หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
หลงในสุข
กระทู้สนทนา
ทำบุญ
ศาสนาพุทธ
กฎแห่งกรรม
นิทานแถวบ้านค่ะเล่าว่า
มีเทพธิดาสององค์คนหนึ่งนุ่งชุดเหลืองคนหนึ่งนุ่งชุดสีกลีบบัว เป็นมิตรกัน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : หล่อน จักไปจุติหรือ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : จะหล่อน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ไฉนจึงไปจุติเสียเล่า หล่อนยังมิหมองเลย
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : ครานั้นฉันหลับไป นึกถึงกรรมที่ทำไว้ นึกสลดนัก จึงจะไปชดกรรมเสีย
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : อย่างนั่นหรือ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : หล่อนเล่ามิลงไปชดกรรมบ้างหรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ฉันสร้างกรรมมาน้อย บุญฉันมาก เดี๋ยวเหลนฉันก็จะก็เกิดแล้ว เหลนคนนี้กาลหน้าเขาจักเป็นอริยสงฆ์ฉันจักไปอุปถัมภ์เขา บุญฉันจักไม่หมดดอกจะ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : ดีนักหล่อนแต่ฉันก่อนตายนั่นไร้ทายาทช่างเสียดายนัก
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : จะหล่อน , หล่อนจักไปเกิดที่ใดหรือ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : ฉันจักเกิดเป็นธิดายาจกเข็ญใจ ถอยทรัพย์ ถอยสิน รูปชั่วเป็นที่น่าชังยิ่งจะหล่อน
ครั่นเมื่อเทพธิดานุ่งชุดสีเหลืองไปเกิดเป็นลูกสาวยาจกเผชิญทุกข์แสนเข็ญ เนื่องจากยังไม่หมดบุญจากสวรรค์จึงได้เป็นคนหาฝืนให้ภิกษุณี เห็นภิกษุณีในวัดมีความรู้ เป็นที่เคารพของชาวบ้านก็เกิดเลื่อมใสจึงบวชเป็นภิกษุณีเจริญในธรรมเป็นที่ยกย่องในหมู่ภิกษุณีครั่นป่วยด้วยวัณโรคใกล้ตายนางเทพธิดานุ่งชุดสีกลีบบัวก็มาปรากฏให้เห็น
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านจำฉันได้ไหม
ภิกษุณี : ท่านเป็นผู้ใดรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ฉันเป็นเทพธิดา สหายของท่านเมื่อกาลก่อน
ภิกษุณี : อย่างนั่นรือท่าน เทวธิดาเทพบุตรมีมากรือไม่ท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : มีมาก
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : องค์ใดใฝ่กุศลก็ไปอุปถัมภ์แหล่งกุศล องค์ใดกตัญญูก็ไปอุปถัมภ์บิดามารดา ให้สร้างกุศลจักได้เป็นเทพธิดาเทพบุตร องค์ใดกุศลมีฤทธิ์มากนักก็มีหน้าที่ปกปักแหล่งกุศลมากขึ้นตามลำดับ
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : อีก3 ราตรีฉันจักมารับหล่อนไปสวรรค์
ภิกษุณี : สวรรค์ เป็นอย่างไรหรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : สวรรค์เป็นที่ของผู้มีศีลมีธรรม มีบุญมาก สวรรค์นั่นสุขสบายนัก
ภิกษุณี : สุขอย่างไรรึท่าน
นางเทพธิดานุ่งชุดสีกลีบบัวจึงพาภิกษุณีไปวิมานของตน
ภิกษุณี : ที่ไหนรือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : นี่สวรรค์อย่างไรท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : นั่นวิมานของฉันหลังนั้นวิมานแก้ว หลังนั้นวิมานทอง งามหรือไม่
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : เห็นนั่นไม่ ดอกไม้นั้นหางามกว่านี้มิได้แล้วในภูมิมนุษย์ ดอกไม้นี้ไม่เหี่ยวไม่เฉา เบ่งบานหอมหวนอยู่ทุกกาล
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ได้ยินหรือไม่นั่นเสียงดนตรีของคนธรรพ์ สุนทรีย์นัก
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านเห็นนั่นรือไม่ เทพบุตรเทพธิดาเหล่านั่นล้วนเป็นบริวาลของฉันทั้งสิ้น
ภิกษุณี : ท่านใช้พวกเขาทำอันใดรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : บ้างเต้นรำให้ดูบ้างก็ให้เก็บดอกไม้มา
ภิกษุณี : รือท่าน มีวิมานงามตระการตา มีดอกไม้ที่มิเหี่ยวเฉา มีเสียงดนตรีกังวาน มีบริวาลมากหลาย แล้วสวรรค์ดีอย่างไร
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ฉันอิ่มทิพย์ ไม่มีความยาก ความกระหายใน โภชนาทั้งหลายเยี่ยงมนุษย์ เยี่ยงภพอันต่ำลงไป
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ แพรพรรณนุ่งห่มล้วนงามตาทั้งสิ้น
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ผิวพรรณฉันนั้นผุดผ่องนุ่มนวลนัก รูปร่างหน้าตาฉันก็งดงาม
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ฉันมิแก่มิชรา มิมีความเสื่อมของสังขาร
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ฉันไม่มีความเจ็บ ความตาย ในภพสววรค์
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : จิตใฝ่บาปล้วนเกิดได้ยากนักในภพนี้
ภิกษุณี : รือท่าน , มิมีความยาก มีผ้านุ่งงาม มีผิวงาม รูปงาม มีความไม่เสื่อมของสังขาร มีความไม่เจ็บไม่ตาย มีใจใฝ่บาปยาก แล้วดีอย่างไรรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านจักไม่พบความทุกข์อย่างไรเล่า ท่านจักมีสุขอยู่เป็นนิจ
ภิกษุณี : ท่านหลงแล้วเทพธิดา
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : หลงอันใดรือ ฉันไม่มีหลง
ภิกษุณี :ท่านหลงแล้วหลงในความสุขอย่างไรท่าน จงนึกให้ดีเถิดเทพธิดา สิ่งเหล่านั่นมีแล้วอย่างไร
เมื่อภิกษุณี นั่นตื่นจากนิมิตนั้น ก็ระลึกและสังเวสในความหลงในสุขของเทพธิดานุ่งชุดสีกลีบบัวก็ตั้งจิตไว้ว่าหากถึงคราละสังขาร จักไม่ขอไปจุติ ณ สวรรค์ อันแดนที่ทำให้หลงในสุขซึ่งละได้ยาก จักขอเกิดเป็นมนุษย์ปฎิบัติตนสู่นิพพานในกาลหน้าซึ่งเป็นการปล่อยวางอันสมบูณร์พร้อม กุศลที่ปฎิบัติจงดลให้นางเทพธิดาผู้เคยเป็นสหาย ได้เห็นความหลงนั้นด้วยเถิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
พระพุทธห้ามภิกษุ ภิกษุณี ฉันกระเทียม
พบว่า ท่านห้ามกระเทียมตรงๆ ไม่ได้มีระบุเจาะจงว่าแบบไหนฉันได้หรือไม่ได้ ระบุแต่ว่าห้ามฉันกระเทียม เลยไปเปิดอรรถกถาดู ก็ไม่มีอธิบายเรื่องนี้ ก็ยังคิดว่า คงไม่ห้ามกระเทียมทุกแบบหรอก เพราะพระไทยก็ฉันอาหา
สมาชิกหมายเลข 8433820
สุริยง หล่อนจะจองล้างจองผลาญ เกนหลง ไปถึงไหน
คราวก่อน เกนหลง คบกับ เขมชาติ อยู่ดีๆ หล่อนก็โผล่เข้ามารือฟื้นอดีต อันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ยากจะลืม ขนาดว่าเขมชาติ พยายามตัดใจขอ เกนหลง แต่งงานก็ยังเผลอใจให้ สุริยง กินไกลถึงต่างแดนจนได้ เอาเหอะ ผุ้ช
นิว กุ้ย เฟย
ตอนที่-103:พุทธวจน(พระสูตร)...การรู้อริยสัจจ์ไม่เหลือวิสัย...เพื่อที่จะหยั่งสู่เป็นอมตะ-หยั่งสู่ความไม่ตาย
https://www.youtube.com/watch?v=NH9nv1_VyGY https://etipitaka.com/read/thai/13/194/ ๓. มหาวัจฉโคตตสูตร เรื่องปริพาชกวัจฉโคตร .... ... ท่านพระโคดมจงยกไว้ ก็ภิกษ
สมาชิกหมายเลข 5448563
บุพเพข้ามภพ (ตอนที่ 7)
ทักทาย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะไม่ค่อยได้มาที่นี่ แนะนำได้ติได้นะคะ ตอนที่ 7 เช้านี้ วิลันดาตื่นมาด้วยความสดชื่น ที่เรือนแห่งนี้บรรยากาศดีเหลือเกิน จนหล่อนต้องตื่นขึ้นมาเดินดูรอบ ๆ ตัวเรือนไทยขนาดก
อัปสราน่ารัก
แต่งนิยาย ชีวิตที่ไม่มีวันตาย เงินที่ไม่มีวันหมด ตอนที่ 1 มีสาวที่ไหนมาแจมก็ไม่รู้
“คุณโค้กคะ ฉันรักคุณค่ะ” โค้ก : คุณเป็นใครกันเนี่ย ทำไมคุณถึงมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้ได้ ผมเป็นอมตะทั้งอายุและก็ความร่ำรวย ผมไม่จำเป็นต้องมีความรักหรอกนะ เพราะฉะนั้นผมขอให้คุณออกไปจากนิยายเ
สมาชิกหมายเลข 8961928
บุพเพข้ามภพ ตอนที่ 6 (ตอนนี้แม่หญิงวิลันดา ข้ามไปสู่กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทราแล้วนะคะ)
แนะนำ ติได้นะคะ ไม่ค่อยแวะมาลงงานที่นี่เท่าไหร่ฝากเนื้อฝากตัวฝากแนะนำด้วยค่ะ ตอนที่ 6 วิลันดามองไปรอบ ๆ ตัวของหล่อน สระน้ำลักษณะเหมือนสระโบราณทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดไม่กว้างนัก มีน้ำอยู่จนเต็มสระ
อัปสราน่ารัก
⏳📖📘 แลรักนิรันดร์กาล - ปู่จ๋าน ลองไมค์ PMC 📘📖⏳
แลรักนิรันดร์กาล - ปู่จ๋าน ลองไมค์ PMChttps://www.youtube.com/watch?v=xlU_o3vsTt4 เนื้อเพลง : @ แลรักนิรันดร์กาล พักตร์โสภา จะหาใด ใคร่เปรียบเปรยเกินเอื้อนเอ่ย ช่างงดงาม อร่ามเหลือฝนคู่ฟ้า ปลาคู่น้ำ
สมาชิกหมายเลข 6000028
#40 ภิกษุณี ในสมัยพุทธกาล ตอนที่ 1 #พระปชาบดีโคตมีเถรี (ภิกษุณี-เอตทัคคะ)
พระปชาบดีโคตมีเถรี เอตทัคคะในทางผู้รู้ราตรีนาน พระปชาบดีโคตมีเถรีผู้ได้รับการแต่งตั้งจากพระบรมศาสดาให้เป็นยอดของภิกษุณีทั้งหลายผู้รู้ราตรีนาน ก็โดยเหตุ ๒ ประการ คือโดยเป็นผู้ยิ่งด้วยคุณ เพราะท่านแ
สมาชิกหมายเลข 2976312
เรื่องสั้นอิงธรรมะ - หลงวัฏฏะ
มนุษย์ผู้ยากจน หญิงเป็นลูกสาวชาวนาจนๆ คนหนึ่ง ผิวพรรณหยาบกร้าน ใบหน้าคล้ำแดด ใครๆก็บอกว่า “หล่อนขี้เหร่” ครอบครัวหล่อนจนมาก อาศัยที่ดินของวัดปลูกกระท่อมมุงหญ้าคาพอประทังชีพ บริเวณกระท่อมปล
สมาชิกหมายเลข 974272
นักพระไตรปิฎกสุดงง? พระสารีบุตรกับเทวี คุยธรรมะเรื่องอะไร?
▪พระสารีบุตร ถามว่า “ดูก่อนเทวี ก็ไฉนเธอจึงไม่เปลี่ยนสภาวะความเป็นหญิงของเธอเสียเล่า ?” ▪เทพธิดาตอบว่า “ตลอดระยะกาล ๑๒ ปีมา ดิฉันค้นหาไม่พบสภาวะความเป็นหญิงตัวดิฉันเลย เมื่อเป็นดังน
สมาชิกหมายเลข 8781422
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ทำบุญ
ศาสนาพุทธ
กฎแห่งกรรม
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
หลงในสุข
มีเทพธิดาสององค์คนหนึ่งนุ่งชุดเหลืองคนหนึ่งนุ่งชุดสีกลีบบัว เป็นมิตรกัน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : หล่อน จักไปจุติหรือ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : จะหล่อน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ไฉนจึงไปจุติเสียเล่า หล่อนยังมิหมองเลย
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : ครานั้นฉันหลับไป นึกถึงกรรมที่ทำไว้ นึกสลดนัก จึงจะไปชดกรรมเสีย
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : อย่างนั่นหรือ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : หล่อนเล่ามิลงไปชดกรรมบ้างหรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ฉันสร้างกรรมมาน้อย บุญฉันมาก เดี๋ยวเหลนฉันก็จะก็เกิดแล้ว เหลนคนนี้กาลหน้าเขาจักเป็นอริยสงฆ์ฉันจักไปอุปถัมภ์เขา บุญฉันจักไม่หมดดอกจะ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : ดีนักหล่อนแต่ฉันก่อนตายนั่นไร้ทายาทช่างเสียดายนัก
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : จะหล่อน , หล่อนจักไปเกิดที่ใดหรือ
เทพธิดานุ่งสีเหลือง : ฉันจักเกิดเป็นธิดายาจกเข็ญใจ ถอยทรัพย์ ถอยสิน รูปชั่วเป็นที่น่าชังยิ่งจะหล่อน
ครั่นเมื่อเทพธิดานุ่งชุดสีเหลืองไปเกิดเป็นลูกสาวยาจกเผชิญทุกข์แสนเข็ญ เนื่องจากยังไม่หมดบุญจากสวรรค์จึงได้เป็นคนหาฝืนให้ภิกษุณี เห็นภิกษุณีในวัดมีความรู้ เป็นที่เคารพของชาวบ้านก็เกิดเลื่อมใสจึงบวชเป็นภิกษุณีเจริญในธรรมเป็นที่ยกย่องในหมู่ภิกษุณีครั่นป่วยด้วยวัณโรคใกล้ตายนางเทพธิดานุ่งชุดสีกลีบบัวก็มาปรากฏให้เห็น
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านจำฉันได้ไหม
ภิกษุณี : ท่านเป็นผู้ใดรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ฉันเป็นเทพธิดา สหายของท่านเมื่อกาลก่อน
ภิกษุณี : อย่างนั่นรือท่าน เทวธิดาเทพบุตรมีมากรือไม่ท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : มีมาก
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : องค์ใดใฝ่กุศลก็ไปอุปถัมภ์แหล่งกุศล องค์ใดกตัญญูก็ไปอุปถัมภ์บิดามารดา ให้สร้างกุศลจักได้เป็นเทพธิดาเทพบุตร องค์ใดกุศลมีฤทธิ์มากนักก็มีหน้าที่ปกปักแหล่งกุศลมากขึ้นตามลำดับ
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : อีก3 ราตรีฉันจักมารับหล่อนไปสวรรค์
ภิกษุณี : สวรรค์ เป็นอย่างไรหรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : สวรรค์เป็นที่ของผู้มีศีลมีธรรม มีบุญมาก สวรรค์นั่นสุขสบายนัก
ภิกษุณี : สุขอย่างไรรึท่าน
นางเทพธิดานุ่งชุดสีกลีบบัวจึงพาภิกษุณีไปวิมานของตน
ภิกษุณี : ที่ไหนรือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : นี่สวรรค์อย่างไรท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : นั่นวิมานของฉันหลังนั้นวิมานแก้ว หลังนั้นวิมานทอง งามหรือไม่
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : เห็นนั่นไม่ ดอกไม้นั้นหางามกว่านี้มิได้แล้วในภูมิมนุษย์ ดอกไม้นี้ไม่เหี่ยวไม่เฉา เบ่งบานหอมหวนอยู่ทุกกาล
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ได้ยินหรือไม่นั่นเสียงดนตรีของคนธรรพ์ สุนทรีย์นัก
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านเห็นนั่นรือไม่ เทพบุตรเทพธิดาเหล่านั่นล้วนเป็นบริวาลของฉันทั้งสิ้น
ภิกษุณี : ท่านใช้พวกเขาทำอันใดรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : บ้างเต้นรำให้ดูบ้างก็ให้เก็บดอกไม้มา
ภิกษุณี : รือท่าน มีวิมานงามตระการตา มีดอกไม้ที่มิเหี่ยวเฉา มีเสียงดนตรีกังวาน มีบริวาลมากหลาย แล้วสวรรค์ดีอย่างไร
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ฉันอิ่มทิพย์ ไม่มีความยาก ความกระหายใน โภชนาทั้งหลายเยี่ยงมนุษย์ เยี่ยงภพอันต่ำลงไป
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ แพรพรรณนุ่งห่มล้วนงามตาทั้งสิ้น
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ผิวพรรณฉันนั้นผุดผ่องนุ่มนวลนัก รูปร่างหน้าตาฉันก็งดงาม
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ฉันมิแก่มิชรา มิมีความเสื่อมของสังขาร
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านดูฉันสิ ฉันไม่มีความเจ็บ ความตาย ในภพสววรค์
ภิกษุณี : รือท่าน
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : จิตใฝ่บาปล้วนเกิดได้ยากนักในภพนี้
ภิกษุณี : รือท่าน , มิมีความยาก มีผ้านุ่งงาม มีผิวงาม รูปงาม มีความไม่เสื่อมของสังขาร มีความไม่เจ็บไม่ตาย มีใจใฝ่บาปยาก แล้วดีอย่างไรรือ
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : ท่านจักไม่พบความทุกข์อย่างไรเล่า ท่านจักมีสุขอยู่เป็นนิจ
ภิกษุณี : ท่านหลงแล้วเทพธิดา
เทพธิดานุ่งสีกลีบบัว : หลงอันใดรือ ฉันไม่มีหลง
ภิกษุณี :ท่านหลงแล้วหลงในความสุขอย่างไรท่าน จงนึกให้ดีเถิดเทพธิดา สิ่งเหล่านั่นมีแล้วอย่างไร
เมื่อภิกษุณี นั่นตื่นจากนิมิตนั้น ก็ระลึกและสังเวสในความหลงในสุขของเทพธิดานุ่งชุดสีกลีบบัวก็ตั้งจิตไว้ว่าหากถึงคราละสังขาร จักไม่ขอไปจุติ ณ สวรรค์ อันแดนที่ทำให้หลงในสุขซึ่งละได้ยาก จักขอเกิดเป็นมนุษย์ปฎิบัติตนสู่นิพพานในกาลหน้าซึ่งเป็นการปล่อยวางอันสมบูณร์พร้อม กุศลที่ปฎิบัติจงดลให้นางเทพธิดาผู้เคยเป็นสหาย ได้เห็นความหลงนั้นด้วยเถิด