ขอระบายหน่อยค่ะ เหนื่อยใจกับครอบครัวแฟน

เราแต่งงาน และย้ายเข้าไปอยู่บ้านแฟน แต่ยังไม่ลูกกันค่ะ
แฟนให้เราเข้ามาอยู่ที่บ้านเค้าก่อน เพื่อรอซื้อบ้านของเรา (ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่ มีแค่คุยๆกัน)
ครอบครัวแฟนเราเป็นครอบครัวใหญ่ แฟนเราเป็นพี่ชายคนโต มีน้องชาย 2 คน อายุ 35 และ 32
ซึ่งน้องชายเค้าอายุมากกว่าเราอีกค่ะ แต่ยังทำเหมือนเป็นเด็กๆเลย คืออะไรๆ ก็แฟนเราเป็นคนรับผิดชอบตลอด แก้ปัญหาให้ตลอด
ตั้งแต่กวาดบ้าน ถูกบ้าน รดน้ำต้นไม้ ให้อาหารหมา ซักผ้า ล้างห้องน้ำ เตรียมอาหารให้คนในบ้านทาน รวมถึงปัญหาจุกจิก ร้อยแปดพันเก้า
ซึ่งเราเคยถามเค้านะคะว่าทำไมไม่บ่นน้องให้ช่วยกันทำบ้าง เค้าบอกว่าถึงพูดไปก็มีปัญหากันอยู่ดี เค้าทำเองดีกว่า จะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน
มันเลยกลายมาเป็นวัฏจักรจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งเรามาเจอแบบนี้ครั้งแรกก็อึ้งค่ะ เพราะที่บ้านเราเป็นครอบครัวตำรวจค่ะ จะสอนให้ช่วยเหลือตัวเอง อย่าทำตัวเป็นภาระคนอื่น
ต้องมีระเบียบ ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งต้องระเบียบกว่าผู้ชาย และถึงจะเป็นหญิงเราก็ต้องแข็งแกร่ง
พอเราเห็นแฟนเราทำทุกอย่างเองในบ้านบางทีก็เหนื่อยใจแทน บางทีก็เข้าไปช่วยทำบ้างค่ะ
บางทีกลับเข้าบ้านมา เจอของเล่นหลานเค้ากระจายเต็มบ้าน ซึ่งเราอยานี่อยากจะกรี๊ดดดดดมากค่ะ
ทั้งๆที่คนในบ้านก็อยู่ แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจอะไรเลยค่ะ บางคนนอนดูทีวี บางคนนอนเล่นโทรศัพท์ ปล่อยเฉยเมยมาก
หรือกองเสื้อผ้าที่ไม่คิดจะเก็บเข้าที่ก็สุมกองเป็นภูเขาก็มี
แฟนรู้เลยค่ะว่าเราไม่โอเค แต่ก็ได้บอกให้เราทนๆหน่อยนะ ไอ้ที่ว่าทนนี่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะให้ทนไปถึงเมื่อไหร่
สุดท้าย....แฟนเราต้องมาตามเก็บให้ค่ะ แต่แอบเก็บแบบไม่ให้เราเห็น หรือบางทีเราก็แกล้งไม่เห็นเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลากัน เฮ้ออออออ

เรารู้ว่าเราเป็นแค่คนอาศัย พวกเค้าใช้ชีวิตแบบนี้มานาน มาเป็นปกติ
จะให้คนอย่างเรา ซึ่งเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้มาเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ถ้าเราอยู่ได้ ทนได้ ก็คือเรารับได้
แต่เราบอกเลยว่าเราไม่โอเคอย่างมาก ซึ่งแฟนก็รับรู้ดี แต่แฟนก็บอกให้ทนอีกหน่อย (มาตลอด)
พอเรากลับถึงบ้าน เราก็รีบเข้าห้องเลยค่ะ ไม่อยากมาเจอะเจอความวุ่นวายอะไรแบบนี้
บอกตรงๆ เวลาเราเจอของกระจัดกระจายในบ้าน แล้วเราหงุดหงิดมากค่ะ จะว่าเราโรคจิตก็ได้
แต่มันน่าหงุดหงิดกว่า ตรงที่ว่าคนในบ้าน ที่อาศัยร่วมกันไม่คิดจะทำอะไรเลย คนทำก็ทำจนตายค่ะ

เรารอเวลาที่จะมีบ้านของเรา ซึ่งก็ไม่มีวี่แววเลย พอขู่เค้า ถามว่าเรื่องบ้านของเราจะยังไง
เค้าก็ว่าก็กำลังดูๆ คิดไว้เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากย้าย สงสารแม่ อยากดูแลแม่ ย้ายบ้านไปใครจะดูแลบ้าน บลาๆๆๆๆ (พ่อเค้าเสียแล้ว)
(ซึ่งบ้านที่อยู่ปัจจุบัน แม่เค้าบอกยกให้น้องชายคนเล็กเค้าค่ะ พูดในวงทานข้าวเลย
คือ ต่อให้ดูแลดี ทำดีแค่ไหน เสียเงินต่อเติม เค้าก็ไม่มีวันเป็นเจ้าของบ้านค่ะ)
ซึ่งเราเคยขอเลิกกับเค้านะคะ ด้วยเหตุผลพวกนี้แหละ เพราะเราไม่โอเคเลยจริงๆ
เรายอมพาตัวเองออกมา ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่ต้องมาจิตเสียกับเรื่องพวกนี้
สุดท้ายเค้าก็มาพูดดี จนเราก็ใจอ่อนทุกครั้งไป ตัดใจไม่ขาดเลยจริงๆค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ
หรือว่ามันเป็นหน้าที่ของพี่ชายคนโต ที่ควรต้องทำคะ เราจะได้เข้าใจไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่