สวัสดีค่ะพันทิปเปอร์ทุกท่าน
พอดีมีโอกาสได้ไปประเทศจีนมา เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์จากทริปว่าด้วยเรื่องการเดินทางในเมืองกวางโจวค่ะ
เอาเรื่องถนนหนทางก่อน
ถนนในกวางโจวส่วนใหญ่จะมีประมาณ 2 เลน และการข้ามถนนที่นี่เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจทุกครั้ง รถบ้านเค้าพวงมาลัยซ้าย ดังนั้นเราต้องมองซ้ายก่อนจะข้าม ที่จริงเค้าก็มีสัญญาณคนข้ามล่ะนะ แต่จะบอกว่ามันไม่ค่อยช่วยอะไร เพราะมีจักรไซค์ (จักรยาน+มอเตอร์ไซค์) ที่พร้อมจะแหกทุกกฎของการขับขี่บนท้องถนน
นอกจากนี้ ฟุตบาธคือพื้นที่ใช้ร่วมกันระหว่างคนเดินและคนขี่อีจักรไซค์นี่ล่ะค่ะ เวลาเดินนอกจากจะต้องระวังอาวุธชีวภาพที่ถูกพ่นออกมาจากผู้ร่วมทางท่านอื่น ๆ แล้ว ก็ยังต้องระวังอิจักรไซค์นี่แหละค่ะ
อ้อ ที่นี่มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างเหมือนที่ประเทศไทยด้วย แต่เจ๋งกว่าตรงที่ว่า ในวันฝนตกมอเตอร์ไซค์ที่นี่จะมีร่มดัดแปลงที่จะกางยื่นไปเผื่อผู้โดยสาร พี่วินที่นี่ (เรียกวินก็จริงแต่เค้าไม่มีเสื้อเบอร์) มีวิธีการเรียกลูกค้าที่สุดแสนจะน่ารำคาญไปสักหน่อย ในกรณีที่พี่แกขี่อยู่ริมถนนและเจอคนเดินอยู่บนฟุตบาธ พี่แกจะกดแตรยาว ๆ หลาย ๆ ครั้ง แถมยังขี่ตามตื๊อไปเกือบตลอดทาง พอสุดถนนมีการเลี้ยวแล้วย้อนศรกลับมาใหม่แล้ววนลูปเดิมค่ะ ถ้าเป็นตรงหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน พี่วินจะเอาพาหนะของแกขึ้นไปจอดเทียบหน้าบันไดกันเลย และตะโกนเรียก (แย่ง) ลูกค้ากันด้วยเสียงดังในแบบฉบับคนจีน เสียงก็จะล้งเล้งช้งเช้งกันมาก กี่เดซิเบลไม่รู้รู้แต่อินี่หนวกหู ดังนั้น เวลาที่เราเดินออกมาจากสถานี ก็จะติดขัดอยู่ตรงนี้พอประมาณกว่าจะหลุดออกมาได้
นอกจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็จะมีแท็คซี่ ซึ่งมีวิธีการเรียกลูกค้าแบบเดียวกันคือขับตามและกดแตรยาว ๆ ต่างกับมอเตอร์ไซค์ตรงที่ไม่เอารถขึ้นไปจอดรอหน้าบันไดเท่านั้นแหละ
รถเมล์ เป็นพาหนะที่ขับได้ซิ่งพอ ๆ กับที่ไทยและมักจะกดแตรบ่อยมาก ๆ สาเหตุเพราะ (กรุณาย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าแรกตรงสองบรรทัดสุดท้าย)
รถใต้ดิน รถใต้ดิน รถใต้ดิน รถใต้ดิน (พิมพ์ซ้ำถำไม) เป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้เฉลี่ย 99.97% (.2%คือเดินและ.1%คือนั่งแท็คซี่) รถใต้ดินเป็นการเดินทางที่ถูกที่สุดในกวางโจว ยิ่งถ้าใช้บัตรหยางเฉิงต่ง (ใส่สำเนียงจีนเพื่อความอรรถรสนะตัวเอง) จะมีส่วนลดสูงถึง 40% เลย ดังนั้นจึงเป็นพาหนะที่คนใช้บริการเยอะมากกกกกกกกกกกกก แน่นอนว่าในแต่ละตู้โดยสารคนก็จะแน่นมากกกกกกกกกกกกก (ใส่กอไก่ไปให้เยอะ ๆ) ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้าคนไปทำงานกับช่วงเย็นที่คนเลิกงานนี่ คูณสามคูณสี่เข้าไปเลยค่ะ

การซื้อบัตรโดยสารก็เหมือนรถไฟใต้ดินที่ไทยนั่นแหละ เลือกสถานีปลายทางแล้วก็หยอดเงิน ตู้รับแบงค์ 10 หยวนกับ 5 หยวน แบงค์ใหญ่กว่านั้นไม่รับ พอหยอดเรียบร้อยก็จะได้เหรียญโดยสารเป็นพลาสติคสีเขียว เวลาเข้าก็สแกน พอจะออกก็หยอดคืน แต่ถ้าเป็นบัตรหยางเฉิงต่ง (อย่าลืมแอคเซ่นจีน) ก็ตึ๊ดเข้าตึ๊ดออกได้เลย
พอเข้าไปแล้วก็ดูว่าเราจะไปสถานีไหนแล้วก็ดูป้ายบอกทาง จากนั้นก็เดินไปตามป้ายเท่านั้นเอง ระบบเหมือนกับของประเทศไทยเลย แค่ว่าของเค้ามีตั้ง 8 สายเพราะฉะนั้นก็จะมีหลายสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อ ดังนั้นดูป้ายดี ๆ นิดนึง
ที่พื้นทางเข้าขบวนรถก็จะมีลูกศรชี้บอก
ตรงกลาง⬇️⬇️⬇️ คือให้คนในขบวนเดินออก
ด้านข้างซ้าย-ขวา↖️↖️↖️↗️↗️↗️คือให้คนเดินเข้า
แต่เดี๋ยวก่อน มันมีไว้เกร๋ ๆ เท่านั้นแหละย่ะ พอรถไฟมาปุ๊บพี่จีนก็แย่งกันเข้าดันกันออกให้วุ่นไปหมด

คือมั่วเมี่ยงั่วเงี่ยมากขอบอก ขึ้นรถไฟทีนี่พลังชีวิตโดนทำลายไป 77.77% เกือบไม่รอด คือคนเบียดกันยังพอรับไหว แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มากับคนทำเอาแทบสิ้น
แค่คิดก็ขมคอละ เอาเป็นว่าใครจะไปกวางโจวก็ลองเลือกการเดินทางที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ (ใส่แอคเซ่นอเมริกันหรืออังกฤษด้วยความกระแดะเลเวลสูงสุดจะเริ่ดมาก) กันดูนะคะ
ปล : ไม่มีรูปค่ะ แค่จะเอาตัวเองให้รอดจากการใช้ถนนก็ลำบากแล้ว

แยกวัดใจ รถไฟ รถเมล์ พีวินสุดเท่ห์ที่กวางโจว
พอดีมีโอกาสได้ไปประเทศจีนมา เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์จากทริปว่าด้วยเรื่องการเดินทางในเมืองกวางโจวค่ะ
เอาเรื่องถนนหนทางก่อน
ถนนในกวางโจวส่วนใหญ่จะมีประมาณ 2 เลน และการข้ามถนนที่นี่เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจทุกครั้ง รถบ้านเค้าพวงมาลัยซ้าย ดังนั้นเราต้องมองซ้ายก่อนจะข้าม ที่จริงเค้าก็มีสัญญาณคนข้ามล่ะนะ แต่จะบอกว่ามันไม่ค่อยช่วยอะไร เพราะมีจักรไซค์ (จักรยาน+มอเตอร์ไซค์) ที่พร้อมจะแหกทุกกฎของการขับขี่บนท้องถนน
นอกจากนี้ ฟุตบาธคือพื้นที่ใช้ร่วมกันระหว่างคนเดินและคนขี่อีจักรไซค์นี่ล่ะค่ะ เวลาเดินนอกจากจะต้องระวังอาวุธชีวภาพที่ถูกพ่นออกมาจากผู้ร่วมทางท่านอื่น ๆ แล้ว ก็ยังต้องระวังอิจักรไซค์นี่แหละค่ะ
อ้อ ที่นี่มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างเหมือนที่ประเทศไทยด้วย แต่เจ๋งกว่าตรงที่ว่า ในวันฝนตกมอเตอร์ไซค์ที่นี่จะมีร่มดัดแปลงที่จะกางยื่นไปเผื่อผู้โดยสาร พี่วินที่นี่ (เรียกวินก็จริงแต่เค้าไม่มีเสื้อเบอร์) มีวิธีการเรียกลูกค้าที่สุดแสนจะน่ารำคาญไปสักหน่อย ในกรณีที่พี่แกขี่อยู่ริมถนนและเจอคนเดินอยู่บนฟุตบาธ พี่แกจะกดแตรยาว ๆ หลาย ๆ ครั้ง แถมยังขี่ตามตื๊อไปเกือบตลอดทาง พอสุดถนนมีการเลี้ยวแล้วย้อนศรกลับมาใหม่แล้ววนลูปเดิมค่ะ ถ้าเป็นตรงหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน พี่วินจะเอาพาหนะของแกขึ้นไปจอดเทียบหน้าบันไดกันเลย และตะโกนเรียก (แย่ง) ลูกค้ากันด้วยเสียงดังในแบบฉบับคนจีน เสียงก็จะล้งเล้งช้งเช้งกันมาก กี่เดซิเบลไม่รู้รู้แต่อินี่หนวกหู ดังนั้น เวลาที่เราเดินออกมาจากสถานี ก็จะติดขัดอยู่ตรงนี้พอประมาณกว่าจะหลุดออกมาได้
นอกจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็จะมีแท็คซี่ ซึ่งมีวิธีการเรียกลูกค้าแบบเดียวกันคือขับตามและกดแตรยาว ๆ ต่างกับมอเตอร์ไซค์ตรงที่ไม่เอารถขึ้นไปจอดรอหน้าบันไดเท่านั้นแหละ
รถเมล์ เป็นพาหนะที่ขับได้ซิ่งพอ ๆ กับที่ไทยและมักจะกดแตรบ่อยมาก ๆ สาเหตุเพราะ (กรุณาย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าแรกตรงสองบรรทัดสุดท้าย)
รถใต้ดิน รถใต้ดิน รถใต้ดิน รถใต้ดิน (พิมพ์ซ้ำถำไม) เป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้เฉลี่ย 99.97% (.2%คือเดินและ.1%คือนั่งแท็คซี่) รถใต้ดินเป็นการเดินทางที่ถูกที่สุดในกวางโจว ยิ่งถ้าใช้บัตรหยางเฉิงต่ง (ใส่สำเนียงจีนเพื่อความอรรถรสนะตัวเอง) จะมีส่วนลดสูงถึง 40% เลย ดังนั้นจึงเป็นพาหนะที่คนใช้บริการเยอะมากกกกกกกกกกกกก แน่นอนว่าในแต่ละตู้โดยสารคนก็จะแน่นมากกกกกกกกกกกกก (ใส่กอไก่ไปให้เยอะ ๆ) ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้าคนไปทำงานกับช่วงเย็นที่คนเลิกงานนี่ คูณสามคูณสี่เข้าไปเลยค่ะ
พอเข้าไปแล้วก็ดูว่าเราจะไปสถานีไหนแล้วก็ดูป้ายบอกทาง จากนั้นก็เดินไปตามป้ายเท่านั้นเอง ระบบเหมือนกับของประเทศไทยเลย แค่ว่าของเค้ามีตั้ง 8 สายเพราะฉะนั้นก็จะมีหลายสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อ ดังนั้นดูป้ายดี ๆ นิดนึง
ที่พื้นทางเข้าขบวนรถก็จะมีลูกศรชี้บอก
ตรงกลาง⬇️⬇️⬇️ คือให้คนในขบวนเดินออก
ด้านข้างซ้าย-ขวา↖️↖️↖️↗️↗️↗️คือให้คนเดินเข้า
แต่เดี๋ยวก่อน มันมีไว้เกร๋ ๆ เท่านั้นแหละย่ะ พอรถไฟมาปุ๊บพี่จีนก็แย่งกันเข้าดันกันออกให้วุ่นไปหมด
แค่คิดก็ขมคอละ เอาเป็นว่าใครจะไปกวางโจวก็ลองเลือกการเดินทางที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ (ใส่แอคเซ่นอเมริกันหรืออังกฤษด้วยความกระแดะเลเวลสูงสุดจะเริ่ดมาก) กันดูนะคะ
ปล : ไม่มีรูปค่ะ แค่จะเอาตัวเองให้รอดจากการใช้ถนนก็ลำบากแล้ว