The Shock.....เหมารวม

จากคุณหมี เรื่องเหมารวม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณพ่อของพี่หมีเล่าให้ฟัง เหตุเกิดที่จังหวัดระยอง เมื่อ20 ปีที่แล้ว

คุณหมี : ท้าวความนิดนึงครับ คุณพ่อคุณแม่ผมเนี่ย ตอนที่เขาแต่งงานกันใหม่ๆ อาชีพเดิมของคุณพ่อผมเป็นช่างตัดผม ราวๆสักปี 2 กว่า เขาก็ย้ายมาอยู่จังหวัดระยองครับ คุณแม่ผมเป็นคนจังหวัดระยองครับ ตัดผมดูท่าทางแล้วก็ไม่ได้กำไรอะไรมากมายครับ คุณพ่อผมก็เปลี่ยนอาชีพจากช่างตัดผมมาเป็นนักเล่นพระ ย้อนกลับไปสักเมื่อ 20 ปีก่อน ราคาพระไม่ได้สูงมากครับ แต่ก็ถือว่าเป็นกำไรที่ดีครับ คุณพ่อผมก็ตัดผมไปด้วย แล้วเวลามีลูกค้ามาตัดผมเนี่ย เขาก็จะส่องพระที่คอกัน ว่าอะมีองค์นี้ ผมมีองค์นี้ ก็เป็นการแลกเปลี่ยน จนกลายเป็นอาชีพครับ ขอบอกลักษณะของบ้านหลังเก่านิดนึงครับ จะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว เนื้อที่ค่อนข้างกว้าง  คุณพ่อผมจะส่งผมไปอยู่กับคุณตาที่จังหวัดชลบุรี เวลาปิดเทอมผมก็จะกลับมาบ้าน จะเป็นลักษณะแบบนี้ครับ คือผมมีพี่น้อง 3 คนครับ ผมเป็นคนกลางครับ พอกลับมาครับ คุณพ่อผมเนี่ยพอปิดร้านทำผมเขาจะชอบออกไปดูพระ แล้วก็ขะชอบเช้าพระ ก็จะมีพระที่ชำรุดบ้าง กลับมาทีไรเนี่ย ผมเห็นพระเศียรขาดเต็มห้องนอนเลยครับ

พี่นัด : หมายความว่าไปเช่ามาโดยที่พระเศียรขาดหรอครับ

คุณหมี : ใช่ครับ เศียรขาด ชำรุด ใบหูท่านไม่มีบ้าง คุณพ่อผมก็เหมือนคิดว่า เอามาซ่อมได้หน่ะ น่าจะออกต่อ คือในสมัยผมเด็กๆอะครับ ก็จะเจอเรื่องแปลกๆอะครับ เหตุการณ์แปลกครั้งแรกที่ผมเจอ ผมจำไม่ได้ว่าผมอายุเท่าไหร่ แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่ามันเป็นความฝันหรือว่าความจริงครับ คุณพ่อผมก็ไปได้กุมารมาองค์นึงครับ ซึ่งพอผมกลับมาจากปิดเทอมเนี่ย แทบจะไม่อยากนอนในห้องนอนเลยครับ เพราะมันเต็มไปด้วยพระที่ชำรุด เศียรขาด เห็นภาพแล้วมันสยองมาก แต่ก็ต้องทนนอนอยู่ นอนกัน 3 พี่น้องครับ ดึกๆปวดฉี่ ก็บอกพี่ชายคนโตครับ บอกพี่ ไปเพื่อนผมหน่อย พี่ก็บอกไม่ไปหรอก จะกลัวอะไรอ่ะ ผมก็บอก ไม่ได้กลัวอะไรเลย กลัวที่อยู่รอบๆเราเนี่ยแหละ ขณะที่พูดอะครับ ตาก็ไปเห็นกุมารองค์นี้ เขาจะยืนลักษณะเท้าเอวเหมือนกุมารทั่วไป ผมไม่แน่ใจนะครับ ว่าสิ่งที่ผมเห็นอะ ผมคิดไปเองหรือว่า มันเห็นจริงๆครับ คือกุมารองค์นี้ขนาดไม่ใหญ่มากครับ อยู่ดีๆเขาก็ เอามือมาแนบหูแล้วก็ร้อง แบร่!! แบบนี้อ่ะครับ

พี่นัด : คือยังไงนะ

คุณหมี : คือรูปแบบของกุมารทั่วไปเขาก็จะเอามือท้าวเอาใช่ไหมครับ แต่คือพอผมพูดกับพี่ บอก พี่ๆไปส่งผมหน่อย ผมกลัวของที่พ่อผมเอามาเนี่ย พอผมพูดสิ้นเสียงจบ ผมหันไปดูรอบๆอะครับ ปรากฎว่าไปเจอกุมารองค์เนี่ย เขายืมท้าวเอวอยู่ใช่ไหมครับ แล้วเขาก็ยกมือแนบข้างหูอะครับ เหมือนหลอกผีอะครับ แล้วก็พูด แบร่ แบบนี้อะครับ 3 คนพี่น้องคืนนั้นไม่ได้นอนห้องนั้นเลย

พี่นัด : ทุกคนเห็นหมดเลย

คุณหมี : ใช่ครับ วิ่งจับผ้าห่มได้ อะไรได้ไปเคาะห้องคุณพ่อคุณแม่เลยอะครับ นั่นคือเรื่องแรกนะครับ ต่อมาพ่อผมเริ่มทำเป็นอาชีพก็เลยเลิกอาชีพตัดผมไป ก็มาเป็นนักเล่นพระเต็มตัว เวลาเขาจะออกไปดูพระที่ไหนเนี่ยก็จะใช้เวลานาน แล้วพ่อผมเขาก็จะมีนิสัยครับ ชอบเหมาพระ คุณพ่อผมเหมาติดสมุดเล่มเล็กๆมาด้วย คุณพ่อผมจะให้เวลาอยู่กับสมุดเล่มนี้มากครับ เล่มสีเขียวๆเล็กๆ เหมือนสมุดจดบันทึก ก็อ่านไปอ่านมาเนี่ย ผมในวัยที่เป็นเด็กก็ไม่ได้รู้อะไรมากครับ ว่ามันเป็นหนังสืออะไร คุณพ่อผมก็อ่านไป แล้วก็อาจจะมีท่องนิดๆหน่อยๆ มีอยู่วันนึงครับ ผมไปแอบดูว่าหนังสือเล่มนี้มันเป็นหนังสืออะไร มันเป็นหนังสือของสัปเหร่ออะครับ เขาจะบอกว่า วิธีมัดตราสังข์ มีคาถากำกับ มีคาถายันท้าวเวศสุวรรณ ป้องกันผี เรียกผี อะไรแบบนี้อะครับ ผมก็คิดว่าทำไมคุณพ่อเอามาแบบนี้อะ แต่ด้วยความเป็นเด็กครับผมก็เถียงไรเขาไม่ได้ แต่คุณพ่อผมก็จะใช้เวลาอยู่กับหนังสือเล่มนี้ทั้งวันเลยครับ อ่านแล้วอ่านอีก บางทีก็เป็นรูปเขียนปากกาเก่าๆอะครับ เขียนเป็ยยักษ์ท้าวเวศสุวรรณ เขียนเป็นกบผูกคออะครับ แล้วก็มีมีดหมอ ตำราควักเด็กออกจากท้อง วันหนึ่งคุณแม่ผมเนี่ย อาชีพเขาขายข้าวแกง ระหว่างที่เขาตื่นมาตี 3 ตี 4 ตื่นมาปลุกคุณพ่อผมเพื่อที่จะไปช่วยทำแกงตอนเช้าเนี่ย ระหว่างที่เขาเดินเข้าไปปลุก เขาได้ยินเสียงคุณพ่อผมคุณกับผู้หญิงครับ คุยว่า มาจากไหน บ้านอยู่ที่ไหน มาทำอะไร ชั้นทำแกงขายนะ เหมือนคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวอะครับ คุณแม่ผมพอได้ยอนก็ผลักประตูเข้าไปดู ปรากฎว่าคุณพ่อผมก็นอนเฉย นอนปกติ เหมือนคนหลับอะครับ ก็ไม่มีใครอยู่ในห้อง คุณแม่ผมก็ปลุกคุณพ่อผมก็งัวเงียตื่นมา ก็เป็นคนพึ่งตื่นจริงๆอะ

พี่นัด : แสดงว่าเสียงผู้ชายก็ไม่ใช่เสียงคุณพ่อดิ

คุณหมี : ใช่ครับ คุณแม่ผมก็งงว่าตกลงเสียงนั้นมันเป็นเสียงของใคร แต่ด้วยความที่ว่าคุณแม่ผมจะไม่ยุ่งเรื่องอาชีพของคุณพ่ออยู่แล้ว พอคุณพ่อผมลุกขึ้นมาก็ทำแกงทำอะไรกันไป ตี 5 เขาก็จะมาปลุกลูกๆให้มาช่วยยกหม้อแกงไปขึ้นรถเข็น ผมก็เดินผ่านห้องคุณพ่อนะครับ บ้านผมเนี่ยมันเป็นบ้านไม้ครับ มันเป็นซี่ไม้ มันจะเห็นด้านในของห้องได้ไม่เต็มที่ ผมเห็นตาคนอะครับ กรอกไปกรอกมาเหมือนมองดูเราอยู่อะครับ ว่า 3 พี่น้อง กำลังขนข้าวแกงขึ้นรถเข็นอะครับ ผมเข้าใจว่าพ่อผมอะอยู่ในห้อง แต่คุณพ่อเขาอยู่ในครัวครับ แล้ว 3 พี่น้อง ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอะครับ จนกระทั้งหลังๆ คุณพ่อผมเริ่มหนัก ข้าวกินไม่ได้ ไม่กินอะไรทั้งนั้นครับ รู้สึกแปลกๆ คุณแม่ผมก็เข้าใจว่าคุณพ่อผมเขาเครียดเรื่องการดูพระ จนวันนึงครับ นั่งกินข้าวล้อมวงอะ ระหว่างที่นั่งกินข้าวเนี่ย คุณพ่อผมก็กินข้าวคำน้ำคำ แล้วมือเขาก็ถือหนังสือเล่มนั้นครับ ระหว่างที่กินข้าวเนี่ย อยู่ดีๆเสียงหลังคามันดัง ปัง แม่ผมเงยขึ้นไปดูแต่ก็ไม่มีอะไรครับ พออีกวันถัดมา ทุกๆครั้งที่นั่งกินข้าวครับ จะได้ยินเสียง ปัง อยู่ตลอดเวลาเลยครับ แต่ก็ไม่รู้เป็นเสียงอะไร เพราะบริเวณนั้นมันไม่มีต้นไม้เลยครับ อาการของพ่อผมก็เริ่มแปลกๆ จนกระทั้งน้องสาวของแม่ผมครับ เขามากินข้าวด้วย พ่อผมเขาไปดูพระข้างนอก พอกินข้าวกันเสร็จน้องสาวแม่ผมก็ลุกขึ้นแล้วก็กลับบ้านเขาไป แล้วพ่อผมก็กลับมา เขาก็บอกว่า ไม่ต้องเก็บสำรับนะ เดี๋ยวเขากินต่อเลย แล้วเขาก็นั่งทับรอยเดิมที่น้องสาวของแม่นั่งอยู่ ก็นั่งกิน ผมเนี่ย รอจังหวะแล้วครับว่าจะมีไอ้เสียงเนี่ยมาหรือเปล่า แล้วเสียง ปั้ง ก็มาครับ พอเสียงปั้งมาเนี่ย พ่อผมก็หงายหลัง หัวฟาดพื้นไปเลยครับ

พี่นัด : เพราะอะไรอ่ะ

คุณหมี : ไม่รู้ครับ ทุกคนก็พยายามช่วยกัน พ่อผมก็เป็นลมแน่นิ่งไปเลยครับ ทุกคนก็เอายาหอมมาให้แกดม ก็ไม่ฟื้นครับ จนถึงเช้า แกถึงฟื้น พอแกฟื้นก็ถามครับ บอก พ่อเป็นไรอ่ะ แกก็นิ่งๆครับ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา คือตัวเรารู้สึกว่านั่นไม่ใช่พ่อเรา เราก็ไม่อยากจะเข้าใกล้ พอช่วงเย็นแม่ผมก็ทำกับข้าวกิน ก็นั่งล้อมวงกันอีก ช่วงจังหวะที่ยกกับข้าวกันเนี่ย คุณพ่อผมก็มากินข้าวด้วยกัน แต่พอพ่อผมกินอะไรเข้าไปก็จะอ้วกออกมาหมดเลย แม้กระทั้งน้ำเปล่าอะครับ กินอะไรไม่ได้ แม่ผมก็เริ่มหนักใจ เลยพาไปโรงพยาบาล ไปเช็คอาการ คุณหมอก็บอกไม่ได้เป็นอะไร อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า เครียดจากการงานอะไรแบบนี้ เขาก็ให้ยาวิตามินมากิน ก็กลับบ้าน คุณแม่ก็ถามว่า อาการดีขึ้นไหม เขาก็บอกดีขึ้นแล้ว แต่รู้สึกหิว แม่ผมก็เอาข้าวมาให้กิน ก็อ้วกออกมาอีกครับ คุณแม่ผมก็รอดูอาการสักวันสองวัน ก็เป็นแบบเดิมอะครับกินอะไรไม่ได้ คุณแม่ผมก็เริ่มไม่สบายใจ ก็พาไปหาหมอ หมอทุกหมอก็บอกไม่ได้เป็นอะไร คุณพ่อผมก็พยายามฝืนตัวเองนะครับ ทานข้าวเข้าไป แต่ก็อ้วกออกมาอีก ระหว่างที่พ่อผมเป็นแบบนี้ คุณแม่ผมก็ไปหาหมอดูหาร่างทรง ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าไม่ได้เป็นอะไร ไม่มีอะไร สุดท้ายเนี่ยโดยอาชีพของคุณแม่ผมที่ขายข้าวแกง วันนั้นรู้สึกว่าจะเป็นวันพระ ผมก็จะต้องตื่นเช้าหน่อยเพื่อที่จะยกหม้อแกงไปใส่รถเข็น ช่วงตี5กว่าๆพระท่านก็จะออกมาบิณฑบาตรละ ก็มีพระประจำแถวนั้นอะครับเดินมา คุณแม่ผมก็โอเค ทำบุญสักหน่อยละกัน ระหว่างที่ตักบาตรพระเนี่ยนะครับ คุณพ่อผมร้องกรี๊ดเลยครับ

พี่นัด : เหมือนเสียงผู้หญิงปะ

คุณหมี : นาทีนั้นมันไม่เหมือนเสียงผู้หญิงอะครับ เรารู้เลยว่าพ่อเราไม่มีทางจะทำแบบนั้นได้อะครับ กรี๊ดแล้วดิ้นทุรนทุราย แม่ผมอ่ะแน่ใจว่าโดนแน่ๆละ ก็เลยตัดสินใจพาพ่อผมไปหาหลวงพ่อที่วัดๆนึงในตัวตำบลอะครับ หลวงพ่อท่านก็ทักว่า เนี่ย อะไรที่เอาของเขามาอ่ะ เขามาทวงคืน ก็ไม่ให้เขา คุณแม่ผมก็เลยนึกถึง คือช่วงเด็กๆอ่ะ ผมจะซน เอาของพวกนี้มาเล่น คุณแม่ผมก็ลองไปรื้อในห้องพระปรากฎว่าไปเจอ เป็นหนังสือครับ หนังสือของสัปเหร่อท่านนี้อะครับ ซึ่งไม่รู้ว่าสัปเหร่อท่านนี้อยู่ที่ไหน เพราะไม่มีระบุบอก คุณพ่อผมก็ไปเอาครับ หลวงพ่อบอก เดี๋ยวให้คุณพ่อผมมาอยู่วัดสักอาทิตย์นึงละกัน หลวงพ่อท่านก็เดินไปหยิบบาตรครับ แล้วก็เอาข้าว เอาขนมคาวหวาน มาใส่รวมๆกันในบาตรยื้นให้คุณพ่อผมกิน ปรากฎว่าคุณพ่อผมกินได้ คุณแม่ผมพอเห็นว่าคุณพ่อกินข้าวได้ปกติ ก็วิ่งไปบ้านแล้วไปเอาแกงถุงมา แกะใส่จานแล้วให้พ่อผมทาน อ้วกออกมาครับ แต่ถ้าข้าวนั้นออกมาจากบาตรพระทานได้ครับ คุณพ่อผมอยู่ประมาณอาทิตย์นึงก็เริ่มดีขึ้น เริ่มมีน้ำมีนวล พอเริ่มดีขึ้นคุณพ่อผมก็บวชให้ครับ เพราะหลวงพ่อท่านบอกว่าหนังสือพวกนี้มันเป็นหนังสือพิธีกรรมที่ติดตัวของสัปเหร่อเขา แล้วโยมไปเอามาเนี่ย เหมือนกับว่าไปดึงอาชีพเขามา เขาให้คนมาตาม แล้ววันนั้น ตัวคุณพ่อผมเขาก็มีครูเหมือนกันครับ  คือวันนั้นเขารู้ตัวว่าไม่ใช่ตัวเองแต่พยายามเรียนรู้ภาษาพวกนี้เพื่อที่เวลาท่องมนต์จะรู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้น ตัวเองอยู่ทางสายพระด้วยครับ วันนั้นพ่อผมเขากลับมา จำน้องสาวของคุณแม่ได้ไหมครับ วันนั้นน้องสาวของคุณแม่เขาเป็นวันนั้นของเดือนครับ แล้วมีเลือดติดอยู่กับพื้น แล้วคุณพ่อผมเขามีครูอยู่แล้วไปนั่งทับ จังหวะที่ของเสกมาพอดีครับ คือที่โดนหลังคาบ้านอะครับ ดังปัง แล้วจังหวะที่คุณพ่อผมไปนั่งทับพอดีก็เลยเข้าตัวครับ คุณแม่ผมก็เห็นแล้วว่ามีคราบเลือดครับ แต่ไม่ทันได้บอก

พี่นัด : แล้วได้ถามคุณพ่อไหมครับ ว่าสมุดเล่นนั้นหน่ะ ไปเอามาจากไหนครับ

คุณหมี : โดยอาชีพ สายงานของคุณพ่อเขาก็จำไม่ได้ว่าไปเอามาจากไหน ก็คือเวลาไปบ้านใครก็จะเหมารวมๆมา แล้วก็ใส่ถุงไว้ พอเวลากลางคืนเขาก็จะใช้เวลาส่องพระ ดูพระ คุณพ่อผมเขาก็พยายามจะดึงวิชาในสมุดเล่มนั้นออกมาครับ เขาก็ท่องไปเรื่อย แล้วพ่อมาเล่าให้ฟังทีหลังครับ ว่าเนี่ยเวลาพ่อนอนกลางคืนนะ มีผู้หญิงมาหอมแก้มพ่อด้วย แล้วก็มีผู้ชายชวนไปอยู่ด้วย พาไปเที่ยง ไปดูบ้านนั้นบ้านนี้ แต่พ่อผมก็ไม่ได้ไปครับ แต่ในห้องนั้นคุณแม่ผมก็จะโดนทุกคืนเลยเหมือนกัน เวลานอนเนี่ยเขาจะใจไม่ดีเลย เพราะคุณพ่อผมเนี่ยเขาจะละเมอ เหมือนกับว่าคุยกับคนอื่นอยู่ ว่า มาจากไหน เออ บ้านฉันอยู่ตรงนี้นะ  มาทำอะไร มากินข้าวบ้านฉันนะ บ้านฉันทำแกงขาย แล้วมันจะมีอยู่ช่วงนึงครับ วันโกณกับวันพระ ทำแกงเป็นหม้อๆนะครับ ทำยังไม่ถึงชั่วโมงเลย บูดแล้วครับ

พี่นัด : เพราะอะไรอะ

คุณหมี : ไม่รู้ครับ แต่เวลากลางคืนคนผ่านไปผ่านมาจะเห็นว่าบ้านผมอยู่กันเยอะ เพราะว่ามนต์เรียกผี เรียกสัมพเวสีอะไรพ่อผมท่องออกมาหมดเลยครับ เรื่องราวก็มีประมาณนี้อะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่