com/analysis/report/383721
จากโพสต์ทูเดย์ คือเราฟังข่าวนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเนื้อหาก็ประมาณข่าวโพสต์ทูเดย์ที่เรายกมานี่ล่ะค่ะ เราคิดว่าตัวเลขมันน่าตกใจมากนะคะ และเมืองไทยดูเหมือนไม่มีการจัดการอะไรที่ต้นเหตุเลย อยากให้มีการจัดการเอาผิดผู้เลี้ยงที่ปล่อยปละละเลย การเอาสุนัขไปปล่อยให้เป็นสุนัขจรจัด ฯลฯ เห็นพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ก็ออกมาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติจริงไม่รู้ว่าจะดำเนินการได้ถึงแค่ไหน เพราะการจะมีสัตว์เลี้ยงทุกวันนี้ง่ายเสียเหลือเกิน เคยอ่านหนังสือนิกกับพิมเมืองนอกกว่าจะได้สัตว์มาเลี้ยงสักตัวต้องมีการลงทะเบียน มีการดำเนินการที่ใช้เวลาพอสมควร ที่คิดตรงนี้คือบ้านเราได้แมวมาตัวหนึ่ง เราเองก็รักน้องมาก พี่สาวได้มาจากเพื่อนที่ผสมแมวในบ้าน ได้ลูกมาตัวเดียวและตกมาแก่พี่สาวเรา ซึ่งทำให้เราคิดว่า อีกมุมหนึ่งเมืองไทยจะมีสัตว์เลี้ยงนี่มันช่างง่ายเสียเหลือเกิน ถ้าเขาเจอครอบครัวดี(อย่างครอบครัวเรา ที่เอาใจใส่ดูแลเขาทุกอย่าง ฮี่ๆ)ก็ดีไป แต่ถ้าครอบครัวไม่ดีล่ะ เบื่อก็ทิ้งขว้างเขาจะทำอย่างไร
ทีนี้พอไปดู The secret life of pets เป็นการพูดถึงชีวิตสัตว์เลี้ยงในมหานครนิวยอร์ค ก็เห็นว่าต่างประเทศแม้ว่าคอนโดจะสามารถเลี้ยงสัตว์ได้แต่การจัดการกับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของค่อนข้างเด็ดขาด หรือเราไปญี่ปุ่นครั้งหนึ่งเจอกลุ่มองค์กรหนึ่งนำแมวจรมารอรับคนเลี้ยง ซึ่งเพื่อนบอกว่าถ้าเป็นหมาเขาจะเอาไปกำจัด แต่แมวจะทำหมันรอคนมารับไปเลี้ยงต่อไป แต่เมืองไทยขนาดคอนโดห้ามเลี้ยงสัตว์ก็ยังแอบเลี้ยงอยู่เลย
แล้วเมืองไทยเราล่ะ?
ทุกวันนี้ถ้าเป็นเรื่องการบริจาคทำหมันสุนัขจรจัดเช่นที่ Soidog ทำอยู่ก็บริจาคบ้าง เพราะบอกตรงๆว่าเรากลัวสุนัขจรจัด คือก็ไม่ได้จะไปทำอะไรมันหรอกนะคะ แต่อย่าง7-11ที่มักมีสุนัขจรจัดมานอนขวางประตูคนเดินไปเดินมาไม่หลบเนี่ยเราไม่กล้าเข้าไปนะคะบอกตรงๆกลัวก้าวพลาดไปเหยียบถูกหางหรืออะไรมันเข้าแล้วมันงับเราเอา ถ้าเห็นมานอนนี่ไม่กล้าเดินเข้าไปเลย(ซึ่งพ่อสามีเคยเจอมาเหมือนกันแกไม่เห็นดีว่ามันกัดถูกขากางเกงไม่เข้าเนื้อ) นี่ยังไม่นับพวกมนุษย์ใจบุญเอาลูกชิ้นให้หมาทั้งไม้ แล้วพอมันแทะหมดเหลือไม้แหลมทิ้งตามพื้นใครจะเหยียบใส่ไม่สนอีกนะ
ที่ตั้งกระทู้คือเราว่าปริมาณมันน่าวิกฤตนะคะถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เราอยากเห็นการดำเนินการที่มันเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ที่มาตั้งกระทู้นี่ก็ใจกล้ามากแล้วนะเพราะก็เคยผ่านๆตามาบ้างสำหรับประเด็นเรื่องแนวๆนี้ในพันทิปที่สองฝ่าย คุยกันดีๆเนาะ^^
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ
วิกฤตสุนัขจรจัด
จากการสำรวจจำนวนประชากรสุนัขเมื่อปี 2557 ของสำนักงานปศุสัตว์ทั่วประเทศ พบว่า มีสุนัขในเมืองไทยมากกว่า 8.5 ล้านตัว ในจำนวนนี้เป็นสุนัขจรจัดถึง 700,000 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 370,000.......
http://www.posttoday.com/analysis/report/383721
จากโพสต์ทูเดย์ คือเราฟังข่าวนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเนื้อหาก็ประมาณข่าวโพสต์ทูเดย์ที่เรายกมานี่ล่ะค่ะ เราคิดว่าตัวเลขมันน่าตกใจมากนะคะ และเมืองไทยดูเหมือนไม่มีการจัดการอะไรที่ต้นเหตุเลย อยากให้มีการจัดการเอาผิดผู้เลี้ยงที่ปล่อยปละละเลย การเอาสุนัขไปปล่อยให้เป็นสุนัขจรจัด ฯลฯ เห็นพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ก็ออกมาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติจริงไม่รู้ว่าจะดำเนินการได้ถึงแค่ไหน เพราะการจะมีสัตว์เลี้ยงทุกวันนี้ง่ายเสียเหลือเกิน เคยอ่านหนังสือนิกกับพิมเมืองนอกกว่าจะได้สัตว์มาเลี้ยงสักตัวต้องมีการลงทะเบียน มีการดำเนินการที่ใช้เวลาพอสมควร ที่คิดตรงนี้คือบ้านเราได้แมวมาตัวหนึ่ง เราเองก็รักน้องมาก พี่สาวได้มาจากเพื่อนที่ผสมแมวในบ้าน ได้ลูกมาตัวเดียวและตกมาแก่พี่สาวเรา ซึ่งทำให้เราคิดว่า อีกมุมหนึ่งเมืองไทยจะมีสัตว์เลี้ยงนี่มันช่างง่ายเสียเหลือเกิน ถ้าเขาเจอครอบครัวดี(อย่างครอบครัวเรา ที่เอาใจใส่ดูแลเขาทุกอย่าง ฮี่ๆ)ก็ดีไป แต่ถ้าครอบครัวไม่ดีล่ะ เบื่อก็ทิ้งขว้างเขาจะทำอย่างไร
ทีนี้พอไปดู The secret life of pets เป็นการพูดถึงชีวิตสัตว์เลี้ยงในมหานครนิวยอร์ค ก็เห็นว่าต่างประเทศแม้ว่าคอนโดจะสามารถเลี้ยงสัตว์ได้แต่การจัดการกับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของค่อนข้างเด็ดขาด หรือเราไปญี่ปุ่นครั้งหนึ่งเจอกลุ่มองค์กรหนึ่งนำแมวจรมารอรับคนเลี้ยง ซึ่งเพื่อนบอกว่าถ้าเป็นหมาเขาจะเอาไปกำจัด แต่แมวจะทำหมันรอคนมารับไปเลี้ยงต่อไป แต่เมืองไทยขนาดคอนโดห้ามเลี้ยงสัตว์ก็ยังแอบเลี้ยงอยู่เลย
แล้วเมืองไทยเราล่ะ?
ทุกวันนี้ถ้าเป็นเรื่องการบริจาคทำหมันสุนัขจรจัดเช่นที่ Soidog ทำอยู่ก็บริจาคบ้าง เพราะบอกตรงๆว่าเรากลัวสุนัขจรจัด คือก็ไม่ได้จะไปทำอะไรมันหรอกนะคะ แต่อย่าง7-11ที่มักมีสุนัขจรจัดมานอนขวางประตูคนเดินไปเดินมาไม่หลบเนี่ยเราไม่กล้าเข้าไปนะคะบอกตรงๆกลัวก้าวพลาดไปเหยียบถูกหางหรืออะไรมันเข้าแล้วมันงับเราเอา ถ้าเห็นมานอนนี่ไม่กล้าเดินเข้าไปเลย(ซึ่งพ่อสามีเคยเจอมาเหมือนกันแกไม่เห็นดีว่ามันกัดถูกขากางเกงไม่เข้าเนื้อ) นี่ยังไม่นับพวกมนุษย์ใจบุญเอาลูกชิ้นให้หมาทั้งไม้ แล้วพอมันแทะหมดเหลือไม้แหลมทิ้งตามพื้นใครจะเหยียบใส่ไม่สนอีกนะ
ที่ตั้งกระทู้คือเราว่าปริมาณมันน่าวิกฤตนะคะถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เราอยากเห็นการดำเนินการที่มันเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ที่มาตั้งกระทู้นี่ก็ใจกล้ามากแล้วนะเพราะก็เคยผ่านๆตามาบ้างสำหรับประเด็นเรื่องแนวๆนี้ในพันทิปที่สองฝ่าย คุยกันดีๆเนาะ^^
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ