แม่ค้าออนไลน์ พูดจาแบบนี้ก็ได้หรอคะ? #อุธาหรณ์สอนใจผู้สอบถาม

*อันนี้ยืมไอดีเพื่อนมาลงนะคะ*
   
       เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนเราส่งรูปจากไอจีมาให้ดูว่า เห้ยยยย อันนี้น่ารักมากแกรร ชั้นอยากได้ประมาณนี้ โดยสินค้านั้นคือ กระต่ายesther เป็นตุ๊กตามาพร้อมกับผ้าห่มสีชมพูฟรุ้งฟริ้งสุด มีปักลายesther เช่นกัน มาพร้อมราคาที่ถูกแสนถูก 6xx- ตามรูปนี้ค่ะ (รูปนี้คือเราแคปจากทางโทรศัพท์เราไปถามเองนะคะ)


โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบกระต่ายตัวนี้อยู่แล้ว และติดตามไอจีของคนวาดการ์ตูนตัวนี้ เราเลยมีความรู้สึกว่าหน้าตามันแปลกๆนิดนึงแบบมีความไม่คุ้นตา
แต่ด้วยความที่เพื่อนอยากได้ เลยอยากซื้อให้มันเป็นของขวัญ เลยเป็นที่มาของเรื่อง

ต่อจากนี้เป็นบทสนทนาระหว่างเรากับแม่ค้าผู้เป็นเจ้าของร้านนะคะ เรื่องเกิดเมื่อวันพุธที่ 7 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา

อันนี้คือเมื่อเพื่อนส่งมาว่าอยากได้เราเลยส่งไปถามก่อนนะคะ เพราะอย่างที่เราบอกว่าหน้าตามันแปลกๆ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่4

แต่ก็ไม่ได้คำตอบค่ะ โดยที่แม่ค้าก็อัพไอจีเรื่อยๆหลังจากที่เราถามไป แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร อาจจะตกหล่น

ต่อมา เราเห็นโพสรูปนี้แล้วเขียนว่าพร้อมส่งเลยลองทักไปอีกรอบค่ะ

โดยที่แม่ค้าตอบทันทีนะคะ สังเกตจากเวลาได้ ทีนี้เราเลยถามคำถามเดิมจากทีแรกว่าความจริงแล้วมันคือยังไง? แท้? กลับได้คำตอบแบบนี้ค่ะ

(เอาตามความจริงแล้ว เราก็ไม่ทราบนะคะ ว่ามันมีของปลอมมั้ย แต่แค่รู้สึกว่าหน้าตามันแปลกๆ พิลึก)

ตอนนั้นในใจเราก็ไม่คิดว่าจะมีของปลอม เลยถามต่อเพื่อเป็นความมั่นใจในการซื้อ
แต่ก็ได้คำตอบที่ไม่คาดคิดค่ะ... คือ ณ เวลานั้นพร้อมอุดหนุนนะคะ แต่ตอนนั้นบอกตรงว่างงมาก


แม่ค้าได้ตอบเรามาเป็นเอสเส ชี้แจงเหตุผลแนวคิดว่าอะไร ยังไง บลาๆๆๆ แต่เราก็ยังไม่ได้คำตอบในสิ่งที่เราถามไปในตอนแรก
และมันมีประโยคที่เราอ่านแล้ว รู้สึกเกิดข้อสงสัยมากค่ะ ว่า
การถามว่าแท้มั้ย? เป็นการดูถูก? คนที่ยังไม่เคยซื้อกันก็ยังไม่เรียกว่าลูกค้านาจา?
โดยส่วนตัวเราเคยขายของออนไลน์อยู่พักนึงสนุกๆ ทุกคนที่เข้ามาสอบถามเราถือว่าเป็นลูกค้าที่สนใจในตัวสินค้าเรา
และเราพร้อมจะตอบทุกคำถามตรงๆ เพื่อความสบายใจในการซื้อขายค่ะ
แต่ไม่ทราบว่าแนวคิดของแม่ค้า-พ่อค้า ส่วนมากเป็นยังไง ถ้าคิดแบบนี้ทีหลัง ผู้สอบถาม อย่างเราคงต้องระวังคำพูดให้มากขึ้น

ทีนี้เราเลยตอบไปแบบนี้ บอกตามตรงไม่ได้เป็นคนอารมณ์เย็น แต่อยากคุยด้วยเหตุผลมากกว่า อยากทราบข้อเท็จจริง


นางก็ตอบกลับมาว่า ไม่มีใครว่าดิฉันได้แน่นอนค่ะ มีความสูงส่งมากค่ะคุณพี่ คุณน้องนับถือ ยอมใจ
เราเลยตอบนางกลับไปชี้แจงเหตุผลที่ถาม ด้วยตอนนั้นคิดว่าคำพูดเราสุภาพและใจเย็นสุดแล้ว


       แต่คำตอบที่ได้มา มันทำให้รู้สึกไม่น่าสุภาพและใจเย็นด้วยเลยค่ะ ยิ้ม

มันผ่านมาแล้วจากวันที่ถามตอนแรกตั้งหลายวันละเนอะ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร ไม่ใช่เมื่อวานนะคะ
วางถุงกาวแปบนะคะคุณพี่ ลืมวันลืมคืนกันหมดละค่ะ


สุดท้ายนี้เรื่องนี้แม่ค้าสอนให้รู้ว่าเรายังมีบุญ (หรือกรรม) ที่ได้คุยกับแม่ค้า
เป็นพระคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้เลยค่ะ อิอิ แล้วถ้าอยากซื้อของร้านคุณพี่เค้า ซื้อเลยนะคะ
อย่ามาสอบถาม คุณไม่ใช่ลูกค้าดิฉันค่ะ จำไว้ด้วยนะคะพวกแกร ไม่งั้นถือว่าเป็นตัวปัญหาระดับภูมิภาค
นี่แหละค่ะ #อุธาหรณ์สอนใจผู้สอบถาม เค้าไม่เรียกลูกค้านาจาาาาาาา แฮปปี้
ถ้าแม่ค้ามาอ่านเจอนะคะ ทุกคนมีวิจารณญาณค่ะ ตามที่แม่ค้าบอกเนอะ หัวเราะ

*ขอเพิ่มเติมนะคะ เราไม่ได้คิดว่าตัวเองถูก ตั้งแต่แม่ค้าบอกว่าไม่สบายใจไม่ต้องซื้อ
เราเองก็ตื้อที่อยากได้คำตอบเพราะอยากซื้อให้เพื่อน แต่เราแค่คิดว่าทำไมถึงตอบคำถามไม่ได้คะ ในสิ่งที่เราถามไป
ผู้บริโภคนั้นไม่มีสิทธิที่จะรู้หรอคะ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ขายหรอคะ ที่จะต้องให้ข้อเท็จจริง
ผู้สอบถามบางท่านอาจจะไม่ได้คิดมากเรื่องแท้หรือไม่แท้ก็ได้ค่ะ แต่การที่เราถามและได้คำตอบแบบนี้คือสิ่งที่เราสมควรจะได้รับหรอคะ
แต่ถ้าผู้ขายบอกเราตรงๆว่าไม่สะดวกที่จะตอบในสิ่งที่เราถาม ตอบเราดีๆ เราพร้อมจะเข้าใจค่ะ
แต่เราคิดว่าการตอบกลับของแม่ค้า ดูแปลกแวกแนวจากแม่ค้าปกติเค้าทำกันค่ะ

คนในพันทิปหลายคนหลายความคิด เราขอน้อมรับทุกความคิดเห็นทุกแนวคิดค่ะ
   

ในเมื่อเราไม่ได้ข้อเท็จจริง เลยพยายามหาเองค่ะ ได้ความว่า...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่