ก่อนไป UAE ทางทีมงานควรดูนักเตะฟอร์มสดในลีค แล้วหนีบไปบ้างครับ

กระทู้คำถาม
ต้องกล้าจัดตัวตามผลงานล่าสุดบ้าง
บอลระบบจริง แต่นักเตะฟอร์มตก ก็เล่นไม่ได้อยู่ดี
ควรหาคนอื่นมาอยู่ในทีมบ้าง
แถมจะได้เกิดการแข่งขัน แสดงผลงาน  มีความกระหายอยากเล่น
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมมองว่า เรากำลังจะเข้าสู่ยุคที่ยึดติดตัวบุคคลมากเกินไป

นักเตะชุดเดิมที่เคยติดทีมชาติ ต่อให้ฟอร์มในสโมสรห่วยแค่ใหน ก็ยังติดเหมือนเดิม
เหตุผลเพราะเคยเล่นด้วยกันมานาน ผมว่าไม่ใช่เหตุผลมืออาชีพ

มันเป็นการไม่ให้เกียรตินักเตะคนอื่นด้วย คนที่เขาทุ่มเท ฟอร์มดีในสโมสร แต่ไม่ถูกเรียกเพียงเพราะเขาไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน

มันทำให้การแย่งชิงการเป็นตัวจริง จืดชืด ไร้การแข่งขัน อะไรก็ตามที่ได้มาง่ายๆ เรามักจะมองไม่เห็นค่า เหมือนการถูกเรียกติดทีมชาติ
หากรู้อยู่แล้วว่าตัวเองนอนมา ยังไงก็ติด แล้วมันจะกระตือรือล้นในการพัฒนาเท่ากับการที่มีคู่แข่งมากมายหรือเปล่า

อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงตรงนี้บ้าง อย่างน้อยเราอาจจะเจอดาวรุ่ง หรือเพชรในตม ที่รอโอกาสให้เจียรนัย และสร้างบบรยากาศ
การแข่งขัน ความกระตือรือล้นในการแย่งชิงตัวจริง นักเตะทุกคนในลีกพร้อมจะทุ่มเท พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา หากรู้ว่ามีโอกาส
รออยู่เสมอ

และอยากให้จัดนักเตะแต่ละนัด ตามแทคติคที่ใช้ในเกมส์นั้น ไม่ใช่ว่าใช้นักดตะชุดเดิม 11 คน แต่บอกเปลี่ยนให้เล่นแทคติคใหม่
ซึ่งผมมองว่ายากที่จะทำไก้ขนาดนั้น เพราะนักเตะแต่ละคนมักมีจุดเด่นพิเศษ แค่ด้านใหนด้านนึงเท่านะ้น คือแต่ละคนจะมีผระโยชน์
สูงสุดเมื่อได้เล่นในแทคติคที่ตัวเองถนัด

ยกตัวนัดเล่นกับญี่ปุ่น เรารู้ศักยภาพด้านตัวนักดตะว่าเป็นรองมากโขอยู่แล้ว และรู้แทคติคญี่ปุ่นที่จะนำมาใช้คือ เพลสสูงและครอสจากปีกเข้ามา
ซึ่งแทคติคที่เหมาะในการแก้ คือ รับลึกอย่างมีวินัย เข้า 1 ซ้อน 2 ภายในระยะเขตอันตราย จะต้องมีด่านเสมือนกำแพงสองชั้น สามชั้น ส่วนการรุก
ให้ใช้โต้กลับเร็ว โดยบอลต้องข้ามกองกลางญี่ปุ่นให้เร็วที่สุด อย่าไปแข่งชิ่งบอลกลางสนาม เพราะศักยภาพเราสู้ไม่ไก้ด้วยประการทั้งปวง

แต่แบคที่ได้ลงสนามกับเป็น โด้กับอุ้ม ซึ่งนี้มันคือแบคกึ่งปีกชัดๆ คือเป็นแบคจอมบุก ซึ่งไม่เหมาะกับแทคติคนี้โดยประการทั้งปวง เพราะแทคติคนี้
ต้องใช้แบคที่ถนัดรับจริงๆ และห้ามเติมเกมส์รุกเลย

ส่วนบอลครอสจากปีกเข้ามาที่เราต้องเจอ คนที่ช่วยได้มากที่สุดคือ เซนเตอร์ที่ถนัดลูกโหม่ง หรือมีร่างกายสูงใหญ่ที่ไว้เบียดลูกกลางอากาศได้
และจะต้องเป็นเซ็นเตอร์มืออาชีพ คือ เล่นตำแหน่งนี้มาเท่านั้น  ซึ่ง ธนบูรณ์ ไม่ใช่ ทั้งรูปร่างที่เล็กและบางไป และตำแหน่งที่ถนัดคือกลางรับมากกว่า

กลางรับ เป็นคีย์แมนเลย สำหรับแทคติคนี้ และจำเป็นต้องมีสองตัว ยืนอยู่หน้าคู่เซนเตอร์ จะเป็นคนที่ต้องเข้า เบรกเกมส์ และสกรีนบอล ก่อนถึงหลัง
และต้องเป็นกลางรับขนานแท้และดั้งเดิมคือ ฟิต ไล่อัดไม่เลี้ยง ตัดเกมส์ เบรกเกมส์เป็น ฟาวล์เป็น ไม่จำเป็นต้องเล่นรุกเลยก็ได้ ขอแค่รับให้ดีที่สุด
ซึ่งเกมส์นี้เราไม่มีกลางรับสไตล์นี้ แม้แต่คนเดียว เรามีแต่กลางรับถนัดคุมโซน และออกจะถนัดรุกพอๆกับรับด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ใช่คุณสมบัติของแทคติคนี้

กลลางรุกมีแค่ตัวเดียวพอ คุณสมบัติที่ต้องการคือ เปิดบอลไกลแม่นเป็นอันดับนึง เปิดได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาแต่ง และมีเซ้นจ่ายบอลคิลเลอร์พลาส ไม่ต้องมีความสามารถเฉพาะตัว ไม่ต้องครองบอลเก่ง ไม่ต้องเลี้ยงบอลเก่ง ไม่ต้องถนัดเล่นเกมส์รับด้วย เน้นโยนแม่นล้วนๆ โดยเป้าหมาย ค่อเปืดจากแดนตัวเองหลังจากที่แผงรับตัดบอลได้ ข้ามกองกลางคู่ต่อสู้ให้เร็วที่สุด ไวที่สุด เพื่อให้หน้าเป้ามีโอกาสสร้างจังหวะ
ยิงประตู ซึ่งเกมส์นี้ใช้ ธนาธิป ซึ่งยังไม่ตอบโจทย์ เพราะถนัดไปกับบอล เลี้ยงจี้กินตัวมากกว่า ซึ่ค่อนข้างเสียเวลาในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก

ปีกทั้งสองข้าง นี้ก็คีย์แมนไม่แพ้ เช่นกัน คุณสมบัติคือ ถนัดในการไปกับบอล เลี้ยงกินตัว และเอาฟาวล์เพื่อยิงฟรีคิกหน้าเขตโทษได้ พูดง่ายๆคือ เป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยคนมีความสามารถเฉพาะตัวด้านเกมส์รุกมากที่สุด เพราะนอกจากจะเอาไว้รุกแล้ว ยังเอาไว้กดแบคทั้งสองข้างของคู่แข่งที่จะเติม
มาเสริมปีกช่วยกันรุกจากด้านข้างดขัามา หากเรามีผีกคแยขึงไว้ เขาจะไม่กล้าขึ้น และปีกสองตัวนี้ไม่ต้องลงมาช่วยรับเลย (เพราะทีมรับจัดเต็มอยู่แล้ว
เก็บแรงไว้กระชากสร้างโอกาสในการเข้าไปทำประตูอย่างเดียวเลย โดยอาศัยการประสานงานนักเตะเกมส์รุกแค่สามคนพอ ค่อ ปีกซ้าย ปีกขวา และหน้าเป้า และควรจบด้วยการยิง ไม่ว่าจะยิงไกล ยิงใกล้ หรือเรียกฟาวล์ยิงฟรีคิก ซึ่งผมมองว่าเราพอมี คือ เจ เล่นปีกซ้าย / มุ้ย เล่นปีกขวา

กองหน้าตัวเป้า เอาไว้ค้ำเซนน์เตอร์ และเบียด บด ให้กองหลังเขายุบ ซึ่งผมมองว่า สิโรจน์ เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ทั้งขนาดร่างกาย ความเร็ว
และความแข็งแกร่ง

ผมเชื่อว่า ซิโก้ ก็น่าจะรู้ว่าต้องใช้แทคติคนี้ แต่บังเออิญนักเตะในทีม ดันไม่ถนัดเล่นแทคติคแบบนี้ ผลที่ได้จึงเป็นอย่างที่เห็น

นั่นก็เพราะว่า เราใช้นักเตะทุกนัดเหมือนกัน ทั้งที่เล่นกับบอลสไตล์ต่างกัน

นี้จึงเป็นที่มาของคำที่ว่า ความสมารถของนักเตะมักจะเป็นตัวกำหนดแทคติคที่ใช้อย่างแท้จริง ไม่ใช่คำสั่งจากโค้ช
แต่โค้ชมีหน้าที่เลือกนักเตะให้เหมาะสมกับแทคติคของตัวเองที่ต้องการให้เล่น

นั่นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ควรเปลี่ยนนักเตะที่เป็นคีย์แมนเมื่อเปลี่ยนแทคติคด้วย จึงจะได้ผลมากที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่