เที่ยวไป ปันน้ำใจ...

...ส่งต่อน้ำใจ ส่งต่อความช่วยเหลือ ส่งต่อความสุข..อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
     30 พฤษภาคม
    07.00 น. ตามเข็มนาฬิกาบนข้อมือและบนหน้ารถ ผู้เขียนและเพื่อนอีกสองคน กำลังเดินทางไปสู่เมืองโคราช ซึ่งผู้เขียนเองไม่ทราบรายละเอียดของทริปนี้มากนัก เพียงแต่ได้รับการชักชวนจากเพื่อน คือคุณฮัท อภิรักษ์ ให้ไปร่วมเก็บภาพบรรยากาศในงานกับแก่ด้วย ที่อำเภอด่านขุน โดยมีน้องๆนักศึกษา ชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท มทส. เป็นกำลังหลักในการทำกิจกรรมในครั้งนี้
       
    ณ เวลานี้องศาความร้อนและความแล้งทุกพื้นที่ของประเทศไทยมีความเท่าเทียมกัน (HA-HA)  แต่ความหิวโหยและความอดอยากมีไม่เท่ากันในบางพื้นที่
11.05 น.ลำตะลอง คือที่แรกที่พวกเราแวะลงไปดูบริเวณพื้นที่กักเก็บน้ำท้ายเขื่อน จะเห็นได้ว่าท้ายเขื่อนไม่มีน้ำเลย รถสามารถขับลงไปได้ ตะกอนดินมีหญ้าปกคลุม
คนเลี้ยงสัตว์บอกดี...มีหญ้าให้วัว ควาย ได้อิ่มท้อง
แต่ไม่ดี..! ถ้าแล้งมากกว่านี้   เพราะคนไม่มีน้ำปลูกข้าวเลี้ยงปากท้อง  ไซบีเรียนฮัสกี้
     
     
     พอออกจากเขื่อนลำตะลอง พวกเราก็เดินทางต่อไปที่เขื่อนลำพระเพลิง
14.15 น. จากการประเมินด้วยสายตา น้ำในเขื่อนนั้นค่อยข้างแล้งเขื่อน ถึงแม้วันที่พวกไปจะครึ้มเมฆ  ฝนริน ในบางพื้นที่
รินในที่นี้  หมายถึง รินไม่พอเปียกใบตอง (HA-HA)
     
     
     31 พฤษภาคม
    11.43 น. ด่านขุนทดยามนี้ แล้งทั้งฝนและน้ำ ตะวันค่อนครึ่งหัวยังแผดเผายอดอ่อนของพืชผักชาวไร่ ที่ฝนทิ้งช่วงมาหลายเวลา หลายวัน หลายอาทิตย์หรืออาจจะหลายเดือน หลายปีให้หลังมานี้  ความแห้งแล้งเสมือนเป็นญาติกับเกษตรกร ผู้ที่ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน
    ด่านขุนทด เมืองเทวดาเดินดิน ผู้เขียนเองก็พึ่งมาเป็นครั้งแรก และครั้งแรกกับวัดบ้านไร่ วัดที่มีตำนานให้คนพูดถึงอย่างไม่รู้จบ...อมยิ้ม17
    
    

    12.30 น.รถหันหัวกลับ เพื่อเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายในการมาครั้งนี้ โรงเรียนบ้านกุดโดก ด่านขุนทด ที่ๆไม่เคยมา และที่ๆไม่เคยไป สำหรับนักเดินทางยุคนี้ ไม่ได้แหงนมองดาวบนฟ้า หรือจอดถามพระบิณฑบาตร (HA-HA) เพียงแค่เปิด GPS นำทาง ระบุชื่อตำแหน่ง หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือจังหวัด มันจะบอกเส้นทางให้เรา เพื่อนเรา และอีกหลายเราไปสู่จุดหมายได้โดยไม่ต้องสงสัย
    เมียหลวงและอีกหลายเมียหลวงเคยใช้วิธีนี้ตามผัวเธอกลับบ้าน.....(HA-HA)
    โลกทุกวันนี้ไม่ได้หมุนบนล้อเกวียนเหมือนในอดีต แต่เป็นยุค เจเนอเรชั่น ซี (Generation Z) โลกที่มีการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี ทุกลมเข้าออกของการหายใจ แม้แต่เวลานอน มันยังหลับคาเทคโนโลยี....
    13.00 น. เมฆบนฟ้าเหนืออำเภอด่านขุนทด ครึ้มทะมึน ลมหอบเอาละอองฝุ่นและไม้ใบแห้งปลิดปลิว กระเจิงกระจาย เหมือนบ้าคลั่งที่อุตอู้มานาน  และแล้วฝนเม็ดแรกก็หยดลงหน้ากระจกรถ และอีกหลายเม็ดในเวลาต่อมา
    GPS บอกกับพวกเราว่า อีกหลายกิโลเมตรกว่าจะถึงจุดหมาย ฝนห่านี้ทำให้เราชื่นหัวใจไม่น้อยไปกว่าคนด่านขุนทด กล้าต้นมันอ่อนๆที่พึ่งปักไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน คงพอได้แทงยอดบงใบ
    13.20 น.ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง “โรงเรียนบ้านกุดโดก” หมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางไร่มันสัปหลัง ที่มองออกไปได้ไกลสุดลูกหู ลูกตา ผู้เขียนยังแอบอิจฉาในใจคนที่นี้ว่า ในยามค่ำคืนคงดืนดาดด้วยแสงดาว และระงมด้วยเสียงเรไร
โรงเรียนบ้านกุดโดก ยามนี้ชุมฉ่ำไปด้วยน้ำที่ฝนพึ่งหายละอองไปไม่นาน.....ฝนตก
     
     
ความชุ่มฉ่ำของเม็ดฝน มาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำของน้ำใจ “น้ำใจสิงห์” ที่ไม่เคยเหือดแห้งไปจากสังคมไทย
    เอ็งดีใจทำไหม? (ปากถาม)
    ก็ชาวบ้านได้มีน้ำกินไง (ใจตอบ)
    แล้วเอ็งได้อะไร? (ปากถาม)
    ปากเอ็งมันมืดบอด มองไม่เห็นหรอก  บ่เห็นติ น้ำใจสิงห์มาเต็มคันรถ (ใจตอบ)
       
       
       การรอคอยแม้เพียงนิดเดี่ยว ก็ดูเหมือนเนินนาน สำหรับคนคอย ความอดอยากและหิวกระหาย มันน่ากลัวกว่าคุกของกฎหมายบ้านเมือง ที่หลายคนและอีกหลายคนไม่เคยเข้าใจ หรือไม่อยากเข้าใจ....
       
       
   ...แต่น้ำใจและรอยยิ้มไม่เคยเหือดแห้งไปจากสังคมคน คนที่มองคนเป็นคน แม้เพียงรอยยิ้มจากคนที่ไม่รู้จัก ก็ทำเราชุ่มชื่นความรู้สึก...
       
       
   ....ความสุขของรอยยิ้ม จากการให้ มีอยู่ทุกที่...ทุกเวลา  อมยิ้ม01
       
       
       
..........อมยิ้ม02
      ขอบคุณ  น้ำใจ “สิงห์” อมยิ้ม29
     
      ขอบคุณ  น้ำใจ “น้องๆนักศึกษา ชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท มทส.” อมยิ้ม29              
      ขอบคุณ รอยยิ้ม คนกุดโดก อมยิ้ม29
     
     
........อมยิ้ม26อมยิ้ม26อมยิ้ม29อมยิ้ม29
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่