สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมที่ทำให้ผมมาถึงห้องสีลมนี้นะครับ
ท้าวความไปถึงเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ....
- ตอนเรียนแบมือขอตังค์ บอกอยากทำงานออฟฟิศนะ จะได้มีเงินใช้เป็นอิสระ
- พอทำงานออฟฟิศบอกว่า อยากเป็นเซลล์เน่อะ อิสระ
- พอเป็นเซลล์บอกว่า อยากเป็นพ่อค้าขายของเน่อะ เป็นอิสระ
- ตอนนี้เป็นพ่อค้าขายของ เอิ่ม อิสระตรงไหนวะ ....,
เมื่อตอนทำงานออฟฟิศ เป็นพนักงาน IT Consultant ออกไซท์งานลูกค้า ซึ่งมีเพื่อน น้อง พี่ ในทีมคอยช่วยเหลือกันหลายคน เราสามารถแพลนล่วงหน้าได้เลย สมมติว่าปีนึงมีพักร้อน 7 วัน ก็จองสายการบินประหยัดรอไว้ และบอกในทีมว่า วันนี้ ๆๆ เรามีลานะ เขาก็จะโน๊ตไว้ ซึ่งในทีมก็จะผลัดกันลา ผลัดกันเที่ยว แต่ไม่เสียงาน (ปกติจะไปตอน Weekend ต้นเดือน หน้ากลางเดือน เพราะสิ้นเดือนจะยุ่ง)
-
- ในเฟซบุ๊คผมมีเพื่อนในเฟซมากหน้าหลายตา และหลาย ๆ คนก็มีทำธุรกิจส่วนตัว
ผมมองไปในชีวิตของแต่ละคน ที่สื่อสารมา ... คือทำงาน เฝ้าร้าน ทำงาน เฝ้าร้าน แทบไม่มีวันหยุด แทบไม่มีวันเที่ยว วันพักผ่อนเหมือนกับพนักงานออฟฟิศอย่างผม ผมก็เฝ้าถามตัวเองว่า "คนเหล่านี้เขารู้ความหมายในชีวิตไหม ทำงานมาเหนื่อยแต่ไม่ได้เที่ยวได้พักผ่อน ไม่ได้เอนเตอร์เทนชีวิต จะตายไปพร้อมกับงานเลยไหม"
-
-
กาลเวลาทำให้ผมได้จับพลัดจับผลูมีธุรกิจส่วนตัวกับเขาบ้าง ในเดือนแรก ๆ ตอนยอดไม่เยอะ ผมตื่นเช้า ไม่ต้องเร่งรีบไปทำงาน ทำงานที่บ้าน จิบชา นั่งดูข่าวเช้า อ่านหนังสือพิมพ์ นั่งเล่นใต้ต้นไม้ ทำกับข้าวกิน และค่อยเริ่มงานตอน 9 โมงกว่า ๆ 10 โมง
นี่แหละคือสวรรค์สำหรับเรา นี่แหละคือความสุข
-
-
วันนี้ผ่านจากวันนั้นมาแล้ว 1 ปีครึ่ง
- ชีวิตผมตื่นขึ้นมาด้วยความเร่งรีบ 6 โมงเช้า เพื่อทำใบเสนอราคา 8 โมงเป๊ะ ลูกค้าโทรมารายแรก ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ลูกค้าอีกรายให้ส่งเมลล์เสนอราคา อีกเจ้าให้ส่งของ อีกเจ้าถามปัญหา อีกเจ้าให้ส่งของอีก มีคนโทรมา สายซ้อน ไม่ได้รับ อีเมลล์เข้า สายซ้อน ออกบิล ใบกำกับภาษี อ้าว ลูกค้ายังไม่ได้ใบกำกับ ใบกำกับผิด ฯลฯ. ตั้งแต่เช้า จะได้พักทีนึงก็ตอนลูกค้าไปพักเที่ยงกัน
-
แต่ตอนพักเที่ยงผมไม่ได้พัก มันคือเวลาที่เราแพ็คของส่งไปรษณีย์ (ผมขายของออนไลน์ด้วย) แพ็ค ๆๆๆ บ่าย 1 ลูกค้ามาอีกละ กว่าจะจบงานก็ยัง 5 โมงครึ่งลูกค้ากลับบ้านไปแล้ว แต่เรายังไม่เสร็จงาน เพราะต้องแพ็คของส่งขนส่ง กทม. (Alphafast) กว่าจะเสร็จงานก็ 3-4 ทุ่ม
-
ผมพยายามหาทางย่นเวลา ลดงานผมแล้วหลายงาน เช่นปกติผมจะไปส่งไปรษณีย์เอง ตอนนี้ผมต้องจ้างพี่วินให้ไปส่งให้ทุกวันวันละ 100 ให้พี่วินไปซื้อของ ให้พี่วินไปส่งของให้ลูกค้าตรง ให้พี่วินไปจ่ายแวท ไปขี้นเช็ค จ่ายบิล ผมมีวินในเครือข่ายผมเยอะมาก ทั้งที่เมื่อก่อนผมบอกว่า งานพวกนี้ทำไมต้องจ้างวิน ทำเองได้ เปลืองเงิน ...,
-
ตอนนี้ผมจะมีจ้างพนักงานมาแล้ว ผมไม่เคยคิดว่าผมจะจ้างพนักงานเงินเดือนเกินหมื่นเลย แต่วันนี้ ถ้าผมไม่ทำ ผมไม่ไหวแน่ ๆ (พนักงานคนนี้จะเป็นผู้ช่วยมือขวาผมเลยจ้างแพงซื้อใจ)
-
- ที่ผมเล่าเกริ่นมาทั้งหมด ... ยาวใช่ไหมครับ และสิ่งที่ผมอยากจะสรุปคือ ....
FLASHBACK ย้อนกลับไปในวันที่ผมทำงานออฟฟิศ ผมเคยพูดว่า พวกที่ทำงานไม่หยุด ไม่หยุดร้าน ต้องเฝ้าร้าน จะทำงานให้ตายกันไปข้างเนี่ย ผมขอถอนคำพูด "เพราะผมรู้แล้วว่า เขาก็แค่หยุดไม่ได้เท่านั้น ถอยหลังก็ไม่ได้ สถานะการณ์มันบังคับ ไม่มีใครรักธุรกิจนี้เท่าคุณอีกแล้ว"
-
-
ธุรกิจส่วนตัว ทำแล้ว ลาออกไม่ได้ จำที่ผมพูดไว้ หรือคุณจะปล่อยให้มันเจ๊งและตายไป ก็ขึ้นอยู่กับคุณ
...
เหนื่อย แต่ถอยหลังไม่ได้
.
#แวะมาบ่นเฉย ๆ ขอบคุณครับสำหรับพื้นที่ให้คนอย่างผมได้ระบายนะ
"ธุรกิจส่วนตัว" ก้าวเข้ามา แล้วเดินออกไม่ได้
ท้าวความไปถึงเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ....
- ตอนเรียนแบมือขอตังค์ บอกอยากทำงานออฟฟิศนะ จะได้มีเงินใช้เป็นอิสระ
- พอทำงานออฟฟิศบอกว่า อยากเป็นเซลล์เน่อะ อิสระ
- พอเป็นเซลล์บอกว่า อยากเป็นพ่อค้าขายของเน่อะ เป็นอิสระ
- ตอนนี้เป็นพ่อค้าขายของ เอิ่ม อิสระตรงไหนวะ ....,
เมื่อตอนทำงานออฟฟิศ เป็นพนักงาน IT Consultant ออกไซท์งานลูกค้า ซึ่งมีเพื่อน น้อง พี่ ในทีมคอยช่วยเหลือกันหลายคน เราสามารถแพลนล่วงหน้าได้เลย สมมติว่าปีนึงมีพักร้อน 7 วัน ก็จองสายการบินประหยัดรอไว้ และบอกในทีมว่า วันนี้ ๆๆ เรามีลานะ เขาก็จะโน๊ตไว้ ซึ่งในทีมก็จะผลัดกันลา ผลัดกันเที่ยว แต่ไม่เสียงาน (ปกติจะไปตอน Weekend ต้นเดือน หน้ากลางเดือน เพราะสิ้นเดือนจะยุ่ง)
-
- ในเฟซบุ๊คผมมีเพื่อนในเฟซมากหน้าหลายตา และหลาย ๆ คนก็มีทำธุรกิจส่วนตัว
ผมมองไปในชีวิตของแต่ละคน ที่สื่อสารมา ... คือทำงาน เฝ้าร้าน ทำงาน เฝ้าร้าน แทบไม่มีวันหยุด แทบไม่มีวันเที่ยว วันพักผ่อนเหมือนกับพนักงานออฟฟิศอย่างผม ผมก็เฝ้าถามตัวเองว่า "คนเหล่านี้เขารู้ความหมายในชีวิตไหม ทำงานมาเหนื่อยแต่ไม่ได้เที่ยวได้พักผ่อน ไม่ได้เอนเตอร์เทนชีวิต จะตายไปพร้อมกับงานเลยไหม"
-
-
กาลเวลาทำให้ผมได้จับพลัดจับผลูมีธุรกิจส่วนตัวกับเขาบ้าง ในเดือนแรก ๆ ตอนยอดไม่เยอะ ผมตื่นเช้า ไม่ต้องเร่งรีบไปทำงาน ทำงานที่บ้าน จิบชา นั่งดูข่าวเช้า อ่านหนังสือพิมพ์ นั่งเล่นใต้ต้นไม้ ทำกับข้าวกิน และค่อยเริ่มงานตอน 9 โมงกว่า ๆ 10 โมง
นี่แหละคือสวรรค์สำหรับเรา นี่แหละคือความสุข
-
-
วันนี้ผ่านจากวันนั้นมาแล้ว 1 ปีครึ่ง
- ชีวิตผมตื่นขึ้นมาด้วยความเร่งรีบ 6 โมงเช้า เพื่อทำใบเสนอราคา 8 โมงเป๊ะ ลูกค้าโทรมารายแรก ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ลูกค้าอีกรายให้ส่งเมลล์เสนอราคา อีกเจ้าให้ส่งของ อีกเจ้าถามปัญหา อีกเจ้าให้ส่งของอีก มีคนโทรมา สายซ้อน ไม่ได้รับ อีเมลล์เข้า สายซ้อน ออกบิล ใบกำกับภาษี อ้าว ลูกค้ายังไม่ได้ใบกำกับ ใบกำกับผิด ฯลฯ. ตั้งแต่เช้า จะได้พักทีนึงก็ตอนลูกค้าไปพักเที่ยงกัน
-
แต่ตอนพักเที่ยงผมไม่ได้พัก มันคือเวลาที่เราแพ็คของส่งไปรษณีย์ (ผมขายของออนไลน์ด้วย) แพ็ค ๆๆๆ บ่าย 1 ลูกค้ามาอีกละ กว่าจะจบงานก็ยัง 5 โมงครึ่งลูกค้ากลับบ้านไปแล้ว แต่เรายังไม่เสร็จงาน เพราะต้องแพ็คของส่งขนส่ง กทม. (Alphafast) กว่าจะเสร็จงานก็ 3-4 ทุ่ม
-
ผมพยายามหาทางย่นเวลา ลดงานผมแล้วหลายงาน เช่นปกติผมจะไปส่งไปรษณีย์เอง ตอนนี้ผมต้องจ้างพี่วินให้ไปส่งให้ทุกวันวันละ 100 ให้พี่วินไปซื้อของ ให้พี่วินไปส่งของให้ลูกค้าตรง ให้พี่วินไปจ่ายแวท ไปขี้นเช็ค จ่ายบิล ผมมีวินในเครือข่ายผมเยอะมาก ทั้งที่เมื่อก่อนผมบอกว่า งานพวกนี้ทำไมต้องจ้างวิน ทำเองได้ เปลืองเงิน ...,
-
ตอนนี้ผมจะมีจ้างพนักงานมาแล้ว ผมไม่เคยคิดว่าผมจะจ้างพนักงานเงินเดือนเกินหมื่นเลย แต่วันนี้ ถ้าผมไม่ทำ ผมไม่ไหวแน่ ๆ (พนักงานคนนี้จะเป็นผู้ช่วยมือขวาผมเลยจ้างแพงซื้อใจ)
-
- ที่ผมเล่าเกริ่นมาทั้งหมด ... ยาวใช่ไหมครับ และสิ่งที่ผมอยากจะสรุปคือ ....
FLASHBACK ย้อนกลับไปในวันที่ผมทำงานออฟฟิศ ผมเคยพูดว่า พวกที่ทำงานไม่หยุด ไม่หยุดร้าน ต้องเฝ้าร้าน จะทำงานให้ตายกันไปข้างเนี่ย ผมขอถอนคำพูด "เพราะผมรู้แล้วว่า เขาก็แค่หยุดไม่ได้เท่านั้น ถอยหลังก็ไม่ได้ สถานะการณ์มันบังคับ ไม่มีใครรักธุรกิจนี้เท่าคุณอีกแล้ว"
-
-
ธุรกิจส่วนตัว ทำแล้ว ลาออกไม่ได้ จำที่ผมพูดไว้ หรือคุณจะปล่อยให้มันเจ๊งและตายไป ก็ขึ้นอยู่กับคุณ
...
เหนื่อย แต่ถอยหลังไม่ได้
.
#แวะมาบ่นเฉย ๆ ขอบคุณครับสำหรับพื้นที่ให้คนอย่างผมได้ระบายนะ